พระสวยมาพร้อมกล่องเดิมครับ ปิดวัดใจ เคาะเดียวแดง รับประกันพระแท้ครับ
พระสวยมาพร้อมกล่องเดิมครับ ปิดวัดใจ เคาะเดียวแดง รับประกันพระแท้ครับ
พิธีมหาพุทธาภิเษกใหญ่ ในวิหารพระพุทธชินราช เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2553 ซึ่งเป็นฤกษ์ดีปีขาลเสาร์ 5 "100 ปีมีหนเดียว" พระธรรมเสนานุวัตร เจ้าอาวาส และรองเจ้าคณะภาค 5 ได้จัดสร้างวัตถุมงคล พระพุทธชินราช-พระเหลือ รุ่นเสาร์ห้า (เหลือกินเหลือใช้) ปี 53 เพื่อนำรายได้ก่อสร้างมหาวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช และบูรณปฏิสังขรณ์โบราณวัตถุภายในวัด โดยประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกไปแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 20 มี.ค.53 (เสาร์ห้า) เวลา 13.09 น. ภายในวิหารพระพุทธชินราช โดยมีพระธรรมเสนานุวัตร เจ้าอาวาส และรองเจ้าคณะภาค 5 เป็นประธานจุด และดับเทียนชัย พระอาจารย์ไพรินทร์ เป็นเจ้าพิธี และร่วมปลุกเสกกับพระเกจิอาจารย์ดังภาคเหนือตอนล่างหลายรูป อาทิ หลวงพ่ออั้น วัดธรรมโฆษก (โรงโค) จ.อุทัยธานี พระราชรัตนาภรณ์ (แวว) วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา ครูบาสายทอง วัดท่าไม้แดง จ.ตาก ฯลฯ เป็นต้น พร้อมบัตรรับรอง ที่อื่นเปิดเเพงเเล้วครับ สวยงามตามรูป
ประวัติการสร้างลูกอม หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว สร้างจาก ไคลเจดีย์ ๗ วัดไคลเสมา ๗ วัด ไคลโบสถ์ ๗ วัด เมื่อได้วัตถุมงคลดังกล่าวครบแล้ว ท่านก็จะนำ มาคลุกเคล้ากับผงวิเศษที่ท่านได้ปลุกเสก คือ ผงมหาราช ผงอิทธิเจ เมื่อปั้นเป็นลูกแล้วก็นำไปชุบรักปิดทอง พุทธคุณเด่นในด้าน คงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยม ยิ่งนัก มีคำบอกเล่าจากคนเฒ่าคนแก่แถบวัดว่าสมัยก่อนมีการนำ ลูกอมของท่านมาลองกัน โดย ไส่ในปากปลาช่อน แล้วใช้มีดอีโต้ฟันที่ปลาช่อนแต่มีดอีโต้กลับเด้งบึ้งกลับ เหมือนกับฟันลงบนยางรถยนต์เลยที่เดียวเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวบ้าน หลายคนที่ดูการลองครั้งนี้ และยังมีประสบการณ์ ด้านคงกระพันชาตรี เรื่องมีดและปืนอีกมากมายซึ่งเล่าขานกันต่อๆมา
พระผสมผงกระดูกผีพ่อท่านเจิม วัดหอยราก อำเภอปากพนัง เป็นพระเก่าที่พ่อท่านเจิมได้สร้างไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2499 พระประกอบด้วยมวลสารสำคัญมากกว่า 700 สิ่ง ตามตำราเพชรรัตน์ที่พ่อท่านได้ศึกษาค้นคว้าไว้ มวลสารอาถรพ์หายาก เช่น ผงกระดูกผีคนตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร ดินก้นสมุทร 108 ปัน ดินอุดปากรูปูร้าง ดินนาร้าง เศษพระกรุท่าเรือ ผงเผาจากคัมภีร์ใบลาน ฯลฯ พระแบ่งออกเป็นพระบูชาประจำวัน(สร้างจำนวนน้อยที่สุด) พระพิมพ์ปิดตา พระพิมพ์ปรกโพธิ์ ก่อนการแจกจ่ายพระพ่อท่านเจิมได้ปลุกเสกพระทั้งหมดด้วยพระคาถามหาหมื่น หมื่นจบ พระมีความขลังมากผู้นำไปใช้พบประสบการณ์มากมายบอกต่อๆกันไป โดยเฉพาะด้านคลาดแคล้ว เฝ้าบ้าน เฝ้ายาม และโชคลาภ พระบางส่วนได้บรรจุกรุไว้ได้รับการปลุกเสกซ้ำก่อนการบรรจุลงกรุโดยพระเกจิ อาจารย์ดังแห่งลุ่มน้ำปากพนังหลายองค์ เช่น พ่อท่านเขียว วัดหรงบน พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ พ่อท่านจบ วัดบางจาก ฯ
พระพุทธชินราชหลวงพ่อเงิน เนื้อผงใบลาน พระแท้สวยดูง่าย น่าสะสมมากครับ ส่งออกบัตรรับรองให้พี่เรียบร้อยแล้วครับ รับประกันตามกฏครับ
หลวงพ่อเกษม เขมโก เดิมมีนามว่า เจ้าเกษม ณ ลำปาง ประสูติ เมื่อ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2455 ตรงกับวันพุธ เดือนยี่ (เหนือ) ปีชวด ร.ศ. 131 เป็นบุตรใน เจ้าน้อยหนู ณ ลำปาง (ภายหลังเปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น มณีอรุณ) รับราชการเป็นปลัดอำเภอ กับ เจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง และเป็นราชปนัดดาในมหาอำมาตย์โท พลตรีเจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต เจ้าหลวงผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย สมัยตอนเด็กๆมีคนเล่าว่าท่านซนมากมีอยู่ครั้งหนึ่งท่านปีนต้นบ่ามั่น(ต้นฝรั่ง)เกิดผลัดตกจนมีแผลเป็นที่ศรีษะ เมื่อท่านอายุได้ 13 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ซึ่งเป็นการบรรพชาหน้าศพ (บวชหน้าไฟ) ของเจ้าอาวาสวัดป่าดั๊ว 7 วันได้ลาสิกขาและท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรอีกครั้งเมื่ออายุ 15 ปีและจำวัดอยู่ที่วัดบุญยืน จังหวัดลำปาง ท่านได้ศึกษาด้านพระปรัยัติธรรมจนสามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ในปี พ.ศ. 2474 และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในปีถัดมา โดยมี พระธรรมจินดานายก เจ้าอาวาสวัดบุญวาทย์วิหาร อดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับฉายาว่า "เขมโก" แปลว่า ผู้มีธรรมอันเกษม โดยพระภิกษุ เจ้าเกษม เขมโก ได้ศึกษาภาษาบาลีที่สำนักวัดศรีล้อม ต่อมาได้ย้ายมาศึกษาแผนกนักธรรมที่สำนักวัดเชียงราย หลวงพ่อเกษม เขมโกสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก ในปี พ.ศ. 2479 ท่านเรียนรู้ภาษาบาลีจนสามารถเขียนและแปลได้ รวมทั้งสามารถแปลเป็นภาษามคธได้เป็นอย่างดี แต่ท่านไม่ยอมสอบเอาวุฒิ จนครูบาอาจารย์ทุกรูปต่างเข้าใจว่าพระภิกษุ เจ้าเกษม เขมโก ไม่ต้องการมีสมณะศักดิ์สูง ๆ เรียนเพื่อจะนำเอาวิชาความรู้มาใช้ในการศึกษาค้นคว้าพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาเท่านั้น เมื่อสำเร็จทางด้านปริยัติธรรมแล้ว ท่านแสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ที่มีความรู้และมีความเชี่ยวชาญในด้านวิปัสสนา จนกระทั่ง ท่านทราบข่าวว่ามีพระเกจิรูปหนึ่งมีชื่อเสียงในด้านวิปัสสนา คือ ครูบาแก่น สุมโน ท่านจึงฝากตัวเป็นศิษย์ ท่านได้ตามครูบาแก่น สุมโน ออกท่องธุดงค์ไปแสวงหาความวิเวกและบำเพ็ญเพียรตามป่าลึก จนถึงช่วงเข้าพรรษาซึ่งพระภิกษุจำเป็นต้องยุติการท่องธุดงค์ชั่วคราวท่านจึงต้องแยกทางกับพระอาจารย์ และกลับมาจำพรรษาที่วัดบุญยืนตามเดิม พอครบกำหนดออก ก็ติดตามอาจารย์ออกธุดงค์บำเพ็ญภาวนา ต่อมา เจ้าอธิการคำเหมย เจ้าอาวาสวัดบุญยืน มรณภาพลง ทางคณะสงฆ์ได้ประชุมกันเพื่อหาเจ้าอาวาสรูปใหม่และต่างลงความเห็นพ้องต้องกันเก็นควรว่า พระภิกษุ เจ้าเกษม เขมโก มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าอาวาส เมื่อท่านได้รับเลือกเป็นเจ้าอาวาสวัดบุญยืน ท่านก็ไม่ยินดียินร้าย แต่ท่านก็ห่วงทางวัดเพราะท่านเคยจำวัดนี้ ท่านเห็นว่าถือเป็นภารกิจทางศาสนาเพราะท่านเองต้องการให้พระศาสนานี้ดำรงอยู่ จึงยอมรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญยืน หลังจากนั้นท่านก็ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสหลายครั้งเนื่องจากท่านอยากจะออกธุดงค์ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ดังนั้น ท่านจึงออกจากวัดบุญยืนไปที่ศาลาวังทานพร้อมเขียนข้อความลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสไว้ด้วย หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระสายวิปัสสนากรรมฐาน ไม่ยึดติดแม้แต่สถานที่ ท่านได้ปฏิบัติธรรม ณ สุสานไตรลักษณ์ตลอดชนชีพ เป็นพระที่เป็นที่เคารพสักการะของคนในจังหวัดลำปางและทั่วประเทศ ท่านปฏิบัติศีลบริสุทธิ์ตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยไม่ติดยึดในกิเลสทั้งปวง หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ถึงแก่พิราลัย ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลลำปาง จังหวัดลำปาง เมื่อเวลา 19.40 น. ของวันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 ซึ่งตรงกับวันแรม 11 ค่ำ เดือน 2 ยังความอาลัยเศร้าโศกเสียใจมายังหมู่สานุศิษย์ทั่วประเทศ ส่วนสรีระของท่านนั้นก็ยังความอัศจรรย์ด้วยเนื่องจากไม่เน่าเปื่อยเหมือนอย่างสังขารทั่วไป ทั้งยังเขียนป้ายบอกผู้ที่มาเคารพสรีระ ท่านด้วยว่าให้พนมมือไหว้ที่หน้าอกเพียงครั้งเดียวแล้วไม่ต้องกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์อย่างศพของพระเถระทั่วไปนับว่าท่าน นั้นถือสมถะเป็นอย่างมาก
าถา บูชาชนิดย่อๆ อิ สวา สุ ภาวนา 3 คาบ 7 คาบ หรือ แบบฉบับเต็มก็ว่า พุทธังสะระณังเมสิทธิ ธัมมังสะระณังเมสิทธิ สังฆังสะระณังเมสิทธิ พุทธังเอหิมาเรโส พุทธังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ ธัมมังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ สังฆังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ ปกป้องคุ้มครอง แคล้วคลาด ภูตผีปีศาจเกรงกลัว ป้องกันสัตว์เลื้อย
โดดเด่นมากที่สุดในห้วงนี้ สำหรับวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม วัดพระขาว สุดยอดอมตะพระเถราจารย์ที่ล่วงลับละสังขารไปแล้ว แต่วัตถุมงคลของท่านล้วนดี-เด่น-ดัง ทุกรุ่นทุกพิมพ์ โดยเฉพาะลูกอมชานหมาก พระพิมพ์ขุนแผน พระพิมพ์นางพญา พระพิมพ์รูปเหมือนลอยองค์เนื้อชานหมาก ฯลฯ ในบรรดาเครื่องรางของขลังที่นักสะสมนิยมยอมรับในอดีตนั้น ผู้สร้างจะต้องมากล้นด้วยบารมีอิทธิเวทพุทธาคม กิตติคุณ ด้วยมนต์ปัสสาสะปราณชีพอันเข้มขลัง เพราะผู้ได้รับมักจะนิยมทดลองของกันว่าดีจริงหรือไม่ เรียกได้ว่า "ของดีจริงต้องลองกันได้" ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นในวัตถุมงคลว่ามีเมตตามหานิยม, เจริญลาภผล, แคล้วคลาด, บำบัดและป้องกันเจ็บไข้ เสนียดจัญไร โจรภัยกันไฟพ้นจากศัตรูหมู่สัตว์ร้าย ถ้ามีไว้อยู่ในบ้านเรือนบูชา หรือพกติดตัวก็จะทรงอิทธิพลังพุทธาคมปกป้องคุ้มกันจากภยันตรายทั้งปวง "ลูกอมชานหมาก หัวใจพระสีวลี" ของหลวงปู่ทิม วัดพระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้ใช้เมตตาและบารมีในการปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก ด้วยอิทธิเวทพุทธาคมอย่างลึกล้ำยากที่จะเสมอเหมือน ตามตำรับตำราของบูรพาจารย์ของท่าน ซึ่งคุณวิเศษนี้เกิดจากเนื้อหมากและน้ำหมากของหลวงปู่ทิม ผสมกับ น้ำผึ้งและกล้วยน้ำว้าสุกบดผสมปั้นและกดพิมพ์เป็นก้อนกลมพิมพ์พระภควัมบดีและยันต์หัวใจพระสีวลี "นะ ชา ลี ติ" ลายมือหลวงปู่ทิมแลดูมีความ "ขลัง" อัศจรรย์ยิ่งแต่สิ่งสำคัญหากจะทำให้ผู้มีไว้ครอบครองได้สัมฤทธิ์ผลแห่งเดชานุภาพทั้งปวงหลวงปู่ทิมได้ให้เคล็ดไว้ว่า "ต้องปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลธรรม และชานหมากนี้ให้ติดตัวไว้ มีเหตุการณ์สิ่งใดๆ ให้นึกถึงหลวงปู่"
คาถา บูชาชนิดย่อๆ อิ สวา สุ ภาวนา 3 คาบ 7 คาบ หรือ แบบฉบับเต็มก็ว่า พุทธังสะระณังเมสิทธิ ธัมมังสะระณังเมสิทธิ สังฆังสะระณังเมสิทธิ พุทธังเอหิมาเรโส พุทธังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ ธัมมังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ สังฆังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ ปกป้องคุ้มครอง แคล้วคลาด ภูตผีปีศาจเกรงกลัว ป้องกันสัตว์เลื้อย