ลปทวด เตารีดใหญ่ วัดคอกหมู ตอกโค๊ตหมู ๑ ตัว นิยมสุด องค์นี้เนื้อสวยเข้ม รอยตัดช่อชัดแท้ดูง่าย รับประกันแท้ตามกฏสากล และกฏเวป
พระสมเด็จ พิมพ์คะแนนหูบายศรี หลวงปู่นาค วัดระฆัง 2495
หลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินมาร่วมเสกด้วย เหรียญมังกรคู่ เสริมลาภ เสริมทรัพย์ เสริมบารมี ล้างอาถรรพ์ แก้ดวงตก พิธีปลุกเสกเสาร์5 ซึ่งเป็นวันแข็ง โบราณจารญ์ท่านว่าปลุกเสกในวันนี้แล้ว วัตถุมงคลจะไม่มีวันเสื่อม ***** โดยจัดพิธีพุทธาภิเษก 5 ครั้ง พิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ 1 ทำพิธีเททองหล่อพระรูปเหมือน,รูปหล่อพิมพ์เบ้าทุบ ครอบน้ำพุทธมนต์ รูปหล่อครึ่งซีกติดข้างขันน้ำมนต์ หลวงปู่หมุนอธิษฐานจิตเดี่ยวและเป็นประธานเททองที่ วัดป่าหนองหล่ม สระแก้ว เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2543 พิธีพุทธาภิเษก ครั้งที่ 2 ทำพิธีพุทธาภิเษกที่อุโบสถ วัดสุทัศน์ 16 มีนาคม 2543 โดยมีหลวงปู่ละมัย วัดโพธิ์เย็น เพชรบูรณ์ (อายุ 101 ปี),หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี,หลวงปู่หลุย วัดราชโยธา,หลวงปู่ผล วัดโนนทอง ลพบุรี, หลวงพ่อจันทร์ วัดนางหนู หลวงพ่อสินธิ์ชัย วัดโพธิ์เย็น เพชรบูรณ์,หลวงพ่อถนอมคณะ2วัดสุทัศน์ฯ ในวันพิธีพุทธาภิเษกนั้นในเวลา02.30 น.ของวันพิธีพุทธาภิเษกเสาร์๕ พิธีพุทธาภิเษก ครั้งที่ 3 เสาร์ 5 วัดป่าหนองหล่ม วันที่ 8 เมษายน 2543 หลวงปู่หมุน เป็นประธานพิธีร่วมกับ หลวงปู่กอง อายุ 102 ปี วัดสระมณฑล อยุธยา,หลวงปู่ละมัย วัดโพธิ์เย็น เพชรบูรณ์ อายุ 101 ปี หลวงพ่อสมจิตร(อิน)วัดบ้านด่าน ศิษย์เอกหลวงพ่อเอีย และ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน พระเกจิอาจารย์ ผู้อยู่เหนือกาลเวลา นักบุญแห่งบ้านละล่ม จังหวัดบุรีรัมย์ มาอธิษฐานจิตตั้งกสิณไฟ ปลุกเสกเดี่ยวก่อนในเวลาตี 3 กว่า เพื่อเป็นปฐมฤกษ์ แล้วท่านก็ได้กลับไปในเวลา 04.30โดยประมาณ เป็นที่ปลาบปลื้มแก่ผู้ที่อยู่ร่วมอยู่ในพิธี จากนั้นเมื่อถึง เวลาฤกษ์พิธีพุทธาภิเษก ล.ป.หมุน ก็ได้จุดเทียนชัยมงคลนำฤกษ์ และได้เริ่มกำหนดจิตอธิฐานปลุกเสก โดยในพิธีนี้ได้มีพระเกจิอาจารย์ร่วมใน พิธีพุทธาภิเษก ทั้งสิ้น 4 ท่านโดยได้ประจำทิศทั้ง4ทิศ อันประกอบด้วย 3.1 ล.ป.หมุน วัดบ้านจาน โดยขณะนั้นท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหนองหล่ม 3.2 ล.ป.ละมัย สำนักสวนสมุนไพร จ.เพชรบูรณ์ ผู้สำเร็จวิชาปรอท และโด่งดังมาก ในวิชาสมุนไพรและวิชาปรอท 3.3 ล.ป.กอง วัดสระมณฑล จ.อยุธยา พระเกจิผู้แตกฉานและสืบทอดวิชาทำตะกรุดและวัตถุมงคลต่างๆสายวิชา วัดประดู่ในทรงธรรม สำนักตักศิลา แห่งเมืองเก่าอยุธยา 3.4 ล.พ.สมจิตร วัดบ้านด่าน ศิษย์เอก ล.พ.เอีย วัดบ้านด่าน เทพเจ้าแห่งเมืองหน่อไม้ไผ่ตง ผู้สืบทอดวิทยาอาคมทุกๆด้านจากล.พ.เอีย พิธีพุทธาภิเษก ครั้งที่ 4 ที่วัดซับลำใย ในวันที่ 9 เมษายน 2543 โดยหลวงปู่หมุน อธิษฐานปลุกเสกตั้งธาตุ หนุนธาตุ หมุนธาตุ ชักยันต์ ครอบมณฑลพิธีอย่างตั้งใจ ครั้งที่ 5 วัดสุทัศน์ฯ ในวันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน เวลา 09.19 ที่อุโบสถวัดสุทัศน์ฯ รุ่นนี้ประสบการณ์ตั้งเเต่เเกะบล็อคเลยครับ วันนี้วัดใจ พร้อมบัตรรับรอง เท่าไหร่ผมก็ส่งครับ
วัดใจ!!!เคาะเดียวแดงคับ ใด้เท่าใหร่เอาเท่านั้น ตามรูป แดงๆสภาพยังพอสวย จากทีดูเหรียญน่าจะทำผิวใหม่มาคับ พิจารณาก่อนเคาะ จะใด้ไม่เสียเวลาทั้ง2ฝ่าย ยินดีส่งออกบัตรคับ ส่งเองลดให้600
พุทธคุณสูง ส่งนักใครได้ไปครอบครองจะแคล้วคลาด ทำมาค้าขึ้น ร่ำรวย โภคทรัพย์ เงินทองไหลมาเทมา ความสำเร็จความเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย ก้าวหน้า อุดมสมบูรณ์ด้วยโชคลาภต่างๆ ว่านจำปาสักนี้ว่ากันว่าสุดยอดแห่งเหนียวเลยทีเดียวเชียวแหละครับ พระว่านจำปาสัก จัดเป็นพระเครื่องเนื้อว่านโบราณประเภทหนึ่ง ที่พบได้ทั่วไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประเทศลาว ในหนังสือมหาโพธิ์เคยกล่าวไว้ว่า ประวัติใครสร้างไม่ทราบแน่ชัด แต่เมื่อครั้งประเทศลาวเปลี่ยนแปลงการปกครองและทหารไทยที่ไปช่วยรบอยู่นั้น เมื่อกลับสู่ฝั่งไทย ก็ได้นำพระว่านจำปาสักกลับมาด้วยเป็นจำนวนมาก เมื่อนำมาแล้วก็เอาไปฝากเอาไปวางไว้ตามวัดต่างๆในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้พบพระว่านจำปาสักกระจัดกระจายทั่วไป สำหรับพระว่านจำปาสักนั้น อายุขัยเกิน100ปีขึ้นไป จะมีการบิดเบี้ยวตามการหดตัวของเนื้อว่าน แต่ละองค์จะบิดเบี้ยวไม่เสมอเหมือนกัน ขนาดเท่าที่พบ มีตั้งแต่เท่านิ้วชี้ยาวๆไปจนถึงขนาดเท่าฝ่ามือ และมักจะถูกจับยัดเป็นของเกจิท่านนู้นบ้างท่านนี้บ้าง ในปัจจุบันนี้พระว่านจำปาสักเริ่มพบเห็นได้น้อยแล้ว เพราะพุทธศิลป์และอายุขัยของพระเนื้อว่านจำปาสัก มีเสน่ห์ควรค่าแก่การศึกษาสะสมเป็นอย่างยิ่ง..
พระพรหมสามหน้า หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี ปี 2471 เนื้อเมฆพัด ตัวจริงแท้ดูง่ายมากๆครับ ผมลงรูปถ่ายอ้างอิงให้เปรียบเทียบด้วยครับว่าเป็นพิมพ์ไหนของท่าน อ้างอิงจากหนังสือพระชนะการประกวดจังหวัดชลบุรี * พระดีศรีบูรพา * ครับ............ประวัติ พระครูวรเวทมุนี (หลวงพ่ออี๋) วัดสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พระครูวรเวทมุนี ปรากฏนามเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ๆ ว่า ?หลวงพ่ออี๋? เพราะท่านชื่ออี๋มาแต่แรก ท่านเป็นบุตรชาย นายขำ นางเอียง ทองขำ เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2408ตรง กับวันอาทิตย์ ขึ้น 11 ค่ำเดือน 11 ปีฉลู ที่บ้านตำบลสัตหีบ กิ่งอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่ออายุ 25 ปีได้อุปสมบทที่วัดอ่างศิลานอก ซึ่งบัดนี้ได้ยุบรวมเข้าเป็น วัดอ่างศิลาวัดเดียว โดยมีพระอาจารย์จั่น จนฺทโส เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยมีพระอาจารย์ทิม เป็นกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์แดงเป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ได้ตั้งฉายาว่า ?พุทธสโร? และในช่วงโอกาสนั่นเอง หลวงพ่ออี๋ก็ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย คลองด่าน และยังกล่าวกันอีกว่า หลวงพ่อแดงและหลวงพ่อเหมือนก็เป็นพระอาจารย์ท่านด้วยเช่นกัน วัดสัตหีบ (วัดหลวงพ่ออี๋) เป็นวัดที่หลวงพ่ออี๋ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2442 และท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก หลวงพ่ออี๋มีความชำนาญในด้านสมถะวิปัสสนาธุระมากคือ คล่องแคล่วในการเข้าใน ออกนอก และในการพักจิตอยู่เป็นกสิณ และในธรรมารมณ์ตามปรารถนา จะเรียกว่า มีวสีภาพก็ควร เพราะเมื่อท่านปรารถนาจะสำรวมจิตแล้ว ไม่มีอะไรมาขัดขวางทางเดินภายในของท่านได้ เป็นการเข้าออกได้เรียบร้อยตามประสงค์ เมื่อกล่าวถึงคุณสมบัติแล้วท่านจะเหนือว่าพระเถระอื่น ๆ มากทีเดียวเพราะท่านสามารถยกจิตให้พ้นจากเวทนาได้เสมอ ดังจะเห็นได้จากเวทนาที่เกิดขึ้นจากความหนาว ร้อน หิว กระหาย ปวด บวม ระบม เป็นต้น ท่านไม่เคยปริปากบ่นในเรื่องทุกขเวทนาดังกล่าวให้ผู้อื่นได้ยินเลย แม้การเจ็บป่วยของท่าน คงอยู่ในอาการสงบเป็นปรกติจนหมดอายุขัย ?หลวงพ่ออี๋? ได้สร้างพระเครื่องรางต่าง ๆ ไว้มาก รวมทั้งปลัดขิกที่มีชื่อมาก (พอ ๆ กับหลวงพ่อเหลือ แปดริ้ว) ทั้งตะกรุด เสื้อยันต์ เหรียญ พระปิดตา พระสาม และ พระสี่ (พรหม สี่หน้า) กล่าวกันว่าในระยะ พ.ศ. 2483-86 นั้น หลวงพ่ออี๋ก็มีของดีเกรียงไกรออกสู่สงครามอินโดจีนไปก็มาก ชื่อเสียงของท่านดังขนานไปกับหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา และหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกทีเดียว พระเครื่องรางของขลังของหลวงพ่ออี๋มีสร้างออกมามากแบบเอาใน พ.ศ. 2484 และตาม พ.ศ. นี้เอง พระสาม และ พระสี่ หรือ พระพรหมสี่หน้า ก็ได้กำเนิดตามออกมาด้วย พระทั้ง 2 พิมพ์เป็นพระเนื้อเมฆพัด องค์หนึ่งทำเป็นพระ 3 หน้าพระทับนั่งบนฐานบัวกลีบ (3 หน้า 3 องค์) ส่วนพระสี่หรือพรหมสี่หน้าก็ทำเป็นพระประทับนั่งบนฐานเขียงเหมือนกันทั้ง 4 หน้า (4 หน้า 4 องค์) ด้านพุทธคุณมีทั้งแคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี พระครูวรเวทมุนี (หลวงพ่ออี๋) ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก ในสมัยนั้นท่านได้สร้างโรงเรียนประชาบาล 1 หลัง ชื่อว่า โรงเรียนบ้านสัตหีบ ที่ย้ายมาตั้งที่ถนนบ้านนา ชาวบ้านเรียนว่า โรงเรียนบ้านนา ส่วนอาคารเรียนเดิมชื่อ ศาลาธรรมประสพ ปัจจุบัน คือ ห้องสมุดของวัดสัตหีบ ท่านหลวงพ่ออี๋เริ่มอาพาธในอวสานแห่งชีวิตครั้งนี้ ด้วยโรคฝีที่คอ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2489 แต่ท่านก็ไม่ได้ใส่ใจรักษานัก ท่านเคยปรารภว่ามันจะมาเอาชีวิตท่าน คงใช้แต่ยาของท่านเองบ้าง ปิดบ้าง พอกบ้าง ใช้น้ำมนต์บ้าง เรื่อยมาและไม่หยุดการรับนิมนต์ในที่ใด ๆ ทั้งสิ้น โรคฝีได้กำเริบขึ้นเป็นลำดับมา จนเข้าพรรษาแล้ว พิษของฝีจึงแสดงอาการให้ต้องพักทำวัตรสวดมนต์ กำลังของท่านเริ่มลดลง หัวฝีเล็ก ๆ ใต้คางด้านขวาก็เริ่มบวมมากขึ้น มีผู้ห่วงใยแนะนำท่านให้เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดเสีย ท่านก็บอกว่า ช่างมันเถอะ เป็นกรรมเก่าของฉัน เจ้ากวางหนองไก่เตี้ย มันมาตามทวงหนี้แล้ว เพราะท่านเคยบอกคนใกล้ชิดว่าชาติก่อนเคยไปยิงกวางตัวหนึ่งที่หนองไก่เตี้ย ถูกที่ซอกคอตาย กรรมนั้น จึงตามมาให้ผลแล้ว ท่านก็คิดว่าเป็นกรรมเก่า อยากจะชำระหนี้ให้เสร็จเสียที จึงไม่ได้สนใจรักษาทางแพทย์ปัจจุบัน แม้โรงพยาบาลก็ไม่ได้พูดถึง จนถึงเวลาที่ฝีสุกแก่จัด และโตขึ้นมาก จึงทวีความรุนแรงมากยิ่ง ทำให้กำลังร่วงโรยประกอบกับเข้าสู่วัยชราภาพมาก แล้วพอถึงวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2489 ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ เวลา 20.35 น. หลวงพ่ออี๋ท่านก็บอกให้พระที่นั่งเฝ้าพยาบาลแวดล้อมท่านอยู่ ช่วยประคองให้ท่านลุกขึ้นนั่ง แล้วสั่งไม่ให้ทุกคนแตะต้องตัวท่าน เสร็จแล้วท่านก็นั่งสมาธิตัวตรง เริ่มเข้าสมาธิ ชั่วครู่สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง ทำให้ทุกคนตกใจกันสุดขีดคือ ไม้กระดานแผ่นหนึ่ง ซึ่งตั้งพิงฝาผนังภายในกุฏิและตั้งอย่างนั้นมานานแล้ว ก็ล้มโครมลงมาฟาดกับพื้น และกระจกแผ่นหนึ่งที่ติดกับบานประตูตู้ ห่างจากไม้กระดานหลายเมตร ก็กระเด็นหลุดออกมาแตกกระจายทั่วพื้น ทั้งพระและลูกศิษย์วัดที่คอยนั่งเฝ้าพยาบาลแวดล้อมท่านอยู่ตกใจมาก พอหายตกใจได้สติก็หันมาดูหลวงพ่ออี๋ ซึ่งตรงกับเวลา 21.05 น. ท่านก็นั่งสงบปราศจากลมหายใจเข้าออกเสียแล้ว ข่าวการการมรณภาพก็กระจายไปทั่วกิ่งอำเภอสัตหีบอย่างรวดเร็ว สิริรวมอายุของท่านได้ 82 ปี ชีวิตหรือวิญญาณของหลวงพ่ออี๋ แม้จะจากไปจนถึงปัจจุบันนี้ (พ.ศ.2542) นับได้ 53 ปี แล้วแต่ก็เหมือนว่าชีวิตของท่านยังดำรงอยู่ ทั้งคุณค่าของงานทางฝ่ายสงฆ์และ ฝ่ายสังคมโลกที่หลวงพ่ออี๋ได้บำเพ็ญบารมีมาตั้งแต่เริ่มบวชจนถึงมรณภาพ บารมีของท่านยังปรากฏอยู่ในวัดสัตหีบ ดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
อ่านสักนิดก่อนเคาะครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาด้วยกันทั้งสองฝ่าย พระราคาไม่ถึง 5000 บาท รบกวนส่งออกบัตรเองครับ ผมรับประกันแท้ แต่ถ้าพระราคาเกิน 5000 บาท ยินดีทำตามกฎ ขอบคุณครับ โอนแล้วกรุณาแจ้งทาง mail box ด้วยนะครับเพื่อความถูกต้องและรวดเร็วในการจัดส่ง ขอบคุณครับ ยังมีรายการพระที่น่าสนใจอีกหลายรายการ เข้าไปดูได้โดยคลิกที่ตัว
@@เหรียญหลวงพ่อคูณ ชนะมาร ปี2537 เนื้อทองแดง มีกล่อง รับประกันพระแท้ตามกฎเว็บดีดี มาวัดใจเคาะ120แดง@@
หายากขึ้นทุกวันครับ พระดียุคเก่าๆ ของเก๊เกลื่อนสนามครับ องค์นี้ตัวจริงเสียงจริงครับ มาพร้อมกับบัตรรับรองจากทางเว็บ สบายใจได้ครับ สายตรงไม่ควรพลาดครับ นานๆจะพบเจอตัวจริงสักองค์ครับ รับประกันตามกฎทุกประการครับ ปล.ผู้ชนะการประมูลเมื่อโอนแล้วรบกวนแจ้งใน mailbox ให้ทราบด้วยนะครับ เพื่อการจัดส่งที่รวดเร็ว ขอบพระคุณมากครับ