@@ พระสมเด็จปิลันทร์ ** ครอบแก้วเล็ก ** สภาพสมบูรณ์ไม่หักไม่ซ่อม ใช้รูปอธิบาย พร้อมบัตรรับรองเวป ** ดีดีพระ ** ใครชอบเชิญค่ะ
ชมพระเครื่องสวยดูง่ายพระสมเด็จปิลันทน์ พิมพ์ครอบแก้วเล็ก หรือ พระสมเด็จพระพุทธบาทปิลันทน์ วัดระฆังโฆสิตาราม พระองค์นี้สวยสมบูรณ์แบบ มีคราบไขจากการลงกรุ เป็นคราบไขที่ทำให้ดูง่าย และที่สำคัญคราบไขต้องมันวาวไม่แห้งกระด้างค่านิยมสภาพสวยแบบนี้อยู่ในหลักแสน เป็นพระของคุณอภิศักดิ์ ธนเศรษฐกร
0...พระสมเด็จปิลันทน์ สร้างโดย หม่อมเจ้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( ทัด เสนีวงศ์) ในสมัยที่ท่านดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพุทธุปบาทปิลันทน์ เป็นพระเนื้อผงใบลานเผาส่วนใหญ่วรรณะของพระจึงออกสีเทาอมดำ หรือเขียวอมดำ ปรากฏคราบกรุลักษณะไขขาวเกาะตามพื้นผิว
นอกจากนี้พระเนื้อผงใบลานแล้วยังปรากฏเนื้อขาวอีกจำนวนหนึ่ง พบไม่มากเหมือนเนื้อใบลานและพระที่พบส่วนมากจะลงกรุ แต่ก็มีอีกจำนวนหนึ่งไม่ได้ลงกรุ
0...หม่อมเจ้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( ทัด เสนีวงศ์) ท่านทรงเป็นศิษย์ใกล้ชิดของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สันนิษฐานว่าทรงสร้างพระสมเด็จปิลันทน์ ขึ้นมา เมื่อ พ.ศ.2407 ซึ่งในช่วงนั้นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้ชราภาพมากแล้ว เข้าใจกันว่า หม่อมเจ้าพระพุทธุปบาทปิลันทน์(สมณศักดิ์ขณะนั้น) ได้อาราธนาให้เจ้าประคุณสมเด็จฯ ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกและขอผงวิเศษของเจ้าประคุณสมเด็จฯ มาเป็นมวลสารหลักด้วย
ดังนั้นพระสมเด็จปิลันทน์จึงได้ชื่อว่า พระเครื่องสองสมเด็จ
0...พระสมเด็จปิลันทน์ จัดเป็นพระเนื้อผงที่มีส่วนประกอบสำคัญอยู่ 3 ส่วนได้แก่ ปูนเปลือกหอยเป็นส่วนผสมหลัก,ส่วนผสมของใบลานเผาโดยการนำใบลานมาลงเลขยันต์ต่างๆแล้วนำไปเผาไฟและผงวิเศษตามตำรับเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) คือ ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงตรีนิสิงเห ผงพุทธคุณ ผงมหาราชเป็นต้น
0...พระสมเด็จปิลันทน์ เป็นพระที่มีจำนวนมากพิมพ์และจำแนกพิมพ์ตามความนิยมตามลำดับคือพระพิมพ์ซุ้มประตู , พระพิมพ์ครอบแก้วใหญ่ , พระพิมพ์ครอบแก้วเล็ก , พระพิมพ์เปลวเพลิงใหญ่ , พระพิมพ์เปลวเพลิงกลาง , พระพิมพ์เปลวเพลิงเล็ก , พระพิมพ์สี่เหลี่ยมปรกโพธิ์ใหญ่-กลาง-เล็ก,พระพิมพ์ประทานพร หรือปฐมเทศนา , พระพิมพ์โมคคัลลาน์ - สารีบุตรและพระพิมพ์ปิดตา ด้านพุทธคุณนั้นเน้นเมตตามหานิยมและ แคล้วคลาด คงกระพัน
0...เมื่อท่านสร้างเสร็จแล้วได้บรรจุพระเครื่องเหล่านี้ไว้ในพระเจดีย์องค์หนึ่ง ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพระอุโบสถวัดระฆังฯได้มีการขุดพบครั้งแรกเมื่อปี 2471โดยคนร้ายได้ลักลอบขุดเจาะพระเจดีย์อย่างต่อเนื่อง เมื่อกรุแตกมีคนนำพระไปให้พระธรรมถาวรพิจารณา ท่านจำได้ว่าเป็นพระของหม่อมเจ้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( ทัด เสนีวงศ์) ได้สร้างไว้สมัยยังดำรงตำแหน่ง พระพุทธุปบาทปิลันทน์ทางวัดจึงได้นำพระสมเด็จปิลันทน์บางส่วนมอบให้กระทรวงกลาโหมเพื่อแจกจ่ายให้กับทหารที่ออกรบในศึกกรณีพิพาทอินโดจีนในช่วงนั้น
0...สมเด็จพระพุฒาจารย์ มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าทัด เสนีย์วงศ์ เป็นพระโอรสใน กรมหลวงเสนีย์บริรักษ์ ( พระองค์เจ้าแดง )ใน กรมพระราชวังบวรสถานภิมุข ( วังหลัง ) ประสูติเมื่อปี พ.ศ. 2364ตรงกับวันพุธแรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีมะเมีย ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ,เมื่ออายุครบอุปสมบทในปี พ.ศ. 2385 จึงผนวชเป็นภิกษุที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีสมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ด่อน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาโตเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ผนวชแล้วไปประทับที่วัดระฆังโฆสิตาราม
0...พ.ศ.2413 ได้เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ แทน สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี )ซึ่งชราภาพแล้ว และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังภายหลังที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี )มรณภาพในปีพ.ศ.2415
หม่อมเจ้าสมเด็จพระพุฒาจารย์( ทัด เสนีวงศ์) มรณภาพ เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 7 ปีชวด ตรงกับวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2443
