สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทธสโร) อดีตเจ้าอาวาสลำดับที่ 6 แห่งวัดอนงคาราม กรุงเทพฯ เป็นพระสงฆ์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่ง มีจริยาวัตรงดงาม วาจาไพเราะ ท่านจะพูด "ดีจ้ะ" หรือ "จ้ะ" ลงท้ายแทบทุกคำ มีวิชาหุงน้ำมันมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง "เหรียญรุ่นแรก" เป็นที่เล่นหากันในวงการ แต่มีจำนวนน้อยมาก แทบจะไม่พบเห็นเลย ท่านเป็นยอดพระเกจิอาจารย์เมืองกรุง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก จะเห็นได้ว่าท่านมีความสนิทสนมกับสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนเทพ วราราม กรุงเทพ มหานครเป็นอย่างมาก รวมทั้ง "หลวงปู่ศุข"วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท จากหลักฐานสำคัญหลายๆ ครั้ง จะเห็นได้ว่าเวลาสมเด็จพระสังฆราช (แพ) จะสร้างพระกริ่งและชัยวัฒน์ มักจะนิมนต์ "สมเด็จนวม" มาร่วมนั่งปลุกเสกประจำทิศเสมอๆ ส่วนความสัมพันธ์กับหลวงปู่ศุขนั้นลึกซึ้งยิ่ง เพราะท่านทั้งสองเป็นชาวชัยนาทด้วยกัน เวลาหลวงปู่ศุขมากรุงเทพมหานคร มักจะมาพำนักกับสมเด็จนวมเสมอๆ และร่วมปลุกเสกพระเครื่องกันเสมอ ดังจะเห็นได้จากรูปถ่ายการปลุกเสกร่วมของพระเกจิ อาจารย์สองท่านนี้หลายๆ ครั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) ท่านเกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม 2407 ที่ตำบลวังแม่ลูกอ่อน อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท เป็นบุตรหมื่นนรา (อินทร์) นางใย มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 8 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 6 ในเบื้องต้นได้ศึกษาหนังสือไทยที่วัดโคกเข็ม จังหวัดชัยนาท เมื่ออายุ 12 ปี ไปอยู่วัดอนงคาราม ธนบุรี กับพระใบฎีกาโป๋ พี่ชาย พออายุได้ 13 ปี ท่านบรรพชาเป็นสามเณร เรียนพระปริยัติธรรมคัมภีร์มูลกัจจายน์และพระธรรมบท จากนั้นท่านก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุ และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ดังนี้ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2449 เป็นพระธรรมธราจารย์ (พระราชาคณะชั้นสามัญ) วันที่ 30 ธันวาคม 2463 เป็นพระราชมงคลมุนี (พระราชาคณะชั้นราช) วันที่ 9 พฤศจิกายน 2472 เป็นพระโพธิวงศาจารย์ (พระราชาคณะชั้นธรรม) วันที่ 1 มีนาคม 2484 เป็นพระมหาโพธิวงศาจารย์ (พระราชาคณะเทียบชั้นเจ้าคณะรองฝ่ายอรัญวาสี) วันที่ 19 ธันวาคม 2488 เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สมเด็จพระราชาคณะ) ขณะอยู่ในเพศบรรพชิตท่านมีผลงานมากมาย อาทิ ปรับปรุงกิจการและระเบียบของวัดให้เจริญก้าวหน้าขึ้น จนปรากฏว่า วัดอนงคารามเป็นวัดที่เจริญขึ้นทุกๆ ด้าน ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยวิธีแสดงธรรมทุกวันธรรมสวนะ อบรมภิกษุสามเณรในปกครอง จัดระเบียบไหว้พระสวดมนต์ และอบรมจริยธรรมตามโรงเรียนต่างๆ ในความอุปการะของท่าน ตลอดทั้งอบรมสั่งสอนอุบาสกอุบาสิกาในวัดให้ตั้งอยู่ในศีลธรรมและวัฒนธรรม สร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ ปูชนียสถานและถาวรวัตถุต่างๆ ในบริเวณพระพุทธบาทสระบุรี ท่านถึงแก่มรณภาพในขณะที่สิริอายุได้ 92 ปี พรรษา 72
ผมแวะมาไม่บ่อย วันนี้มีพระมาวัดใจให้เหมือนเดิมครับส่งท้ายปี รองแชมป์งานใหญ่ของสมาคมแจ้งวัฒนะ!!สวยยย กดพิมพ์ได้ ชัด ลึก หลวงพ่อโบสถ์น้อย พิมพ์สี่เหลี่ยม พร้อมใบประกาศ งานใหญ่ครับ องค์นี้พิมพ์ลึกชัด สวยครับพระส่งเยอะมาก ไม่สวยไม่ติดรางวัลแน่นอน มีประกวดทุกงานครับ จัดพระสวยมาวัดใจให้ครับ พระเนื้อผงน้ำมัน หลวงพ่อโบสถ์น้อย วัดอรุณอมรินทร์ ก.ท.ม. พระยอดประสบการณ์ สภาพไม่ได้ใช้ เลยครับ พิจารณากันตามสบายครับ พระสวย พระหลัก พระแท้ ยอดนิยม ผมจัดให้ครับ วัดใจส่งท้ายปี ขอความกรุณาอย่าเคาะเล่นหรือเอามันนะครับ พิจารณาให้ชอบและพร้อมแล้วค่อยลุยนะครับ จัดส่งให้ไม่มีงอแงครับ งดนอกรอบนะครับ ราคาเป็นไปตามที่ปิดประมูลทุกเคาะ ลูกค้าเก่า-ใหม่ เรียนเชิญร่วมสนุกครับ กระผมยินดีรับใช้ครับ มงคลแสงสุริยะ ขออนุญาติของดให้ราคาหลังไมค์ นะครับ เพื่อความเท่าเทียมต่อเพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆ จะปิดมากกว่าหรือน้อยกว่าที่ให้หรือจะขาดทุน เมื่อถึงราคาขั้นต่ำแล้ว ก็ต้องขายครับ พระองค์อื่นๆที่ตั้งขายตามปกติที่ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ ยังสามารถสอบถามราคาได้ปกติ แต่ถ้าเป็นรายการวัดใจหรือที่มีผู้เคาะถึงราคาขั้นต่ำแล้วกระผมของดให้ราคาหลังไมค์เพื่อความยุติธรรมของเพื่อนสมาชิกท่านอื่นนะครับ
ทองแดงชนวน ยันต์โสฬสมงคล ตำรับหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสพานสูง หายากที่สุดครับเนื้อนี้ วันนี้จัดพิเศษให้เลยเหรียญแจกทาน รับมาจากมือพระอาจารย์แว่น เหรียญนี้เน้นๆมีกล่องเดิมๆด้วยนะครับ หายาก***** พระอาจารย์แว่น วัดสพานสูง จัดสร้าง ปี2558 :จริงๆแล้วรุ่นนี้สร้างและเสกมาหลายพิธีแล้ว ทั้งที่วัดละหารไร่ และวัดป่าบ้านแดง จ.อุบลราชธานี และในโบสถ์วัดสพานสูง แต่ยังไม่ได้แจกจ่ายไปบูชา พึ่งจะออกแจกจ่ายในวันที่ 25 นี้เพียง 100 เหรียญเท่านั้น รุ่นนี้จะตอก โค้ต 2 โค้ต คือ โค้ตธรรมจักร และโค้ต นะ ด้านหลังจะมี 2 พิมพ์ คือ หลังยันต์เล็ก กับ หลังยันต์โสฬสมงคลวัดสพานสูง ที่นำเสนอนี้ หลังยันต์โสฬสมงคล รุ่นนี้ชนวนโลหะเก่าวัดสพานสูง ตะกรุดเก่า เหรียญเก่า ชนวนโลหะเก่าที่เก็บรวบรวมจากทั่วประเทศ และประกอบพิธีพุทธาภิเษกล่าสุด พุทธาภิเษกในพระอุโบสถ วัดสพานสูง วันที่ 25 ธ.ค.2558 พระเกจิอาจารย์ : หลวงปู่วาส วัดสพานสูง ,พระครูปราโมทย์สารคุณ (หลวงพ่ออ้อน) วัดบางตะไนย์ ,พระครูอมรนนทคุณ(พระอาจารย์นวย) วัดท้องคุ้ง,พระนันทวิริยาภรณ์ (พระอาจารย์อ่าง) วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ,พระครูอมรศุภการ(พระอาจารย์ขาว) เจ้าอาวาสวัดสะพานสูง จุดเทียนชัย และพระวัดสพานสูงเจริญพระพุทธมนต์ โสฬสมงคล 108 จบ ซึ่งถือว่าเป็นที่สุดของเหรียญอีกรุ่นของวัดสพานสูง ก่อนแจกจ่ายให้ไปบูชาประมาณ 100 กว่าเหรียญในพิธี โบสถ์วัดสพานสูง
พระสมเด็จเกศทะลุซุ้ม เสาร์ห้า ปี39 วัดระฆัง พร้อมบัตรครับ
พระสมเด็จแพ 5 พัน เนื้อผงลาย หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี จัดสร้าง พ.ศ.2534 ( ยุคแรก ) "พระธรรมมุนี" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อแพ เขมังกโร" เป็นพระเกจิอาจารย์ อมตะเถระชื่อดังแห่งวัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ท่านมีนามเดิมว่า แพ ใจมั่นคง เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ.2448 ณ บ้านสวนกล้วย ท่านได้เข้าพิธีบรรพชา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน 2463 ณ วัดพิกุลทอง ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี โดยมีพระอธิการพัน จันทสโร เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง (ในขณะนั้น) เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ในวันพุธที่ 21 เมษายน 2469 ณ พระอุโบสถ วัดพิกุลทอง โดยมีพระมงคลทิพย์มุนี เจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสิทธิเดช วัดชนะสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และท่านเจ้าอธิการอ่อน วัดจำปาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงพ่อแพ เป็นพระเถราจารย์ ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ มีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั่วประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง วัตถุมงคลที่ท่านจัดสร้างขึ้นทุกรุ่นนั้นปรากฏพุทธคุณเข้มขลังในทุกด้าน ล้วนได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีประสบการณ์มากมาย ตลอดชีวิตของหลวงพ่อแพ ท่านได้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาอย่างอเนกอนันต์ และได้อุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้แก่ประชาชนผู้เดือดร้อนหรือตกทุกข์ได้ยากตลอดมา จนได้รับความเคารพยกย่องถึงกับมีการขนานนามท่านว่า "เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย" เมื่อวันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2542 หลวงพ่อแพ ได้ละสังขารอย่างสงบ ณ ห้อง 901 ชั้น 9 อาคารหลวงพ่อแพ เขมังกโร 94 ปี โรงพยาบาลสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี สิริอายุ 94 พรรษา 73 ปัจจุบัน วัดพิกุลทอง ยังคงประดิษฐานสรีระของหลวงพ่อแพเอาไว้ เพื่อให้ญาติโยมและพุทธศาสนิกชนทั่วไป ได้สักการบูชาตลอดมา
หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เดิมชื่อ ญาณ (ยาน) รามศิริ เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๔๓๐ ณ บ้านนาโป่ง ต.หนองใน อ.เมือง จ.เลย บิดาชื่อ ใส (สาย) มารดาชื่อ แก้ว … บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๙ ที่วัดโพธิ์ชัย โดยมี พระอาจารย์คำมา เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น แหวน เมื่ออายุครบ ๒๑ ปี ได้อุปสมบท เป็นพระภิกษุฝ่ายมหานิกายที่วัดสร้างถ่ออนอก โดยมี พระอาจารย์แว่น เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาได้พบกับ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้รับคำแนะนำในการปฏิบัติธรรม ด้วยความประทับใจมาก จึงได้ญัตติใหม่เป็นพระธรรมยุต ณ วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ โดยมี พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่แหวนได้จาริกแสวงหาวิเวกอยู่ทางภาคเหนือ ได้พบกับพระกัมมัฏฐานสายพระอาจารย์มั่นอีกหลายท่าน จนได้มาอยู่ที่วัดดอยแมปั๋ง เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๕ และได้มรณภาพ เมื่อวันอังคารที่ ๒ กรกฏาคม ๒๕๒๘ สิริรวมอายุได้ ๙๘ ปี … วัตถุมงคล ตัวท่านไม่เองไม่เคยสร้าง พระเครื่องทุกรุ่นล้วนเป็นการสร้างโดยลูกศิษย์, ผู้ศรัทธาเลื่อมใส และนักสร้างในวงการธุรกิจพระเครื่องทั้งสิ้น ซึ่งมีมากกว่า ๑๐๐ รุ่น บางรุ่นเป็นที่นิยมกันในบรรดาผู้ศรัทธาเลื่อมใส และนักสะสมพระเครื่อง เช่น เหรียญกลม ปี ๒๕๑๔ พระหลวงปู่แหวนไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน เรื่องเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด ปลอดภัย ยอดเยี่ยมเป็นเลิศมาโดยตลอด
หลวงพ่อแพ หลวงพ่อแพ เขมังกโร วัดพิกุลทอง ยอดพระเกจิอาจารย์แห่งจังหวัดสิงห์บุรี (มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2542) หลวงพ่อท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นที่เลื่อมใส ศรัทธาของชาวบ้านเป็นอย่างมาก หลวงพ่อได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นหลายรุ่น แต่ละรุ่นตั้งแต่รุ่นเก่าๆจนถึงรุ่นหลังๆล้วนได้รับความนิยมสูง ทางด้านความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิคุณอำนาจในวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ โดดเด่นทางด้าน โชคลาภเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดป้องกันภัย เป็นที่เลื่องลือ พระสมเด็จสายรุ้ง รุ่นอนุสรณ์ 100 ปี วัดพิกุลทอง ปี พ.ศ. 2535 องค์นี้ฝังตะกรุดทองคำพร้อมกล่องเดิม พระดีมีคุณค่าน่าบูชาสะสม
ใครยังไม่มีเก็บเชิญครับ ตรายางสวยๆ ชัดๆ ครับ