tsiri

ข้อมูลสมาชิก – tsiri

เริ่มเป็นสมาชิก: July 31, 2013 08:08:12 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 0 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 1148 รายการ , คำติ: 3 รายการ

ประวัติ Feedback

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อดิน/5868621


พระกรุลานดอกไม้ จ.สุโขทัย เป็นพระเครื่องที่แตกกรุออกมาเมื่อประมาณปี 2520 เนื่องจากทำการปรับพื้นที่ เพื่อสร้างลานอุทยานเผาเทียนเล่นไฟในปัจจุบัน ว่ากันว่ามีการพบพระขึ้นมาเป็นจำนวนมากประมาณ 2 คันรถกระบะ มีมากกว่า 3-40 พิมพ์ที่แตกต่างกัน แต่พิมพ์แปลกๆ คนมักเล่นเป็นที่อื่นเสีย เพื่อค่านิยม เลยกลายเป็นว่ากำลังจะสูญหายไปหมดแล้ว(โดนย้ายบ้าน) ลักษณะเนื้อพระ เป็นพระกรุเนื้อดินที่มีเนื้อหาเนียนละเอียด ผ่านการกรองอย่างดีไม่มีกรวดทรายเลยสักเม็ด ผิวมีตั้งแต่แบบแห้งแกร่ง จนถึงละเอียดนุ่มแบบกำแพง มีความมันจัด วิธีพิจารณาเนื้อหาพระกรุ ลานดอกไม้ ก็เหมือนกับการดูพระกรุทั่วไปคือ แม้ว่าเนื้อจะแห้งหรือจะมัน ก็จะต้องมีความแห้งผาก หมดยางอยู่ในที เป็นการสัมผัสโดยสายตา ถ้าไม่ชำนาญพระที่ผิวมัน ก็ลองมองหารอยถลอก หรือจุดที่เสียผิวไปก็ได้ สี ของพระจะมีทั้งเหลืองพิกุล น้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม สีส้มหรือแดงหม้อใหม่ แดงเข้ม เขียว ไปจนถึงดำ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เผา เหมือนกับพระเนื้อดินเผาปกติทั่วไป คราบไคล และสิ่งที่อยู่บนผิว บนผิวหน้าของพระหลายๆองค์จะมีรอยว่านหลุด ซึ่งเป็นปกติของพระเก่า ที่มวลสารส่วนประกอบภายในที่เป็นอินทรีย์สารเช่นว่านต่างๆจะยุบตัวหายไป(บาง ทีก็เกิดจากการเผา) ทำให้เกิดโพรงในองค์พระ นานเข้าโพรงนั้นจะยุบตัว ทำให้เป็นร่องบนผิวพระ พระสภาพเดิมๆจะมีคราบน้ำว่านติดอยู่ตามซอก หรือลายนิ้วมือด้านหลัง สีน้ำตาลเข้มอมเขียวหรือสีแดงเข้ม มีเหมือนกันที่ลงรัก แต่พบน้อยมาก องค์ไหนที่แห้งๆไม่ผ่านการจับต้อง ส่องแล้วจะเห็นคราบมุกระยิบระยับ นั่นก็คือแคลเซี่ยมในอากาศภายในกรุนั่นเอง ดิน กรุที่อยู่มาคู่กับพระที่บรรจุกรุอยู่เป็นเวลานาน สีมักจะออกเขียวขี้ม้า น่าจะเกิดจากตะไคร่ที่จับตัวอยู่กับเจดีย์ หรือเกิดขึ้นเพราะความชื้นภายในกรุ ต่อมาทับถมกันเข้าเป็นเวลานาน กลายเป็นดินสีเขียวๆจับองค์พระ องค์ที่เนื้อละเอียดและมีความจัดนุ่มๆ ถ้าแบบพิมพ์คล้ายของเมืองกำแพงฯ ก็จะถูกผู้ขายบางท่านย้ายกรุให้โดยอัตโนมัติครับ พิมพ์ ของพระ มีมากมายหลายแบบด้วยกัน ซึ่งทุกพิมพ์ล้วนเป็นศิลป์สุโขทัยทั้งสิ้น มีทั้งแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และที่ล้อหรือมีความใกล้เคียงกันกับพระกรุกำแพงเพชร ลักษณะของ พิมพ์ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนูนต่ำ มีเส้นสายรายละเอียดที่เล็กมาก ยากที่จะทำตามอย่างได้ และแม้ว่าพระจะมีอยู่หลายพิมพ์ด้วยกัน แต่ๆละพิมพ์อย่างเช่นพิมพ์นั่ง หรือพิมพ์นางที่พบมาก ก็ยังมีแม่แบบแม่บล็อคอยู่อีกหลายตัว อย่างน้อยๆก็ 4-5 บล็อคที่แตกต่างกัน เพื่อให้สามารถสร้างพระจำนวนมากได้ในเวลาที่ไม่นานนัก และยังแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการของพิธีสร้าง ว่าไม่ใช่คนธรรมดาตาสีตาสาสร้างแน่นอน ต้องเป็นพิธีใหญ่ใช้ทุนทรัพย์มากทีเดียว จึงจะสร้างพระได้มากพิมพ์ขนาดที่ว่านี้ จุดน่าสังเกตอย่างหนึ่งคือ พระกรุนี้ไม่มี่การตัดปีกด้วยของมีคม แต่ใช้มือคลึงๆเอาตอนกดพิมพ์จากด้านหลัง ปีกพระจึงมีกว้างบ้าง แคบบ้าง ตรงบ้าง เบี้ยวบ้าง ไม่แน่นอนแล้วแต่ผู้สร้าง จึงไม่มีขนาดมาตรฐานที่แน่นอน บางองค์เป็นพิมพ์เดียวกันมีความเล็กใหญ่ต่างกันมากๆ ด้านหลังมีลายมือผู้กดพิมพ์ทุกองค์


เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ November 26, 2015 13:35:05

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อดิน/5939147


พิมพ์ปางซ่อนหา กรุวัดจุฬามณี จ.พิษณุโลก พร้อมบัตรดีดี และ บัตรจี ไม่มีซ่อม รับประกันพระแท้ครับ


เขียนโดย :ศรศิลป์ เจ้าของรายการ November 26, 2015 09:51:15

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อผง-เนื้อว่าน/5940379


สวยเดิมๆพร้อมกรอบสแตนเลสอย่างดีครับ


เขียนโดย :sarees เจ้าของรายการ November 26, 2015 05:24:05

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระปิดตาทุกสำนัก/5866492


วัดใจ....พระปิดตาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า สภาพสวยเว่อๆๆๆ


เขียนโดย :ย่าทุม_พระเครื่อง เจ้าของรายการ November 26, 2015 02:50:03

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคตะวันออก/5838178


!!!เคาะแรกก็...แดง...เลยค่ะ!!! *** จัดส่งพระตามรูป รับประกันตามกฎเวป *** รบกวนผู้ชนะประมูลยืนยันการโอนเงินมาทางเมล์บอกซ์ด้วยนะค่ะ เพื่อสะดวกและรวดเร็วในการจัดส่งพระให้ท่าน ขอบพระคุณมากค่ะ


เขียนโดย :mokul999 เจ้าของรายการ November 15, 2015 14:00:05

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อดิน/5837486


พระเม็ดน้อยหน่าหลังยันต์ อุ เป็นพระกรุเนื้อดินผสมใบลานเผาของ จ. อยุธยา ที่มีอายุการสร้างมาไม่ต่ำกว่า 300 ถึง 400 ปี เป็นพระขนาดเล็กกระทัดรัด แต่เรื่องพุทธคุณไม่เล็กแน่นอน เป็นพระในตำนานที่มีการเล่าขานกันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษถึงพุทธคุณที่ครบ เครื่องทุกอย่าง ทั้งแคล้วคลาด คงกระพันกันเขี้ยวงา และเมตตามหานิยม สมัยก่อนผู้ใหญ่ให้เด็กแขวนพระเม็ดน้อยหน่านี้เพื่อกันสุนัขกัด เพราะเด่นมากทางด้านคงกระพันกันเขี้ยวงา เนื่องจากพระเม็ดน้อยหน่าหลังยันต์ อุ ของอยุธยาแตกกรุออกมามาก จำนวนพระจึงกระจัดกระจาย ในสมัยก่อนให้กันฟรีๆ ทำให้ผู้ที่นำไปใช้ได้รับประสบการณ์กันมากมาย จึงจัดเป็นของดีราคาถูก แต่ปัจจุบันหายากแล้วครับ


เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ November 15, 2015 08:50:06

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อดิน/5837488


เหลือเชื่อ “สารวัตรกำนัน” ถูกคนร้ายลอบยิง วันที่ : 20 ธันวาคม 2551 รอดตายเพราะแขวน “หลวงพ่ออ๋อย วัดไทร” “เหนือลิขิต? ประกาศิตฟ้าดิน?” วันนี้ขอนำท่านผู้อ่านไปพบกับเรื่องราวหนึ่งของ “สารวัตรกำนัน” ผู้หนึ่งซึ่งถูก “คนร้าย” ดักสังหารด้วยอาวุธปืนแบบ “เผาขน” แต่กระสุนปืนทั้ง “ลูกซอง” และ “ลูกโม่.38” กลับไม่สามารถทำให้ “สารวัตรกำนัน” ผู้นี้ตายดับแต่ประการใดและหลังเกิดเหตุแล้ว “สารวัตรกำนัน” เชื่อว่าเป็นเพราะอานุภาพแห่งวัตถุมงคลของ “หลวงพ่ออ๋อย วัดไทร” ที่เขาพกพาโดยแขวนติดคอเป็นประจำช่วยไว้เป็นแน่แท้ เนื่องจากขณะเกิดเหตุก็มีเพียงวัตถุมงคลของ “หลวงพ่ออ๋อย” เท่านั้นโดยเรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 กันยายนปี 2526 นี้เอง พร้อมกับเกิดขึ้นกับสารวัตรกำนัน “สุรินทร์ อยู่เย็น” ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ดูแลความสงบสุขให้กับชาวบ้าน “โดยขณะเกิดเหตุ “สารวัตรกำนันสุรินทร์” มีเพียง “พระเครื่อง” ที่เป็น “พระเนื้อว่านสีแดงพิมพ์สี่เหลี่ยมปรกโพธิ์” ซึ่งเป็นวัตถุมงคลที่ “หลวงพ่ออ๋อย” แห่ง “วัดไทรบางขุนเทียน” สร้างขึ้นโดยวันนั้นเวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษขณะ “สารวัตรกำนัน” กำลังเดินกลับบ้านหลังออกตรวจท้องที่ตามที่ปฏิบัติเป็นประจำแต่ระหว่างทาง ได้พบเห็น “ผู้ชาย 2 คน” ถลันออกมาจากเงามืดข้างทางที่เป็นดงป่ารกทึบเข้าขวางหน้าห่างออกไปประมาณ 5-6 เมตร และพอถลันออกมาขวางหน้าแล้ว “ชายคนแรก” ก็ชักปืนลูกซองสั้นที่บรรจุลูกกระสุน “เบอร์12” แบบยิงได้นัดเดียวลักษณะเหมือนปืนเถื่อนทั่วไปและไม่พูดพล่ามทำเพลงอะไรพอ ชักปืนออกมาแล้วก็ยิงใส่ “สารวัตรกำนัน” เลยทันทีโดยที่สารวัตรกำนันไม่ได้ตั้งตัวใดๆก็ได้ยินเสียงปืนดัง “เปรี้ยง” ขึ้นและพอสิ้นเสียงปืนกระสุนนัดนั้นพุ่งเข้า “ช่องท้อง” ของสารวัตรกำนันอย่างแม่นยำผลก็คือ “สารวัตรกำนัน” ผงะถอยหลังไปสองสามก้าวตามแรงกระสุนปืนพร้อมเกิดอาการ “เสียวแปลบ” ไปทั้งตัวชั่วครู่จึงเอื้อมมือขวาเพื่อชักปืนออกมายิงตอบทว่ามือขวาเกิด อาการ “ชา” ยกไม่ขึ้นขณะนั้น “ชายอีกผู้หนึ่ง” ก็ชักปืนสั้นชนิด “ลูกโม่.38” ขึ้นมายิงซ้ำเมื่อเห็น “สารวัตรกำนัน” ถูกยิงอย่างจังแต่ยังยืนจังก้าโดยไม่เป็นอะไรเลยแต่แทนที่จะได้ยินเสียงปืน “ลูกโม่.38” แผดเสียงดังกลับได้ยินเพียงเสียงสับไกปืนดัง “แชะ...แชะ...แชะ” สามครั้งติดกันเท่านั้นเนื่องจากปืนลูกโม่ “กระสุนไม่ลั่น” เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนั้น “สารวัตรกำนัน” จึงใช้มือซ้ายชักปืนออกมาเพื่อยิงตอบโต้แต่ยังไม่ทันได้ยิงชายทั้งสองที่ เป็น “คนร้าย” เห็นเช่นนั้นจึงวิ่งหนีหลบเข้าข้างทางหายลับไป “สารวัตรกำนัน” ที่ช่วงนั้นรู้สึกเสียวแปลบที่ลำตัวจึงใช้มือลูบท้องตัวเองก็พบว่ามี “เลือดแดงฉาน” เป็นขณะที่ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนจึงออกมาดูได้ช่วยนำ “สารวัตรกำนัน” กลับบ้านเข้าบ้านแล้วช่วยถอดเสื้อสำรวจเนื้อตัวก็พบว่ามี “ลูกกระสุนปืนลูกซอง” ฝังอยู่ตามผิวหนังบริเวณ “หน้าท้อง” และ “หน้าอก” เพียงเล็น้อยส่วนที่แขนขวาก็มีลูกปืนฝังอยู่ 2 เม็ดจึงทำให้แขนข้างนั้น “ชา” ชักปืนไม่ได้จากนั้นชาวบ้านจึงใช้มีดแกะเอา “ลูกกระสุนปืนออก” ก็สามารถแกะออกได้อย่างง่ายๆเพราะกระสุนฝังไม่ลึกนั่น เองระหว่างนั้น “สาร วัตรกำนัน” ก็สำรวจดู “พระเนื้อว่านสีแดง” ที่แขวนคออยู่เพียงองค์เดียวเท่านั้นโดยเลี่ยมพลาสติกปิดหมดทั้งด้านหน้าและ ด้านหลัง ซึ่งขณะนั้นมีคราบเลือดจากรอยกระสุนที่หน้าอกเกาะติดพลาสติกเล็กน้อยซึ่ง ปัจจุบัน “สารวัตรกำนัน” ไม่ยอมล้างออกโดยบอกว่าจะเก็บไว้เป็น “ที่ระลึก” ตามภาพที่ผู้เขียนถ่ายมายังปรากฏแผลให้เห็นตาม ผิวหนัง ที่ หน้าท้อง และ หน้าอก พร้อม แขนขวา ที่ยังเป็นแผลเพราะขณะถ่ายภาพนี้ “สารวัตรกำนัน” เพิ่งจะถูกยิงได้เพียง 2วันจึงใช้ผ้าปิดไว้เพื่อป้องกันเชื้อโรค และหลังจากฟังเรื่องราวที่ถูกยิงแล้วผู้เขียนมีความสงสัยอยู่ไม่น้อยจึงถาม ไปว่า “นัดแรกที่คนร้ายยิงใส่ทำไมจึงลั่น?” “สารวัตรกำนัน” อึ้งไปชั่วขณะก่อนก็ตอบว่า “ยิงออกแต่ไม่เข้านะ เพราะมันแค่ฝังตามผิวเท่านั้นแสดงว่าหลวงพ่อในคอ คุ้มครองจริงๆ เพราะใน 3 นัดหลังที่ยิงไม่ออกนั้น ผมก็ยังไม่แน่ใจนักว่าเป็นเพราะ “ลูกด้านหรือไม่” แต่คงเป็นไปได้ยากที่ลูกปืนจะด้านติดๆ กันทั้ง 3 นัด” นอกจาก “สารวัตรกำนันสุรินทร์” แล้วยังมีอีกเรื่องที่เป็นประสบการณ์ของผู้ใช้ เหรียญ “หลวงพ่ออ๋อย” คือ “นายสะอาด พรายเพ็ชร” ที่มี “เหรียญรุ่นแรกหลังยันต์” แต่ได้ทำหายไปทั้งที่ “นายสะอาด” หวงมากและอาราธนาพกติดกระเป๋าเสื้อเป็นประจำโดยวันหนึ่งได้ทำหล่นตกลงไปใน “คลองบางขุนเทียน” ตรงบริเวณหน้าบ้านจึงใช้ตะแกรงร่อนเผื่อจะได้คืนนานนับชั่วโมง แต่ก็หมดหวังจึงได้แต่เสียดายเหรียญนั้นกระ ทั่งต่อมาอีก 1 ปีขณะ “นายสะอาด” นั่งล้างชามอยู่ที่บันไดริมน้ำตรงที่ทำเหรียญตกหล่นไปเมื่อปีที่แล้วก็พบ เห็น “ลูกปลาดุกขนาดเขื่องตัวหนึ่ง” ว่ายน้ำตรงเข้ามาหาเขาที่ท่าน้ำโดยไม่มีทีท่าหวาดกลัว “นายสะอาด” เลยซึ่งผิดวิสัยของปลาทั่วไปสร้างความสงสัยให้ “นายสะอาด” ยิ่งจึงจับจ้องมองลูกปลาดุกตัวนั้นตาไม่กระพริบ กระทั่งเมื่อลูกปลาดุกว่ายเข้ามาใกล้เขาก็มองเห็นที่ปากของมันคาบสิ่งของมา ด้วย “นายสะอาด” จึงใช้ชามค่อยๆ ช้อนลูกปลาดุกตัวนั้นขึ้นมาดูก็พบเห็นสิ่งของที่อยู่ในปากของ “ลูกปลาดุก” ด้วยความอัศจรรย์ใจพร้อมกับขนลุกซู่ขึ้นมาทันทีเพราะสิ่งของที่อยู่ในปากลูก ปลาดุกนั้นก็คือ “เหรียญรุ่นแรกหลังยันต์” ที่เขาทำตกน้ำเมื่อปีที่แล้วนั่นเองเมื่อเห็นเช่นนั้น “นายสะอาด” จึงหยิบเหรียญนมาพิจารณาอีกทีครั้นแน่ใจว่าเป็นเหรียญที่เขาทำตกน้ำไป จึงยกขึ้นมือพนมเหนือศีรษะพร้อมรำลึกถึง “หลวงพ่ออ๋อย” จากนั้นนำลูกปลาดุกตัวนั้นไปเลี้ยงอย่างดีเพราะเขาประจักษ์ชัดแล้วว่าเป็น เพราะบารมีของ “หลวงพ่ออ๋อย” ที่บันดาลให้ลูกปลาดุกคาบเหรียญมาให้เขา ส่วนทางด้านประวัติของ “หลวงพ่ออ๋อย” มีนามเดิมว่า “อ๋อย ถาวรวยัคฆ์” เป็นชาว อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร โดยกำเนิดโดยเกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2413 บิดา-มารดาชื่อ “นายเสือ-นางสำริด” ในวัยเด็กได้เข้าเรียนหนังสือไทยที่ “วัดนางสาว” โดยเรียนรู้อัก ษรไทยสมัยเก่าแค่อ่านออกเขียนได้คล่อง จึงกลับไปช่วยงานทางบ้านกระทั่งอายุย่างสู่ปีที่ 26 จึงอุปสมบท ณ วัดนางสาว เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2439 โดยมี “หลวงพ่อเกิดวัดนกกระจอก” เป็นอุปัชฌาย์ได้รับฉายาว่า “ยโส” โดยสมัยนั้นมีพระที่บวชวัดเดียวกันซึ่งต่อมาได้เป็นสหายทางธรรมที่สนิทสนม กันคือ “หลวงพ่อคง” หลังจากจำพรรษาอยู่ที่วัดนางสาวได้ 1 พรรษา จึงย้ายไปจำพรรษาที่ “วัดไทร บางขุนเทียน” เพื่อทำการ ศึกษาค้นคว้าพระธรรมวินัยอันเป็นข้อปฏิบัติของสงฆ์ พร้อมทั้งร่ำเรียนอักษรขอมแล้วจึงหันมาสนใจ การศึกษาด้านพุทธาคมเวทมนต์คาถา กระทั่งเชี่ยวชาญและต่อมาได้เป็นสหายทางธรรมกับ “หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ” และมีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากจึงไปมาหาสู่กันเป็นประจำโดย “หลวงพ่อรุ่ง” จะเดินทางมาหา “หลวงพ่ออ๋อย” ที่ “วัดไทร” เป็นประจำพร้อมค้างแรมครั้งละหลายคืนเสมอเพราะ “พระคณาจารย์” ผู้เป็นสหายทางธรรมมักจะมีการแลกเปลี่ยนวิชากันนั่นเองเนื่องจาก “หลวงพ่ออ๋อย” เองเป็นชาวกระทุ่มแบนอันเป็นเขตที่ “วัดท่ากระบือ” ของ “หลวงพ่อรุ่ง” พระคณาจารย์ทั้งสองจึงชอบพอกันเป็นพิเศษประกอบกับ “หลวงพ่ออ๋อย” โด่งดังด้าน “ยาสัก” โดยใช้ “สมุนไพร” สักลงบนผิวหนังเพื่อ “รักษาโรคภัยไข้เจ็บ” ให้ชาวบ้านหายขาดอยู่เสมอจึงมีชื่อเสียงโด่งดังมาก นอกจากนี้ยังได้เป็น เจ้าอาวาสวัดไทร พร้อมได้รับพระ ราชทานสมณศักดิ์เป็น “พระครูถาวรสมณวงศ์” และมรณภาพโดยความสงบขณะมีอายุ 89ปี เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2501 ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 11 ปีจอจุลศักราช 1320 (ขอบคุณภาพถ่ายจากนิตยสารลานโพธิ์ หลวงพ่ออ๋อย มีนามเดิมว่า อ๋อย ถาวรวยัคฆ์ เป็นชาว อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร โดยกำเนิดโดยเกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2413 บิดา-มารดาชื่อ นายเสือ-นางสำริด ในวัยเด็กได้เข้าเรียนหนังสือไทยที่ วัดนางสาวโดยเรียนรู้อักษรไทยสมัยเก่าแค่อ่านออกเขียนได้คล่อง จึงกลับไปช่วยงานทางบ้านกระทั่งอายุย่างสู่ปีที่ 26 จึงอุปสมบท ณ วัดนางสาว เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2439 โดยมี หลวงพ่อเกิดวัดนกกระจอก เป็นอุปัชฌาย์ โดยสมัยนั้นมีพระที่บวชวัดเดียวกันซึ่งต่อมาได้เป็นสหายทางธรรมที่สนิทสนม กันคือ หลวงพ่อคง หลังจากจำพรรษาอยู่ที่วัดนางสาวได้ 1 พรรษา จึงย้ายไปจำพรรษาที่ วัดไทร บางขุนเทียน เพื่อทำการ ศึกษาค้นคว้าพระธรรมวินัยอันเป็นข้อปฏิบัติของสงฆ์ พร้อมทั้งร่ำเรียนอักษรขอมแล้วจึงหันมาสนใจ การศึกษาด้านพุทธาคมเวทมนต์คาถา กระทั่งเชี่ยวชาญและต่อมาได้เป็นสหายทางธรรมกับ หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ และมีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากจึงไปมาหาสู่กันเป็นประจำโดย หลวงพ่อรุ่ง จะเดินทางมาหา หลวงพ่ออ๋อย ที่วัดไทร เป็นประจำพร้อมค้างแรมครั้งละหลายคืนเสมอเพราะ พระคณาจารย์ ผู้เป็นสหายทางธรรมมักจะมีการแลกเปลี่ยนวิชากันนั่นเองเนื่องจาก หลวงพ่ออ๋อย เองเป็นชาวกระทุ่มแบนอันเป็นเขตที่ วัดท่ากระบือ ของ หลวงพ่อรุ่ง พระคณาจารย์ทั้งสองจึงชอบพอกันเป็นพิเศษประกอบกับ หลวงพ่ออ๋อยโด่งดังด้าน ยาสักโดยใช้ สมุนไพร สักลงบนผิวหนังเพื่อ รักษาโรคภัยไข้เจ็บให้ชาวบ้านหายขาดอยู่เสมอจึงมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ทั้งนี้ การรักษาโรคด้วยยาสักมีเคล็ดอยู่ว่า ถ้าใครไม่ขอร้องให้รักษา จงอย่าขันอาสารักษาให้น้ำมันมนต์ของท่านช่วยชีวิตคนที่เป็นโรคห่า (อหิวาตกโรค)ไว้มากมาย ข้าวสารเสกเลื่องลือมาก หากใครได้กินจะร่ำเรียนปัญญาดี คนบางขุนเทียนสมัยนั้นนิยมกันมาก แม้แต่คนกรุงเทพฯยังเอาไปให้ท่านเสกกันเป็นจำนวนมาก ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านเสกทรายใส่ถุงเล็กๆแจกจ่ายทหารและชาวบ้านให้ไปพกติดตัว ปรากฏว่าไม่เป็นอันตรายเลย เป็นเรื่องเล่าขานกันมาจนทุกวันนี้ สมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์ เลื่อมใสมาก เวลาสร้างพระกริ่งและปลุกเสกคราวใดจะต้องนิมนต์ท่านมาด้วยทุกครั้งพลังจิต ของท่านกล้าแข็งมาก สามารถเสกใบมะขามเป็นตัวต่อแตนได้ และเสกสิ่งของวัตถุมงคลอย่างใด ก็ล้วนแต่ขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก หลวงพ่ออ๋อยท่านสร้างพระด้วย เนื้อดินเผา และเนื้อผงผสมว่านยา ซึ่งเป็นว่านยาที่ท่านใช้ในการสักด้วย


เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ November 15, 2015 08:50:06


พระผงรูปเหมือนใบโพธิ์ ท่านเจ้าคุณนร ฯรุ่นแดนดารา ปี2513


เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ November 15, 2015 08:30:04

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อชิน/5908632


พระลีลาถ้ำหีบ เนื้อชินอุทุมพร จ.สุโขทัย พระสวยเดิมครับมาพร้อมรางวัลงานประกวดพระ 2 ใบครับเลี่ยมทองพร้อมใช้ครับ (((ประกันพระแท้ตามหลักสากลนิยมทั่วไทยครับ))) เฉพาะเลี่ยมทองมาก็เกือบหมื่นแล้วครับผม ราคาจับต้องได้ครับแบ่งให้ไปใช้ครับ


เขียนโดย :พรกุมารทอง เจ้าของรายการ November 11, 2015 08:37:58

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคตะวันออก/5824667


วัดใจเคาะแรกแดง...(มีจารเก่า) สภาพสวยมาก หลวงปู่ลัด ท่านเป็นศิษย์เอกเรียนวิชาปลุกเสกแพะ มาจากหลวงปู่อ่ำสำนักวัดหนองกระบอกนี้ปลุกเสกแพะได้โด่งดังมาตั้งแต่สมัย หลวงพ่ออ่ำแล้วซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์สืบทอดวิชามาจากหลวงปู่แตง วัดอ่างศิลา ร่วมสมัยเดียวกับหลวงพ่อปานวัดบางเหี้ยโดยจะนำเอาเขาควายที่ถูกฟ้าผ่าตายนำมาแกะเป็นรูปแพะ เพราะถือเป็นของอาถรรพณ์ชั้นเยี่ยม  คาถาอาราธนาในการใช้แพะหลวงพ่ออ่ำ ตั้งนะโม 3 จบ ว่าด้วยคาถาดังนี้ครับ "อิทธิฤทธิ์ พุทธะนิมิตตัง อิมังคงกระพันธะนัง อธิฐามิ" คาถาที่ใช้ก่อนสวมคอ "อากาเสจะปีปังกะโร (คาถากันฟ้าผ่า) (ตัวนี้ของแปลกมาก หลวงพ่อท่านแกะออกมาเป็นรูป " วัว " ซึ่งหากใครเคยศึกษาจะพบว่า หลวงพ่อลัดท่านชอบแกะเขาควายให้มีมาเป็นพิมพ์ 12 นักกษัตรด้วย พิมพ์วัว พบเห็นน้อยมาก ไม่ค่อยเจอขนาดกะทัดรัดแขวนเดี่ยว ห้อยคอได้เลย ฟอร์มสบูรณ์มากๆ หายากสุดๆ ไม่ค่อยเจอที่ไหนมาก่อน หายากสุดสุด เดินทั่วสนามก็ไม่เจอ ) รับประกันแท้ตามกฎ


เขียนโดย :แดงบุปผา เจ้าของรายการ November 11, 2015 07:10:03

หน้าที่ :  2