เมื่อพระของขวัญรุ่น 3 ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำได้สร้างไว้เป็นรุ่นสุดท้ายได้หมดลงแล้ว และปรากฏว่ายังมีผู้นิยมต้องการพระวัดปากน้ำอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทางวัดปากน้ำโดยคณะศิษยานุศิษย์จึงได้ทำการจัดสร้างพระขึ้นใหม่อีกรุ่นหนึ่ง นับเป็นรุ่นที่ 4 ต่อจากรุ่นที่ 3 ที่หลวงพ่อได้สร้างไว้ ทางวัดได้ดำเนินการจัดสร้างขึ้นโดยมีพระเดชพระคุณพระธรรมธีรราชมหามุนี เจ้าอาวาสเป็นประธาน และได้มอบหมายให้พระภาวนาโกศลเถร (วีระ คณุตฺตโม) อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระดำเนินการจัดสร้างพระผงธรรมขันธ์รุ่น 4 ขึ้นมามีจำนวน 800,000 องค์ (แปดแสน) โดยได้เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2514 เป็นต้นมา และได้เริ่มนำออกให้เช่าบูชาเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2515 และได้จำหน่ายหมดในปี พ.ศ. 2527 พระรุ่น 4 นี้มีชื่อเรียกว่า “พระธรรมขันธ์” มีคำชี้แจงตอนหนึ่ง ของพระเดชพระคุณพระภาวนาโกศลเถร ในสมัยดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูภาวนาภิรมเป็นคำชี้แจงที่พิมพ์ห่ออยู่กับพระธรรมขันธ์ ซึ่งมีใจความตอนหนึ่งว่า ....เนื่องด้วยพระของขวัญของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีหลวงพ่อวัดปากน้ำทั้ง 3 รุ่นได้แจกหมดไปแล้วเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2514 ทางวัดจึงได้จัดทำพระผงขึ้นใหม่ เรียกว่า “พระธรรมขันธ์วัดปากน้ำภาษีเจริญ” โดยนำผงพระของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำทั้ง 3 รุ่น คือรุ่น 1 รุ่น 2 รุ่น 3 ผสมรวมกันเพื่อทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และนำเข้าพิธีโดยผู้ทรงคุณวุฒิได้วิชาธรรมกายทำพิธีตลอดไตรมาสสามเดือนในพรรษาและได้เริ่มแจกในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2515 อันเป็นวันออกพรรษา เมื่อท่านทั้งหลายได้รับไปแล้ว จงเก็บรักษาไว้ให้ดี เมื่อมีอุปสรรคอันใดเกิด่ขึ้น จงตั้งจิตอธิษฐานเอาเถิด... ในการสร้างพระธรรมขันธ์นี้ ทางวัดได้จัดพิมพ์พระคะแนนในรุ่นนี้ขึ้นด้วย เรียกว่า พระคะแนนรุ่น 4 โดยใช้แม่พิมพ์เดียวกัน พระคะแนนนี้มีความแตกต่างพิเศษจากพิมพ์ธรรมดาอยู่ 2 ประการ คือด้านหน้าองค์พระจะใส่เส้นเกศาของหลวงพ่อไว้ทุกองค์ เส้นเดียวก็มี หลายเส้นก็มี บางองค์อาจจะไม่ปรากฏเห็น เนื่องจากหลุดหายไปหรือไม่ก็อาจจะฝังจมอยู่ในเนื้อ ด้านหลังองค์พระจะมีตัว “ภ” พิมพ์อยู่เป็นพิเศษอยู่ ด้วย อักษรตัว “ภ” นี้ย่อมาจากคำว่า “พระครูภาวนาภิรม” ชื่อของผู้สร้างในสมัยนั้น พระคะแนนนี้มีทั้งชนิดพิมพ์ 4 เหลี่ยม และชนิดพิมพ์ 3 เหลี่ยม ทางวัดได้นำออกให้ประชาชนได้นำออกให้ประชาชนได้เช่าบูชาในราคาองค์ละ 100 บาท ส่วนพิมพ์ธรรมดาองค์ละ 25 บาทเท่านั้น พระผงธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ ถึงแม้จะเป็นรุ่นที่คณะศิษย์ของหลวงพ่อเป็นผู้สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกหรือเป็นรุ่นแรกที่คณะศิษย์ได้สร้างขึ้นก็ตาม หากจะกล่าวถึงในด้านชื่อเสียงและความนิยมโดยทั่วไปแล้วก็นับได้ว่าไม่แตกต่างจากพระของขวัญรุ่น 1 รุ่น 2 และรุ่น 3 ที่หลวงพ่อได้สร้างขึ้นเนื่อเพราะว่าในรุ่นนี้ ได้นำเอาผงพระของขวัญของหลวงพ่อทั้ง 3 รุ่นมาเป็นส่วนผสมด้วยประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งก็คือได้ทำพิธีบรรจุอานุภาพตามหลักวิชาธรรมกายเหมือนรุ่น 1-2-3 ซึ่งทางคณะศิษย์ได้ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาโดยไม่ขาดสาย จนถึงปัจจุบัน พระธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ จึงคงความศักดิ์สิทธิ์มีผู้นิยมนำไปสักการบูชากันอย่างแพร่หลายจนกระทั่งหมดในปี พ.ศ. 2527 แม่พิมพ์ แม่พิมพ์ของพระธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ จัดแยกออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ ประเภทพิมพ์สี่เหลี่ยมกับประเภทพิมพ์สามเหลี่ยม พิมพ์สี่เหลี่ยมนั้นมี 2 พิมพ์ และพิมพ์สามเหลี่ยมมี 2 พิมพ์เช่นกัน เมื่อรวมกันแล้วพระธรรมขันธ์รุ่น 4 จึงมีทั้งหมด 4 พิมพ์ด้วยกัน ขนาดของพระธรรมขันธ์แบบสี่เหลี่ยมทั้งสองพิมพ์กว้างประมาณ 1.7 ซม. ยาวประมาณ 2.4 ซม. ความหนาประมาณ 6 มม. ชนิดสามเหลี่ยมทั้ง 2 พิมพ์ฐานกว้างประมาณ 1.7 ซม. สูงประมาณ 2.5 ซม. หนาประมาณ 6 มม. พุทธลักษณะทั่วไปของพระสี่เหลี่ยมทั้ง 2 พิมพ์นั้นเป็นพระนั่งสมาธิราบปางปฐมเทศนา พระหัตถ์ซ้ายวางบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวายกขึ้นเป็นลักษณะจีบนิ้วอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว ข้างซุ้มทั้งสองด้านมีเส้นม่านเป็นขีดๆ เรีงกันเป็นลำดับ ฐานเป็นบัวคว่ำบัวหงายสองชั้น ด้านหลังองค์พระพิมพ์เป็นอักขระขอม อ่านว่า “ธรรมขันธ์” พุทธลักษณะทั่วไปของพระพิมพ์สามเหลี่ยมทั้ง 2 พิมพ์ เป็นพระนั่งสมาธิราบปางปฐมเทศนาเช่นกัน พระหัตถ์ซ้ายที่ว่างบนพระเพลา จีบเป็นวงเข้าหากัน และพระหัตถ์ขวาที่ยกขึ้นก็มีลักษณะจีบนิ้ว ขอบรอบองค์พระเป็นลายกนกสวยงาม ด้านหลังพิมพ์เป็นอักขระขอม อ่านว่า “ธรรมขันธ์” ส่วนผสมรุ่น 4 พระธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ มีส่วนผสมหลายอย่างจะกล่าวพอเป็นสังเขปดังนี้ 1.ปูนขาว ที่ทำจากเปลือกหอย 2.กล้วยน้ำว้า 3.ดอกไม้ต่างๆ โดยเฉพาะดอกมะลิ 4.ผงพระของขวัญรุ่น 1 รุ่น 2 และรุ่น 3 5.อัญมณีบางส่วน 6.เส้นเกศาของหลวงพ่อ (โดยเฉพาะพระคะแนน) 7.น้ำมันตั้งอิ๊ว 8.และอื่นๆ เนื้อพระรุ่น 4 พระธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ แยกประเภทของเนื้อพระออกโดยทั่วๆ ไปเป็น 4 ประการคือ 1. เนื้อสีขาว 3. เนื้อสีคล้ำหม่น 2. เนื้อสีเหลือง 4. เนื้อเกล็ดสีขาว (สังขยา) พระเนื้อสีขาว ลักษณะของเนื้อจะเป็นสีขาวนวลไม่ใช่ขาวซีด อีกประการหนึ่งจะเป็นสีขาวอมเหลืองอ่อนๆ พบมากโดยทั่วไป เนื้อสีเหลือง เนื้อพระชนิดนี้มีทั้งชนิดสีเหลืองอ่อน สีเหลืองเข้มและสีลักษณะเหลืองใสคล้ายเนื้อเทียน เนื้อพระชนิดนี้จะเป็นที่นิยม เนื้อสีคล้ำหม่น ลักษณะคล้ายๆ จะเป็นสีดำๆ หรือน้ำตาลปึกแก่ๆ สีเนื้อชนิดนี้มีพบอยู่ไม่มากนัก เนื้อเกล็ดสีขาว พระเนื้อเกล็ดหรือที่รู้จักกันเรียกันโดยทั่วไปว่า “เนื้อสังขยา” นี้ เป็นพระที่มีเนื้อแปลกแตกต่างออกไปจากเนื้ออื่นๆ ลักษณะของเนื้อพระจะขึ้นเป็นเกล็ดขาวๆ เต็มไปทั่วทั้งองค์ หากถูกจับถูบ่อยๆ หรือถูกความเปียกชื้น เกล็ดนี้ก็จะหลุดล่อนออกได้ สีของเนื้อพระด้านในที่เป็นสีเหลืองก็มี ที่เป็นสีคล้ำๆ ดำๆ คล้ายสีน้ำตาลปึกก็มี พระเนื้อเกล็ดนี้หากสังเกตให้ดีจะพบว่ามีจำนวนอัญมณีผสมรวมอยู่มาเป็นพิเศษ ข้อสังเกต พระธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ มีข้อสังเกตบางประการที่น่าสนใจ คือเราจะพบเห็นว่า พระบางองค์อาจจะมีจุดตำหนิต่างๆ ที่ผิดหูผิดตา หรือผิดแปลกแตกต่างออกไปจากองค์อื่นๆ โดยทั่วไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นที่หูหรือที่ซุ้มก็ตาม หรือบางทีจะปรากฏมีเส้นเป็นรอยพิมพ์แตกบ้าง และบางองค์ ปาก จมูก จะใหญ่โตกว่าพิมพ์อื่นๆ ธรรมดาโยทั่วไปบ้าง ลักษณะต่างๆ ที่กล่าวนี้เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากการถอดพิมพ์บ้าง เกิดจากแม่พิมพ์ชำรุดร้าวบ้าง จากสาเหตุดังกล่าวนี้ จึงทำให้เกิดการผิดเพี้ยนขึ้นมา แต่ถึงอย่างไรก็ตามพิมพ์ต่างๆ ดังกล่าวมานี้ถึงจะมีอยู่บ้างก็เป็นส่วนน้อยเท่านั้น ไม่ถือเป็นประมาณในการนับแยกพิมพ์ พระธรรมขันธ์รุ่น 4 ก็มีเพียง 4 พิมพ์ตามแม่พิมพ์ต้นแบบเท่าเดิมทุกประการ มิใช่นอกเหนือมากไปกว่านี้
เมื่อพระของขวัญรุ่น 3 ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำได้สร้างไว้เป็นรุ่นสุดท้ายได้หมดลงแล้ว และปรากฏว่ายังมีผู้นิยมต้องการพระวัดปากน้ำอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทางวัดปากน้ำโดยคณะศิษยานุศิษย์จึงได้ทำการจัดสร้างพระขึ้นใหม่อีกรุ่นหนึ่ง นับเป็นรุ่นที่ 4 ต่อจากรุ่นที่ 3 ที่หลวงพ่อได้สร้างไว้ ทางวัดได้ดำเนินการจัดสร้างขึ้นโดยมีพระเดชพระคุณพระธรรมธีรราชมหามุนี เจ้าอาวาสเป็นประธาน และได้มอบหมายให้พระภาวนาโกศลเถร (วีระ คณุตฺตโม) อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระดำเนินการจัดสร้างพระผงธรรมขันธ์รุ่น 4 ขึ้นมามีจำนวน 800,000 องค์ (แปดแสน) โดยได้เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2514 เป็นต้นมา และได้เริ่มนำออกให้เช่าบูชาเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2515 และได้จำหน่ายหมดในปี พ.ศ. 2527 พระรุ่น 4 นี้มีชื่อเรียกว่า “พระธรรมขันธ์” มีคำชี้แจงตอนหนึ่ง ของพระเดชพระคุณพระภาวนาโกศลเถร ในสมัยดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูภาวนาภิรมเป็นคำชี้แจงที่พิมพ์ห่ออยู่กับพระธรรมขันธ์ ซึ่งมีใจความตอนหนึ่งว่า ....เนื่องด้วยพระของขวัญของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีหลวงพ่อวัดปากน้ำทั้ง 3 รุ่นได้แจกหมดไปแล้วเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2514 ทางวัดจึงได้จัดทำพระผงขึ้นใหม่ เรียกว่า “พระธรรมขันธ์วัดปากน้ำภาษีเจริญ” โดยนำผงพระของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำทั้ง 3 รุ่น คือรุ่น 1 รุ่น 2 รุ่น 3 ผสมรวมกันเพื่อทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และนำเข้าพิธีโดยผู้ทรงคุณวุฒิได้วิชาธรรมกายทำพิธีตลอดไตรมาสสามเดือนในพรรษาและได้เริ่มแจกในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2515 อันเป็นวันออกพรรษา เมื่อท่านทั้งหลายได้รับไปแล้ว จงเก็บรักษาไว้ให้ดี เมื่อมีอุปสรรคอันใดเกิด่ขึ้น จงตั้งจิตอธิษฐานเอาเถิด... ในการสร้างพระธรรมขันธ์นี้ ทางวัดได้จัดพิมพ์พระคะแนนในรุ่นนี้ขึ้นด้วย เรียกว่า พระคะแนนรุ่น 4 โดยใช้แม่พิมพ์เดียวกัน พระคะแนนนี้มีความแตกต่างพิเศษจากพิมพ์ธรรมดาอยู่ 2 ประการ คือด้านหน้าองค์พระจะใส่เส้นเกศาของหลวงพ่อไว้ทุกองค์ เส้นเดียวก็มี หลายเส้นก็มี บางองค์อาจจะไม่ปรากฏเห็น เนื่องจากหลุดหายไปหรือไม่ก็อาจจะฝังจมอยู่ในเนื้อ ด้านหลังองค์พระจะมีตัว “ภ” พิมพ์อยู่เป็นพิเศษอยู่ ด้วย อักษรตัว “ภ” นี้ย่อมาจากคำว่า “พระครูภาวนาภิรม” ชื่อของผู้สร้างในสมัยนั้น พระคะแนนนี้มีทั้งชนิดพิมพ์ 4 เหลี่ยม และชนิดพิมพ์ 3 เหลี่ยม ทางวัดได้นำออกให้ประชาชนได้นำออกให้ประชาชนได้เช่าบูชาในราคาองค์ละ 100 บาท ส่วนพิมพ์ธรรมดาองค์ละ 25 บาทเท่านั้น พระผงธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ ถึงแม้จะเป็นรุ่นที่คณะศิษย์ของหลวงพ่อเป็นผู้สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกหรือเป็นรุ่นแรกที่คณะศิษย์ได้สร้างขึ้นก็ตาม หากจะกล่าวถึงในด้านชื่อเสียงและความนิยมโดยทั่วไปแล้วก็นับได้ว่าไม่แตกต่างจากพระของขวัญรุ่น 1 รุ่น 2 และรุ่น 3 ที่หลวงพ่อได้สร้างขึ้นเนื่อเพราะว่าในรุ่นนี้ ได้นำเอาผงพระของขวัญของหลวงพ่อทั้ง 3 รุ่นมาเป็นส่วนผสมด้วยประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งก็คือได้ทำพิธีบรรจุอานุภาพตามหลักวิชาธรรมกายเหมือนรุ่น 1-2-3 ซึ่งทางคณะศิษย์ได้ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาโดยไม่ขาดสาย จนถึงปัจจุบัน พระธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ จึงคงความศักดิ์สิทธิ์มีผู้นิยมนำไปสักการบูชากันอย่างแพร่หลายจนกระทั่งหมดในปี พ.ศ. 2527 แม่พิมพ์ แม่พิมพ์ของพระธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ จัดแยกออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ ประเภทพิมพ์สี่เหลี่ยมกับประเภทพิมพ์สามเหลี่ยม พิมพ์สี่เหลี่ยมนั้นมี 2 พิมพ์ และพิมพ์สามเหลี่ยมมี 2 พิมพ์เช่นกัน เมื่อรวมกันแล้วพระธรรมขันธ์รุ่น 4 จึงมีทั้งหมด 4 พิมพ์ด้วยกัน ขนาดของพระธรรมขันธ์แบบสี่เหลี่ยมทั้งสองพิมพ์กว้างประมาณ 1.7 ซม. ยาวประมาณ 2.4 ซม. ความหนาประมาณ 6 มม. ชนิดสามเหลี่ยมทั้ง 2 พิมพ์ฐานกว้างประมาณ 1.7 ซม. สูงประมาณ 2.5 ซม. หนาประมาณ 6 มม. พุทธลักษณะทั่วไปของพระสี่เหลี่ยมทั้ง 2 พิมพ์นั้นเป็นพระนั่งสมาธิราบปางปฐมเทศนา พระหัตถ์ซ้ายวางบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวายกขึ้นเป็นลักษณะจีบนิ้วอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว ข้างซุ้มทั้งสองด้านมีเส้นม่านเป็นขีดๆ เรีงกันเป็นลำดับ ฐานเป็นบัวคว่ำบัวหงายสองชั้น ด้านหลังองค์พระพิมพ์เป็นอักขระขอม อ่านว่า “ธรรมขันธ์” พุทธลักษณะทั่วไปของพระพิมพ์สามเหลี่ยมทั้ง 2 พิมพ์ เป็นพระนั่งสมาธิราบปางปฐมเทศนาเช่นกัน พระหัตถ์ซ้ายที่ว่างบนพระเพลา จีบเป็นวงเข้าหากัน และพระหัตถ์ขวาที่ยกขึ้นก็มีลักษณะจีบนิ้ว ขอบรอบองค์พระเป็นลายกนกสวยงาม ด้านหลังพิมพ์เป็นอักขระขอม อ่านว่า “ธรรมขันธ์” ส่วนผสมรุ่น 4 พระธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ มีส่วนผสมหลายอย่างจะกล่าวพอเป็นสังเขปดังนี้ 1. ปูนขาว ที่ทำจากเปลือกหอย 2. กล้วยน้ำว้า 3. ดอกไม้ต่างๆ โดยเฉพาะดอกมะลิ 4. ผงพระของขวัญรุ่น 1 รุ่น 2 และรุ่น 3 5. อัญมณีบางส่วน 6. เส้นเกศาของหลวงพ่อ (โดยเฉพาะพระคะแนน) 7. น้ำมันตั้งอิ๊ว 8. และอื่นๆ เนื้อพระรุ่น 4 พระธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ แยกประเภทของเนื้อพระออกโดยทั่วๆ ไปเป็น 4 ประการคือ 1. เนื้อสีขาว 3. เนื้อสีคล้ำหม่น 2. เนื้อสีเหลือง 4. เนื้อเกล็ดสีขาว (สังขยา) พระเนื้อสีขาว ลักษณะของเนื้อจะเป็นสีขาวนวลไม่ใช่ขาวซีด อีกประการหนึ่งจะเป็นสีขาวอมเหลืองอ่อนๆ พบมากโดยทั่วไป เนื้อสีเหลือง เนื้อพระชนิดนี้มีทั้งชนิดสีเหลืองอ่อน สีเหลืองเข้มและสีลักษณะเหลืองใสคล้ายเนื้อเทียน เนื้อพระชนิดนี้จะเป็นที่นิยม เนื้อสีคล้ำหม่น ลักษณะคล้ายๆ จะเป็นสีดำๆ หรือน้ำตาลปึกแก่ๆ สีเนื้อชนิดนี้มีพบอยู่ไม่มากนัก เนื้อเกล็ดสีขาว พระเนื้อเกล็ดหรือที่รู้จักกันเรียกันโดยทั่วไปว่า “เนื้อสังขยา” นี้ เป็นพระที่มีเนื้อแปลกแตกต่างออกไปจากเนื้ออื่นๆ ลักษณะของเนื้อพระจะขึ้นเป็นเกล็ดขาวๆ เต็มไปทั่วทั้งองค์ หากถูกจับถูบ่อยๆ หรือถูกความเปียกชื้น เกล็ดนี้ก็จะหลุดล่อนออกได้ สีของเนื้อพระด้านในที่เป็นสีเหลืองก็มี ที่เป็นสีคล้ำๆ ดำๆ คล้ายสีน้ำตาลปึกก็มี พระเนื้อเกล็ดนี้หากสังเกตให้ดีจะพบว่ามีจำนวนอัญมณีผสมรวมอยู่มาเป็นพิเศษ ข้อสังเกต พระธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ มีข้อสังเกตบางประการที่น่าสนใจ คือเราจะพบเห็นว่า พระบางองค์อาจจะมีจุดตำหนิต่างๆ ที่ผิดหูผิดตา หรือผิดแปลกแตกต่างออกไปจากองค์อื่นๆ โดยทั่วไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นที่หูหรือที่ซุ้มก็ตาม หรือบางทีจะปรากฏมีเส้นเป็นรอยพิมพ์แตกบ้าง และบางองค์ ปาก จมูก จะใหญ่โตกว่าพิมพ์อื่นๆ ธรรมดาโยทั่วไปบ้าง ลักษณะต่างๆ ที่กล่าวนี้เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากการถอดพิมพ์บ้าง เกิดจากแม่พิมพ์ชำรุดร้าวบ้าง จากสาเหตุดังกล่าวนี้ จึงทำให้เกิดการผิดเพี้ยนขึ้นมา แต่ถึงอย่างไรก็ตามพิมพ์ต่างๆ ดังกล่าวมานี้ถึงจะมีอยู่บ้างก็เป็นส่วนน้อยเท่านั้น ไม่ถือเป็นประมาณในการนับแยกพิมพ์ พระธรรมขันธ์รุ่น 4 ก็มีเพียง 4 พิมพ์ตามแม่พิมพ์ต้นแบบเท่าเดิมทุกประการ มิใช่นอกเหนือมากไปกว่านี้
@# พระกริ่งโสฬส มปร เนื้อทองเหลืองรมดำ วัดราชประดิษฐ์ ปี 2515 พระดี พิธีใหญ่ยิ่ง ในหลวงเสด็จเททอง......หลวงปู่ทิม...หลวงปู่ดู่.. ปลุกเสก ...น่าเก็บมาก... พร้อมบัตรรับรอง
พระสวยมาพร้อมกล่องเดิมครับ ปิดวัดใจ เคาะเดียวแดง รับประกันพระแท้ครับ
หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง พระผู้ทรงอภิญญาบารมี ตนบุญแห่งลานนาไทย ท่านได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาส เดินทางมุ่งหน้าสู่สุสานป่าช้า สถานที่ที่ท่านใช้ปฏิบัติธรรมตลอดอายุขัยของท่าน หลวงพ่อเป็นพระอริยะสงฆ์ที่มีวัตรปฏิบัติและปฏิปทาที่ควรแก่การกราบไหว้สักการะบูชาเป็นอย่างยิ่ง วัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตล้วนแล้วแต่ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความบริสุทธิ์แห่งมหาพุทธานุภาพ ซึ่งสร้างประสบการณ์มากมายให้กับผู้ที่ใช้บูชา วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นของดีที่เป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนทั่วไป
เกจิดังๆปลุกเสกเพียบเลยครับ ทั้งหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่ดู่วัดสะแก หลวงพ่อสุดวัดกาหลงและเกจิดังอีกเพียบเลยครับ น่าเช่าหาบูชาเป็นที่สุด ส่งออกบัตรรับรองเรียบร้อยแล้วครับ รับประกันตามกฏครับ
พระสมเด็จรุ่นอุดมมงคลปี 43 เป็นอีกรุ่นที่ทางวัดใหม่อมตรส (บางขุนพรหม)ได้ทำการจัดสร้างพระสมเด็จครั้งสำคัญขึ้นโดย "พระครูบริหารคุณาวัตร" เจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส ซึ่งท่านได้รวบรวมมวลสารสำคัญต่างๆ อาทิ ผงเก่าที่เปิดกรุปี 2500 ชิ้นส่วนของพระสมเด็จแท้ๆ มวลสารพระสมเด็จรุ่น ปี 09, ปี 17, ปี 31 มวลสารของหลวงตาพัน หลวงพ่อลำพูน ซึ่งนับว่าเป็นการจัดสร้างพระสมเด็จที่พิเศษมาก ส่วนขั้นตอนประกอบพิธีพุทธาภิเษกก็สำคัญไม่น้อย โดยมี สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม เป็นประธานจุดเทียนชัย สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศฯ เป็นประธานดับเทียนชัย พระเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิต อาทิ หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม, หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม, หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดเม้าสุขา, หลวงปู่ทิม วัดพระขาว, หลวงพ่อรวย วัดตะโก, หลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียน, หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน, หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดไทรน้อย, พระอาจารย์เจือ วัดกลางบางแก้ว เป็นต้น "พระสมเด็จรุ่นอุดมมงคล ปี 2543" นับเป็นพระเครื่องที่มีมวลสารดี พิธีเยี่ยมรุ่นหนึ่ง มีหลากหลายพิมพ์ทรง ประกอบด้วย พิมพ์ใหญ่เกศทะลุซุ้ม พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์รูปเหมือน พิมพ์คะแนน ซึ่งทุกพิมพ์จะโรยผงเก่า และยังมีพระเนื้อตะกั่วถ้ำชาสมเด็จ อีกด้วย พระสมเด็จรุ่นอุดมมงคล สามารถบูชาแทนพระสมเด็จวัดระฆังรุ่นเก่าดั่งเดิม ซึ่งปัจจุบันมีราคาเล่นหาอยู่ที่หลักล้านได้เป็นอย่างดี ถูกใจผู้ที่เคารพนับถือองค์สมเด็จโต ชอบสวดพระคาถาชินบัญชร เพื่อความเป็นสิริมงคล ของดีๆ แบบนี้ต่อไปในอนาคตภายภาคหน้าจะเป็นสิ่งมงคลที่หายากและมีราคาบูชาสูง
ประวัติหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร พระดีพระแท้ พรหมของชาวพุทธ เป็นพรหมของชาวอุบลราชธานี เป็นพรหมของพี่น้องชาวลาว เป็นที่พึ่งของชาวพุทธที่แท้จริง เกียรติคุณเกริกเกรียงไกร ไพบูลย์ ด้วยคุณธรรม มีชื่อเสียงขจรขจายโดยมิต้องมีประชาสัมพันธ์ใดๆแต่วัตถุมงคลทุกรูปแบบที่สร้างแจกจ่ายแก่ศิษย์ผู้ใกล้ชิดสร้างปาฏิหาริย์มากมายส่วนมากที่สร้างมักเป็นฤๅษี เพราะหลวงปู่ศรัทธาฤๅษีเป็นอย่างมาก และฤาษีที่สร้างนั้นมักจะเป็นเนื้อว่าน หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 12 ปี อยู่กับสมเด็จลุนที่เวินไซ นครจำปาสัก ประเทศลาวเป็นเวลา 6 ปี สมเด็จลุนก็มรณภาพ จากนั้นหลวงปู่พรหมมา ได้แสวงหาความวิเวกปฎิบัติธรรมในสถานที่สงบทั้ง ลาว เขมร และไทย ชอบช่วยเหลือชาวชนบทที่แร้นแค้นตามป่าเขาลำเนาไพร มีความเมตตากรุณาต่อมวลมนุษยชาติที่ด้อยโอกาสเพื่อนำความรุ่งเรืองไปให้ หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร นามเดิมว่า แก้ว เป็นบุตรของพ่อแก้ว อ่อนจันทึก กับ แม่สีดา อ่อนจันทึก เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2440 ที่บ้านกุศกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ในปี พ.ศ. 2452 อายุได้ 11 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่กับหลวงปู่สมเด็จลุน เป็นลูกศิษย์หลวงปู่สมเด็จลุน ศึกษาวิชาอาคมต่างๆอยู่ 6 พรรษาเมื่อปี 2458 หลวงปู่สมเด็จลนถึงแก่มรณภาพหลังจากได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลเก็บอัฐิหลวงปู่สมเด็จลุนเรียบร้อยแล้ว ได้ออกเดินทางไปยัง จ.สกลนคร พ.ศ. 2460 อุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ที่พระบาโพนสัน อ.ท่าพระบาท บริคำไชย ประเทศลาว และได้สร้างวัดอยู่ที่นั่น พ.ศ. 2461 ไปสร้างวัดป่า สอนวิปัสสนากรรมฐานอยู่ที่บ้านหินบักเปงร่วมสำนักเดียวกันกับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์เสาร์ พระอาจารย์วิโจน์ รันโนบล และพ่อแม่ศรีทัศ ท่าอุเทน หลังจากนั้นได้ออกธุดงค์ไปประเทศลาว ไปธุดงค์ตามป่าตามภูเขาและพำนักอยู่ที่ภูเขาควาย ได้ศึกษาศาสตร์และศิลป์ กับปู่ฤาษีอาจารย์ใหญ่ที่นั่น เป็นเวลา 45 พรรษา จึงได้ออกวิเวกรุกขมูลเพียงลำพังไปจำพรรษาอยู่ที่ภูเห็ดละโงก ประเทศกัมพูชา ซึ่งบริเวณนั้นเรียกว่า สามเหลี่ยมนกแขก จำพรรษาอยู่ที่นั่นประมาณ 9 พรรษา ก็ออกธุดงค์ไปตามเขตชายแดนประเทศไทย-ลาว เข้าไปจนถึงประเทศพม่า ไปจำพรรษาอยู่ภูเขาพนมฉัฐ(สามเหลี่ยมทองคำ) เป็นเวลา 3 พรรษา จากนั้นออกธุดงค์ไปทั่วประเทศไทย ลาว พม่า กัมพูชา และประเทศอินเดีย พ.ศ. 2518 ได้มาปักกลดชั่วคราวอยู่ที่วัดบุปผาวัลย์ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ได้สร้างเหรียญรุ่นแรก ชื่อเหรียญ สำเร็จพรหมมา พ.ศ. 2519 ได้เดินทางจาก อ.โขงเจยมไปตั้งสำนักสงฆ์อยู่ที่เวินเพาะ ปากห้วยไร่ บ้านสำโรง ได้ออกโปรดสัตว์แผ่เมตตาให้แก่พวกลาวอพยพที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น พ.ศ. 2526 เดินทางออกจากเวินเพาะ ปากห้วยไร่ ออกธุดงค์ไปปักกลดที่บ้านม่วง ช่วยสร้างโบสถ์ พ.ศ.2529 เมื่อช่วยสร้างโบสถ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ออกวิเวกรุกขมูลไปอยู่ที่วัดถ้ำแสงธรมพรหมมาวาส บ้านแก้งปลาปก อ.ปากชม จ.เลย พ.ศ. 2531 ออกเดินทางจาก จ.เลย มาจำพรรษาที่บ้านดงนา อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ได้สร้างวัดถ้ำสวนหินผานางคอย และบำเพ็ญธรรมอยู่ที่นั่นมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยกุศลแห่งธรรมแผ่ไพศาลไปทั่ว มีพุทธศาสนิกชนให้ความเชื่อถือและศรัทธา จนมีศิษยานุศิษย์มากมาย เป็นมี่รู้จักไปทั่วประเทศ หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เดินธุดงควัตรมาอยู่ถ้ำสวนหินภูกระเจียว บ้านดงนา อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี เมื่อต้นปี2531 หลวงปู่บอกว่าเป็นคืนเดือนหงายคืนพระจันทร์เต็มดวง คืนวันนั้น สัตว์ป่านานาชนิดออกวิ่งขวักไขว่ประหนึ่งว่า “เจ้าที่ต้อนรบหรือขับไส” เพราะชาวบ้านบอกว่าเจ้าที่ของเขาลูกนี้แรงมาก ไม่มีพระธุดงค์รูปใดหรือใครมาอยู่ได้ แต่หลวงปู่บอกว่าเขาออกมาแสดงความชื่นชมยินดี ท่านยังนั่งสมาธิพบว่า เจ้าที่ อาราธนา“ให้พักที่เขาลูกนี้เถิด ท่านต้องการอะไร ท่านจะได้ พวกเขาจะจัดหามาถวาย” จากนั้นหลวงปู่ก็ออกบิณฑบาต แผ่ส่วนกุศลให้แก่เจ้าที่เจ้าทาง และได้นำความผาสุกมาสู่ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง มีความรมเยนเป็นสุขกว่าแต่ก่อน แม้แต่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ก็ทรงเสด็จเพื่อนมัสการหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร มาแล้วถึง 2 ครั้ง ในขณะนั้นหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร มีสุขภาแข็งแรง ปฎิบัติธรรมเป็นนิจ โปรดญาติโยมสม่ำเสมอ และช่วยดูแลชาวบ้านดงนาและหมู่บ้านใกล้เคียง ขณะนั้นบนลานยอดเขาภูกระเจียวได้ก่อสร้างโบสถ์กึ่งศาลาการเปรียญมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ซึ่งหลวงปู่พรหมมาเจริญพรว่า ฟ้าประทานให้ และยังบอกด้วยว่า เรื่องประวัติส่วนตัวแม้จะมีคนมาจ่ายห้าแสนก็ไม่เปิดเผย หรือใครจะจ่ายสักล้านก็จะบอกว่าตัวเองเก่งหรือมีอภินิหารอะไร ใครอยากรู้อยากให้ไปดูเองที่ ถ้ำสวนหินผานางคอย ภูกระเจียว หลวงปู่พรหมมา เป็นห่วงคนเรื้องการพัฒนาชาติแผ่นดินยิ่งกว่าชีวิต ซึ่งหลวงปู่พรหมมาบอกว่าจะพัฒนาชาติแผ่นดินได้ต้องพัฒนาคนก่อน พัฒนาคนก็ต้องพัฒนาด้านการศึกษา หลวงปู่พรหมมาจึงยินดีอนุญาตให้คณะศิษย์ที่ทำงานเพื่อการศึกษา จัดตตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษาจังหวัดอุบลราชธานีขึ้น หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร จึงตั้งชื่อให้ว่า รุ่น รวมใจ-เสาร์ห้า การจัดสร้างวัตถุมงคล ร่น รวมใจ-เสาร์ห้า หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เน้นเรื่องการปลุกเสกวัตถุมงคลเป็นอย่างมากโดยได้นำวัตถุมงคลรุ่นรวมใจ-เสาร์ห้า มาปลุกเสกที่สำนักสงฆ์สวนหินผานางคอย เพราะเป็นที่ที่มีเครื่องสักการบูชาครบสมบูรณ์ที่สุด โดยเฉพาะที่นั่นมีอาสนะเป็นสีผึ้งบริสุทธิ์น้ำหนักถึง 15 ตัน ซึ่งถ้าได้เสกในวันเสาร์ห้า วัตถุมงคลก็จะเกิดความเข้มขลังเป็นทวีคูณ ยินดี ส่งออกบัตรรับรอง และ โอนเงินผ่านเว็บดีดีพระ พุทธคุณเหนือ คำบรรยาย พิธีใหญ่ครับ ไม่ผ่านการล้าง ไม่ผ่านการใช้พุทธคุณเหนือคำบรรยาย ศิษย์สายตรง ไม่ควรพลาด!! หายากๆ สร้างน้อยๆ พระดี พระสวย ไว้ใจผม พันธุ์ทิพย์ครับ โอนเร็ว ส่งไว ทันใจแน่นอนครับๆๆๆๆๆๆๆๆ ผู้ชนะการประมูลโอนเงินแล้วรบกวนฝากข้อความในกล่องข้อความหรือโทร.แจ้งก็ได้นะครับ บริหารงานโดย พันธุ์ทิพย์ ครับ ชื่อนี้ ไม่มีผิดหวัง รายการวัดใจ มีเรื่อยๆ ฝาก คลิ๊ก !! หลังชื่อด้วยนะครับ
พระกริ่งมงคลประเทศ วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ปี2553 เนื้อนวะโลหะ เลขโค๊ต 6049 กล่องเดิม สภาพสวย ((เคาะเดียวพร้อมส่ง))