หลวงพ่อทวด วัดพิชยญาติการาม รุ่นแรก ปี 2538เนื้อเมฆพัตร และเนื้อว่าน

กระดานข่าว :

November 10, 2015 18:02:26 มืองาน02   (1129)


ลองมาดูเบื้องลึกเบื้องหลัง ล.พ.ทวด เนื้อเมฆพัด อ.นอง รุ่นแรก

“ล.พ.ทวด เนื้อเมฆพัดรุ่นแรก อาจารย์นอง วัดทรายขาว เปิดราคาxxxx”คำๆนี้น่าจะพอเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาเพื่อนนักนิยมพระมาบ้างในการโฆษณาขายพระรุ่นนี้ น้อยคนนักที่คนเขาจะบอกออกมาว่า เป็นพระ ล.พ.ทวด ที่ออกวัดพิชยญาติการาม ฝั่งธนบุรี มิได้ออกจากวัดทรายขาวแต่อย่างใด

ล.พ.ทวด เนื้อเมฆพัด อาจารย์นอง วัดทรายขาว รุ่นแรกนี้ เริ่มเป็นที่สนใจของบรรดานักเล่นและมีการซื้อขายกันบ้าง แต่จะมีใครรู้ลึกถึงเบื้องหลังการสร้างบ้าง โดยแท้จริงนั้น ล.พ.ทวด รุ่นนี้ทำการสร้าง เสกและเทที่วัดพิชยญาติการามฝั่งธนบุรี เมื่อปี2538 คราวนั้นท่านอาจารย์นองได้มาจำพรรษาที่วัดนี้ เนื่องด้วยมีความรักชอบพอกับท่านเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม(พระราชธรรมสุนทร เจ้าอาวาสองค์ที่16)ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกัน อีกทั้งช่วงนั้น อาจารย์นองก็มีกิจนิมนต์ใน กรุงเทพมหานครมากท่านจึงจำพรรษาอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายเดือน ในระหว่างที่จำพรรษาอยู่นั้นได้ปรารภกับท่านเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามถึงการที่จะหาปัจจัยมาปฎิสังขรณ์วัดที่ส่วนใหญ่เริ่มชำรุดทรุดโทรมอันเนื่องจากเป็นวัดเก่าแก่(สร้างมาครั้งสมัยใดไม่ทราบชัดแต่ถูกสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลที่3) ทั้งสองท่านจึงได้ดำริสร้างพระ ล.พ.ทวด ขึ้น เพื่อให้สาธุชนได้นำมาบูชา โดยในครั้งนั้นมิได้มีแต่เพียง เนื้อเมฆพัดยังมีเนื้อ ว่าน อีก หลายพิมพ์ อีกทั้งมีพระบูชาชนาดหน้าตัก4นิ้วและเหรียญโลหะอีกจำนวนหนึ่งด้วยโดย ทั้งเนื้อเมฆพัดและเนื้อว่าน ท่านอาจารย์นองเป็นผู้จัดการเรื่องแม่พิมพ์และส่วนผสมเองทั้งหมด เพราะท่านเป็นผู้รู้จริงเห็นแจ้ง โดยดำเนินการจัดหาแม่พิมพ์เนื้อว่าน และกดพิมพ์ด้วยตัวเอง(กดเองด้วยมือแบบโบราณพิธีดั้งเดิมเหมือนกับสร้างรุ่นแรกของวัดช้างให้ทุกองค์) โดยมีพระ และเณรในวัดช่วยกันทำแบบไม่จ้างผู้ใด โดยพระอาจารย์นองท่านจะเป็นผู้ควบคุมส่วนผสมของเนื้อว่านโดยใกล้ชิดตามสูตรแบบวัดช้างให้ทุกประการ และท่านยังเป็นผู้กดพิมพ์เป็นส่วนใหญ่ด้วย บางองค์ด้านหลังจะเห็นลายนิ้วมือของท่านอาจารย์นองซึ่งใครได้ไปก็ถือว่าโชคดี โดยเฉพาะพิมพ์ใหญ่ท่านกดเองเป็นจำนวนมาก ตอนนี้เรามาว่าถึงเนื้อเมฆพัดอาจารย์นองรุ่นแรกกันดีกว่าซึ่งจะเรียกเช่นนี้ก็ไม่ผิดนักเพราะเป็นพระล.พ.ทวด ของท่านอาจารย์นอง ที่สร้างด้วยเนื้อชนิดนี้เป็นครั้งแรกแต่ออกที่วัดพิชยญาติการาม(ออกวัดทรายขายโดยตรงไม่มีเนื้อเมฆพัด) เสน่ห์ของพระเนื้อเมฆพัดรุ่นนี้คือ ท่านสร้าง เสก และซัดเนื้อเมฆพัดด้วยตัวเองทุกองค์ เป็นที่น่าแปลกอย่างหนึ่ง ล.พ.ทวด รุ่นนี้น่าจะเรียกเป็นเนื้อผงอาบเมฆพัดมากกว่า เพราะถ้าใครทำหล่นแตก จะเห็นผงข้างในร่วนออกมาเป็นสีขาวเวลาแตกแทบจะหาชิ้นดีไม่ได้ จะเรียกว่าแตกกระจุยเลยก็ได้ จะนำมาต่อติดด้วยกาวก็ลำบากเพราะผงข้างในร่วนออกมาตามที่บอก ผิดกับเนื้อเมฆพัดที่ทำเก๊ทั่วๆไป ที่น่าจะทำจากแก้วผสมมากกว่าเวลาแตกเนื้อข้างในก็เหมือนกับข้างนอก ฉะนั้นใครได้พระรุ่นนี้ไว้สมควรภาคภูมิใจเพราะท่านตั้งใจทำเอง และท่องบริกรรมพระคาถาไปด้วยตลอด ซึ่งเนื้อเมฆพัดของวัดช้างให้เมื่อครั้งปี2505 ที่สร้างนั้นเป็นการว่าจ้างช่างจากกรุงเทพขึ้นไปไม่เหมือนกับที่วัดพิชยญาติการามที่ท่านเป็นแม่งานเองทุกขั้นตอน โดยระหว่างเทและซัดเนื้อเมฆพัดรุ่นนี้นั้น ท่านเป็นคนพูดเองว่า“ด้านหลังต้องให้เป็นแอ่งแบบนี้ ถึงจะไม่เหมือนของวัดช้างให้ อีกหน่อยอยากได้ก็หายาก” (คำพูดนี้ ลูกน้องผู้เขียนซึ่งเคยบวชที่วัดและมีส่วนใกล้ชิดในการสร้างเล่าให้ฟัง) เมื่อได้พระล.พ.ทวด ครบตามจำนวนที่ต้องการแล้ว ได้ทำพิธีพุทธาภิเษกที่อุโบสถวัดพิชยญาติการาม เมื่อวันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2538 (ซึ่งคำนวณฤกษ์ยามแล้วตรงกับวันอัมฤทธิโชคอันถือเป็นวันที่ปลุกเสกของได้ขลังที่สุด) โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย พ่อท่านนอง วัดทรายขาวดับเทียนชัย พระเกจิอาจารย์สายใต้นั่งปรกอธิษฐานจิตอีกหลายท่าน และยังมี ล.พ.เปิ่น วัดบางพระ ล.พ.หยอด วัดแก้วเจริญ ล.พ.ศรีเงิน และพระอาจารย์ผัน วัดทรายขาวเกจิอาจารย์สายเขาอ้อร่วมพิธีเป็นจำนวนมากอีกด้วย......จึงนับว่าเป็นพระ ล.พ.ทวด รุ่นหนึ่งที่มีเจตนาการสร้างดี มวลสารดี และพิธีกรรมถูกต้องตามหลักโบราณกาล เสียดายลูกน้องเก่าผู้นี้มิได้สนใจเรื่องพระเครื่องและราคา เมื่อครั้งท่านเจ้าอาวาสองค์ที่16(พระราชธรรมสุนทร)มรณภาพมีพระส่วนหนึ่งคงเหลืออยู่ที่กุฎิ ในครั้งนั้นมี พระบูชาเนื้อว่านหน้าตัก4นิ้ว พระเนื้อว่านพิมพ์ใหญ่ และพระเนื้อเมฆพัด ลูกน้องผู้เขียนได้นำมาแจกจ่ายแก่ เพื่อน สนิทและมิตรสหายประมาณปี2548 ซึ่งพระเนื้อเมฆพัดยังเห็นมีเป็นปี๊ป แต่ก็มิได้มีผู้สนใจ จนมีอยู่ครั้งหนึ่งตำรวจท้องที่พรานนกที่เคยได้รับพระล.พ.ทวด เนื้อเมฆพัดแจกฟรีรุ่นนี้ไปและได้อาราธนาติดตัวไว้ตลอด ได้เข้าทำการจับกุมยาบ้า ได้ถูกกลุ่มผู้ค้ายาบ้ารายหนึ่งหนึ่งใช้มีดสปาต้าฟันเข้าที่หน้าอกกรีดสะพายแร่งมาถึงเอวจนล้มลงและวิ่งหนีไป เจ้าหน้าที่ท่านนั้นได้ใช้มือคลำบริเวณแผลที่ถูกฟันพบว่า เสื้อขาดตามแนวมีด ทะลุถึงเสื้อยืดด้านใน เจ้าหน้าที่นั้นคิดว่าตัวเองต้องตายและเลือดสาดแน่ๆแต่ เมื่อมองไปที่หน้าอกก็เห็นเพียงแต่รอยเสื้อขาดมิได้เห็นแผลของมีดแต่อย่างใด จึงได้สาธุถึงพุทธานุภาพของ ล.พ.ทวด รุ่นนี้ที่เขานำติดตัวไว้ หลังจากข่าวนี้แพร่สะบัดไป ล.พ.ทวด ที่ลูกน้องของข้าพเจ้ามีอยู่ก็ถูกขอฟรีๆกันไปจนหมด บางองค์ก็มีกล่องให้ บางองค์ก็ไม่มีกล่อง ตอนนั้นข้าพเจ้าก็ได้มาจำนวนมากทั้งเนื้อว่าน และเนื้อเมฆพัด และก็ได้นำมาแจกฟรีๆแก่ผู้รู้จักเช่นกัน ในสมัยนั้นเซียน ยังไม่มีผู้รู้จักพระรุ่นนี้ จึงไม่มีราคาอะไร ให้กันฟรีๆมากกว่า ผู้เขียนก็ให้ฟรีจนเกือบหมด เมื่อไปขอลูกน้องเก่าเขาก็บอกว่าไม่เหลือแล้ว มีแต่เฉพาะที่ลูกตัวเองแขวนไว้สองคน ปัจจุบันผู้เขียนก็มีเพียงแค่ องค์เดียว ส่วนพระบูชาหน้าตัก4นิ้วนั้น มีผู้มาขอลูกน้องข้าพเจ้าไป เป็นจำนวนหลายสิบองค์ แล้วให้เงินไว้ นิดหน่อยหลักพันนิดๆ ซึ่งปัจจุบันนี้เขาก็ไม่มีไว้บูชาเช่นกัน  และนี่ก็เป็นประวัติบางเสี้ยวของพระล.พ.ทวด อาจารย์นอง วัดทรายขาว เนื้อเมฆพัด รุ่นแรก (ตามที่เซียนเอ่ยเวลาขายกันแต่จะเลี่ยงในการบอกความจริงว่าออกที่วัดพิชยญาติการาม)หวังว่าพอที่จะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่าน และยังได้จารึกไว้เป็นประวัติตอนหนึ่งของพระรุ่นนี้ ซึ่งผู้เขียนคิดว่ายังดีกว่าปล่อยให้เรื่องที่รับรู้มาผ่านไปเฉยๆ...................สวัสดี

ขอบคุณข้อมูลและภาพโดยคุณ พยัคฆ์อัสดง 

ค้นหาข้อมูลจาก GOOGLE

 

YOU MUST BE LOGGED IN TO REPLY TO THIS TOPIC!