| หลวงปู่พัว ภุมมสโร ท่านเกิดวันอาทิตย์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๖ ปีกุน พ.ศ.๒๔๕๗ มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๙ รวมอายุ ๔๒ ปี บิดาของท่านมีนามว่า อิน มารดาของท่านมีนามว่า แช่ม นามสกุล กุลทับ เมื่อท่านอายุได้ ๒๙ ปี ได้เข้ารับบรรพชาอุปสมบถที่วัดบางกะพ้อม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โดยมี หลวงพ่อคง ธัมมโชโต เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อบ่าย ธัมมโชโต เป็นพระกรรมวาจา หลวงพ่อรอด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ สมัยที่หลวงปู่พัว ท่านออกจาริกธุดงค์ปฏิบัติธรรมในป่าแถบจังหวัดราชบุรี ในเขตอำเภอปากท่อ ยังมีสถานที่แห่งหนึ่งปัจจุบันมีวัดชื่อว่า สัดสนามสุทธาวาส หรือ วัดเขาหลักไก่ หลวงปู่พัวได้จาริกธุดงค์มาในเขตนี้และในสถานที่นี้เองเกียรติคุณของหลวงปู่พัวได้ปรากฏแก่ผู้คนทั้งหลาย ท่านได้เมตตาอนุเคราะห์ชาวบ้านไว้หลายอย่าง ต่อมาชาวบ้านแถบนี้มีความเคารพนับถือท่าน ได้สร้างรูปปั้นขนาดเท่าคนจริงไว้ประดิษฐานอยู่ในถ้ำวัดสนามสุทธาวาส หรือวัดเขาหลักไก่ เพื่อเป็นอนุสรณ์ความดีที่หลวงปู่พัวมีต่อประชาชนในถิ่นนี้ อันที่จริงรูปปั้นของหลวงปู่พัว ขนาดเท่าคนจริงนั้นมีอยู่สองแห่ง อีกแห่งคือที่ วัดพักตราราม หลวงปู่พัวท่านได้อยู่จำพรรษา ณ ที่นี้หลายปี และได้เมตตาอนุเคราะห์พวกชาวบ้านที่เจ็บป่วยด้วยโรคประหลาด ต้องคุณไสยลมเพลมพัด ถูกคุณถูกของอันเกิดจากผู้มีวิชาอาคมกระทำให้เป็นไป บางทีก็เกิดจากอำนาจเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขาให้เป็นไป หลวงปู่พัวท่านได้ช่วยเหลือชาวบ้านเหล่านั้นด้วยอำนาจพุทธคุณและวิชาอาคมที่ท่านได้เล่าเรียนมาจากครูอาจารย์ บางครั้งก็จะใช้สมุนไพรที่ท่านมีความรู้มาบำบัดรักษาโรคต่างๆ และได้ทำวัตถุมงคลเครื่องรางป้องกันตัวแจกจ่ายให้ชาวบ้านติดตัวไว้เพื่อป้องกันภัยต่างๆ หลวงปู่พัวท่านได้ช่วยปรับปรุงบูรณะพัฒนาวัดสนามสุทธาวาสให้เจริญขึ้น ระยะหลังหลวงปู่พัวท่านเริ่มสุขภาพไม่ค่อยดีจึงเดินทางกลับถิ่นกำเนิดอันเป็นบ้านเกิดของท่าน แล้วจำพรรษาที่ วัดใหม่ตาภักดิ์ หรือวัดพักตราราม ในปัจจุบันนี้ เมื่อพระอธิการช่องมรณภาพ หลวงปู่พัวท่านได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส และในสมัยนี้เองได้มีการสร้างถาวรวัตถุขึ้นมาอีกหลายอย่าง เช่น ศาลาท่าน้ำ ศาลาการเปรียญ อุโบสถไม้สัก สร้างถนน สร้างสุสาน และได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านให้ความอุปถัมภ์เป็นอย่างดี และได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดพักตราราม หรือที่ชาวบ้านสมัยนั้นเรียกว่า วัดหลวงพ่อพัว หลวงปู่พัวท่านมีความเพียรอุตสาหะได้จัดการก่อสร้างพัฒนาวัดเรื่อยมาจนเกิดอาพาธหนักและได้มรณภาพลง เมื่อพ.ศ.๒๔๙๙ ในปัจจุบันนี้ หลวงปู่พัว ยังเป็นที่เคารพนับถือของบรรดาลูกหลาน ศิษยานุศิษย์ทั้งใกล้และไกลที่รู้เกียรติคุณความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน มาบูชาขอพึ่งบารมีที่รูปปั้นของท่าน ซึ่งส่วนมากก็จะสำเร็จผลดังปรารถนา |
เหลือเวลา
รายการปิดแล้ว!
