เหรียญปั๊ม มีการสร้างกันมาตั้งแต่ พศ. ๒๔๔๐ เช่นเหรียญพระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศซึ่งค่านิยมสูงมากๆ จากที่พระเครื่องมีราคาสูงมานี่เองทำให้ผู้ทำปลอมมีการพัฒนาแบบชนิดที่เรียกว่า ใกล้เคียงของแท้จริงๆ ยิ่งถ้าพูดถึงตำหนิด้วยแล้วของปลอมปัจจุบันทำได้เหมือนมาก จะต่างก็แต่ความคมชัดของรายละเอียดเช่น ตัวยันต์ ตัวหนังสือ เส้นแตกต่างๆ หรือรอยเจาะหูในเหรียญทีมีหู แต่จุดสำคัญที่สุดที่จะกล่าวถึงในวันนี้คือเรื่อง การพิจารณาขอบข้างของเหรียญครับ
การดูขอบข้างเหรียญเป็นวิธีดูตามหลักของเซียนพระยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นบทสรุปว่า พระองค์นั้นแท้หรือไม่ เพราะขอบข้างเหรียญจะไม่สามารถทำได้เหมือนจริง ผู้ที่จะศึกษาเรื่องเหรียญต้องเข้าใจธรรมชาติของเหรียญที่ทำ เพระเป็นขอบเหรียญจะเกิดจากขั้นตอนการสร้างนั่นเอง
ขอบข้างเหรียญแบ่งเป็นลักษณะรอยขอบ เป็น 3 ลักษณะคือ
1...เหรียญแบบปั๊มข้างเลื่อย......ก็เหมือนกับการปั๊มพระในปัจจุบันแต่จะปั๊มในแผ่นโลหะที่มีขนาดใหญ่กว่าเหรียญ เมื่อปั๊มเสร็จ ก็จะมาเลื่อยฉลุให้เหรียญได้ตามรูปทรงนั้นๆ ( พอดีกรอบ ) เหรียญลักษณะนี้ จะสร้างในยุค ปีพ.ศ. ๒๔๔๐-๒๔๘๕ ( ข้อมูลจากหนังสือคุณบอย ท่าพระจันทร์ ) เหรียญแบบข้างเลื่อยนี้เราจะเห็นรอยเลื่อยอยู่บริเวณขอบเหรียญ ซึ่งเราก็ต้องศึกษาการเลื่อยของเหรียญด้วยประกอบการพิจารณา หากเราทราบว่าเหรียญรุ่นไหนเป็นแบบข้างเลื่อยแล้ว เมื่อเจอเหรียญรุ่นนั้นเป็นแบบอื่น ก็ไม่จำเป็นต้องไปไล่ติหนิอีกให้เสียเวลา เพราะเป็นพระปลอมแน่นอน
2...เหรียญแบบปั๊มข้างกระบอก...(ตีปลอก ) เป็นเทคนิคสมัยก่อน ตัดโลหะให้เป็นรูปทรงตามเหรียญใกล้เเหรียญเป็นบล๊อคแล้วปั๊ม ขอบจึงเรียบ บางเหรียญก็จะมีขอบคม ๆ ปลิ้นมาด้านหลัง เหรียญชนิดนี้จะสร้างในยุค พ.ศ. ๒๔๔๐-๒๔๘๕ เช่นเหรียญมงคลบพิตรปี ๒๔๖๐ เหรียญยอดนิยมอย่างเหรียญขอเบ็ดหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติฯ ก็มีตำหนิธรรมชาติจากการปั๊มตีปลอก
3....เหรียญปั๊มข้างตัด เป็นวิวัฒนาการสมัยใหม่ เกิดในยุคหลัง เนื่องจากการสร้างแบบเลื่อยขอบและปั๊มข้างกระบอกเป็นการทำที่ยุ่งยากเสียเวลา เป็นการใช้เครื่องจักรทีทันสมัย แต่การทำเหรียญแบบนี้ยุคแรกๆ ขอบเหรียญจะมีลักษณะมนๆ ไม่ค่อยมีริ้วรอยมากนักแต่อย่างไรก็ดี หากจำรอยตัดได้ไม่ว่าจะด้านใดด้านหนึ่ง ก็หมดสิทธิ์โดนของเก๊แน่นอนครับ เพราะสมัยนี้เก๊ตำหนิได้ครบแต่ยังเก๊ขอบไม่ได้
รอยข้างขอบเหรียญหรือรอยตัดเป็นตัวยุติปัญหาเก๊แท้ อย่างแม่นยำที่นักสะสมพระเครื่องควรทราบและศึกษา เพราะเรื่องรอยข้างเป็นสิ่งที่เกิดตามธรรมชาติ ดั้งเช่นในเรื่อง ของกองพิสูตรหลักฐานอาชฌากรรมจากปากกระบอกปืน ยังทราบว่าหัวลูกปืนมาจากปากกระบอกปืนกระบอกใดหรือ แม้แต่ต่างประเทศในคดีสำคัญ ๆ ยังยึดถือเอารอยตัดของๆมีคม เป็นหลักฐานสำคัญในการชี้เป็นชี้ตายให้แก่คดีฆาตกรรมมาแล้ว เพราะรอยตัดของมีดแต่ละเล่มจะทิ้งร่อยรอยไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกันกับขอบปั๊มเหรียญจะทิ้งร่องรอยเฉพาะที่ไม่เหมือนกันเช่นกันครับด้วยเหตุนี้ รอยข้างขอบเหรียญ หรือรอยตัด รอยเลื่อย จึงเป็นสิ่งที่นักสะสมควรศึกษา และควรรู้ว่า รุ่นไหนมีการสร้างแบบใด เพราะถ้าเราทราบ การสร้างแบบใดแล้ว หากรอยข้างขอบตัดเหรียญผิดจากเหรียญที่ศึกษามา ก็ไม่จำเป็นต้องดูส่วนอื่นๆ แล้วครับ เพราะเหรียญนั้นเก๊หรือปลอมแน่นอน
อย่างไรก็ดี ผมเห็นว่าเรื่อง รอยข้าขอบเหรียญ เป็นสิ่งที่น่าจะเป็นประโยขน์กับเพื่อนๆ ชาวดีดี จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง และเพื่อเป้นการศึกษา ในส่วนตัวผมก็เริ่มศึกษาเหมือนกัน ยังไม่เก่งอะไร ก็แค่เก็บเล็กผสมน้อย ตามที่มีอยู่ในสมองอันน้อยนิดนี้ โดยต้องขอขอบคุณ หนังสือ คุณบอย ท่าพระจันทร์ด้วย ที่ทำให้ได้ข้อมูลดีๆมาเผยแพร่ให้กับ นักสะสมพระเครื่องรุ่นใหม่ๆ ได้ศึกษาครับ
สวัสดี..........คร๊าบบบบบ
เป็นกระทู้ที่ดีมากครับ คุณพรวศิน มีประโยชน์ต่อเพื่อนสมาชิกมากๆ เพราะปัจจุบัน เทคโนโลยีในการทำเหรียญปั๊มนั้นต้องบอกว่า สุดยอดฝีมือจริงๆ แถมคนทำเหรียญเก๊ ก็เอาตำหนิ ต่างๆจาก หนังสือที่ลงมาแนะนำกันนั่นแหละ ทำตามนั้นเลย เพราะง่ายที่สุด และ ยิงไปในสนามได้ไวที่สุด แต่ตัวตัด หรือกรรมวิธีในการตัดเหรียญ ยังเป็นจุดหนึ่งที่ยังพอช่วยให้แยกแยะ แท้ เก๊ ได้แต่ถ้าเขาพัฒนาได้เมื่อไหร่หล่ะก้อ ตัวใครตัวมันแล้วครับ.
ขออนุญาต เสริม โดยนำรูปภาพลักษณะของเหรียญ ที่คุณพรวศิน ได้อธิบายข้างบน โดยเหรียญแรก(พระแก้วมรกต พ.ศ.2469) เป็นเหรียญที่เรียกว่า เหรียญแบบตีปลอก หรือปั๊มข้างกระบอก มาให้ชมเพิ่มเติมครับ.
เหรียญ หลวงพ่อวงศ์ วัดบ้ายค่าย รุ่น๓ เนื้อเงิน พ.ศ.2478 เป็นเหรียญขอบข้างเลื่อย โดยสังเกตุ ที่บริเวณกนก จะเห็นรอยฉลุ ตามรูปทรงเหรียญ ชัดเจน เพราะของเก๊ จะเป็นแบบเหรียญปั๊ม มีตัวตัดในยุคปัจจุบันครับ.
เยี่ยมครับทั้งคุณพรวศินและคุณหลงครับ
อาจารย์ครับ ผมหรับตาแล้วนึกภาพจะเหมือนกับการเลื่อยฉลุพาสติกเวลาอัดกรอบพระหรือเปล่าครับ และที่ผมเห็นขอบพระแบบเลียบๆไม่มีความคมเหมือนเหรียญทรงผนวชรุ่น บรณะพระเจดีย์วัดบวร50จะเป็นแบบ(ตีปลอก หรือ ปั๊มข้างตัด)ไหนครับช่วยตอบที่ครับผมเริ่มจะศึกษาและสะสมครับ แต่ก็เริ่มจะมีความรู้นิดๆจากการอ่านกระทูของอาจารย์ มีประโยช มหาสาร เลยครับ
ชาติ รถไฟ
จัดไป ได้ความรู้มากมาย
ขอบคุณครับ
ยอดเยี่ยมครับท่านพร
ผมขอเพิ่มเติมอีกหน่อยครับ
การดูรอยตัดข้างเหรียญ เป็นการดูขั้นสุดท้ายที่สรุป เก๊ แท้ ในยุคปัจจุบันนี้แล้ว ตามที่ท่านพร ได้กล่าวไว้ข้างต้น
แต่ก็ยังมีข้อยกเว้น อีกประการหนึ่ง ในการดูรอยตัดขอบข้าง
ขอยกเว้นที่ว่าก็คือ รอยตัดไม่สามารถใช้ได้กับ เหรียญกลม ที่ไม่มีหูเหรียญ เพราะอะไร หรือครับ
ในการปั๊มเหรีญทุกประเภท ที่มีหูเหรียญ เหรียญทุกเหรียญจะถูกบังคับเข้าเครื่องตัด ในตำแหน่งที่หูเหรียญต้องอยู่ด้านบนเพียงตำแหน่งเดียว นั่นทำให้รอยตัดขอบเหรียญของทุกเหรียญ เหมือนกัน
ส่วนการปั๊มเหรียญกลม ที่ไม่มีหูเหรียญ เหรียญสามารถเข้าเครื่องตัดได้ทุกตำแหน่ง ที่เราเรียกันว่า บล็อกหมุน ทำให้รอยตัดของแต่ละเหรียญ อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ตรงกัน แต่ถ้าพิจารณาให้ดี ก็จะมีรอยตัดตรงกันไม่จุดใดก็จุดหนึ่ง
ยกตัวอย่าง เหรียญมหาลาภ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค เป็นเหรียญกลมที่ไม่มีหูเหรียญ ดังนั้นรอยตัดของเหรียญแท้ สองเหรียญ ในตำแหน่งเดียวกันไม่เหมือนกันก็ได้ แต่ถ้าพิจารณาให้ถี่ถ้วน จะเห็นว่ามีรอยตัดเหมือนกัน แต่อาจจะอยู่ต่างจุดกัน
นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ บางสำนักไม่กล้าออกบัตรรับรองให้กับเหรียญรุ่นนี้ ซึ่งทั้งๆที่หากจะพิจารณาให้ถ่องแท้แล้ว เหรียญทุกเหรียญสามารถพิจารณาวินิจฉัย เก๊ แท้ ได้ทุกเหรียญ ครับ
เยี่ยมจริงๆค่ะ
ทั้งพี่พรวศิน และพี่หิมะแดง
นู๋ถามหน่อย เหรียญมหาลาภ หลวงพ่อพรหมที่ดีดีพระ ออกบัตรฯได้หรือไม่คะ
เยี่ยมคั๊บ ชอบความรู้
YOU MUST BE LOGGED IN TO REPLY TO THIS TOPIC!