PEEGOONG

ข้อมูลสมาชิก – PEEGOONG

เริ่มเป็นสมาชิก: January 28, 2016 14:33:29 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 0 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 29 รายการ , คำติ: 5 รายการ

ประวัติ Feedback


เหรียญหลวงพ่อสุด วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร รุ่นพัฒนาวัดรวกสุทธาราม บางกอกน้อย  จ.กรุงเทพฯ วันที่ 5 ตุลาคม ปี 2521 หลังยันต์ตะกร้อ  เนื้อทองแดงรมดำ สภาพสวยมาก หายากมาก เหรียญดีพิธีใหญ่  สภาพสวยไม่ผ่านการใช้  พุทธคุณไม่ต่างจากเหรียญรุ่นแรก แน่นอนเพราะท่านเสกเหมือนกัน  หลวงพ่อสุด วัดกาหลง ท่านดังทางด้านคงกระพัน มหาอุตม์ ที่โด่งดังมากที่สุด ก็คงในเรื่องท่านเป็นพระที่จอมโจรตี๋ใหญ่นับถือ เคารพบูชา ตามข่าวที่เคยโด่งดังกันมา เหรียญนี้เป็น รุ่นพัฒนาวัดรวกสุทธาราม ปี 2521  สภาพสวย เหรียญรุ่นนี้ สภาพสวยสมบูรณ์ค่อนข้างหายากในปัจจุบัน “หลวงพ่อสุด” วัดกาหลง อดีตอาจารย์ของตี๋ใหญ่ โจรชื่อดังแห่งยุค เขานับถือหลวงพ่อสุดเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่เขาคลาดแคล้ว จากการติดตามตัวของตำรวจ ที่พยายามวิสามัญ หรือ จับกุมตัว ระดมกำลังกันล่า ตี๋ใหญ่ แต่ก็มีอันต้องล้มเหลว ลงทุกครั้งไป จนมาถึงวันนึง วัตถุมงคลเครื่องรางที่ตี๋ใหญ่แขวนอยู่ เกิดหายไปคาดว่าโดนเพื่อนโขมยไป (หักหลัง) เขาจึงมุ่งหน้าเดินทาง เพื่อมาขอเครื่องราง กับหลวงพ่อสุด ระหว่างทางจึงถูกยิง ด้วยอาวุธสงครามของตำรวจ ตายคาที่ ครั้นนั้นชาวบ้านร่ำลือว่า สาเหตุที่ตายเพราะไม่มีเครื่องรางหลวงพ่อสุดคอยปกป้อง .... เหมือนที่ผ่านมา ตามประวัติของหลวงพ่อสุดแห่งวัดกาหลง จ.สมุทรสาคร เจ้าตำรับยันต์ตะกร้อและเสือเผ่น ท่านเป็นชาวอำเภอพนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เกิดในตระกูลชาวน้าในสมัยราชกาลที่ 5 ท่านบวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ 16 ปี ที่วัดกลางพนมไพร จ.ร้อยเอ็ด แล้วเดินทางรอนแรมจากร้อยเอ็ดไปแสวงหาวิชาและความรู้ในทางธรรมตามที่ต่างๆ จนกระทั่งได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดกาหลง จนมรณภาพ เรื่องราวของหลวงพ่อสุดเกี่ยวกับพลังอำนาจจิตที่อยู่ในรูปการสักยันต์ตะกร้อปละเสือแผ่นนั้นโด่งดังมากแม้แต่ “ตี๋ใหญ่” ขุนโจรชื่อดังที่เขาลือกันว่าหนังเหนียวและแคล้วคลาดอยู่ตลอดยังนับถือ ไปมาหาสู่หลวงพ่ออยู่บ่อยๆ “ตี๋ใหญ่” มีของดีคือมีผ้ายันต์กับตะกรุดของหลวงพ่อสุดไว้ป้องกันตัว ขนาดถูกตำรวจเป็นร้อยล้อมจับก็ยังหนีเอาตัวรอดไปได้ จนใครๆ ลือกันว่าตี๋ใหญ่มีวิชาล่องหนหายตัวได้! มีเรื่องเล่าถึงวันที่ “ตี๋ใหญ่” สิ้นชื่อ คือวันนั้นก่อนที่จะหนีไปหลบซ่อนตัว “ตี๋ใหญ่” ให้ลูกน้องขับรถพามาหาหลวงพ่อสุดที่วัดกาหลง แต่มาแล้วไม่พบหลวงพ่อจึงกลับออกมา ระหว่างที่รถวิ่งออกมาก็โดนถล่มจากเจ้าหน้าที่ทั้งสองข้างทาง นับไม่ถ้วนว่ากี่นัด  จะเห็นว่าคนเราเมื่อดวงขาดมันก็ต้องมีอันเป็นไป และเหตุที่ตี๋ใหญ่มาหาลวงพ่อสุดนั้นเป็นเพราะว่าพวงพระและตะกรุดของตี๋ใหญ่หายไปก็เลยจะมาขอใหม่จากหลวงพ่อ จึงมาพบจุดจบในวันนั้น  หลายคนกล่าวว่าถ้าผ้ายันต์กับตะกรุดยังอยู่ ตี๋ใหญ่อาจจะยังไม่ตาย แต่ถึงอย่างไรตี๋ใหญ่ก็ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากพลังอำนาจจิตหรืออิทธิฤทธิ์ใดๆ ก็มาอยู่ “เหนือกรรม” ไม่ได้ สุดท้ายตี๋ใหญ่ก็ต้องจบชีวิตลงท่ามกลางการสาปแช่งของผู้คน และใครจะรู้ว่านั้นเป็นสิ่งที่หลวงพ่อสุดกำหนดให้เป็นไปด้วยหรือไม่? ก็ยังมีเรื่องเล่าถึงอดีตนาวิกโยธินคนหนึ่งที่ได้เครื่องรางของหลวงพ่อสุดไปเป็นเหรียญเสือเผ่นและรอยสัก ขณะที่รับราชการอยู่เขาถูกส่งไปปราบผู้ก่อการร้ายที่ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ในปี พ.ศ.2519 แล้วโดนถล่มขณะอยู่บนรถจีเอ็มซี เพื่อนคนหนึ่งถูกยิงจนตาตุ่มหายไปทั้งแถบ ส่วนตัวเองถูกยิงห้านัด กระสุนเข้ากลางหลังตรงยันต์พอดี เสื้อทะลุเป็นรูแต่กระสุนกลับไม่เข้าเนื้อและไม่มีบาดแผลเพียงแต่เป็นรอยจ้ำๆ เท่านั้น  ส่วนอีกคนเป็นศิษย์หลวงพ่อสุดเหมือนกันคนนี้เป็นโรคที่ตา ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราช ระหว่างการรักษาต้องฉีดยาเพื่อผ่าตัด เข้าใจว่าเป็นยาชา แต่พอฉีดเข็มฉีดยากลับไม่เข้าเนื้อ เพราะคนนี้หลวงพ่อสุดสักน้ำมันครอบไว้ ผลสุดท้ายต้องมานิมนต์หลวงพ่อสุดไปโรงพยาบาลเพื่อทำพิธีถอน คนป่วยจึงได้รับการฉีดยาและผ่าตัดเรียบร้อย ปัจจุบันทางวัดกาหลง จ.สมุทรสาคร ได้นำร่างที่เป็นโครงกระดูกของหลวงพ่อสุดบรรจุไว้ในโลงแก้วตั้งให้ประชาชนไปกราบนมัสการอยู่ที่ชั้นสองของศาลาการเปรียญภายในวัดซึ่งทุกวันจะมีประชาชนและลูกศิษย์ที่เลื่อมใสแวะเวียนไปกราบเสรีระร่างของท่านไม่ขาดสาย ปาฏิหารณ์หลวงพ่อสุด วัดกาหลง บทความจากนิตยสารหญิงไทย ฉบับที่ 662 ปีที่ 28 ปักษ์แรก เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2546 มี ข่าวดังทางหน้าหนังสือพิมพ์ รายวันหลายฉบับสมัยก่อน เกี่ยวกับศพของ พระครูสมุทรธรรมสุนทร หรือ “หลวงพ่อสุด" อดีตเจ้าอาวาสวัดกาหลง เกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสมุทรสาคร  ซึ่งเคยเป็นอาจารย์ของ “ตี๋ใหญ่” ที่มีพิธีพระราชทานเพลิงศพไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2545 ที่ผ่านมาที่วัดกาหลง เนื้อข่าวน่าสนใจที่ว่าศพของท่านโดนไฟเผาไหม้ไม่หมด แม้ว่าร่างจะเป็นเนื้อหนังกระดูกเผาหมดแล้วแต่กระดูกหรืออัฐิยังอยู่ในภาพที่สมบูรณ์มาก ไม่บิ่นหรือแตกร้าวเป็นชิ้นๆ แบบการเผาศพท่าวไปเลย ทำให้หลายคนไม่อยากเชื่อ จึงต้องไปพิสูจน์ให้เห็นกับตา  ที่มาแห่งเหตุอัศจรรย์นี้มีนิมิตเกิดแก่พระศิษย์เอกของหลวงพ่อสุดรูปหนึ่งซึ่งปัจจุบันท่านรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดกาหลง ท่านเล่าว่า “ก่อนหน้าที่จะเผาประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาอาตมาฝันเห็นหลวงพ่อสุดมาบอกว่าไม่มีใครเผาท่านได้นอกจากตัวท่านเอง อาตมาเลยถามกลับไปว่า แล้วจะให้ทำอย่างไร ท่านบอกให้จัดดอกไม้จันทน์มาบายศรีขอขมาไว้และให้อาตมาเป็นคนจุดไฟเผา โดยให้อาตมาจับมือท่านเผาร่างท่านเอง อาตมาก็นำเรื่องความฝันไปเล่าให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดฟัง ต่อมาในวันพระราชทานเพลิงศพ ช่วงพิธีเผาจริงเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครท่านมาเป็นประธานจุดไฟ ปรากฏว่าเกิดเหตุประหลาดขึ้นเมื่อไฟที่จุดกับดอกไม้จันทน์ดับลงเฉยๆ ต้องวางเอาไว้อย่างนั้น อาตมาเห็นจึงเข้าไปจุดไฟเผาตามที่ฝันเอาไว้ “ปกติแล้วศพโดยทั่วไปใช้เวลาเผาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ไหม้หมด แต่นี่เวลาเผาท่านก็ใช้น้ำมันเชื่อเพลิง ระดับไฟร้อนมากประมาณ 300 องศา ขณะที่เผาก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปกลับร่างท่าน แต่เมื่อได้เวลาราไฟ ปรากฏว่ายังเห็นร่างของท่านยังอยู่เป็นโครงกระดูกทั้งโครงทั้งที่เผามานาน” คุณอุบลรัตน์ ใยไหม กำนันตำบลกาหลง ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า “ก่อนวันประชุมเพลิงท่าน คณะกรรมการก็ได้เตรียมงานแต่เนิ่นๆ โดยได้เคลื่อนสรีระร่างของท่านมา หลวงพ่อคล้ายคนนอกหลับ ร่างท่านมีแต่หนังหุ้มกระดูกไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า จีวรเก่าแต่ก็ไม่เปียกคราบน้ำเหลืองเลย ที่เผาท่านเป็นคนสุดท้าย เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดให้ดูก็เห็นภาพที่ว่าท่านยังเป็นโครงกระดูกอยู่นะ พี่ก็แปลกใจเลยตะโกนบอกว่า “หลวงปู่ไม่ไหม้” แล้วชาวบ้านก็วิ่งไปดู เพราะชาวบ้านก็ยังไม่กลับ เขาจะรอดูที่ว่ากันว่าหลวงปู่จะเผาไม่ไหม้จะเป็นจริงมั้ย เขาก็เลยอยากพิสูจน์ แล้วก็เป็นจริง หนังท่านไหม้แต่กระดูกท่านยังไม่หลุด” สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านละแวกนวัดและประชาชนทั่วงไปที่สนใจมั่นใจมากขึ้นว่าเป็นปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อสุดเพราะท่านสำเร็จวิชาอยู่ยง คงกระพันชาตรี ศาสตร์ลี้ลับที่ทำให้ฟังขารของท่านไม่อาจเผาให้ไหม้หมดอย่างคนธรรมดาทั่วไปได้... หลวงพ่อสุด หรือ พระครูสมุทรธรรมสุนทร เป็นอาจารย์ของ ตี๋ใหญ่ จอมโจรในอดีต และเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดกาหลง จ. สมุทรสาคร ท่านเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่เป็นที่นับถือของชาวสมุทรสาคร แล้วท่านก็ยังเป็นเจ้าของยันต์ตะกร้อที่ทำให้อยู่ยงกระพันด้วย ประวัติ หลวงพ่อสุด เกิดในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2445 ท่านได้บรรพชาป็นสามเณรตอนเมื่ออายุ 16 ปี โดยมีพระครูเม้าเป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาท่านได้เป็น เจ้าอาวาสวัดกาหลง และได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสมุทรธรรมสุนทร ท่านเป็นผู้ที่แก่กล้าทั้งทางด้านคาถา อาคมและทางด้านธรรมปฏิบัติจวบจนท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2526 สิริรวมอายุได้ 81 ปี ยันต์ตะกร้อ เป็นยันต์ที่หลวงพ่อสุดได้ปลุกเสกขึ้นมา โดยตอนปลุกเสกนั้นหลวงพ่อท่านได้ลงคาถาอาคมโดยใช้ภาษาขอม เขมร และลาว โดยที่บทสวดที่ท่านสวดมีใจความว่า จะกระสุนก็ดี จะไฟก็ดี ก็สามารถจะทำอะไรเนื้อหนัง และกระดูกได้ นอกจากนี้ยันต์ตะกร้อยังเป็นที่กล่าวขานและเป็นที่นิยมกันใน ชาว จ.สมุทรสาคร อีกด้วย พระอาจารย์ของหลวงพ่อสุด  ตอนที่ท่านไปศึกษาหาความรู้ทางพระพุทธศาสนาและวิชาอาคมในที่ต่างๆ จากพระอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงปู่เม้า วัดกลางพนมไพร หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบื่อ หลวงพ่อคง วัดบางกระพล้อม เป็นต้น (รับประกันแท้ ยินดีคืนเงินเต็มภายใน 10 วัน) รับประกันความแท้  รับประกันตามกฎระเบียบครับ...... รับประกันความพอใจครับ  ถ้าพระมีปัญหายินดีคืนเงินเต็มครับ โดยไม่ถามเหตุผลให้รำคาญใจ 


เขียนโดย :Diamond เจ้าของรายการ February 29, 2016 02:57:03


(จัดสร้าง3000องค์) คาถาปลุกขุนแผนพรายแม่วันทอง นะโม 3 จบ พุทธัง เมฆจิตตัง มะอะอุ ธัมมัง เมฆจิตตัง มะอะอุ สังฆัง เมฆจิตตัง มะอะอุ สะปะติฉามิ -------------------------------------- ขุนแผนพรายแม่วันทอง หลวงปู่นิ่ม วัดพุทธมงคล (พระขุนแผนพราย ๓ เชื้อ ๕ เสือสุพรรณ) ทองแท้ไม่กลัวไฟ ยอดของดี ใครเอาไปเทวดาช่วย รวยเร็ว รวยใหญ่ ก้าวหน้า มีความสุข เจริญรุ่งโรจน์ ศัตรูสู้ไม่ได้... สุพรรณบุรี เมืองขุนแผน ตำนานขุนแผนบ้านกร่าง ขุนแผนเงินล้านเกิดขึ้นที่นี่ หลวงปู่นิ่ม คนสุพรรณ ตอนหนุ่มๆไปเรียนมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ พอบวชแล้วก็เรียนวิชาอาคมฝึกจิตยกใจ กระแสจิต สว่าง สะอาด สงบ หามลทินปิดบังมิได้ เดี๋ยวนี้หลวงปู่จับอะไรเป็นขลังศักดิ์สิทธิ์ไปทุกอย่าง แม้แต่ขี้ยาใบจากยังช่วยให้ได้ดิบได้ดีมานักต่อนัก หลวงปู่เคยนำพระขุนแผนบ้านกร่างมาพินิจพิเคราะห์พิจารณาแยกแยะ พลังพุทธคุณว่าคนโบราณท่านสร้างพระขุนแผนท่านลงอะไรไว้ ท่านเสกยังไง วางระดับจิตอย่างไร เชิญมนต์บทไหน มาเสก เมืองสุพรรณมีขุนแผนบ้านกร่างดังขนาดนี้แต่ยังไม่มีสักครั้งที่ ที่ยอดเกจิสุพรรณองค์ไหนๆจะสร้างขุนแผนทรงพลังร่วมกับสายวิชาอาถรรพ์มาก่อนเลย ครั้งนี้หลวงปู่นิ่ม ผู้ที่เชี่ยวชาญวิชาปลุกพระขุนแผน ได้สร้างขุนแผนอาถรรพ์ มีพลัง วิชาขลังแรง... ที่หาตัวจับยาก พระขุนแผนพราย ๓ เชื้อ ๕ เสือสุพรรณ โดยได้อัญเชิญเชื้อผงพรายชั้นครูของเกจิยุคเก่าที่เก่งกาจในอดีต ถึง ๓ ขนาน จึงถวายนามว่าขุนแผนพราย ๓ เชื้อ และอัญเชิญพลังบารมีของยอดเกจิ ๕ เสือสุพรรณ ให้ฝากพลังพุทธคุณไว้ด้วยทุกองค์ พรายทั้ง 3 เชื้อคือ ๑. ผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ได้ผงพรายกุมารจากลูกอมผงพรายกุมาร 3 ลูก เม็ดประคำผงพรายกุมารแตกอีกหน่อย และ ผงเก่าหลวงปู่ทิม ขลังเหลือทน ผงพรายของหลวงปู่ทิมนี้แรงแค่ ปลายไม้จิ้มฟันก็สร้างพระได้เป็นหมื่นยังขลังแรงเหลือใจ ขุนแผนพราย ๓ เชื้อ ของหลวงปู่นิ่มจึงแน่นอนว่า เอาพลังของผงพรายมาปลุกชุบใหม่ด้วยพลังแรงกระแสจิตอันทะลุโลกของหลวงปู่นิ่ม พระแท้ๆกลางทุ่งเมืองขุนแผน ๒. ผงพราย ของหลวงพ่อเจิม วัดหอยราก สร้างพระพรายสมุทรแรงนัก พระผงพรายสมุทร สร้างจากผงอังคาร ๗ ป่าช้า 108 จอกชา เมื่อมาทำพระแล้วได้ปลุกให้ ผงอังคารนั้นเป็นแค่เพียงมวลสารช่วยให้พระแรง ขอได้เร็ว ใครใช้ดีขึ้นเห็นผลไว หลวงปู่นิ่มเอาผงพรายสมุทรจากพระหลวงพ่อเจิม มาเป็นส่วนผสมทำให้พระขุนแผนรุ่นนี้ ร้อนแรงด้านมวลสาร เมื่อบรรจุพุทธคุณแล้วจะเข้มข้น “ขอได้ไหว้รวย สมดังปรารถนา” ทุกคน ๓. อันที่ 3 นี้แหละ สุดยอด ไม่ใช้ผงศักดิ์สิทธิ์อะไรที่ไหน แต่เป็นกระดาษรองพระสมเด็จพุทธมงคล ปี 2540 เป็นของดีแบบปิดทองหลังพระ ใครไม่รู้ค่าคงทิ้งๆขวางๆไปแล้ว แต่ หลวงปู่นิ่มท่านรู้ค่าเห็นคุณ จึงเอามาสร้างขุนแผนสุดยอดรุ่นนี้ กระดาษนี้มีที่มาดังนี้ ปี พ.ศ. 2540 ทำพิธีผูกพัทธสีมา โบสถ์วัดพุทธมงคล หลวงปู่นิ่มสร้าง พระสมเด็จพุทธมงคล เสกในโบสถ์ ก่อนเอาพระเข้าพิธีได้มีผู้หญิงตายทั้งกลม (จำชื่อไม่ได้แล้วแต่สมมุติให้เกี่ยวเนื่องกับขุนแผนว่า แม่วันทอง) ตายวันเสาร์เผาวันอังคารตามตำรา ท่านว่าเฮี้ยนมาก เมื่อเก็บกระดูกแล้ว อังคารทั้งหมดห่อกระดาษเอาไปลอยแม่น้ำ กระดาษหนังสือพิมพ์เก่าที่ห่ออังคารนั้น ได้ถูกนำมารองพระสมเด็จพุทธมงคล เป็นชั้นๆ ใส่กล่อง นำเข้าพิธีปลุกเสกในโบสถ์ โดยเกจิสุพรรณระดับ ๕ เสือ คือ หลวงพ่อดี วัดพระรูป ,หลวงพ่อเจริญ วัดธัญญาวารี,หลวงพ่อบุญ วัดพันตำลึง,หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง, หลวงพ่อพล วัดวังยายหุ่น เมื่อเสกเสร็จทั้ง ๕ รูปต่างยืนยันว่า “ รุ่นนี้แปลก แรงดีมีพลังของเทวดา เป็นดังพรายคอย ช่วยเหลือ ” สมเด็จพุทธมงคลจึงร้อนแรงด้วยประสบการณ์ ใครใช้เป็นได้ผล เพราะมีกระดาษห่ออังคารแม่วันทอง ห่อพระขณะเสก และเป็นกระดาษอาถรรพ์ที่เกี่ยวเนื่องกับพราย ทำให้พระแรง เอาพลังของพรายมาหนุนให้ วัตถุมงคลนั้นเฮี้ยน ขลังเป็นที่สุด  กระดาษห่ออังคารแม่วันทอง พรายตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ที่เป็นเชื้อชั้นดี ที่ไม่มีใครรู้จัก เมื่อปลายปี 2557 พระสมุห์วิสิทธิ์ เก็บของในกุฏิหลวงปู่เห็นกล่องสมเด็จรุ่นนี้แตกๆหักๆ และมีกระดาษหนังสือพิมพ์สีเหลืองตามอายุรองอยู่ จะทิ้ง หลวงปู่บอกว่า “ นี่แหละของดี...แรงน้า” หลวงปู่เล่าถึง กระดาษห่ออังคารพรายแม่วันทองเสกยอดเกจิ ๕ เสือสุพรรณมาแล้ว ต่างก็พูดเป็นทำนองว่า “ รุ่นนี้แปลก แรงดีมีพลังของเทวดา เป็นดังพรายคอย ช่วยเหลือ ” หลวงปู่นิ่ม ท่านรู้ดีกว่าใครได้เก็บกระดาษอังคารพรายแม่วันทอง นี้เอาไว้ในกุฏิเสกเพิ่มเติมพุทธคุณทุกวัน ตั่งแต่ปี 2540 ถึงปัจจุบัน 2557 ขุนแผนพรายรุ่นนี้แรงเหลือเฟือ เพราะเหตุว่า 1. ได้เชื้อผงพราย 2 สำนัก ผงพรายหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ , ผงพรายหลวงพ่อเจิม วัดหอยราก สุดยอดผงพรายในตำนาน ผสมอยู่ในพระขุนแผนพรายแม่วันทอง นี้ 2. ได้กระดาษห่ออังคารแม่วันทองที่มีอาถรรพ์ ขนาดว่ายอดเกจิ ๕ เสือสุพรรณเสกและรับรองไว้ 3. กระดาษห่ออังคารพรายแม่วันทอง ที่หลวงปู่นิ่ม เก็บไว้ในกุฏิเสกเงียบๆมา 17 ปี ดีเหลือกินแล้ว หลวงปู่นิ่ม เสกวันเดียวก็ขลังเหลือทน นี่เสกมา 17 ปี คุณก็ลองคิดเอาเองว่าขนาดไหน กระดาษห่ออังคารพรายแม่วันทอง นี้เอามาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆเอาพลังพรายมาหนุนเสริมกำลังพุทธคุณพระขุนแผนให้ถ้วนทั่วทุกองค์ โดยติดไว้ด้านหลัง พระขุนแผนพรายรุ่นนี้ องค์ละนิดๆ ก็แรงเหลือเฟือแล้ว เมื่อสร้างเสร็จ หลวงปู่ให้ทำพิธีบวงสรวงด้วยผักพล่าปลายำ หัวหมู บายศรี บอกกล่าวก่อนให้พลังของเทพ พรหม พรายที่เป็นเทวดา มาเป็นกำลังหนุนพุทธคุณให้ ต่อยอด แน่นหนา ล้ำหน้าขึ้นไปอีก จึงมีความหมายว่าใครใช้พระขุนแผนรุ่นนี้แล้วจะทำให้ สำเร็จสมหวังได้ไวมี พราย ทรงพลังที่เป็น เทพ พรหม เทวดา จำแลงแปลงร่างมาช่วยเหลือ ใครปรารถนาให้สำเร็จเรื่องอะไรก็ให้ ตั้ง ข้าวปลาอาหารตามสมควร บวงสรวงบอกกล่าว แล้วอธิฐานขอ ให้ร่ำรวยก็สำเร็จสมใจนึก ให้ชนะศึกศัตรูก็สู้ได้ ให้เจ้านายรักเมตตาก็มาไว ให้เสน่หาคนหลงใหลก็เร็วพลัน ใช้ดีใช้ขึ้นจะเห็นผล เหมือนเทพดลบันดาลพาลรักษา ให้ร่ำรวยยศศักดิ์เงินมากมา ค้าขายพาคนเข้ามาเหมา หมดทุกวัน สร้างจำนวนจำกัด และ ขอประกาศว่าวัดไหนจะทำขุนแผนพราย ให้เอาองค์นี้ไปบดผสมเป็นหัวเชื่อได้ เพราะหลวงปู่เสกลงให้หมดทุกวิชาแล้ว เอากระดาษด้านหลังไปป่นใส่ไปนิดหนึ่งก็มีเชื่อผงพราย (อังคารผีตายวันเสาร์เผาวันอังคาร) จะทำให้พระที่ท่านสร้างแรงขึ้นไปอีก หลายชั้น สุดท้ายขึ้นอยู่กันพระผู้เสกมีกระแสจิตสมาธิขนาดไหน ใครต้องการเอาไปใช้ หรือ เก็บให้ถึงลูกถึงหลานก็มารับไป ก่อนจะหมดซะก่อน เพราะ 5 เสือสุพรรณก็มรณภาพไปทุกองค์แล้ว หลวงปู่นิ่มก็อายุ 87 แล้ว ทำให้แล้ว ทำของดีให้แล้วน้า... หลวงปู่พูดในลำคอ... “ทองแท้ไม่กลัวไฟ กลองดียิ่งตียิ่งดัง ของจริง ก็เป็นของจริงวันยังค่ำ ทองคำ มีค่าในตัวเอง ใครบอกทองคำเป็น ก้อนดิน บัณฑิตย่อมหัวเราเยอะ ผู้นั้นเพราะ ขาดปัญญา ไม่รู้จักแม้กระทั้งก้อนทองคำใกล้ตัว”


เขียนโดย :คุณพระช่วย888 เจ้าของรายการ February 23, 2016 05:00:45


เหรียญพระแก้วมรกต ทรงเครื่องทรง 3 ฤดู ที่ระลึกพิธีเปิดสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงไทย ปี 2525++ พิธีมหาพุทธาภิเษก ประกอบขึ้นเมื่อ 2 พ.ย. 2525 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีพิธีการจัดหาวัสดุ- ส่งแผ่นเงินและแผ่นทอง ถวายสมเด็จพระสังฆราชและสมเด็จพระราชาคณะ ลงอักขระมงคลร้อยแปดและบริกรรมแผ่เมตตาบารมี- ส่งแผ่นทองแดง ให้กับสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อนำไปให้พระภิกษุสงฆ์ที่ทรงคุณวุฒิ มีพุทธคุณสูงเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ลงอักขระมงคลร้อยแปดและปลุกเสกแผ่นวัตถุมงคล- พระเกจิอาจารย์ที่ลงแผ่นวัตถุมงคลทั่วประเทศรวม 359 รูป จำนวนแผ่นวัตถุมงคลรวม 456 แผ่นโดยสมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธาน โดยมีรายนามพระคณาจารย์เข้าร่วมพิธีปลุกเสก ดังนี้- สมเด็จพระญาณสังวร- พระราชญาณดิลก วัดเขาเต่า- หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน- หลวงพ่ออุตตมะ- ระปัญญาภิมณฑ์มุนี กรุงเทพ- หลวงพ่อเข็ม วัดสุทัศน์- หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู- หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง- หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี- หลวงพ่อเปลื้อง วัดใหญ่ชัยมงคล- หลวงพ่อปกาศิตบุญเย็น ฐานธมฺโม- หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม หลวงปู่สิม- สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ พระเทพกวี- หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร- หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์- พระครูประสาทธรรมจักร พิษณุโลก- หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส- พระครูประดิษฐนวการ(หลวงพ่อบุญ) ราชบุรี- หลวงพ่อเพิ่ม วัดสรรเพชญ์- หลวงพ่อสุด วัดกาหลง- หลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะ- พระมหาศิริพงศ์ วัดปากน้ำภาษีเจริญและคณะผู้สร้างยังได้นำวัตถุมงคลทั้งหมดไปให้หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อธิษฐานจิตปลุกเสกให้ด้วย


เขียนโดย :แสนมงคล เจ้าของรายการ February 17, 2016 12:34:32


หลวงพ่อสุด หรือ พระครูสมุทรธรรมสุนทร เป็นอาจารย์ของ ตี๋ใหญ่ จอมโจรในอดีต และเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดกาหลง จ. สมุทรสาคร ท่านเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่เป็นที่นับถือของชาวสมุทรสาคร แล้วท่านก็ยังเป็นเจ้าของยันต์ตะกร้อที่ทำให้อยู่ยงกระพันด้วย ประวัติ หลวงพ่อสุด เกิดในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2445 ท่านได้บรรพชาป็นสามเณรตอนเมื่ออายุ 16ปี โดยมีพระครูเม้าเป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาท่านได้เป็น เจ้าอาวาสวัดกาหลง และได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสมุทรธรรมสุนทร ท่านเป็นผู้ที่แก่กล้าทั้งทางด้านคาถา อาคมและทางด้านธรรมปฏิบัติ จวบจนท่านมรณภาพเมื่ออายุ14สิงหาคม พ.ศ.2526 สิริรวมอายุได้81ปี ยันต์ตะกร้อ ยันต์ตะกร้อ เป็นยันต์ที่หลวงพ่อสุดได้ปลุกเสกขึ้นมา โดยตอนปลุกเสกนั้นหลวงพ่อท่านได้ลงคาถาอาคมโดยใช้ภาษาขอม เขมร และลาว โดยที่บทสวดที่ท่านสวดมีใจความว่าจะกระสุนก็ดี จะไฟก็ดี ก็สามารถจะทำอะไรเนื้อหนัง และกระดูกได้ นอกจากนี้ยันต์ตะกร้อยังเป็นที่กล่าวขานและเป็นที่นิยมกันใน ชาว จ.สมุทรสาคร อีกด้วยพระอาจารย์ของหลวงพ่อสุดตอนที่ท่านไปศึกษาหาความรู้ทางพระพุทธศาสนาและวิชาอาคมในที่ต่างๆ จากพระอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงปู่เม้า วัดกลางพนมไพร หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบื่อ หลวงพ่อคง วัดบางกระพล้อม เป็นต้น พระครูสมุทรธรรมสุนทร (หลวงพ่อสุด) วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร ประวัติโดยย่อ หลวงพ่อเป็นชาว อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เกิดจากตระลชาวนา บิดาชื่อ นายมาก มารดาชื่อ นางอ่อนศรี  เกิดวันที่ 7 พฤษภาภาคม 2445 ในแผ่นดินของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ต่อมาเมื่ออายุ 16 ปี หลวงพ่อได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2461 ที่วัดกลางพนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด พระครูเม้า เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาได้เป็นอาจารย์องค์สำคัญที่หลวงพ่อให้ความเคารพนับถืออย่างมาก ก่อนหน้าที่จะบวชเณร หลวงพ่อได้รับวิทยฐานะสำเร็จชั้นประถมปีที่ 3 จากโรงเรียนวัดคำหยาด ต.คำไฮ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ดบวชเณรได้ระยะหนึ่ง หลวงพ่อก็เดินทางรอนแรมจากร้อยเอ็ดมุ่งเข้าสู่กรุงเทพ เพื่อแสวงหาความรู้ทางธรรมจากสำนักเรียนในกรุงเทพ เข้าใจว่า หลวงพ่อคงจะมาบวชเป็นพระที่วัดกาหลง นี่เอง ทั้งนี้เพราะใน พ.ศ. 2481อายุได้ 36สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนวัดกาหลง ด้านการปกครอง พ.ศ.2478 เป็นเจ้าอาวาสวัดกาหลง พ.ศ.2479เป็นเจ้าคณะหมวด พ.ศ.2484เป็นเจ้าคณะตำบล พ.ศ.2495เป็นสาธารณูปการอำเภอ ด้านการศึกษา พ.ศ.2482เป็นผู้อุปการะโรงเรียนวัดกาหลง พ.ศ.2485 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม พ.ศ.2495 เป็นกรรมการการตรวจธรรมสนามหลวง ด้านสมณศักดิ์ พ.ศ.2490 เป็นพระครูสัญญบัตร ชั้นตรี พ.ศ.2511 เป็นพระครูสัญญบัตร ชั้นโท พ.ศ.2517 เป็นพระครูสัญญบัตรชั้นเอก พระครูสมุทรธรรมสุนทร ถึงแม้ท่านมิใช่คนสมุทรสาคร แต่ท่านก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของชาวทะเลเลือดสมุทร เพราะคนในแถบ  จ.สมุทรสาครท่านก็ได้เมตตาช่วยเหลือมาตลอด และเป็นที่รักของลูกศิษย์ลูกหา ด้านวิชาศึกษาด้านอาคม  1.หลวงปู่เม้า วัดกลางพนมไพร(พระที่บวชให้ท่านในสมัยตอนเป็นเณร) 2.หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ (สำหรับหลวงพ่อรุ่ง ในปี 2484 หลวงพ่อสุดเป็นเจ้าคณะตำบล หลวงพ่อรุ่งได้จัดเหรียญรุ่นแรกของท่านหลวงพ่อสุดได้อยู่ในการร่วมสร้างเหรียญนี้ด้ว ยเช่นกัน) 3.หลวงพ่อคง วัดบางกระพล้อม (เป็นพระที่หลวงพ่อสุดนับถือมาก)อื่นๆอีกหลายท่าน ในสมัยที่หลวงพ่อสุดนั้นยังมีสังขารอยู่ ท่านได้ร่วมกิจนิมนต์ หลายพิธีไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง หรือมากกว่า เช่นพิธี ปลุกเสกพระพุทธ 25 ศตวรรษ และในทางหนึ่งท่านคือผู้เมตตา ให้ของขลังแก่ ตี๋ใหญ่ จอมโจรชื่อดัง ในช่วงปี 251 กว่า -2524 มาอ่านเรื่องประสบการณ์ มั่ง ครับ  1.มีผู้หญิงคนหนึ่งบ้านอยู่แถววัดกาหลง ครับ โดนรถชนลอยไปฟาดกับถนน นึกว่ากะโหลกจะแตก หรือขาแข้งหัก สภาพรถยับเลยครับกระจกแตกกระจาย ชนแรงมาก ครับ ปรากฏว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่เป็นอะไรเลย ครับ แค่เคล็ดยอกๆเท่านั้น โดยผู้หญิงคนนั้นแขวนเหรียญหลวงพ่อสุดรุ่นเสือเผ่นเพียงเหรียญเดียวเท่านั้น ครับ เรื่องที่ 2คุณสวิง จันทรวิมล เป็นโรคที่ตามีความจำเป็นต้องผ่าตัด ปรากฏว่า เข็มฉีดยา และมีดผ่าตัด ยังไงก็ไม่เข้า เอาพระเครื่องและเครื่องรางออกก็แล้ว คุณสวิงจึงนึกได้ว่า ได้รับการสักน้ำมันจากหลวงพ่อสุด เลยต้องไปนิมนหลวงพ่อมาถอนของให้ครับ การผ่าตัดจึงไปได้ด้วยดี  เรื่องที่ 3 จากคุณสมเกียรติ (ปัจจุบันบวชอยู่ครับและก็ยังไม่สึก หากพิดพลาดก็ขออภัย ครับ เพราะหนังสือหลายปีแล้ว) เป็นคนหาปลา มีอยู่วันนึงมีเรื่องกับเพื่อนด้วยกัน ปรากฏว่าพวกของคนที่มีเรื่องด้วยฟ้าสปาตาร์ฟันเข้าที่ชายโคลงดับตั๊บ พอดีจังหวะนั้นมีคนมาห้ามปรากฏว่า พอเปิดดูมีแต่ลอยช้ำข้อเลือด ท่านก็เล่ยเล่าให้ฟังว่า ที่ตัวมีเหรียญเสือเผ่น พ.ศ. 2517 และเคยสักหมึกกับพระครูพยนต์ สมัยท่านอยู่วัดนาขวาง ท่านพระครูพยนต์ เป็นศิษสายตรงหลวงพ่อสุด และยังมีเหตุการอีกหลายครั้ง ที่รอดมาได้  ขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับยันต์ตะกร้อหน่อย ครับ เคยมีคนถามว่าทำไมหลวงพ่อถึงใช้ยันต์ตะกร้อหลวงพ่อท่านก็ว่าเคยเห็นใหม ใครเตะตะกร้อและพังในที2ที ส่วนมากตะกร้อทนและเหนียว ใครเตะเท้าป่าวก็เจ็บเท้าเพราะตะกร้อทนทาน นั่นเอง ครับ หลวงพ่อท่านบอกว่า เคยคิดจะเขียนยันต์อะไรดีที่ไม่ให้ซ้ำกับพระเกจิรูปอื่นพอดีท่านหันไปเห็นเด็กในวัดเล่นตะกร้อกัน จึงนึกขึ้นมาได้ ตะกร้อมีความสวยงามและปราณีตมาก(ตะกร้อสมัยก่อน) และยังทนทาน อีก เตะยังไงก็ไม่พัง มีการเผาศพอยู่กรณีหนึ่ง ซึ่งเป็นข่าวดังทางหน้าหนังสือพิมพ์ รายวันหลายฉบับ เกี่ยวกับศพของ พระครูสมุทรธรรมสุนทร หรือ “หลวงพ่อสุด" อดีตเจ้าอาวาสวัดกาหลง เกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเคยเป็นอาจารย์ของ “ตี๋ใหญ่” ที่มีพิธีพระราชทานเพลิงศพไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2545 ที่วัดกาหลง  เนื้อข่าวน่าสนใจที่ว่า ศพของท่านโดนไฟเผาไหม้ไม่หมด แม้ว่าร่างจะเป็นเนื้อหนังกระดูกเผาหมดแล้ว แต่กระดูก หรือ อัฐิยังอยู่ในภาพที่สมบูรณ์มาก ไม่บิ่น หรือแตกร้าว เป็นชิ้นๆ แบบการเผาศพทั่วไป เลยทำให้หลายคนไม่อยากเชื่อ จึงต้องไปพิสูจน์ให้เห็นกับตา ที่มาแห่งเหตุอัศจรรย์นี้ มีนิมิตเกิดแก่ พระศิษย์เอกของหลวงพ่อสุดรูปหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดกาหลง ท่านเล่าว่า“ก่อนหน้าที่จะเผาประมาณ 2 เดือน ที่ผ่านมา อาตมาฝันเห็นหลวงพ่อสุดมาบอกว่า ไม่มีใครเผาท่านได้ นอกจากตัวท่านเอง อาตมาเลยถามกลับไปว่า แล้วจะให้ทำอย่างไร ท่านบอก ให้จัดดอกไม้จันทร์มาบายศรีขอขมาไว้และให้อาตมาเป็นคนจุดไฟเผา โดยให้อาตมาจับมือท่าน เผาร่างท่านเอง" อาตมาก็นำเรื่องความฝันไปเล่าให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดฟังต่อมาในวันพระราชทานเพลิงศพ ช่วงพิธีเผาจริง เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร ท่านมาเป็นประธานจุดไฟ ปรากฏว่าเกิดเหตุประหลาดขึ้น เมื่อไฟที่จุดกับดอกไม้จันทน์ดับลงเฉย ๆ ต้องวางเอาไว้อย่างนั้นอาตมาเห็นจึงเข้าไปจุดไฟเผาตามที่ฝันเอาไว้ “ปกติแล้วศพโดยทั่วไปใช้เวลาเผาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ไหม้หมด แต่นี่เวลาเผาท่าน ก็ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ระดับไฟร้อนมากประมาณ 300 องศา ขณะที่เผา ก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปกลับร่างท่าน แต่เมื่อได้เวลาราไฟ ปรากฏว่า ยังเห็นร่างของท่านยังอยู่เป็นโครงกระดูกทั้งโครง ทั้งที่เผามานาน” คุณอุบลรัตน์ ใยไหม กำนันตำบลกาหลง ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า  “ก่อนวันประชุมเพลิงท่าน คณะกรรมการก็ได้เตรียมงานแต่เนิ่น ๆ โดยได้เคลื่อนสรีระร่างของท่านมา หลวงพ่อคล้ายคนนอนหลับ ร่างท่านมีแต่หนังหุ้มกระดูก ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า จีวรเก่าแต่ก็ไม่เปียกคราบน้ำเหลืองเลย ที่เผาท่านเป็นคนสุดท้าย เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดให้ดู ก็เห็นภาพที่ว่า ท่านยังเป็นโครงกระดูกอยู่นะ พี่ก็แปลกใจเลยตะโกนบอกว่า “หลวงปู่ไม่ไหม้” แล้วชาวบ้านก็วิ่งไปดู เพราะชาวบ้านก็ยังไม่กลับ เขาจะรอดูที่ว่ากันว่าหลวงปู่จะเผาไม่ไหม้จะเป็นจริงมั้ย เขาก็เลยอยากพิสูจน์แล้วก็เป็นจริงหนังท่านไหม้แต่กระดูกท่านยังไม่หลุด”  สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านละแวกวัด และประชาชนทั่วไป ที่สนใจมั่นใจมากขึ้นว่า เป็นปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อสุดเพราะท่านสำเร็จ วิชาอยู่ยงคงกระพันชาตรี ศาสตร์ลี้ลับที่ทำให้สังขารของท่านไม่อาจเผาให้ไหม้หมดอย่างคนธรรมดาทั่วไปได้...  ตามประวัติของหลวงพ่อสุดแห่งวัดกาหลง จ.สมุทรสาคาเจ้าตำรับ ยันต์ตะกร้อ และ เสือเผ่น ท่านเป็นชาวอำเภอพนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เกิดในตระลชาวนา ในสมัยราชกาลที่ 5 ท่านบวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ 16 ปี ที่วัดกลางพนมไพร จ.ร้อยเอ็ด แล้วเดินทางรอนแรมจากร้อยเอ็ด ไปแสวงหาวิชา และ ความรู้ในทางธรรมตามที่ต่าง ๆ จนกระทั่งได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดกาหลง จนมรณภาพเรื่องราวของหลวงพ่อสุดเกี่ยวกับพลังอำนาจจิต ที่อยู่ในรูปการสักยันต์ตะกร้อ และเสือแผ่นนั้น โด่งดังมากแม้แต่ “ตี๋ใหญ่” ขุนโจรชื่อดัง ที่เขาลือกันว่าหนังเหนียว และแคล้วคลาดอยู่ตลอดยังนับถือ ไปมาหาสู่หลวงพ่ออยู่บ่อยๆ “ตี๋ใหญ่” มีของดี คือ มีผ้ายันต์ กับ ตะกรุดของหวงพ่อสุดไว้ป้องกันตัว ขนาดถูกตำรวจเป็นร้อยล้อมจับก็ยังหนีเอาตัวรอดไปได้ จนใคร ๆ ลือกันว่าตี๋ใหญ่มีวิชาล่องหนหายตัวได้มีเรื่องเล่าถึงวันที่ “ตี๋ใหญ่” สิ้นชื่อ คือ วันนั้น ก่อนที่จะหนีไปหลบซ่อนตัว “ตี๋ใหญ่” ให้ลูกน้องขับรถพามาหาหลวงพ่อสุดที่วัดกาหลง แต่มาแล้วไม่พบหลวงพ่อ จึงกลับออกมา ระหว่างที่รถวิ่งออกมา ก็โดนถล่มจากเจ้าหน้าที่ทั้งสองข้างทาง นับไม่ถ้วนว่ากี่นัดจะเห็นว่าคนเราเมื่อดวงขาด มันก็ต้องมีอันเป็นไป และเหตุที่ตี๋ใหญ่มาหาลวงพ่อสุดนั้น เป็นเพราะว่า พวงพระและตะกรุดของตี๋ใหญ่หายไป ก็เลยจะมาขอใหม่จากหลวงพ่อ จึงมาพบจุดจบในวันนั้นหลายคนกล่าวว่าถ้าผ้ายันต์ กับ ตะกรุดยังอยู่ ตี๋ใหญ่อาจจะยังไม่ตาย แต่ถึงอย่างไรตี๋ใหญ่ก็ก่อกรรมทำเข็ญไว้มาก พลังอำนาจจิตหรืออิทธิฤทธิ์ใดๆ ก็มาอยู่ “เหนือกรรม” ไม่ได้ สุดท้ายตี๋ใหญ่ก็ต้องจบชีวิตลง ท่ามกลางการสาปแช่งของผู้คน และใครจะรู้ว่านั้นเป็นสิ่งที่หลวงพ่อสุดกำหนดให้เป็นไปด้วยหรือไม่ปัจจุบันทางวัดกาหลง จ.สมุทรสาคร ได้นำร่างที่เป็นโครงกระดูกของ หลวงพ่อสุด บรรจุไว้ในโลงแก้ว ตั้งให้ประชาชนไปกราบนมัสการอยู่ที่ชั้นสอง ของศาลาการเปรียญภายในวัดซึ่งทุกวัน จะมีประชาชนและลูกศาย์ที่เลื่อมใสแวะเวียนไปกราบเสรีระร่างของท่านไม่ขาดสาย  ข้อมูลจากหนังสือ หลวงพ่อสุดวัดกาหลง จ.สมุทสาคร  โอนแล้วกรุณาแจ้งทางเมลล์ด้วยครับทำงานประจำบางครั้งไม่สะดวกรับโทรศัพท์


เขียนโดย :ขุนพลพระเครื่อง เจ้าของรายการ February 17, 2016 12:24:50


ดูพระรายการอื่นๆกดที่ โอนแล้วแจ้งรายละเอียดวันเวลาที่โอน ทางกล่องข้อความหรือโทร Tel. 0891314302


เขียนโดย :Chimo81 เจ้าของรายการ February 17, 2016 01:46:48

หน้าที่ :  1