พระกรุเนื้อตะกั่วสนิมแดง หรือสั้นๆว่าพระสนิมแดง
พระสนิมแดงที่ผมพูดถึงคือพระกรุที่มีอายุเป็นร้อยๆปีไม่ใช้พระใหม่ที่พึ่งสร้าง(เป็นที่เข้าใจกันนะที่นี้)
พระสนิมแดงของแท้มีลักษณะดังนี้
พระเนื้อชินตะกั่วซึ่งเป็นสนิมแดง จะเกิดขึ้นเมื่อผ่านอายุไขนับ100ๆปี ในสภาพที่แตกต่างกันแต่ละกรุ(ส่วนมาลงกรุ) ผ่านร้อน-ผ่านชื้น-ผ่านหนาว-บ้างก็โดนน้ำ เมื่อเวลาผ่านไปนานๆเข้าก็เกิดสนิม และสนิมของเนื้อตะกั่วนี้เองที่เรียกว่า “สนิมแดง”
การจะสังเกตุสนิมแดงของแท้มีลักษณะพื้นฐาน(BASIC)ดังนี้
B-1. จะมีเส้นใยแมงมุมอยู่ภายในสนิมแดง ข้อนี้ถือว่าสำคัณที่สุดเพราะสามารถสรุปยุติความแท้ของพระสนิมแดงได้อย่างดี โดยจะมีลอยลานเป็นเส้นเล็กๆ ดูไขว้กันเหมือนเส้นใยแมงมุม ครูอาจารย์จึงเรียกต่อๆมาว่า “เส้นใยแมงมุม” นี้คือหลักพื้นฐานข้อที่1 ซึ่งจะมีลายละเอียดอีกมากต้องติดตาม(ขอเก๊ก็ทำให้มีเส้นฯ)
B-2. จะมีวรรณะสีสดใส สีแดงอ่อนสลับแก่ ไม่เป็นสีเดียวกันตลอดองค์
B-3. จะมีสนิมไข(ไขวัว) มีลักษณะเป็นเม็ดเต่งๆและสดใสแทรกผสมอยู่ในเนื้อสนิมแดง
B-4. สนิมแดงต้องผุดขึ้นจากภายในเนื้อ และฝังลึกแทรกลงไปในเนื้อ สนิมดันจากภายในออกมาภายนอก
นี้คือพื้นฐานหลัก 4 ข้อที่ยึดเป็นหลักกันมา ยังมีปลีกย่อยๆอีกหลายข้อเช่น ธรรมชาติ คราบกรุ รักทอง รอยปริลาน ปริขอบข้าง และแยกย่อยๆไปอีกในเรื่องของแต่ละกรุแต่ละพื้นที่ รวมถึงสภาพพระ การล้างผิวพระหรือไม่ล้าง เป็นต้น
......ระลึกไว้เสมอว่าคนทำพระเก๊ เป็นพระและเก่ง ยิ่งเก่งมากก็เหมือนมากเพราะเขาเหล่านั้นรู้หลักพระแท้เป็นอย่างดี......
B-1 เส้นใยแมงมุม
เป็นเส้นใยในเนื้อที่เกิดจากธรรมชาติ เกิดจากการที่สนิมแดงของตะกั่วที่เกิดทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ การแตกต่างของชั้นสนิมก็ดี การหนาบางของสนิมก็ดีและปัจจัยอื่นอีก ที่ทำให้เกิดเส้นใยนี้
ลักษณะทางธรรมชาติที่พบเห็น
- เป็นเส้นในเนื้อที่ไม่อาจจะกำหนดทิศทางได้ ทิศทางไม่แน่นอน ไม่ตายตัว
- ในเส้นเดียวกันอาจจะมีทั้งเล็กมาก เล็กน้อย ถ้าใหญ่หรือเหมือนการบิด-หัก ควรระวัง!
- ในแต่ละเส้นจะไม่เท่ากันทุกช่วงอย่างเจาะจง แต่ละช่วงอาจจะตืน-ลึก กว้าง-แคบ ต่างกัน
- ปลายเส้นจะหายไปในเนื้อ แบบไม่รู้ที่จบ ส่วนมากปลายแหลมเล็ก
- ในองค์เดียวกัน บางที่อาจจะมี บางที่อาจไม่มี
- บางองค์มีมาก บางองค์มีน้อย ถึงน้อยมาก
สรุปให้คิดถึงธรรมชาติ คิดถึงข้อเท็จจริง
.....ข้อเสนอแนะ ควรเล่นด้วยตาและสมอง ไม่เล่นด้วยหู.......
ใยแมงมุมเห็นได้ชัดดีจังค่ะ
ขอสมัคร เรียนด้วย ครับ ท่าน อ.pat ครับ
ขอบคุณครับ...เคี้ยง
ท่านอาจารย์มาเอง ต้องเข้ามาทบทวนตำราเสียหน่อย รู้สึกผมจะทำหล่นหายไปเยอะ
B-2 พระสนิมแดงของแท้ต้องมีสนิมแดงที่มีวรรณะสีสดใส และสีสนิมแดงสลับอ่อนแก่
# วรรณะสดใสทั้งของสนิมแดงและไขขาวหรือไขวัวหรือไขปนแดง
(พระเก๊ฯ วรรณะจะสดใสตรงที่ขัดผิว แต่ผิวไม่ได้ขัดจะด้านๆ และเนื้อในของพระเก๊ฯ ดูดีๆจะไม่สดใส ไม่มีวรรณะที่สวยงาม)
# วรรณะความสดใสจะเป็นทั้งเนื้อใน ผิวนอกที่ขัดและไม่ขัด รวมถึงคราบกรุผิวกรุด้วย ดูแล้วจะซึ้งตา ตึงใจจริงๆ
# ในส่วนของสนิมแดงนั้นจะแดงสวยงาม มีวรรณะสีแดงสลับอ่อนแก่ ไม่เป็นสีเดียวกันตลอดทั้งองค์ มีสีแดงอ่อนบ้างแก่บ้างสลับกันไปตามธรรมชาติ ( พระกรุเดียวกันแต่คนละองค์สนิมไม่เหมือนกันก็ได้ ในองค์เดียวกันสนิมอาจจะไม่เหมือนกันทั้งองค์ได้ ด้านหน้ากับหลังสนิมแดงไม่เหมือนกันพบได้บ่อย)
# ในส่วนของจุดที่สนิมแดงปนไข ในจุดนั้นจะมีสีแดงสลับขาวหรือแดงปนไขขาว สลับอ่อนแก่สวยงาม สีสนิมจะรวมกันเป็นชั้นสวยงาม
.....สังเกตุให้ดีถ้าตำแหน่งของสนิมของพระสององค์เหมือนกัน โดยเฉพาะการยุบ นูนเหมือนกันเลย จุดที่มีไขมีสนิม เหมือนกัน ให้ระวัง โอกาสแท้สององค์แทบไม่มี........
B-3 พระสนิมแดงของแท้
เนื้อสนิมแดงของพระจะต้องมีสนิมไข(ไขขาวหรือไขวัว) มีลักษณะเป็นเม็ดเต่งๆ และสดใสแทรกผสมอยู่ในเนื้อสนิมแดง สนิมไขวัวหรือสนิมไขขาวมีหลายลักษณะทั้งที่เป็นเม็ดๆ (เม็ดเล็กบ้างใหญ่บ้าง) ทั้งที่เป็น ปลื้นๆ (เล็ก-ใหญ่) บ้างก็ปนคราบกรุคุมผิวทั้งองค์ก็มี(เช่นพระกรุสุพรรณบุรี)
เนื้อสนิมแดงต้องมีไขทุกองค์มากน้อยแตกต่างกันไป (ยกเว้นล้างออก แต่การจะล้างจนออกทั้งหมดก็ไม่ง่าย ซึ่งต้องแช่ไว้ แล้วเสี่ยงต่อการเสียพระด้วย โดยเฉพาะตามซอกมุม )
B-4. พระสนิมแดงของแท้ สนิมแดงต้องผุดขึ้นภายในจากภายในเนื้อ (ฝังลึกแทรกลงไปในเนื้อ) และสนิมดันจากออกมาภายนอก
สนิมแดงจะเกิดจากภายในสู่ภายนอกเสมอ(ในทางกลับกันถ้าจากนอกสู่ในจะผิดธรรมชาติ)
.......พระที่มีการแปะ-ปะ-ทาสีหรือมีอะไรที่ผิวไม่ธรรมชาติหรือผิดจากการที่จะทำพุทธบูชา น่าจะระวังให้มากโอกาสแท้น้อย ซึ่งความจริงไม่มีเหตุผลว่าพระแท้จะมีคราบสกปรกๆอยู่ที่ผิว ถ้าเป็นคราบกรุก็คือคราบกรุที่สวยงาม มากกว่าสกปรก.......
รายงานตัวครับ ได้เห็นสนิมไขชัดมากๆครับ
YOU MUST BE LOGGED IN TO REPLY TO THIS TOPIC!