เก็บเรื่องราวและประสบการณ์ที่ทั้งขำ และไม่ขำมาเล่าสู่กันค่ะ
"ก่อนจะมาทำพลอย"
หลายๆท่านอาจจะอยากทราบว่า "พลอย"นั้นมันเป็นเรื่องยากง่ายแค่ไหน (เดี๋ยวค่อยเล่า)
แต่คำตอบคือ "ขึ้นอยู่กับ พรสววรค์ และพรแสวง" โดยทั้งสองอย่างต้องมีควบคู่กันไป
ตอนแรกงามเองก็ไม่รู้ตัวว่า "จะต้องมาทำพลอย" คือเป็นเหตุบังเอิญ...และเริ่มต้นด้วยความ
รู้สึกว่า "มันยาก"
แต่จริงๆแล้ว "ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์" เราต้องคิดอยู่เสมอว่า
"สิ่งใดที่มาก ย่อมเริ่มต้นจากสิ่งน้อยๆเสมอ"
เวลาได้ผ่านมา 3-4 ปี ที่ก้าวเข้ามาในวงการพลอย แบบมีเสียงสนับสนุน และกำลังใจอย่าง
เต็มเปี่ยม (ทุกวันนี้ยังนึกขอบคุณ..คุณคนนั้นทุกวัน)
คำพูดที่ให้กำลังใจ และจะจำจนวันตายก็คือ
"ซ้อ!!!!!เชื่อดิ!!!!!ซ้อทำพลอยไม่รอดหรอก..รับรองได้ เพราะซ้อไม่มีวิชาติดตัว อ่านแค่
หนังสือ..งูๆ ปลาๆ อั๊วมั่นใจเลยว่า ซ้อทำพลอย "เจ๊ง" แน่นอน"
เป็นไงคะ...นี่แหล่ะ "กำลังใจ" มันแปรเป็น"แรงขับ"ไปโดยไม่รู้ตัว
นี่คือคำพูดของใกล้ตัวเมื่อ 4 ปีที่แล้ว
เมื่อเข้ามาสู่วงการพลอย "ก็เริ่มมีเพื่อน" โดยมากจะเป็นคนเดินพลอย บางคนไฮเทคหน่อย
ก็ขายทั้งในตลาด และ บนเน็ต แต่บอกได้เลยว่า น่าจะมีประมาณ 10 % เท่านั้นที่จะทำอย่าง
นี้ คราวนี้มีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เป็นคนนิสัยน่ารัก รับผิดชอบเยี่ยม พูดคำไหนคำนั้น ไม่เคยต้อง
มาวัดสายตากันให้เมื่อยตุ้ม คือ ถ้ามีออเดอร์ ก็บอกกัน เค้าจะรู้ทันทีว่า "เสป๊คของพลอย
ที่เราต้องการนั้นเป็นอย่างไร" สาวคนนี้เธอชื่อ "จอย"
วันนึงต่างคนต่างเดินอยู่ในตลาด (พลอย) บังเอิญเจอกัน เลยทักทายกัน
งาม: จอย..จอย...วู้!!!!!ทางนี้
(จอยหันมามอง แล้วยิ้มแบบเซ็งๆ)
จอย : มาตลาดเหรอ..คุณนาย...มาทำไม....หนักตลาด....!!!!!!(โหดูแม่คุณเค้าสรรเสริญ
เพื่อน)
งาม : เป็นไง...เจ้าแม่เดินพลอย..วันนี้มีการึยัง (คำว่า กา คือมีการต่อรองเรื่องราคาพลอย
หรือไม่....ซื้อไม่ซื้ออีกเรื่องนึง) แล้ววันนี้เดินพลอยดีมั้ย?
จอย : ดีดิ...ทำไมจะไม่ดี....เดินดี๊...ดี....เดินเช้ายันบ่าย...เดินอย่างเดียวเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า
งาม : (เริ่มเอาคืนบ้าง) เดินดีก็ดีแล้วนี่...เดินต่อไปนะ...เดินไปเรื่อยๆ....เดินแบบไม่หยุด
แล้วเด่วงามจะนั่งกินลอดช่องเย็นๆ...คอยนั่งมองจอยเดินพลอยนะ...แบบ..จะคอย
ลุ้นให้ไง...ลุ้นให้ไม่มีกา เลยเป็นไง...นี่รักนะ...เห็นมะ...มะเคยทิ้งเพื่อน!!!!!!
จอย : ( หันมามองค้อนๆ ตาขวางๆ...) แล้วก็พูดว่า...เอ๊ะ!!!!!อีนี่.....!!!!!!!
แล้วก็เดินจากไปแบบอมยิ้ม
สาวคนที่สอง เธอชื่อว่า" สฟีน" เอ้ย!!!!!โทด.โทด..."เธอชื่อว่า "ติ๊ก"
สาวติ๊กนั้นรูปร่างบอบบาง เดินพลอยทับทิมพม่าเป็นหลักค่ะ ปกติติ๊กจะเป็นคนเรียบๆ พูดน้อย
ยิ้มอย่างเดียว
ถามอะไรเธอจะยิ้มนำมาก่อน แล้วค่อยตอบ...วันนึงได้คุยกับติ๊ก....ติ๊กเล่าให้ฟังว่า
ติ๊ก: วันนี้มีแขก (โพกหัว) มาต่อพลอยติ๊ก...เปิดไป 10000 / กะรัต...บ๊ะ!!!!!มันต่อมา พันนึง
คุยตั้งนาน เมื่อยก็เมื่อย....ภาษาก็ไม่ค่อยเก่ง (หมายถึงภาษาอังกฤษ)
งาม : แล้วติ๊กตอบเค้าไปว่าไง? (เราก็อยากรู้..ทั้งๆที่รู้ว่า...ยังไงๆ ก็ขายไม่ได้)
คำตอบของติ๊กทำเอาอึ้ง...แล้วก็ต้องตามมาด้วยรอยยิ้ม
ติ๊ก : เค้าก็ตอบมันไปว่า "พลอยนาเว้ย!!!!!ไม่ใช่ถั่ว!!!!!!"
แล้วติ๊กก็บ่นต่อ "มันคงชินมองเห็นพลอยเป็นถั่ว"
งาม : ฮ่า ฮ่า ฮ่า แล้วตอบมันเป็นภาษาไทย...เค้าฟังออกเหรอ
ติ๊ก : ตอนแรกก็คิดงั้นแหละ...คิดว่ามันฟังไม่ออก ...แต่มันดันตอบมาเป็นภาษาไทย
งาม : เฮ้ย!!!!!พูดไทยได้ด้วยเหรอ..ไหน..ไหน...มันตอบว่าไง (ตอนนั้นตื่นเต้นมาก ด้วยความ
อยากรู้เรื่องชาวบ้าน อิ อิ อิ)
ติ๊ก : มันตอบว่า "กวนตีน"
งาม : กร๊ากส์...ส์ส์ส์ส์
คราวนี้มาคุยกับคนเจียร์พลอยกันบ้าง
ก่อนอื่น...ขอเล่าแบบย่อๆ ให้มองเห็นภาพกันง่ายๆ ว่า "กว่าจะมาเป็นพลอยสักเม็ด"
ต้องผ่านกรรมวิธีอะไรบ้าง เริ่มจาก "พลอยก้อน"
"พลอยก้อน"นั้น ยังแยกออกเป็นสองประเภทคือ "พลอยเผา" และ "พลอยดิบ"
ลักษณะจะเป็นเหมือนก้อนหิน เนื้อขรุขระ ดูไม่สวยงาม (มีรูปประกอบ) แต่จะมีสีสรร
ให้พอมองเห็นอยู่บ้างว่า เป็น"พลอยก้อน" กรรมวิธีคือ
1. นำพลอยก้อนมา "โกลน" ให้ได้รูปตามต้องการ เช่นรูปไข่ หยดน้ำ ทรงกลม เป็นต้น
2. นำมาแต่งให้เป็นเหลี่ยมตามต้องการ
3. จะมาจี้ หรือ เจียร์ให้เกิดความเงางาม
แต่ก่อนที่จะเริ่มทั้ง 3 กรรมวิธีนี้ จะต้องมีการกำหนดให้ได้ก่อนว่า จะนำส่วนใดขึ้นเป็นหน้า
พลอย โดยจะเลือกตามส่วนที่สวยและเล่นไฟมากที่สุด เพื่อพลอยเม็ดจะสวยสมบูรณ์แบบ
มากที่สุด เราเรียกว่าการ "ตั้งน้ำ" หรือ "ตั้งน้ำพลอย" นั่นเอง
การ"ตั้งน้ำ"นั้น เป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะถ้าพลอยเม็ดนั้นมีมูลค่าสูง ซึ่งบางเม็ด
สูงเป็นหลักแสน หรืออาจจะถึงหลักล้าน
ดังนั้น "คนตั้งน้ำ" ย่อมต้องมีประสบการณ์ในการตั้งน้ำพลอย คือต้องรู้ว่า จะใช้ส่วนใดของ
พลอยเป็นหน้าพลอยถึงจะสวย ไฟดี คนตั้งน้ำนั้นมีค่าตัวสูงลิ่ว..วันๆ ไม่ต้องทำอะไร นั่งมอง
พลอย แล้วคิดให้ออกว่า จะตั้งน้ำพลอยเม็ดนั้น เม็ดนี้อย่างไร แค่นี้ค่าตัวก็หลักหลายหมื่น
ต่อเดือนแล้วค่ะ
แล้ววันนึงงามก็เข้าไปดูเค้า"ตั้งน้ำ"
"เฮียชาติ" เป็นนักตั้งน้ำพลอยตัวยง น้อยคนนักที่จะเข้าไปคุยกับแก เพราะแกมีสุนัขอยู่ใน
ปากหลายตัว...แกพูดที....สุนัขหล่นกราว....ฮ่า ฮ่า ฮ่า
แต่งามเองกลับชอบเข้าไปคุยกับแก เพราะได้ความรู้ แกไม่บอกทั้งหมด มีตาก็ดูเอาเอง
แกจะยอมสอนดีๆ แบบไม่กัดเมื่อแกอารมณ์ดีสุดๆจริงๆ...แต่ก็หาโอกาสนั้นได้ยากมากๆ
แล้ววันนึงก็ไปหาเฮียชาติที่บ้าน
งาม : หวัดดีเฮีย...ทำอะไรอยู่ (ทั้งๆที่เห็นอยู่ว่าแกกำลังเล็งๆพลอย)
เฮียชาติ : ขัดส้วมมั้ง?
(โห...ดูแกดิ...หมาหล่นมาหนึ่งตัว)
งาม : นั่งดูด้วยนะ...ไม่สอนก็ไม่ว่า...ดูเฉยๆ.....
เฮียชาติ: ตามใจ !!!!!!บ้านกรู (แกพูดอย่างนี้จริงๆค่ะ) ไม่ได้ติดป้ายห้ามนั่ง!!!!!!
(แล้วงามก็นั่งดูแกนิ่งๆ...ช่วงนั้นลักจำแกสุดฤทธิ์ แต่ก็ไม่สามารถ ถ้าแกไม่บอกก็...อด!!!!)
และก็ทนนั่งนิ่งๆไม่ไหว...ตามสไตล์...ก็เลยถามแกว่า
งาม : เฮียชาติ ...ตั้งน้ำพลอยเหรอคะ (ถามเสียงหวานๆ)
เฮียชาติ : (หันมองด้วยหางตา...แล้วก็อมยิ้ม...แกคงดูออกว่า...มันคงทนไม่ได้)
แล้วแกก็ตอบ "เออ"
เข้าทางครับท่านผู้ชม...เพราะวันนี้ไม่ได้หลอกเต๊าะถามแกเรื่องพลอย แต่กะมาแกล้งแกโดย
ตรง
งาม : เหรอ..ตั้งน้ำเหรอ..ไหน...มะเห็นมีกาเลย...แล้วจาตั้งน้ำได้ไง ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เท่านั้นแหล่ะค่ะ...ไม่ต้องนึกอะไรต่อเลย...โดนแกอัดเป็นชุด...โทษฐานไปแกล้งแก
เฮียชาติ : ทีหลังถ้าเอ็งจะมา...หัดดูดวงตัวเองก่อน...ว่าวันนี้จะโดนเฮียเขกกาโหลกรึเปล่า
หน๋อย!!!!!!!คนกะลังเครียดๆอยู่....เอ็งยิ่งมาอยู่ใกล้....เฮียยิ่งปวดหัว!!!!!!!
งาม : เลยต้องรับลาแกกลับ..ไปทำงาน...ขืนอยู่ต่อเด่วก็อดแกล้งแกไม่ได้ หุ หุ หุ
อ่านไป อ่านมา มันส์ดีเนอะ..อาซ้อ..จบเรื่องนี้ ขอให้เล่าต่อ เรื่องทำยังไง ถึงมาเจอ อีตาเฮียตี๋ แล้ว หลงกล มาได้ เจ้าตี๋ซุ้ง ได้ไหม..ถ้าจะ สนุกไม่แพ้ เรื่องนี้...
ถ้าให้ผมเดา น่าจะแพ้...ผงพรายกุมาร แน่ๆ
แหม ๆ ละครกำลังมัน ดันมาโฆษณา ซะนี่ อุ้ย ไม่ใช่สิดันมาหยุด แบบนี้เขียนหนังสือนั่งอ่านได้ทั้งวันครับ ชอบลีลาปลายปากกาแบบนี้ล่ะครับ สนุกดี ได้ความรู้ด้วย ผมว่านะ ที่มีพรสวรรค์อย่างหนึ่งที่ติดมาก่อนคือ ชื่อครับ ชื่องาม ทำให้ดวงสมพงษ์กับความสวยงามของพลอย 5 5 5 ส่วนพระเอกกับนางเอก จะเจอกันตอนไหน อย่าพึ่งเลย กำลังมันส์กับนางเองเจอเจ้าของสำนักพลอยอยู่ อิอิ ให้ท่านอาจารย์หลง รอไปก่อน อิอิ
เรื่อง "พลอยอาไรหว่า"
มีอยู่ว่า งามไปกรุงเทพมาเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว หลังจากที่ทำธุระเสร็จ ก็ถือโอกาสเข้า
ห้างโลตัสสักเล็กน้อย เพื่อซื้อหนังสือนิทานให้เจ้าซุ้ง ได้หนังสือเรียบร้อยสบายใจ ก็เดิน
ออกมาจากร้าน เดินมานิดนึง เจอบู๊ทเล็กๆ ตั้งขายพลอยอยู่ แต่เป็นงานตัวเรือนเงิน รูปทรง
แปลก เห็นดีไซนืเก๋ดี ก็เลยปรี่เข้าไปดู (กะจะเช็คราคาด้วยแหละ หุ หุ หุ)
พอเดินเข้าไป เห็นคนขายเป็นผู้หญิง แต่งตัวติส..ติส..ดูดีไม่ใช่เล่น นั่งอยู่หน้าตู้พลอย
เค้าก็เชิญชวนให้เลือกดู งามเองยืนดูเงียบๆ สายตาก็สิดส่ายว่า "มีพลอยอะไรบ้าง" เผื่อ
เจอของแปลกๆ จะได้ซื้อเก็บมาศึกษา แล้วสายตาเจ้ากรรมก็ไปกระแทกกับ แหวนเงินวงหนึ่ง
เข้า หัวแหวนเป็นสีเหลืองอ่อนๆ...ขอบอกว่า "อ่อนมาก" อ่อนจนแทบไม่เห็นสีเหลืองเลย
ต้องเพ่งให้ดีๆ แต่เนื้อพลอยก็ใสดี เม็ดก็ใหญ่ ประมาณ 10 กะรัตอัพ ปากไวเท่าใจคิด
ถามเลยค่ะ
งาม : นี่พลอยอะไรคะ
คนขาย : " กิ๊..กะ..ริน"
งาม : ฮ้า!!!!!!อะไรนะคะ (งงว่ะ....พลอยอะไร สงสัยเราตกข่าว มีพลอยใหม่ๆมา ไม่รู้ได้ไง)
คนขาย : (พูดเสียงดังๆ แบบเน้นๆ) " กิ๊..กะ..ริน " คร่า
งาม : (ยัง...ยังไม่หายงง...ถามย้ำอีก ) พี่ๆ....ชื่อพลอยอะไรนะคะ
คนขาย : (เริ่มหน้าดำ...ตาโต..แบบของเริ่มขึ้น) ก็ชั้นบอกว่า "กิ๊...กะ..ริน" "...กิ๊ ..กะ..ริน"
ไม่รู้จักเหรอ....รู้เรื่องพลอยบ้างมั้ยเนี่ย
งาม : (เริ่มหน้าเสีย...แต่ยังใจดีสู้แม่ค้า...เค้าบอกว่า เรารู้เรื่องพลอยบ้างมั้ยเนี่ย...บอกตัวเอง
ในใจ...ก็กรู..ม่ายรู้จักนี่หว่า" ) งั้นขอดูหน่อยนะคะ
คนขายก็หยิบมาให้ดูอย่างอารมณ์เสียๆ แบบประมาณ "โง่อย่างนี้ จะดูทำไม"
งามได้รับแหวนวงนั้นที่ประดับพลอย "กิ๊..กะ..ริน" ที่คนขายบอก พร้อมหยิบกล้องขึ้นมาตีดู
คราวนี้คนขายเป็นฝ่ายหน้าเสียบ้าง....คงนึกว่า... "ผู้หญิงบ้าอะไร...พกกล้องส่องพระ"
พอตีกล้องดูเท่านั้นแหล่ะ....งามหัวเราะตรงนั้นเลย...เสียงดังด้วย...แบบไม่กลัวโดนไล่ออก
จากร้าน...แล้วงามก็ถามคนขายว่า....
งาม : พี่ๆ..พลอย "ซิทริน" ใช่มั้ย?
คนขาย : (คราวนี้เป็นฝ่ายงงแทน) ได้แต่พยักหน้า หงึกๆ...."คงใช่"
งาม : พี่เป็นคนไทยรึเปล่า? หรือเป็นคนมาจากที่อื่น
คนขาย : ตอบเสียงดังๆ "กัมพูชา" .....เจ้านายให้มานั่งขายของ
งาม : อ้อ!!!!!!!!อย่างนี้เอง.....เอางี้พี่...พี่อย่าว่านะ อันนี้เค้าเรียก "ซิทริน" ไม่ใช่ "กิ๊..กะ..ริน"
คนขาย : (คงรู้สึกเหมือนเจอดิกชันนารี่ ) ไทยแปลเป็นไทย เค้าเลยถามต่อว่า "น้องพูดใหม่
ดิ๊....พี่จะจดเป็นภาษากัมพูชา" เพราะพี่นั่งขายเจ้า "กิ๊..กะ..ริน" นี่มา 3 เดือนแล้ว สงสัยอยู่
เหมือนกันว่า ทำไมขายไม่ได้เลย
งาม : (ค่อยๆบอกเค้า แล้วก็เห็นคนขายคนเค้าเขียนอะไรไม่รู้..ยุกๆ..ยิกๆ...งามเองก็อ่านไม่
ออก เดาได้ว่า เค้าคงจดแบบที่เค้าเข้าใจ)
พองามบอกเค้าเรียบร้อย ก็ได้รับคำขอบคุณ จากคนขาย เป็นอันว่า "ไม่โดนตบ"
จบเรื่อง "กิ๊..กะ..ริน" ค่ะ
จากเรื่องพลอย "กิ๊..กะ..ริน" งามจะมาขยายความให้ฟังค่ะ
"ซิทริน" เป็นพลอยเนื้ออ่อน อีก 1 ประเภท ตัวสวยๆของพลอยชนิดนี้ สีจะเหมือนกับ
บุษราคัมสีแม่โขงมาก มากจนแทบแยกไม่ออก ถ้าไม่มีเครื่องวัดค่าความแข็ง จะต้องใช้
กล้องตีลงไป เพราะซิทรินนั้นเป็นพลอยสะอาด เนื้อใส ใสปิ๊งๆเลยค่ะ ส่วนเรื่องของเส้นสี
นั้นไม่มีเลย อีกอย่างน้ำหนักของพลอยซิทรินจะเบาๆ โหวงๆ ถ้าเรานำพลอยซิทริน กับ
บุษราคัม ที่มีขนาดเท่ากัน น้ำหนักเท่ากันมาวางบนฝ่ามือแต่ละข้าง เราจะสัมผัสได้เลยว่า
พลอยซิทรินจะมีน้ำหนักหรือความถ่วงน้อยกว่า "บุษราคัม"ค่ะ
งามอธิบายง่ายๆนะคะ...จากประสบการณ์ของอาชีพที่ทำอยู่ค่ะ...อาจจะไม่ได้มากมาย
เพราะงามเองเห็นว่า ถ้าคุยเรื่องพลอย "ข้อมูลมันมาก" ยิ่งถ้าเป็นการเปรียบเทียบต้องว่ากัน
แบบเคสต่อเคสค่ะ...มาอ่านเรื่องหนุกๆกันต่อดีกว่าค่ะ
เรื่อง....ของ"ทิดเต๋า"
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำทิดเต๋า..ให้ทุกท่านรู้จักสักนิด
"ทิดเต๋า" เป็นชายหนุ่ม...น่ารักค่ะ พูดจาสุภาพ งามได้รับการแนะนำให้รู้จักทิดเต๋า จากน้อง
ชายอีกคนหนึ่ง เพราะเห็นว่า ทิดเต๋าเป็นคนดี ถ้ามีเรื่องพลอย หรือต้องการพลอยชนิดใด
ทิดเต๋าน่าจะช่วยงามได้
วันแรกที่งามเจอทิดเต๋า...เราเจอกันที่วัด (เค้าว่าจะหาคนดีต้องไปหาที่วัด ซึ่งก็น่าจะจริง)
เมื่อทิดเต๋าเจอหน้างามเป็นครั้งแรกก็ยกมือไหว้ก่อนเลย
ทิดเต๋า : สวัสดีครับพี่
งาม : ค่ะ..สวัสดีค่ะ
ทิดเต๋า : ได้ยินว่าพี่มีออเดอร์พลอยบ่อยๆ ส่วนมากเป็นพลอยอะไรครับ
งาม : เนื้อแข็งค่ะ..บุษ มรกต เป็นหลัก แต่พี่เน้นของสวย
ทิดเต๋า : ถ้าพี่มีออเดอร์ แล้วเถ้าแก่ หรือเพื่อนผมมีพลอย โทรถามผมได้นะครับ ผมเป็น
ลูกน้องของลูกสาวเถ้าแก่พลอยใหญ่ของที่นี่ (ขอไม่เอ่ยนามค่ะ)
งาม : ค่ะ....นี่คงเป็นมือขวาเลยสินะ
ทิดเต๋า : ครับพี่
งาม : (ได้ทีแระ..ปล่อยมุขเลยดีกว่า...กะว่าทิดเต๋า..ต้องอึ้ง!!!!!ฮ่า ฮ่า ฮ่า )
"แล้วมือซ้ายหล่ะคะ" (กะว่าโดนเต็มๆ)
ทิดเต๋า : (พ่อคุณก็รับมุขสุดฤทธิ์เช่นเดียวกัน) "อ๋อ!!!!!มือซ้ายป๋มตัดทิ้งไปแล้วครับ"
งามและเฮีย..งและน้องๆที่ยืนคุย...ฮา...กันลั่นเลยค่ะ
เนี่ยแหละค่ะ....คนเดินพลอย พ่อค้าพลอย หรือมือขวาเถ้าแก่พลอย เค้าจะทันๆกัน รับกัน
ได้ทุกดอก...ใครอย่าพลาดมา....ยิ่งคุยกันก็ยิ่งสนุกค่ะ
ทิดเต๋าเป็นคนน่ารัก คุยตลกค่ะ
เรื่องนี้ไม่ขำค่ะ
เป็นเหตุการณ์ที่งาม"ไม่ชอบ" และ"ถึงกับรังเกียจ" เลยก็ว่าได้ค่ะ
เรื่องของคนโกหกหน้าวัด
มีอยู่ช่วงหนึ่ง งามและเฮียไหว้สักการะรอยพระพุทธบาทที่เขาคิชกูฏ ซึ่งจะปิดเขาปีละ1 ครั้ง
ประมาณ 2-3 เดือน หลังตรุษจีนเป็นต้นไป
จากระยะทางกานเดินทาง เราต้องขับรถไปจอดที่ลานวัด(ไม่ขอเอ่ยชื่อวัดค่ะ) และขึ้นรถ
โฟร์วิลล์ต่อขึ้นไปบนเขา ช่วงที่เรากำลังรอคิวรถ งามก็เดิยหาซื้อของจุบจิบ กินเล่นตาม
ประสา...สายตาก็ไปป๊ะ...เข้ากับร้านๆหนึ่งที่เค้าขายพลอยมากมาย...(เอาอีกแล้ว)
เดินเข้าไปเลยค่ะ...ไม่ได้ไปซื้อแต่อยากไปชม...เพราะใจจริงอยากรู้ว่าเค้าขายพลอย
อะไรกันบ้าง....ร้านนี้มีทั้งหินหยกแกะสลัก...และพลอยอีกหลายชนิด แล้วสายหาเรื่องของ
งามก็มองไปที่ "ทับทิม" เม็ดใหญ่ ไซส์ประมาณ 15 กะรัต
คนขายก็ตาดี...คงนึกว่า "งานนี้ตรูได้เชือดแน่ๆ" มาเลยค่ะ...แค่งามยืนดูนะ ไม่ได้พูดสัก
แอ่ะ ...เค้าเริ่มบรรเลงเพลงกล่อมเด็กเลยค่ะ
คนขาย : พลอยทับทิมนี่สวยมากนะคะ เม็ดใหญ่ หายาก เนื้อดีค่ะ เม็ดนี้เป็น"ทับทิมพม่าแท้"
ถ้าซื้อจะลดให้พิเศษเลยค่ะ (น่าน...ปิดการขายตรูเลยนะเนี่ย!!!!!แสดงว่าหน้าตรู
ไม่ใช่คนแถวนี้แน่นๆเลย)
งามเงยหน้าขึ้นมองคนขายช้าๆ....(ด้วยความไม่พอใจ...ขอบอกจากใจจริงว่าไม่พอใจค่ะ...
มากด้วย เพราะคุณขายของอยู่หน้าวัด..คุณยังมุสาได้ลงคอ) เลยขอพูดสักหน่อยเหอะ...
รู้ทั้งรู้ว่าเค้าคงไม่รู้สึกอะไร
งาม : มั่นใจนะ ว่าเป็นทับทิมพม่า...เนี่ย...มันทับทิมอัฟริกาชัดๆนะน้อง...แล้วเม็ดใหญ่ ขนาด
นี้ ถ้าเป็นทับทิมพม่าจริงๆ เนื้อมันไม่ใช่อย่างนี้หรอก มันเป็นทับทิมเผาใหม่ด้วย...แค่สีก็ไม่ใช่
แล้ว...ทำไมน้องบอกลูกค้าแบบนี้...เห็นคนที่เค้ามาจากที่อื่นเค้า "โง่" เหรอ...ขายของหน้า
วัดอย่าหลอกลูกค้าเลย...จะทำกินไม่ขึ้นนะ"
คนขาย : โกรธ....ค่ะ...แต่เถียงไม่ออก...เพราะงามวางสนุ๊กตีกัน...ดัก 3 ชั้นไว้แล้ว
กำลังจะจัดงานกันเลย ....ตาเฮีย!!!!!!เดินเข้ามารู้ว่า "สุนัขหล่นออกจากปากภรรยาเข้าแล้ว"
เลยลากคอไปขึ้นรถเพื่อขึ้นเขา
พอนั่งในรถเค้าก็ถามว่า "ไปพูดอะไร" งามก็เล่าให้ฟัง...เฮียบอก...พวกนี้เด่วกรรมก็ตาม
สนองเอง...อย่าไปสนใจ...สงสารก็แต่คนไม่รู้เรื่อง....ไม่รู้จะมีคนโดนหลอกอีกกี่คน และแถม
ท้ายว่า "ดีนะที่ป๊าลากออกมาก่อน...มะงั้น...????????"
YOU MUST BE LOGGED IN TO REPLY TO THIS TOPIC!