(วัดใจเคาะแรก)สมเด็จกรุวัดกลางคลองข่อย พิมพ์ฐานแซม พร้อมบัตรรับรองสายตรง

     *** วัดนี้มีความเกี่ยวพัน และ ประวัติชัดเจน มีภาพจิตกรรมฝาผนังโบสถ์วัดบางขุนพรหม กทม. ด้วยครับ เริ่มเล่นหาและเป็นที่ยอมรับในงานประกวดแล้วนะครับ ซึ่งในประวัติการค้นพบพระสมเด็จจากวัดกลางคลองข่อยมีอยู่จริง น่าศึกษา ดังนั้นพุทธคุณพระสมเด็จกรุวัดกลางคลองข่อย พุทธคุณบางคนจึงเชื่อว่าไม่ต่างจากสมเด็จวัดระฆังที่ราคาแพงเกินเอื้อมแล้วในปัจจุบัน ผมมีข้อมูลเบื้องต้นจากวัดมาประกอบเพื่อร่วมกันศึกษาครับ

    *** วัดกลาง(คลองข่อย)นี้สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย และในปี พ.ศ.2375 ตรงกับปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 3 สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีเดินทางโดยทางเรือมาพักปักกรดวิปัสสนากรรมฐานอยู่ที่วัดกลางคลองข่อยอยู่ติดกับแม่น้ำแม่กลองหลายปี สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ท่านไปที่ไหนจะสร้างพระโตองค์ใหญ่ไว้ด้วย ที่วัดนี้ก็มีพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตรสูง 13 เมตรเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นมาแต่สมัยนั้นอยู่หน้าโบสถ์หลังเก่าจึงทรุดโทรมตามกาลเวลา ได้มีการบูรณะพระอุโบสถและหลวงพ่อโตยืนอุ้มบาตรถึงสองครั้งในปี 2516 และปี 2557 จึงยังเห็นเค้าโครงพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตรที่เชื่อกันว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์โตท่านมาพักที่นี่และสร้างไว้ให้ผู้คนกราบไหว้เช่นเดียวกับที่วัดอื่นๆ ที่ท่านไปพักมักสร้างพระใหญ่ไว้ด้วย เช่น วัดสะตือ อยุธยาพระนอนองค์ใหญ่ และพระยืนปางอุ้มบาตรองค์นี้มีเค้าโครงเช่นเดียวกับวัดอินทรวิหาร กรุงเทพฯ มีความสูงถึง 13 เมตร แม้แต่ท่านเจ้าคุณเที่ยง เจ้าอาวาสวัดระฆังก็ยังบอกกับพระครูสังฆรักสุเทพ สุเทโวเจ้าอาวาสวัดกลางว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีไปพักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่วัดกลางคลองข่อยแน่นอน การบูรณะอุโบสถและพระพุทธรูปยืนอุ้มบาตรได้พบพระเครื่องพิมพ์สมเด็จและพระพิมพ์อื่นๆอีกหลายพิมพ์ใต้ฐานพระประธานและหลังพระพุทธรูปยืนอุ้มบาตร

ข่าวใน นสพ บ้านเมือง

https://www.banmuang.co.th/mobile/column/golf/5274

*** พิจารณาให้ชอบ ค้นหาข้อมูลก่อนเคาะนะครับ

*** ปัจจุบันได้รับการยอมรับและมีรายการในงานประกวดพระหลายๆงานแล้วครับตามภาพ

*** รับประกันและยึดตามกติกาเวปครับ