ประวัติหลวงปู่ละมัย ฐิตมโนสำนักสวนป่าสมุนไพร จ.เพชรบูรณ์
เป็นพระอริยะสงฆ์ที่ควรเคารพบูชาอย่างสูงยิ่ง ไม่สามารถหาหลักฐานใดๆของทางราชการมายืนยันได้ว่าท่านเกิดปีใด พบเพียงข้อมูลจากหนังสือบทสวดมนต์ของวัดคีรีบัววนาราม ตำบลเขาน้อย อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี โดยพระครูปัญญาวุธากร(เจ้าอาวาส) ท่านได้บันทึกไว้ว่า ในหนังสือสุทธิของหลวงปู่ละมัย ท่านเกิดปี พ.ศ. ๒๔๐๓ ที่บ้านกระสัง ตำบลเย้ยปราสาท อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์(ปัจจุบันเป็นอำเภอหนองกี่) อายุ ๔ ขวบ โยมบิดามารดาพาอพยพไปอยู่ที่จังหวัดพระตระบอง ประเทศกัมพูชา เมื่ออายุ ๑๔ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรจากนั้นมาจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๔๓ ท่านก็ได้บวชเป็นพระในจังหวัดพระตระบอง ประเทศกัมพูชา และในช่วงปี พ.ศ.๒๕๐๓ - ๒๕๐๔ หลวงปู่ละมัยท่านได้ย้ายกลับมาอยู่ที่เมืองไทย ที่จังหวัดจันทบุรี ในปี พ.ศ.๒๕๐๔ ท่านได้บรรจุเป็นพระไทย ซึ่งตอนนั้นท่านอายุได้ ๑๐๑ ปีหลวงปู่ละมัยท่านเป็นพระผู้ทรงอภิญญาองค์หนึ่ง ในดินแดนพระพุทธศาสนาไม่มีที่ไหนที่ท่านไม่เคยไป หลวงปู่ท่านเคยบอกว่า ท่านอยู่ในประเทศเขมร ๓๐ ปี ประเทศลาว ๓๐ ปี และในประเทศไทยมากกว่า ๓๐ ปี เคยเดินธุดงค์ด้วยเท้าเปล่าไปถึงประเทศศรีลังกา ได้สรรพวิชาต่างๆมามากมายหลวงปู่ละมัยท่านสำเร็จวิชาการหุงปรอท อานุภาพปรอทสำเร็จของท่าน พระเกจิอาจารย์หลายองค์ต่างยกย่องว่ามีพลังงานมหาศาล พุทธานุภาพของพระปรอทของท่านนั้นมีประสบการณ์มากมาย ทั้งด้านแคล้วคลาด คงกระพันและเมตตามหานิยม หลวงปู่ท่านมีเมตตามาก ช่วยเหลือลูกศิษย์ลูกหาด้วยปรอทและยาสมุนไพรต่างๆหลวงปู่ละมัยท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล พระอริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญาแห่งวัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ โดยท่านได้ร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลหลายๆรุ่นของหลวงปู่หมุน อาทิ รุ่นเสาร์ห้าบูชาครู รุ่นไตรมาสรวยทันใจ เป็นต้น หลวงปู่หมุนจะเรียกหลวงปู่ละมัยว่า "ท่านใหญ่" และทุกครั้งที่ทำพิธีเดียวกัน ท่านจะอาราธนาท่านใหญ่ก่อนเสมอหลวงปู่ละมัยท่านมีคุณธรรมขั้นสูง เปี่ยมล้นด้วยเมตตา บารมี พระเกจิดังหลายองค์เดินทางไปกราบท่าน เช่น หลวงพ่อรวย วัดตะโก,หลวงปู่นะ วัดหนองบัว,หลวงพ่อบุญลือ วัดคำหยาด,หลวงปู่เปรี่ยม วัดกำแพง เป็นต้นหลวงปู่ละมัยท่านได้เป็นองค์อุปภัมป์และสร้างวัดขึ้นหลายแห่ง เช่น สร้างพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี วัดแดนคงคาวนาราม จ.ชัยภูมิ วัดโคกว่านใหม่ อ.ละหารทราย จ.บุรีรัมย์ ที่ อ.มะขาม อ.โป่งน้ำร้อน วัดป่าตง วัดตามูล วัดเขาสะงอ ที่ อ.คลองหาด วัดเขาฉกรรจ์ ที่ จ.ปราจีนบุรี สร้างวัดทุ่งกบินท์ จันตคาม วัดทุ่งโพธิ์ วัดนาคี ที่ อ.ปากช่อง วัดถ้ำพระธาตุ วัดถ้ำไก่แจ้ในบั้นปลายหลวงปู่ท่านย้ายมาอยู่วัดโพธิ์เย็น อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ได้ ๖ - ๗ ปี แล้วจึงมาสร้าง "สำนักสวนป่าสมุนไพรคีรีนามทาสุขาวดี" เพื่อปลูกสมุนไพรและเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมหลวงปู่ละมัยท่านมรณภาพเมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔ สิริรวมอายุได้ ๑๕๑ ปี เวลาประมาณ ๐๑.๕๐ น. ระหว่างเข้าสมาธิจิตที่มา : หนังสือรวมวัตถุมงคลหลวงปู่ละมัย: เอกสารวัดบ้านโคกว่านใหม่วัดแดนคงคาวนาราม นี้หลวงปู่บุญมา เจ้าอาวาส ท่านได้เคยธุดงค์ไปในประเทศต่างๆของแหลมอินโดจีนนี้มาอย่างทะลุปรุโปร่ง และได้พบกับหลวงปู่ละมัยในป่า ได้รับการสั่งสอนอบรมสมาธิจิต วิชา คาถาอาคมต่างๆพอสมควร จึงกราบลาหลวงปู่ออกธดงค์ต่อไป และเมื่อผ่านไปยังประเทศอินเดีย ก็ได้รับพระบรมสารีริกธาตุมาด้วย และท่านก็ได้นำมาเก็บรักษาไว้ ณ วัดแดนคงคาวนาราม ลุถึงปีพ.ศ.๒๕๔๕ หลวงปู่บุญมา อายุได้ ๑๐๘ ปี มีความต้องการที่จะสร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้น เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แต่ก็เกรงว่าจะไม่สำเร็จ จึงปรึกษากับเหล่าศิษยานุศิษย์ และได้ทราบว่า หลวงปู่ละมัย ยังดำรงขันธ์อยู่ จึงให้คณะศิษย์ ไปกราบอาราธนานิมนต์พระเดชพระคุณหลวงปู่ละมัยมาเป็นประธาน ซึ่งท่านก็รับนิมนต์จนการก่อสร้างสำเร็จ และยกฉัตรไปแล้วเมื่อปีพ.ศ.2552หลวงปู่บุญมาได้บอกกับลูกศิษย์ว่า "หลวงปู่(ละมัย)เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่(บุญมา)นะ เคยพบกับท่านตอนธุดงค์ ตอนนั้นเราอายุ 15 ปีได้ ท่านจะเป็นผู้ที่สร้างพระธาตุสำเร็จ เพราะท่านมีบารมีมาก" หลังจากหลวงปู่ละมัยรับนิมนต์ได้ไม่นาน หลวงปู่บุญมาก็มรณภาพลงวัตถุมงคลของหลวงปู่ละมัย ที่เด่นๆคือพระปรอท และแม่ซื้อประจำวันครับที่มา : ข้อความบางตอนจากเพื่อนสมาชิกเว็ปจี#บางคำจากพระอริยสงฆ์ที่กล่าวถึงหลวงปู่ละมัย"พระของท่านมีค่ามากกว่าทองและมีพุทธคุณครอบจักรวาล"หลวงพ่อรวย วัดตะโก อยุธยา"ท่านใหญ่ ท่านมีบารมีมาก ทุกพิธีเกี่ยวกับฉันต้องอาราธนาท่านทุกครั้ง"หลวงปู่หมุนวัดบ้านจาน"หลวงปู่ท่านศักดิ์สิทธิ์มาก เพียงแค่เศษชานหมาก หรือก้อนหินที่หลวงปู่ลูบคลำ ล้วนทรงคุณค่ามากล้น"หลวงพ่อบุญลือ พระทรงอภิญญาใหญ่แห่งวัดคำหยาดอ่างทอง"ฉันยังต้องไปกราบท่านเลย และขอบารมีจากท่าน"หลวงปู่นะ วัดหนองบัว"จะหาพระแบบหลวงปู่ละมัย ไม่ได้แล้วนะ"หลวงปู่สุภา"พระแบบนี้ นานๆ จะออกมาโปรดพวกเราสักที ท่านเป็นผู้ใหญ่ พระโบราณ ตักตวงเข้านะ"หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน"ท่านเป็นพระโบราณ มีความศักดิ์สิทธิ์มากนะ"หลวงปู่จิต"ท่านเป็นอาจารย์ของฉันตั้งแต่สมัยฉันเป็นเณร ท่านเก่งมาก ถ้าฉันตายไปแล้ว ให้ไปหาไปกราบเอาธรรมจากท่านให้ได้ ท่านอยู่ที่เพชรบูรณ์"หลวงปู่บุญมา วัดแดนคงคาราม สั่งศิษย์ไว้ให้ไปหาหลวงปู่ละมัย"จิตท่านไปไกลมาก นั่นคือดวงธรรมแห่งพุทธะที่หนึ่งเดียว"หลวงปู่เที่ยงธรรม"ท่านใหญ่ ท่านบารมีมากหลายเด้อ"หลวงปู่คำน้อย"ท่านยังอยู่หรือนี่ ท่านเคยเป็นอาจารย์ฉันมาก่อน ท่านเก่งรอบด้าน ทุกอย่างเลย ฉันยังต้องเรียนจากท่านเลย"หลวงปู่กลอย เขาหินที่มา : เว็ปกาหลง.คอม#จากใจแอดมินเมื่อครั้งที่หลวงปู่ละมัยท่านยังดำรงค์ธาตุขันธ์อยู่นั้น ได้มีโอกาสได้เห็นท่านตัวเป็นๆ เพียงครั้งเดียว คือวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๔ ในงานพพิธีพุทธาพิเษกวัตถุมงคลรุ่น เสาร์ห้าอจินตรัยรวยทันตา ณ วิหารพระแก้วมรกต วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว เนื่องจากครั้งนั้นแอดมินเป็นผู้ประสานงานจัดสร้างวัตถุมงคลชื่อ "พระชัยไพรีพินาศเพชรกลับชนะมารรุ่นบูชาครู ๕๔" ของครูบาโฮม วัดป่าโนนตะคร้อ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ เอาเข้าเสกในพิธีรวยทันตานั้นด้วย ซึ่งเมื่อถึงเวลาพุทธาภิเษกแล้วหลวงปู่ละมัยก็ยังไม่มาถึงในมณฑลพิธี ทุกคนในที่นั้นต่างรอ แล้วก็รอแล้วรออีก ผมเองขับรถจาก อ.นาโพธิ์ตอนเวลาตีสอง ขับเส้นทางข้ามช่องเขาช่วง อ.โนนดินแดง มาถึงวัดป่าหนองหล่มก็พอดีเช้า ง่วงสุดง่วง ในใจก็คิดว่า "หลวงตาเฒ่าผู้นี้เป็นใครกันหรือ ถึงได้ให้ผู้คนตั้งมากมายเขาเฝ้ารอกันนัก" เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปจวบจนบ่าย หลวงปู่ละมัยก็มาถึงงานพิธี ทุกอย่างก็แลว่าราบรื่นปกติดี แต่เมื่อครั้นเสร็จพิธีราวบ่ายห้าโมงเย็น ฝนก็กระหน่ำตกลงมาห่าใหญ่ ซึ่ง ณ เวลานั้นวันที่ 23 เมษายน ก็ยังไม่เข้าสู่ฤดูฝน และวันนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าฝนจะตกเลยแม้แต่น้อย"ไอ้จ่อย!! กูจะไม่ไปงานนิมนต์ของใครอีกแล้วล่ะ" นี่คือคำพูดของหลวงปู่ละมัยกล่าวไว้ในงานพิธี(หลวงพ่อใช้ วัดหนองระกำ จ.ระยอง ยืนยันว่าได้ยินท่านพูดกับพระอาจารย์จ่อย) และซึ่งในปีเดียวกันนั้นท่านก็ได้สั่งให้พระอาจารย์จ่อยไปจำพรรษาด้วยที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนผมกับครูบาโฮมก็ได้เตรียมงานเททองหล่อพระที่สำนักวัดป่าโนนตะคร้อ จ.บุรีรัมย์ กำหนดการคือวันที่ 1 เมษายน 2555 ครูบาโฮมท่านก็ได้โทรศัพท์ไปคุยกับพระอาจารย์จ่อยเพื่อให้นิมนต์หลวงปู่ละมัยมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการเททองหล่อพระนั้น ซึ่งครูบาโฮมก็ได้บอกกับผมว่าหลวงปู่ละมัยรับนิมนต์แล้ว "หลวงปู่ท่านว่าจะไม่ไปงานใครแล้วนี่ครับ" ผมพูดแย้งกับครูบาโฮมจนครั้นเมื่อเวลาล่วงเลยมาเช้ามืดของวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๔ ครูบาโฮมก็โทรศัพท์มาถามผมตอนเช้ามืดว่า " ได้ข่าวไหม หลวงปู่ละมัยละสังขารแล้วนะ เมื่อเวลาตีหนึ่งกว่าๆ" ผมนี่สุดอึ้งเลย เพราะท่านบอกว่าจะไม่ไปงานใครอีกแล้ว และเมื่อนึกถึงคนที่เคยเข้าไปหาหลวงปู่ละมัย บอกว่าเห็นหลวงปู่ท่านเขียนเลข ๗ เลข ๘ ไว้ในวัดหลายที่เลย บ้างก็ตีเป็นหวย บ้างก็มาตีเป็นปริศนาธรรา ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว หลวงปู่ท่านล่วงรู้วันปลงวางสังขารของท่านคือวันที่ ๗ ต่อเข้าสู่วันที่ ๘ นี่เอง จนวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๔ ผมจึงได้ไปจุดธูปกราบเพื่อบอกกล่าวขอขมาที่ได้คิดปรามาส ล่วงเกินท่านไว้
โอนไวมากๆครับ เลข EMS ครับ EW455886237TH ขอบพระคุณมากๆครับ
ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น