knug1111

ข้อมูลสมาชิก – knug1111

เริ่มเป็นสมาชิก: September 30, 2009 01:07:15 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 3 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 768 รายการ , คำติ: 0 รายการ

ประวัติ Feedback

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อผง-เนื้อว่าน/7186813


ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่ายุคก่อนสงคราม  หลวงปู่ทอง อายานะ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2363 ตรงกับปลายสมัยรัชกาลที่ 2 เป็นบุตรของนายฮวด แซ่ลิ้ม ชาวจีนฮกเกี้ยน มารดาเป็นชาวมอญ ต่อมาท่านได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2384 ได้อุปสมบท ณ วัดเงินบางพรม ตลิ่งชัน โดยมีท่านเจ้าคุณวินัยกิจจารีเถระ (ภู่) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ 2 ของ วัดเงินบางพรม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาตามภาษามคธว่า อายะนะ หลังจากอุปสมบทมา ได้พำนักจำพรรษา ณ วัดแห่งนั้นเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และคอยอุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ของท่านภายหลังได้ธุดงค์วัตรเพื่อแสวงหาโมกขธรรม เมื่อพระราชโยธาก่อสร้างวัดราชโยธาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้นิมนต์ท่านให้มาเป็นเจ้าอาวาส ท่านจึงเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของ วัดราชโยธา และท่านเป็นศิษย์น้องของ สมเด็จโต วัดระฆัง  และเป็นศิษย์พระอาจารย์แสงวัดมณีชลขันธ์ ลพบุรี ผู้เป็นอาจารย์ของสมเด็จพุฒาจารย์โต นอกจากนั้นท่านยังได้มีโอกาสศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับสมเด็จโตอีกด้วย ส่วน เกจิอาจารย์ที่คุ้นเคยไปมาหาสู่กัน เช่น หลวงปู่ปั้นวัดเงิน ตลิ่งชัน หลวงพ่อปานวัดมงคลโคธาวาส สมุทรปราการ หลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒ่า ชัยนาท หลวงปู่ภูวัดอินทร์ กรุงเทพฯ และท่านเจ้ามาวัดสามปลื้ม กรุงเทพฯ สำหรับลูกศิษย์ของท่านก็มี หลวงปู่เผือกวัดกิ่งแก้ว สมุทรปราการ หลวงปู่เหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา, หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม, หลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ, หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันธ์ นครศรีธรรมราช, หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์ สมุทรสาคร, หลวงพ่ออี๋ สัตหีบ, หลวงพ่อเพชรวัดสามปลื้ม กรุงเทพฯ และศิษย์ที่เป็นฆราวาส เช่น อาจารย์แก้วคำวิบูลย์ อาจารย์แถว และอาจารย์เจ็ก ในสมัยก่อนหลวงปู่ทอง ท่านเป็นพระที่มีอาวุโสสูง และทรงไว้ซึ่งวิทยาคมแก่กล้า ดังนั้นไม่ว่าใครก็ล้วนมาขอเรียนวิชาต่างๆจากท่าน หลวงปู่ทองมีอายุยืนยาวถึง 117 ปี จึงมรณภาพด้วยโรคชราเมื่อปี 2480 ท่าน ได้สร้างพระเครื่องไว้มากมายหลายรุ่นหลายพิมพ์มีทั้ง พิมพ์สมเด็จยันต์ข้าง พิมพ์ปิดตายันต์ข้าง พิมพ์แม่ธรณีบีบมวยผมยันต์ข้าง พิมพ์ปิดตาหลังยันต์อุเนื้อเมฆพัด เป็นต้น สำหรับพระเครื่องวัตถุมงคลต่างๆ หลวงปู่ทองก็สร้างไว้พอสมควร แต่ปัจจุบัน ไม่ค่อยได้เห็นกัน เพราะหายากมาก คนรุ่นนั้นต่างเก็บไว้ใช้กันหมด ที่เราพอจะได้เห็นกันบ้างก็คือ สมเด็จเขียวเหนียวจริง หรือพระสมเด็จกรุบึงพระยาสุเรนทร์ ซึ่งท่านสร้างและปลุกเสกให้ แม้แต่ตอนสงครามอินโดจีน พระยาพหลพลพยุหเสนา อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ยังได้นิมนต์ท่านขึ้นเครื่องบิน ไปโปรยทรายเสก รอบวัดพระแก้ว และสนามหลวง รวมทั้งบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้คุ้มครอง มิให้เป็นอันตรายจากระเบิดของข้าศึก และยังได้ขอร้องให้ท่านสร้างเสื้อยันต์เพื่อแจกทหารไปใช้ในสงคราม ซึ่ง เสื้อยันต์นี้มีกิตติศัพท์เลื่องลือกันมาก ว่าแคล้วคลาดยิงไม่ถูกหรือโดนยิงแล้วไม่เป็นอะไร บางคนโดนยิงล้มลง ก็ยังลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้ จนได้รับฉายาว่า ทหารไทยเป็นทหารผี ซึ่งตอนนั้น เสื้อยันต์ที่ท่านสร้าง จะจารเขียนด้วยดินสอดำ ท่านเองทำให้ไม่ทัน จึงได้ขอให้พระอาจารย์อีก 5 ท่าน มาร่วมสร้างด้วย คือ 1.หลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง นครปฐม, 2.หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม, 3.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา, 4.หลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี, 5.หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว สมุทรปราการ หลวงปู่ทองท่านเป็นพระที่ความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ท่านมีอภิญญาปาฏิหาริย์มากมาย แม้แต่คนจะถ่ายรูปท่าน ก็ยังถ่ายไม่ติดเลยครับ ทำให้ปัจจุบัน จึงไม่ค่อยมีรูปท่านให้เห็นกัน จะ มีที่เห็นก็เพียงรูปเดียวก็คือ รูปที่บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายร่วมกันไปอ้อนวอนขอถ่ายรูปท่าน ซึ่งเป็นรูปที่ท่านกำลังลงจากกุฏิไปฉันเพลเท่านั้น ส่วนวัตถุมงคลมีทั้ง เนื้อดิน เนื้อผง ดินผสมผง และเมฆพัด พระเครื่องของท่านมีพุทธคุณสูงทางด้านเมตตาแคล้วคลาด และคงกระพัน ขนาดที่ว่าพี่น้องชาวมุสลิมที่อาศัยบริเวณใกล้เคียงวัด ยังให้ความเคารพนับถือท่านอย่างสูงเลย   หายากขึ้นทุกวันครับ พระดีปีลึกแบบนี้ ของเก๊เกลื่อนสนามครับ องค์นี้ตัวจริงเสียงจริงครับ มาพร้อมกับบัตรรับรองจากทางเว็บ สบายใจได้ครับ   สายตรงไม่ควรพลาดครับ นานๆจะพบเจอตัวจริงสักองค์ครับ   รับประกันตามกฎทุกประการครับ   ปล.ผู้ชนะการประมูลเมื่อโอนแล้วรบกวนแจ้งใน mailbox ให้ทราบด้วยนะครับ เพื่อการจัดส่งที่รวดเร็ว ขอบพระคุณมากครับ


เขียนโดย :เหน่งบางคู้13 เจ้าของรายการ January 31, 2017 15:30:52

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/หลวงพ่อทวดวัดช้างไห้/7169352


พระเดิมๆๆ คะ เพียงกดไม่ค่อยดีคะ มาพร้อมบัตรรรับรองเวปคะ


เขียนโดย :มหานที เจ้าของรายการ January 23, 2017 03:31:49


จัดส่งรวดเร็ว บรรจุหีบห่ออย่างดี น้ำใจไมตรีเยี่ยมยอด สุดยอดผู้ตั้งประมูลครับ


เขียนโดย :KONG@KORAT ผู้ชนะประมูล January 20, 2017 06:11:26


เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม อยุธยา สร้างและอธิษฐานจิตโดย หลวงปู่ดู่ วัดสะแก สร้างเมื่อปี 2505 สร้างด้วยเนื้อทองแดง เพียงเนื้อเดียว เหรียญนี้เป็นเหรียญ จำนวนการสร้าง 1000 เหรียญ หลวงปู่ดู่ลงเหล็กจาร ๔ ตัว ใต้อาสนะ2 สังฆาฏิ 2 สภาพสวยผิวไฟยังมีอยู่ครับ หลวงพ่อกลั่นเป็นคนอยุธยาโดยกำเนิดเหรียญสร้างในปีพ.ศ.2469 พุทธคุณเด่นทางการปกป้องกันภัยหรือที่เรียกกันว่า"คงกระพันชาตรี"หลวงพ่อกลั่นธมฺมโชติผู้เป็นพระอาจารย์ชื่อเสียงโด่งดังที่สุด ของเมืองไทยในบรรดาพระอาจารย์เจ้าของเหรียญเป็นคือเป็นพระอาจารย์ที่ปลุกเสกเหรียญรูปเหมือนของท่านด้วยตัว ของท่านเองเหรียญของท่านที่เป็นพิมพ์นิยมนั้นราคาแพงอันดับหนึ่งในเมืองไทย ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้นพระอาจารย์ ยุคเก่าๆหลายท่านด้วยกันที่มีวิชาความรู้ในด้านธรรมชั้นสูงด้านกรรมฐานด้านวิชาอาคมขลังอย่างยอดเยี่ยมหลายๆท่านด้วยกัน พระอาจารย์หลายท่านสมัยก่อนในกรุงเก่าที่ลงตำราพิชัยสงครามได้ในจังหวัดต่างๆของเมืองไทยไม่มีที่ไหนบอกเอาไว้เลยว่า ลงเครื่องพิชัยสงครามได้มีแต่ที่กรุงเก่าเท่านั้น และหลวงพ่อกลั่น ท่านนี้เองที่เป็น พระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่สีห์ และหลวงปู่ดู่ ก่อนปี 2522 นั้นหลวงปู่ดู่ท่านไม่อนุญาติให้สร้างรูปเหมือนของท่าน โดยท่านจะให้สร้างแต่วัตถุมงคลที่มีรูปลักษณ์ของอาจารย์ ท่านเท่านั้น เวลาที่ท่านปลุกเสกว่ากันว่าท่านจะแสดงความเคารพ และตั้งใจเป็นอย่างมาก เวลามีใครถามถึงวัตถุมงคลที่เป็นรูป ของหลวงพ่อกลั่นว่าเป็นเหรียญรูปใครหรือท่านจะตอบว่า "อุปัชฌาย์ข้า" หลวงปู่ดู่เริ่มสร้างพระเนื้อโลหะครั้งแรก คือ พระชุดลป.กลั่น เริ่มตั้งแต่ปี 2505 หรือเท่ากับขณะองค์ท่านมีอายุ 58 ปี และบวชมานานแล้ว 38 พรรษา และต่อจากนั้นได้สร้างต่อมาเรื่อยๆ ทั้งพระเนื้อโลหะ และพระผง สลับไปมา   หายากขึ้นทุกวันครับ ตัวจริงหายากสุดๆ ของเก๊เกลื่อนสนามครับ องค์นี้ตัวจริงเสียงจริงครับ มาพร้อมกับบัตรรับรองเช่าหาสบายใจได้ครับ   ของดีไม่ควรพลาดครับ นานๆจะพบเจอตัวจริงสักองค์ครับ   รับประกันตามกฎทุกประการครับ   ปล.ผู้ชนะการประมูลเมื่อโอนแล้วรบกวนแจ้งใน mailbox ให้ทราบด้วยนะครับ เพื่อการจัดส่งที่รวดเร็ว ขอบพระคุณมากครับ


เขียนโดย :เหน่งบางคู้13 เจ้าของรายการ January 19, 2017 14:21:55

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคอีสาน/7143620


พระที่จัดสร้างในชุดนี้มีมวลสารประกอบด้วยกันหลายอย่างได้แก่ ๑.ผงพุทธคุณ ๒.น้ำมันงาเสก ๓.ผงของพระสมเด็จบางขุนพรหม และ ๔.ผงโสฬสมหาพรหม ของหลวงปู่ศรีทัต พระอาจารย์ของท่าน (ผงนี้เป็นมวลสารเดียวกับพระผงชุดโสฬสมหาพรหมของลป.ทิมแห่งวัดละหารไร่) หลวงปู่จันทร์ก็เป็นศิษย์ของหลวงปู่สีทัตต์ โดยเป็นศิษย์ตั้งแต่สมัยยังเป็นเณร เคยออกธุดงค์กับหลวงปู่สีทัตต์และได้เห็นอิทธิฤทธิ์ของหลวงปู่สีทัตต์มากพอ สมควร เช่นครั้งหนึ่งนั่งอยู่ในร่มไม้มีฝูงนกเกาะอยู่ข้างบน ร้องเจี๊ยวจ๊าว หลวงปู่สีทัตต์ถามเณรจันทร์ว่ารู้ไหมนกมันคุยอะไรกัน เณรจันทร์ตอบว่าไม่รู้ หลวงปู่สีทัตต์ก็ว่า มันคุยกันจะบินไปหากินทางทิศตะวันออก พอพูดจบฝูงนกก็บินไปทางทิศตะวันออกทั้งหมดจริง ๆ “ต่อไปถ้าเณรปฏิบัติถึงขั้นแล้ว เณรจะฟังภาษานกออกเอง” หลวงปู่สีทัตต์ว่า หลวง ปู่สีทัตต์กับสามเณรจันทร์ หรือหลวงปู่จันทร์นั้น เข้าใจว่าจะเป็นญาติกัน เพราะว่ามีนามสกุลเหมือนกันคือ "สุวรรณมาโจ” และเป็นคนท่าอุเทนด้วยกัน บางทีหลวงปู่สีทัตต์จะเป็นน้าเป็นลุงหลวงปู่จันทร์ก็ได้ ตอนที่ผงโสฬส มหาพรหมไปถึงมือหลวงปู่จันทร์นั้น คุณอาคมเล่าว่าหลวงปู่จันทร์เห็นแล้วก็จำได้ ถึงกับออกปากว่าไปเอาผงนี้มาจากไหนอย่างไร และหลังจากนั้นก็แบ่งผงนี้ไว้ประมาณ 1 ชั้นปิ่นโต ผงนี้ได้นำมาสร้างพระเครื่องรุ่น ๒๕๐๐ ของหลวงปู่จันทร์นั่นเอง ผู้ที่บูชาพระพิมพ์ชุดนี้ติดตัวต่างประสบกับเหตุอัศจรรย์ต่างๆมากมายอันเป็นผลเนื่องมาจากพุทธคุณที่ มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ พระ ผู้เป็นพระโพธิสัตว์ในใจลูกหลานทุกคนที่มีความศรัทธาต่อท่าน(ทำไมผม ต้องบอกว่าหลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ เป็นพระผู้เป็นพระโพธิสัตว์ลงมาโปรดมนุษย์ ทุกอย่างมีที่มาครับมีพระผู้ที่มีอภิญญาได้กล่าวว่าพระที่เป็นพระสายกัมฐาน สายอาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น หลวงป่เสาร์ ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบที่บรรลุธรรมชั้นสูงสามารถตัดกิเลสทุกอย่างได้เป็นพระอรหันต์ทุก องค์แต่มีอยู่หนึ่งองค์ไม่ยอมที่จะละทุกอย่างไปเป็นพระอรหันต์ทั้งๆที่ สามารถตัดกิเลสได้ทั้งหมดยังคงบำเพ็ญเพียรทุกภพทุกชาติไปเพื่อโปรดสัตว์โลก เพราะท่านเห็นว่าการมาโปรดสัตว์โลกให้สัตว์โลกพ้นทุกข์กรรมที่เกิดจากการ กระทำของแต่ละบุคคลนั้นเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ท่านสั่งสอนลูกหลานไม่ให้เบียด เบียนซึ่งกันแล้วกันไม่ก่อกรรมขึ้นมาใหม่ในชาตินี้แล้วท่านจะคอยช่วยเหลือ คนทีอยู่ในศีลธรรมอันดีที่ระลึกถึงท่านถ้ามีกรรมหนักหลวงปู่จะมาช่วยผ่อน หนักให้เป็นเบาเพื่อให้สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดมาใช้กรรมแต่ชาติ ปางก่อนในชาตินี้ได้มีการใช้กรรมที่เบาบางลงแล้วท่านก็สอนให้ทุกคนรักษาศีล ให้ทานมั่นสวดมนต์ภาวนาเพื่อเป็นบุญกุศลติดตัวไปทุกภพทุกชาติได้ไปเกิดในภพ ที่ดีไม่มีเจ้ากรรมนายเวรมาทวงกรรมที่ทำกับเค้าไว้เหมือนในชาตินี้พระผู้มี อภิญญายังกล่าวอีกว่าหลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ เป็นพระผู้บำเพ็ญเพียรมาหลายภพหลายชาติแล้วบารมีล้นเหลือสามารถละทุกอย่างไป เป็นพระอรหันต์ได้ทุกเวลาแต่หลวงปู่จันทร์ผู้นี้ตอนนี้บรรลุไปอีกขั้นเป็น พระโพธิสัตว์แล้วแล้วยังคงบำเพ็ญเพียรไปอีกจนถึงวาระที่จะเป็นพระพุทธเจ้า องค์ต่อไป) หลังจากที่สิ้นอาจารย์ใหญ่สายกัมฐานหลวงปู่เสาร์ ต่อมาด้วยหลวงปู่มั่นแล้วหลวงปู่จันทร์องค์นี้แหละถือว่าเป็นอาจารย์ใหญ่สุด ในสายวิปัสนากัมฐานเลยทีเดียว พระที่หลวงปู่จันทร์สร้างและเสกไม่ว่าจะ เป็นรุ่นไหนสามารถอธิษฐานขอสิ่ง ที่เราปราถนาสิ่งที่เราอยากให้เป็นถ้าไม่เกินกรรมเก่าเราผมเชื่ออย่างสนิทใจ ว่าสิ่งที่เราขอไปนั้นหลวงปู่จันทร์รับรู้และค่อยช่วยเหลือเพื่อให้ได้สมปรา ถนาในเร็ววันครับผมเชื่ออย่างนั้น หลวงปู่ศรีทัต หรือ ยาคูศรีทัต ท่านเป็นที่เคารพของมหาชน ๒ ฝั่งโขง ไม่ว่าท่านจะสร้างสิ่งใด ประชาชนทั้ง ๒ ฝั่งจะร่วมแรงร่วมใจถวายแด่หลวงปู่ ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าดอกแก้ว อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งท่านจะไปมาระหว่างวัดท่าดอกแก้ว และ ภูเขาควายในฝั่งลาว หลวงปู่ศรีทัตท่านมีศิษย์ที่ท่านถ่ายทอดสรรพวิชาการทั้งหลายจนสิ้นอยู่ ๒ รูปคือ ๑. หลวงปู่สนธ์ ซึ่งต่อมาเป็นเจ้าอาวาสต่อจากท่าน หลวงปู่สนธ์เป็นเจ้าอาวาส วัดท่าดอกแก้ว จวบจนปี ๒๕๑๐ จึงมรณภาพ ๒. หลวงปู่จันทร์ เขมิโย หรือ ท่านเจ้าคุณปู่ ที่เป็นที่สักการะอย่างสูง ท่านเจ้าคุณปู่ที่นั่งอยู่ในดวงใจของชาวนครพนม ท่านเป็นมหาเถระที่ชาวนครพนมและ จังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพอย่างสูง ท่านมีสมณศักดิ์ที่ พระเทพสิทธาจารย์ ท่านเจ้าคุณปู่เป็นเสาหลักแห่งพระศาสนา เป็นผู้วางรากฐานแห่ง พระธรรมยุติให้บังเกิดขึ้นที่นครพนม ท่านมรณภาพในปี ๒๕๑๖ สำหรับ หลวงปู่ สนธ์นั้น ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนักในเรื่องของความขลัง อาจจะเนื่องจากท่านอยู่ไกลถึงนครพนม แต่ในครั้งเมื่อมีการปลุกเสกพระประมาณปี ๒๔๙กว่า หลวงปู่สนธ์ท่านมาร่วมปลุกเสก พระที่วัดเทพฯ ท่านขึ้นมาแบบพระบ้านนอกไม่มีใครรู้จักนัก ครั้นพิธีปลุกเสกผ่านพ้นไป วันเดินทางกลับนครพนม ได้มีปรากฏการณ์พิเศษคือ มีพระคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระในครั้งนั้น ได้เดินทางติดตามหลวงปู่สนธ์ไปวัดท่าดอกแก้วหลายสิบองค์ คุณอาคมบุตรชายของอาจารย์ประถม อาจสาคร เล่าว่าอาจารย์ประถม ได้นำพระเครื่องของหลวงปู่สนธ์ไปให้หลวงปู่เฮี้ยงดู ปรากฏว่า ท่านดูไม่ออก กว่าจะดูรู้ว่า หลวงปู่สนธ์ทำพระอย่างไร ปลุกเสกอย่างไร วิธีไหน ก็เสียเวลาหลายวัน ต้องกำหนดจิตเข้าในองค์พระอยู่นานจึงรู้เรื่อง พอรู้แล้วก็เอ่ยปากยกย่องหลวงปู่สนธ์เป็นอย่างยิ่ง เสร็จแล้วก็ฝากพระของท่านไปให้หลวงปู่สนธ์ดูบ้าง เมื่ออาจารย์ประถมนำพระไปถวายให้หลวงปู่สนธ์ ท่านก็บอกทันทีว่าพระองค์นี้ดีอย่างนั้น ดีอย่างโน้น ปลุกเสกด้วยวิธีนั้น วิธีนี้ คาถาบทนั้น คาถาบทนี้ หลวง ปู่เฮี้ยงถึงกับร้องทำนองว่า เขารู้เราหมด แต่กว่าเราจะรู้เขาได้นั้นผิดกันเยอะ จากคำบอกเล่าของหลวงปู่สนธ์ ได้เล่าให้อาจารย์ประถม ซึ่งขณะนั้นได้เดินทางไปปฏิบัติราชการตำแหน่งหัวหน้าสหกรณ์อำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม ปี ๒๔๙๓ ฟังว่า อาจารย์ของท่านคือ หลวงปู่ศรีทัต เป็นพระเถระที่ทรงคุณยิ่งใหญ่ มีจริยวัตรที่งดงามนักหนา เคร่งครัดในธรรมวินัยยิ่งยวดมีตบะแก่กล้า นอกจากท่านจะเชี่ยวชาญทางวิปัสสนาธุระและคันธุระแล้ว ท่านยังอุดมไปด้วยวิชาการต่างๆมากมาย และในช่วงที่หลวงปู่สนธ์เป็นเณรอยู่นั้น ได้ถูกเรียกใช้เป็นประจำ ก็เลยอยู่ดูแลหลวงปู่ศรีทัตมากกว่าคนอื่น และตอนที่หลวงปู่สนธ์เป็นเณรนั้น หลวงปู่ศรีทัตได้เขียนยันต์ให้ผืนหนึ่งและบอกกับหลวงปู่ว่า “เณรเอายันต์ผืนนี้ไว้นั่งแทนเรือ ข้ามโขงไปหาปู่ที่เขา” อาจารย์ประถมได้ถามว่า แล้วหลวงปู่เคยใช้ไหม หลวงปู่สนธ์ไม่ตอบ ได้แต่นั่งหัวเราะแล้ว เงียบไป อาจารย์ประถมรุกเร้าเท่าใดก็ไม่เป็นผล ขอดูก็ไม่ให้ดู แต่ภายหลังจากนั้นไม่นาน อาจารย์ประถมคอยดูจังหวะที่ได้เข้าไปในห้องของหลวงปู่สนธ์ และได้เห็นผ้ายันต์ผืนหนึ่งใหญ่มากวางอยู่บนพานบูชา หน้าโต๊ะหมู่บูชาพระ อาจารย์ประถมได้ทีถาม หลวงปู่ก็รับว่า ใช่ อาจารย์ประถมก็ถามต่อว่าได้ใช้หรือไม่ หลวงปู่ท่านก็ตอบว่า ใช้ ๔ ครั้งแล้วไม่ได้ใช้อีกเลย และ ห้ามไม่ให้อาจารย์ประถมบอกต่อ จนกว่าจะถึงเวลาอันควร อาจารย์ประถมได้เก็บเป็นความลับ จนกระทั่งหลวงปู่สนธ์มรณภาพ จึงได้เล่าให้ลูกหลานฟัง และไม่หลังหลวงปู่สนธ์มรณภาพ ก็ไม่ทราบว่าใครได้ไป เพราะอาจารย์ประถมได้ย้ายออกมาก่อน หลวงปู่สนธ์ได้เล่าว่า หลวงปู่ศรีทัตท่านมีความเชี่ยวชาญในภาษา “รู้” มาก อีกทั้งเจนจบครบสูตรในอักขระมหายันต์ทั้งหลาย หลวงปู่ศรีทัตท่านเคยบอกว่า วิชาลงผงวิเศษที่ยากนักหนาที่ท่านสำเร็จมามี 3 สูตร ได้แก่ ๑. ผงโสฬสมหาพรหม ๒. ผงนวโลกุตตระ ๓. ผงโภชฌงค์บริพัตร อาจารย์ ประถม ได้เคยเรียนถามหลวงปู่สนธ์ว่า ท่านลงได้ครบทั้ง ๓ สูตรหรือไม่ท่านไม่ตอบ แต่ยิ้มๆ และ เงียบไปตามเดิม หลวงปู่สนธ์ท่านเล่าว่า ในปีหนึ่งหลวงปู่ศรีทัต หลังจากออกพรรษาแล้ว ท่านเตรียมตัวธุดงค์ไปภูเขาควาย คราวนี้ท่านเตรียมสิ่งของไปมากมายเป็นพิเศษและได้สั่งพระเณรว่า พรรษาหน้าให้เตรียมการไว้ ท่านกลับมาท่านจะได้สร้างพระธาตุเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของ องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้เตรียมบอกญาติโยมด้วย การที่ท่านเตรียมของมากมายนี้ ท่านประสงค์จะสร้างผงวิเศษเอาไว้ผสมสร้างพระเพื่อแจกญาติโยมที่มาร่วมทำบุญ กับท่าน หลวงปู่สนธ์ท่านเล่าว่า ผงวิเศษที่หลวงปู่ศรีทัตจะไปสร้างในครั้งนี้ก็คือ ผงโสฬสมหาพรหม การลงผงโสฬสมหาพรหมนั้น ต้องลงอักขระด้วยตัวธรรมเป็นกลยันต์ โดยถอดตัว ต้นจนถึงตัวสุดท้าย ผูกสลับเป็นกลยันต์ ๑๖ มุม ในแต่ละมุมแบ่งออกเป็น ๑๖ ชั้น ในแต่ละชั้นลงอักขระ ๑๖ ช่อง อักขระแต่ละตัวแต่ละช่อง ต้องลบถมเรียกสูตร ๑๖ คาบ ผูกอธิษฐานเสกยันต์โสฬสมหาพรหมครบแล้วทั้ง ๑๖ สูตรถือเป็น ๑ ครั้ง และลงในระบบเดียวกันนี้ ๑๖ ครั้งแล้วรวมที่ลบมาอธิษฐานจิตปลุกเสกตามฤกษ์บน-ล่าง ตามตำราบังคับ เสร็จแล้วให้เอาผงวิเศษลูบลงในกระดานลงผง หากบังเกิดอักขระขอมธรรมของยันต์โสฬสมหาพรหมบนกระดานลงผงโดยไม่ได้เขียน โดยใช้เพียงผงวิเศษลูบให้สำเร็จเป็นยันต์ ถือว่าสำเร็จ หากลูบแล้วไม่ปรากฏยันต์ในกระดานลงผง จะต้องเริ่มต้นลงใหม่ตั้งแต่ต้น ! ผู้ที่ลงผงวิเศษได้ครบสูตรโสฬสมหาพรหมได้สำเร็จ จะดลบันดาลให้เทพทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ๑๔ บาดาล ๒๒ ชั้นพรหม ภะคะวะพรหม จนถึง พรหมสุทธาวาส ทุกพระองค์ลงและขึ้นมาอนุโมทนาอำนวยพร ผงวิเศษนี้มีอานุภาพอันทรงความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ผู้ที่บูชาผงวิเศษนี้จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วย ลาภสักการะ วาสนาบารมี บริบูรณ์ไปด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติ ปัญญา บารมีสมบัติปรารถนาสิ่งใด จักสำเร็จดังปรารถนา ผงโสฬสมหาพรหมที่หลวงปู่ศรีทัตสร้างขึ้นนี้ ท่านได้นำไปสร้างพระแจกที่วัดท่าดอกแก้ว ท่านสร้างไว้ไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเหลือท่านเก็บใส่บาตร ตกทอดมาถึงหลวงปู่สนธ์ ท่านก็เก็บไว้เฉยๆไม่ได้ใช้อะไร ต่อมาท่านได้สร้างผงนวโลกุตระ ขึ้น ท่านจึงได้สร้างพระปิดตาแจกชาวบ้าน และได้นำผงทั้ง ๒ ชนิดมาใส่รวมกัน อาจารย์ประถมเป็นศิษย์หลวงปู่เฮี้ยง และมีความชำนาญในการสร้างพระ เพราะได้ช่วยหลวงปู่เฮี้ยงสร้างพระตั้งแต่ยุคแรกๆของวัดป่า ( พศ.๒๔๘๔ ) และเมื่ออาจารย์ประถมมาถึงท่าอุเทน ได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงปู่สนธ์ ชาวบ้านนับถือมาก และสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาจารย์ประถมนับถือ คือ มีพลทหารนายหนึ่ง อาจารย์ประถมได้ขอตัวมาช่วยงานของสหกรณ์ ได้มีเรื่องกับชาวบ้านและโดนยิงเข้าไป ๓ ชุด กระเด็นตกน้ำ แต่ไม่ตาย เพราไม่มีระคายผิวหนัง เสื้อผ้าขาดกระจุย ทั้งตัวมีตะกรุดดอกเดียว คือ ตะกรุดเก้าแปเก้าย้อ ของหลวงปู่สนธ์ ด้วยเหตุนี้อาจารย์ประถมจึงไปเสาะหาท่านถึงวัดและศึกษาวิชาการจากท่าน และเนื่องจากท่านเป็นผู้ที่มีความ ชำนาญในการสร้างพระ ท่านจึงคิดจะสร้างพระถวายหลวงปู่สนธ์ในราวปลายปี ๒๔๙๓ จึงเข้าเรียนหลวงปู่สนธ์และท่านก็อนุญาต และหลวงปู่สนธ์ก็ได้มอบผงวิเศษที่มีอยู่ในบาตรใหญ่นั้นให้อาจารย์ประถมนำไป สร้างพระ อาจารย์ประถมเล่าไว้ว่า ในเวลาที่รับผงวิเศษนั้นมือสั่นไป หมดเพราะทราบดีว่าผงวิเศษในบาตรนั้นวิเศษ เพียงใด อาจารย์ประถมจึงได้สร้างพระท่าดอกแก้วถวายหลวงปู่สนธ์ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว อาจารย์ประถมได้นำผงวิเศษที่เหลือในราวครึ่งบาตรกว่าถวายคืนแด่หลวงปู่สนธ์ ท่านกลับบอกว่าให้เก็บไว้สร้างพระต่อไปในอนาคต (แสดงว่าท่านรู้ด้วยญาณสมาบัติของท่านว่าคุณประถมจะต้องนำผงวิเศษไปสร้างพระ ให้หลวงปู่ทิมฯ )หลังจากนั้นเมื่ออาจารย์ประถมทำงานที่ท่าอุเทนครบวาระ ได้ถูกย้ายไปทำงานที่อ.ธาตุพนม และก่อนที่จะไปประจำการ อาจารย์ประถมได้นำผงวิเศษนี้เดินทางไปที่จังหวัดขอนแก่น โดยไปขอบารมีท่านเจ้าคุณพระอริยคุณาธาร(เส็ง ปุสโส) นานถึง ๖ เดือน และได้นำไปขอบารมีจากพระอริยสงฆ์อีกหลายรูปได้แก่ พระอาจารย์วัง ฐิติสาโณ แห่งภูลังกา หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่สิม พุทธจาโร หลวงพ่อสมาธิ หลวงปู่หัว วัดบ้านคำครึ่ง


เขียนโดย :pire2499 เจ้าของรายการ January 18, 2017 04:30:08


ได้รับแล้วครับ


เขียนโดย :pong2541 ผู้ชนะประมูล January 17, 2017 01:37:03


พระสวยครับ เยี่ยมครับ


เขียนโดย :cpall ผู้ชนะประมูล January 16, 2017 11:37:25


ข้อมูลประวัติ เกิด                         วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2428 ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นบุตรของนายสิน  นางขลิบ  รัตนบุญสิน บรรพชา                อายุ 12 ปี อุปสมบท               อายุ 20 ปี มรณภาพ               วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2500 พระราชทานเพลิง 11 พฤษภาคม 2501 ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม กรุงเทพฯ รวมสิริอายุ            72 ปี 52 พรรษา   ประวัติหลวงพ่อแฉ่ง ศีลปัญญา วัดศรีรัตนาราม (บางพัง) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  หลวงพ่อแฉ่ง เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ธ.ค. 2428 ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นบุตรของนายสิน นางขลิบ รัตนบุญสิน บรรพชาเมื่อ อายุ 12 ปี และอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ หลวงพ่อแฉ่ง เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความสำคัญในอดีต ด้วยความที่มีอาคมขลัง มีพลังทางจิตแก่กล้ายิ่ง เป็นพระปฏิบัติเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐานในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นผู้คงแก่เรียนจนทำให้ชื่อเสียงระบือไกล หลวงพ่อแฉ่ง เป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมขลังมาจากเกจิชื่อดังต่าง ๆ หลายรูปและได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชามาอย่างหมดใส้หมดพุง ทั้ง หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย (คลองด่าน) หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน หลวงปู่ฉาย วัดพนัญเชิง คณาจารย์สาย หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เป็นต้น อย่างไรก็ตามหลวงพ่อแฉ่งให้ความเคารพนับถือ หลวงพ่อปานวัดบางนมโค จ.อยุธยา มากเป็นพิเศษ ในฐานะลูกศิษย์และสหายธรรมรุ่นน้อง จึงได้รับอิทธิพลพระพิมพ์ทรงสัตว์ต่าง ๆ มาจากหลวงพ่อปานด้วย ซึ่งท่านได้นำมาพิมพ์แจกจ่ายญาติโยม ได้รับความนิยมเช่าบูชากันมาก สมัยหลวงพ่อแฉ่งยังมีชีวิตอยู่ วัดบางพังในอดีตคึกคักกว่าวัดอื่น ๆ ในระแวกใกล้เคียง แต่ละวันมีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินทางมาจากถิ่นต่าง ๆ มาฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชากับหลวงพ่อแฉ่งจนรับไม่หวาดไหว บางคนก็มาขอวัตถุมงคล บางคนก็มารักษาโรค บางคนก็มาปรึกษาขอความช่วยเหลือสารพัด เพราะทุกคนเชื่อมั่นว่าหลวงพ่อแฉ่งท่านช่วยได้  ผู้ที่ไปขอเรียนคาถาอาคม หลวงพ่อแฉ่งจะให้หัดนั่งสมถวิปัสนากรรมฐานก่อน เมื่อเห็นว่าพอไปได้ จึงจะให้รับนิสัยธรรมข้อหนึ่งที่หลวงพ่อจะอบรมสั่งสอนให้จำขึ้นใจ (เข้าใจว่าเป็นคุณธรรมประจำใจหรือธรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง) จากนั้นจึงจะบอกตัวคาถาและเคล็ดวิชาต่าง ๆ ให้ การเรียนวิชาอาคมจากหลวงพ่อแฉ่ง ท่านสอนยศิษย์ทั้งเรียนผูกและเรียนแก้ เพื่อป้องกันแก้ไขและช่วยเหลือคนที่มีทุกข์ถูกคุณไสยให้พ้นภัย เรียกว่าครบเครื่องเลยทีเดียว หลวงพ่อแฉ่ง มรณภาพ วันที่ 26 ก.ค. 2500 รวมสิริอายุ 72 ปี 52 พรรษา สังขารของท่าน สมเด็จพระสังฆราช (จวน) วัดมกุฎกษัตริยาราม โปรดให้เคลื่อนไป พระราชทานเพลิงอย่างสมเกียรติ เมื่อ 11 พ.ค. 2501 ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม กรุงเทพฯ โดยในงานศพของหลวงพ่อแฉ่ง มีการปั้มเหรียญรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดแจกเป็นที่ระลึกด้วย


เขียนโดย :The Big เจ้าของรายการ January 13, 2017 12:29:50


โอนเงินเรียบร้อยแล้วครับ


เขียนโดย :konter2533 ผู้ชนะประมูล January 13, 2017 03:17:02

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อผง-เนื้อว่าน/7144284


พระเครื่องของหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ที่ออกที่วัดชีปะขาวหาย ตามประวัติการสร้างนั้นเป็นการสร้างเพื่อถวายให้หลวงพ่อต่วน วัดชีปะขาวหาย ในช่วงประมาณปี 2460-2461 ซึ่งหลวงพ่อต่วนท่านเป็นสหธรรมิกรุ่นน้องกับหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า อีกทั้งหลวงพ่อต่วน ท่านเป็นเกจิอีกรูปที่ชาวพิษณุโลกนับถือกันมากเพราะท่านมีวิชาอาคมขลัง ท่านนับถือหลวงปู่ศุข มาก มักจะไปสนทนาธรรมและแลกเปลี่ยนวิชาอาคมกันอยู่เสมอจนมีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี ต่อมาวัดชีปะขาวต้องการปัจจัยในการสร้างเสนาสนะต่างๆภายในวัด หลวงพ่อต่วนท่านจึงไปปรึกษากับหลวงปู่ศุขเรื่องการสร้างพระเครื่อง ซึ่งหลวงปู่ศุข ท่านก็รับปากว่าจะช่วยปลุกเสกและเป็นประธานในพิธีให้ พระชุดนี้มีด้วยกันหลากหลายพิมพ์ครับ ทั้งพิมพ์ประภามณฑป พิมพ์ปรกโพธิ์เล็บมือ หรือ บางท่านเรียกว่า พิมพ์นาคปรก พิมพ์พระปิดตาสามเหลี่ยม เป็นต้น พระทั้งหมดสร้างจากผงพุทธคุณล้วนๆผสมน้ำมันตังอิ๊ว จุดประสงค์ของการสร้างนั้นเพื่อแจกในงานบุญของวัดชีปะขาวหาย พระส่วนหนึ่งได้นำไปบรรจุกรุที่วัดชีปะขาวหาย พระวัดตาปะขาวหายเป็นพระเครื่องเนื้อขาวหม่นๆ หรือขาวอมเหลือง พระบางองค์ตามพื้นผิวจะมีคราบกรุจับแน่นคล้ายฟองเต้าหู้ ทั้งนี้เนื่องจากมีการฝังกรุมานาน ด้านหลังของพระบางองค์มีรอยเหล็กจารองค์ที่มีรอยจารชัด ๆ ก็จะอ่านได้ว่า นะ ชา ลิ ติ พระได้แตกกรุเมื่อครั้งแรก พ.ศ.2503 ต่อมาได้มีการพบพระอีกครั้งเมื่อคราวบรูณะซ่อมแซมพระมณฑปจตุรมุข เมื่อปี พ.ศ.2548-2549 วัดตาปะขาวหายจังหวัดพิษณุโลกที่พบจากพระมณฑปจตุรมุข เป็นพระเครื่องอีกรุ่นหนื่งที่ประวัติและหลักฐานชัดเจนว่าหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าได้สร้างเอาไวัและมีการนิยมเล่นหาเป็นมาตรฐานมานานหลายปีแล้ว เรื่องประสบการณ์พุทธคุณพระกรุนี้มีมากมาย โดยเฉพาะเมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพัน มีผู้ที่แขวนพระนี้แล้วถูกสุนัขกัดเข้าอย่างจัง ปรากฏว่าเป็นแค่รอยจ้ำแดงๆเท่านั้นครับ ปัจจุบันพระเครื่องของหลวงปุ่ศุขที่ออกที่วัดชีปะขาวหายนี้สวยๆราคายังเล่นกันแค่หมื่นต้นๆถึงหมื่นกลางๆเท่านั้นครับ คาถาอาราธนาพระเครื่องและตะกรุดหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึง(หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า) แล้วภาวนา คาถาหลวงปู่ศุข ว่าดังนี้ อิติอะระหังสุคะโต เกสโรนามะเต ประสิทธิเม อิหิอะโห นะโมพุทธายะ หมั่นสวดภาวนาเป็นประจำ ป้องกันภัยพิบัติต่างๆ เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย พระเครื่องหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นพระเครื่องที่มีพุทธคุณสูงมากเป็นที่ต้องการของใครหลายๆคน แต่เนื่องจากของเก๊มากมาย เราสามารถใช้ พระคาถาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ในบทต่างๆของท่านภาวนาเพื่อปกป้องคุ้มครองอันตรายต่างๆแทนได้เหมือนกัน คาถาเมตตามหาเสน่ห์ ของ(หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า) พระปิดตาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า


เขียนโดย :pratum เจ้าของรายการ January 12, 2017 04:43:28

หน้าที่ :  17