หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ละสังขารแล้ววันนี้ ตรงกับวันเสาร์ที่ ๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๑ เวลา ๑๖.๔๖ น.ด้วยอาการสงบ ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพมหานคร สิริอายุ ๘๙ ปี ๑๑ เดือน ๔ วัน ๗๐ พรรษา

มืองาน02   (1129)

---

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ละสังขารแล้ววันนี้ ตรงกับวันเสาร์ที่ ๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๑ เวลา ๑๖.๔๖ น.ด้วยอาการสงบ ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพมหานคร สิริอายุ ๘๙ ปี ๑๑ เดือน ๔ วัน ๗๐ พรรษา

• กราบขอขมาพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ท่อน ญาณธโร

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต

กรรมใดที่ลูกได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อองค์หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ด้วยกายกรรม ด้วยวจีกรรม และด้วยมโนกรรม ที่ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ด้วยความขาดสติรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา ขอองค์หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ได้โปรดเมตตางดโทษล่วงเกินนั้นให้แก่ลูกหลานด้วยเทอญ

“..กิเลสเป็นเหมือนสนิมเกาะกินใจมนุษย์อยู่ตลอดเวลา หากปล่อยให้มันเกาะกินจิตใจไม่รู้จักระวังรักษา ใจของเราย่อมหมดคุณภาพ เป็นใจเสื่อมโทรม กิเลสมันร้อน มันเป็นไฟ ต้องระวังอย่าลุอำนาจกิเลส อันจะทำให้กระทบกระเทือนผู้อื่นเขา..” โอวาทธรรมคำสอนหลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดป่าศรีอภัยวัน ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร "พระอริยสงฆ์ผู้ทรงไว้ซึ่งญาณวิสัย" แห่งวัดศรีอภัยวัน ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย หลวงปู่ท่อน ท่านเป็นพระเถราจารย์ผู้ใหญ่สายวิปัสสนาธุดงค์กัมมัฏฐาน เป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านจิตตภาวนา การเทศนาธรรม และวิทยาคมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ หลวงปู่ท่อน ท่านถือกำเนิด ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๑ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะโรง ณ บ้านหินขาว ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น

หลวงปู่ท่อน ท่านอุปสมบท เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๑ ณ วัดศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมี พระเทพบัณฑิต(หลวงปู่มหาอินทร์ ถิรเสวี) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูคัมภีรนิเทศ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาสุพจน์ อุตฺตโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ญาณธโร” มีความหมายว่า “ผู้ทรงไว้ซึ่งญาณความรู้”

ภายหลังอุปสมบทแล้ว ท่านได้เดินทางไปพำนักจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่คำดี ณ วัดป่าชัยวัน โดยหลวงปู่คำดีเป็นอาจารย์กัมมัฏฐาน คอยสอนให้ทำภาวนา นั่งสมาธิกัมมัฏฐาน เน้นเรื่องสติ สมาธิ และปัญญา ระยะเวลาผ่านไปนานพอสมควร ท่านได้ช่วยครูบาอาจารย์แบ่งเบาภาระในการสอนคนที่จะมาบวช ด้วยการสอนขานนาค เป็นต้น ครั้นถึงช่วงออกพรรษา ได้เป็นหัวหน้าออกเดินธุดงค์เข้าป่าเป็นกิจวัตร

ครั้งหนึ่งท่านได้มีโอกาสพบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า และได้รับโอวาทอันทรงคุณค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้จากหลวงปู่มั่น “ให้เร่งทำความเพียร มิให้ประมาท ชีวิตนี้อยู่ได้ไม่นานก็ต้องตาย”

หลวงปู่ท่อน ยังได้มีโอกาสไปกราบเยี่ยมครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงพ่อมหาปิ่น ชลิโต เป็นต้น

หลวงปู่ท่อน ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีอภัยวัน และพักรักษาอาการอาพาธอยู่ที่วัดป่ามณีกาญจน์ จ.นนทบุรี จนกระทั้งมรณภาพ

“กินอย่าได้บก จกอย่าได้ลง อย่าได้เกินเป็นหาด อย่าได้ขาดเป็นวัง
สัพพะพลัง ยังดีคือเก่า โอม อุ อะ มุ มะ มูล มา 
เงินคำแก้วอย่าซิขาดเขินถ่ง ฮองฮองไสคือคำในเบ้า 
เงินทองไหลเข้า เต็มกระเป๋าอึ่งตึงงง”
(ขอให้กินไม่หมด ใช้ไม่หมด อย่าเกินมากไป อย่าขาดมากไป
สรรพกำลังสมบูรณ์พูลสุขมากกว่าเดิม โอม อุ อะ มุ มะ มูล มา 
มีทรัพย์สินเงินทองหลั่งไหลเข้ามา เงินทองอย่าได้ขาด ขอให้มีความสว่างไสวตลาดเวลา 
มีเงินทองไหลมาเต็มกระเป๋าใบใหญ่ ๆ ) 
พรที่องค์หลวงปู่ท่อน ญาณธโร เมตตาให้แก่ลูกหลานอย่างถึงใจ สาธุ

CR.ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐาน