พระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง พิมพ์หน้าเทวดา มีซ่อมส่วนบนแต่สภาพโดยรวมยังสวยคับ

พระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง เป็นพระที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนกลาง เป็นพระเนื้อดินผสมว่านและเกสรดอกไม้ เนื้อค่อนข้างหยาบฟ่าว ฟ่าม ฟุ ผิดกับพระทางเหนือ ซึ่งมีความเอียดเป็นสำคัญ สาเหตุของเนื้อพระกรุวัดบ้านกร่างหยาบ ตามข้อสันนิษฐาน เกิดจากการสร้างอย่างไม่พิถีพิถัน เนื่องจากยังอยู่ในสภาวะสงคราม จะอย่างไรก็ดีพระกรุวัดบ้านกร่างเนื้อละเอียดก็มีอยู่มากเหมือนกัน เพราะในเนื้อพระไม่มีเม็ดกรวดทรายปะปนอยู่ จึงทำให้เนื้อพระกระเดียดไปทางเนื่อละเอียด แต่จะเทียบกับพระทางเหนือนั้นไม่ได้เพราะเนื้อละเอียดกว่า แต่ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหยาบหรือละเอียด สิ่งที่ขาดไม่ได้คือต้องมี"รอยว่านหลุด"ปรากฎให้เห็น รอยว่านหลุดดังกล่าว เป็นร่องเล็กๆสัณฐานไม่แน่นอนเป็นรูปแท่งสี่เหลี่ยมบ้าง สามเหลี่ยมบ้าง มีทั้งร่องลึก ร่องตึ้น ซึ่งรอยว่านหลุดนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อพระกรุวัดบ้านกร่างที่จะขาดเสียมิได้ และเม็ดทรายก็เป็นสิ่งสำคัญในการพิจารณาเช่นกัน ถือเป็นทฤษฎีได้เลยว่าในเนื้อพระกรุวัดบ้านกร่างจะต้องมีเม็ดทรายถือ 99% เม็ดทรายที่อยู่ในเนื้อพระมี 3 สี คือ ดำ,ขาว,แดง เม็ดทรายสีดำมีจำนวนมากกว่าทุกสี รองลงมาเป็นสีขาวมีอยู่ 2 ชนิดคือ สีขาวใส กับสีขาวขุ่น แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นสีขาวขุ่น สีขาวใสมีน้อย สำหลับสีแดงนั้นเป็นสีแดงเลือดนกหรือแดงอมดำเม็ดค่อนข้างละเอียดกว่าสองสีที่กล่าวมา สีพระกรุวัดบ้านกร่างเป็นพระดินเผาสุกเนื้อออกเป็นสีอืฐ ดังนี้

สีแดงอิฐ สีคล้ายอิฐเผาสุก มีจำนวนมากที่สุด

สีแดงนวล สีเหมือนสีอิฐแดงแต่สีอ่อนกว่า ใกล้มาทางขาวน้อยๆ

สีแดงปนน้ำตาล สีเข็มกว่าสีอิฐเล็กน้อย หากพระที่ใช่แล้วถูกเหงื่อไคลบ่อยๆพระจะกลายเป็นสีน้ำตาล

สีเทาหม่น หรือสีเขียวมอย(เขียวหม่นปนเทา)หากใช่ถูกเหงื่อไคลสีจะออกไปทางดำ พระสีนี้มีจำนวนค่อนข้างน้อย

พระกรุวัดบ้านกร่างยังเป็นพระกรุที่มีผิวสะอาด เนื่องจากกรุพระมีสภาพดีไม่จมดินหรือถูกน้ำท่วมขัง ดังนั้นจึงไม่มีคราบขี้กรุเกาะติดหนาให้เห็น จะมีเพียงฝ้ากรุบางๆฉาบติดอยู่ แต่ถ้าพระผ่านการใช้หรือถูกสัมผัสบ่อยๆก็จะเหลือผิวฝ้ากรุตามซอกองค์พระเท่านั้น