ต้องขออภัยครับ เลขส่ง EV976756103TH ครับ
ท่านคือสมาชิกคุณภาพ เครดิตเยี่ยม เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ ติดต่อง่าย การันตีให้เลยอีก1เสียง ติดต่อง่าย โอนเงินรวดเร็ว อัธยาศัยดีเยี่ยม ขอขอบพระคุณที่สนับสนุนและไว้วางใจใช้บริการครับ
รายการปิดประมูลมา 8 วันแล้วครับ ขอยกเลิกตามกฎเพื่อทำการตั้งประมูลใหม่ครับ
ความยาวรอบรูปเกือบเมตรครึ่ง ภาพถ่ายบูชา ที่ท่านปู่ ท่านย่า ออกวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี กว้าง 11.5 นิ้ว ยาว 16นิ้ว พร้อมกรอบบูชา บูชาติดบ้านเป็นสิริมงคล ยามเจอปัญหาอุปสรรคขอบารมีท่านช่วยครับ กรอบบูชา เป็นกรอบไม้เคลือบแลคเกอร์ สำหรับท่านที่ชนะการประมูลกรุณาอีเมล์หรือโทร แจ้งการโอนเงินด้วยนะครับเนื่องจากมีรายการที่ราคาเท่ากันหลายรายการ เพื่อความรวดเร็วในการจัดส่ง ขอบคุณครับ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ เคาะเดียว ถึงราคาขั้นต่ำ @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ """"""ยังมีพระเครื่องราคาย่อมเยาว์ และยังมีพระเกจิพื้นบ้าน พระเกจิท้องถิ่น มากมายหลากหลายเกจิอาจารย์ ให้ท่านได้เข้ามาค้นหาและได้เป็นผู้ครอบครองบูชา"""""" x_blackdog รับประกันพระแท้และความพอใจทุกรายการ ทางเลือกธนาคารมี 5 ช่องทาง 1. ณภัทร ณภัทรชนม์ "ธ.ไทยพาณิชย์" ออมทรัพย์ สาขาซอยประชาสงเคราะห์ 30 เลขที่บัญชี 102-236575-9 2. ณภัทร ณภัทรชนม์ "ธ.กสิกรไทย" ออมทรัพย์ สาขาห้วยขวาง เลขที่บัญชี 084-2-87497-1 3. ณภัทร ณภัทรชนม์ "ธ.ออมสิน" ออมทรัพย์ สาขาห้วยขวาง เลขที่บัญชี 0200-7377-9694 4. ณภัทร ณภัทรชนม์ "ธ.กรุงไทย" ออมทรัพย์ สาขาตลาดห้วยขวาง เลขที่บัญชี 033-0-26402-8 5. ณภัทร ณภัทรชนม์ "ธ.ทหารไทย" ออมทรัพย์ สาขารัชดาภิเษก-ห้วยขวาง เลขที่บัญชี 054-2-50783-5 """"""รบกวนผู้ประมูลได้ เมื่อทำการโอนเงินแล้ว -------@ ช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยครับ @-------กรุณาแจ้งถึง ธนาคาร -- วัน -- เวลา ที่ทำการโอน ให้ทราบ เพื่อความรวดเร็วในการตรวจสอบ"""""" """"""บางท่านหวังใช้ SMSธนาคาร แต่ไม่มีชื่อผู้โอน หรือเบอร์โทรไม่ตรงบ้าง ชื่อไม่ตรงบ้าง ทำให้ผมไม่ทราบว่าเป็นเงินของท่านใดโอนมา จึงยังไม่ได้ทำการส่งพระให้ เพื่อความชัวร์ แจ้งการโอนเงินและที่อยู่ปัจจุบันในการรับพระ""""""" """""'ใช้วิธีเมล์หน้าเวป สะดวก ประหยัด ยืนยันแน่นอน " ควรใช้เมล์หน้าเวปเท่านั้น ถ้าใช้เมล์หน้าเวปไม่ได้ กรุณาโทรหา 084-643-0809 ระหว่างเวลา 09.00-21.00 """"""" """"""และเมื่อผมทำการจัดส่งแล้ว จะให้รหัสพัสดุไว้ที่ FBของท่านครับผม""""" ปล. สำหรับเบอร์ติดต่อโดยตรง 084-643-0809 กรุณาโทรช่วงเวลา " 09.00 - 21.00 " ขอบคุณครับ
หลวงพ่อเงินเนื้อทองเหลือง รมดำ หน้าตัก 5 นิ้ว ฐานกว้าง 6 นิ้ว ขนาดความสูงโดยรวม 8 นิ้ว ใต้ฐานอุดแผ่นยันต์โภคทรัพย์ สวยใหญ่อลังการ
((วัดใจ 99 )) เหรียญพระครูพรหมศิริคุณ(วงษ์พรหม ศิริ) วัดศาลาลอย รุ่น 109 ปี 34 จ.อยูธยา (A-863) ยินดีรับประกันตามเงื่อนไขของ DD-pra ทุกประการครับ มีปัญหาเรื่องเก๊คืนให้เต็มไม่มีหักครับ อย่าลืม... คลิ๊กที่ .......เด็กwat…รายการตั้งประมูล เพราะของดีราคาเบายังมีให้เลือกประมูลกันอีกเพียบ มีตั้งแต่ราคา 49,69,99, 150, 200, 250 ,300 ขึ้นไป สนใจกดเข้าไปดูกันเลยครับ ขอบคุณมากครับ สมาชิกที่ประมูลได้โอนแล้วรบกวนเมล์หรือโทรแจ้งนิดนึงนะครับ
เดิมชื่อบุญนาค เกิดเมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๔๕๗ ปีขาล(เสือ) ที่ตำบลไผ่ขวาง อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี เป็นบุตร หมอย้อย กับ นางทองคำ นามสกุล ขาวสะอาด มีอาชีพทำนาทำไร่ แต่หลวงปู่นาคในวัยเด็กนั้นได้ไปเติบโตใช้ชีวิตอยู่ทางอำเภอนครหลวงจังหวัดอยุธยา บริเวณใกล้ๆวัดพระนอนและวัดโพธิ์ลอย เพราะหมอย้อยผู้เป็นบิดาได้ไปอยู่ทางบ้านมารดาที่นั่น และเนื่องจากมีบิดาเป็นหมอเรืองอาคม ทำให้หลวงปู่นาคในตอนนั้นได้ซึมซับวิชาอาคมต่างๆจากการเป็นลูกมือช่วยพ่อรักษาคนมาโดยไม่รู้ตัว จนโตขึ้นมาเป็นหนุ่มได้บวชและร่ำเรียนพุทธาคมกับหลวงพ่อปลอด วัดพระนอนศิษย์เอกหลวงพ่อดำ วัดละมุด ผู้สร้างท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งเป็นหนึ่งในเบญจภาคี สุดยอดเครื่องรางของอำเภอนครหลวงอันโด่งดังนั่นเอง นอกจากนั้นหลวงปู่นาค ยังได้เรียนวิชากับหลวงพ่อปุย วัดโพธิ์ลอย ลูกศิษย์ของหลวงปู่รอด วัดสามไถ ผู้เป็นรุ่นพี่ของหลวงพ่อกลั่นวัดพระญาติ และเจ้าของตำรับวิชาเบี้ยหอยโข่งอันโด่งดัง (เบญจภาคีเครื่องรางยอดนิยมของอำเภอนครหลวงคือ ๑.ตะกรุดหลวงพ่อกรอง วัดเทพจันทร์ลอย ๒.เบี้ยหอยโข่ง หลวงพ่อรอด วัดสามไถ ๓.เสือหลวงพ่อนวม วัดกลาง ๔.หนุมานหลวงพ่อจุ้ย วัดบันได ๕.ยักษ์หลวงพ่อดำ วัดละมุด) เมื่อหลวงปู่นาคบวชเรียนเป็นเวลาอันพอสมควรแล้ว หมอย้อยผู้เป็นบิดาได้ย้ายครอบครัวกลับมายังภูมิลำเนาของตนที่ตำบลไผ่ขวาง หลวงปู่นาคจึงต้องลาสิกขาบทมาช่วยบิดามารดาทำนา ระหว่างนี้เองที่หลวงปู่นาคในเพศฆราวาสได้ติดตามพี่ชายคือปู่นวมไปคลุกคลีกับหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ( เนื่องด้วยปู่นวมซึ่งพี่ชายของท่านนั้น เป็นทั้งลูกพี่ลูกน้องและเพื่อนที่ตายแทนกันได้ของหลวงพ่อตาบทีเดียว โดยก่อนบวชนั้นทั้งสองคนต่างก็เป็นนักเลงด้วยกันทั้งคู่ ) ทำให้หลวงปู่นาคกับหลวงพ่อตาบในวัยหนุ่มนั้นสนิทกันมาก เพราะต่างก็ชอบทดสอบและแลกเปลี่ยนวิชาอาคมกัน ก่อนที่หลวงพ่อตาบจะหันไปสนใจในการศึกษากรรมฐานแบบมหาสติปัฏฐาน ส่วนหลวงปู่นาคนั้นก็ได้ไปมีครอบครัว ทำการเกษตรและเป็นหมอตามรอยของหมอย้อยผู้เป็นพ่อ โดยมิอาจทิ้งกรรมฐานและวิชาอาคมที่ได้ร่ำเรียนมาถึงแม้ว่าท่านจะมีครอบครัวแล้วก็ตาม ทุกคืนก่อนนอน ท่านจะไหว้พระสวดมนต์ ทบทวนวิชาต่างๆเพราะต้องใช้ในทางหมออยู่ตลอด เมื่อเวลาผ่านไปนับสิบๆปี ยิ่งทำให้วิชาของท่าน ทรงความเข้มขลังมากขึ้นทุกวัน ถึงขนาดบางวันในขณะที่ท่านกำลังนั่งพักเหนื่อยอยู่ใต้ร่มไม้ หลังจากที่ท่านได้ขุดดินปลูกต้นไม้ต้นไร่อยู่เงียบๆคนเดียวจนจิตใจเกิดเป็นสมาธิขึ้นมา แล้วสายตาของท่านเผลอไปเพ่งมองที่ใบจอบ ใบเสียม ทำให้ ใบจอบใบเสียมซึ่งเป็นเหล็กเกิดแดงวาบขึ้นมา แล้วอ่อนตัวเสียรูปทรงไปทันที เรื่องนี้ทำให้ท่านกังวลในอานุภาพของอภิญญาจิตของท่านเป็นอย่างมาก ท่านจึงต้องฝึกอบรมจิตใจของท่านให้หนักขึ้นไปอีกเพื่อหาวิธีควบคุมอานุภาพเหล่านี้ไว้ ขณะเดียวกันท่านก็ได้ใช้วิชาอาคมไปในทางต่างๆอยู่เสมอ อย่างเช่นวิชา ผูกพยนต์ ที่ท่านเสกหุ่นนั้นขลังนัก เพราะพวกหัวขโมยที่จะมาลักวัวของท่านนั้น ไม่เคยมีโอกาสจะเข้าบ้านของท่านได้เลย เพราะมาเฝ้ารอโอกาสเข้าไปลักวัวทีไร ก็จะเห็นมีแต่คนเดินไปเดินมาอยู่ในบ้านทั้งคืน จนเอาไปร่ำลือกันทั้งบางว่าคนในบ้านของท่าน กลางคืนทำอะไรกันอยู่ทั้งคืนก็ไม่รู้ ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอนกัน ทั้งๆที่จริงแล้วทุกคนในบ้านของท่านนั้นนอนหลับกันหมด หรือย่างวิชามหาเสน่ห์ของท่านนั้นก็มีความแรงเป็นเลิศเพราะก่อนที่หลวงปู่จะมาบวชครั้งที่สองนั้น ท่านมีภรรยาสาวๆมามากมายหลายคน ภรรยาของท่านแต่ละคนนั้นทั้งสาวและสวยจนพวกหนุ่มๆวัยรุ่นต้องอิจฉาทีเดียว ส่วนวิชาทางด้านคงกระพันมหาอุดนั้นต้องถือว่าไม่เป็นสองรองใคร เพราะลูกศิษย์ที่ท่านลงอาคมให้ไปนั้น ได้กลายเป็นนักเลงหนังเหนียว และกลายเป็นเสือปล้นจนถูกตำรวจล้อมยิงแต่ก็ยิงไม่เข้า เรื่องเหล่านี้ทำให้หลวงปู่นาคท่านเสียใจและเบื่อหน่ายทางโลก จึงได้อุปสมบทอีกครั้งหนึ่งในวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ ณ.วัดอินทาราม ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี โดยมีพระครูโอภาสพัฒนาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระบู่เป็นกรรมวาจาจารย์ พระจัน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ แล้วได้มาอยู่จำพรรษาที่วัดช้าง(กุญชร) ต.บ้านหลวง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี จากนั้นก็ไปอยู่วัดสฎางค์ ต.ท่าเจ้าสนุก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วย้ายมาอยู่วัดหนองพันเรือ เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๓๔ หลังจากที่หลวงพ่อตาบวัดมะขามเรียงมรณภาพได้เพียง ๒ ปี
สวยๆ เลี่ยมเก่าครับ