ในสมัยรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี ได้จัดงานพระราชพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุอื่นๆ อีก 115 องค์ อัญเชิญประดิษฐานในพลับพลาพิธี ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่รวม 7 วัน 7 คืน ในระหว่างวันที่ 26 ธ.ค.2518-1ม.ค.2519
ถือเป็นงานสมโภชระดับชาติ ที่มีพิธีทางพระพุทธศาสนาและพิธีทางบ้านเมืองไปพร้อมกัน
วันที่ 26 ธันวาคม 2518 ประมุขฝ่ายสงฆ์ นำโดยสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ 17 รูป เฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ทรงสรงพระกรัณฑ์พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรซากปรัก หักพังขององค์พระธาตุพนม
ก่อนเริ่มพระราชพิธี 3 วัน จังหวัดนครพนม โดยนายพิศาล มูลศาสตรสาทร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมในขณะนั้น ได้จัดสร้างเหรียญที่ระลึก "เหรียญสมโภชพระธาตุพนม" กำหนดสร้าง 50,000 เหรียญ แต่บล็อกพิมพ์เกิดแตกเสียก่อน จึงสร้างได้เพียง 37,427 เหรียญ ในจำนวนนี้มีเนื้อเงิน 99 เหรียญ เนื้อทองแดงเจดีย์กลม 500 เหรียญ ที่เหลือเป็นเนื้อทองแดงเจดีย์รูปทรง 8 เหลี่ยม นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่ลานต้นศรีมหาโพธิ์ภายในวัด ปลุกเสกโดยคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมจากสำนักต่างๆ จำนวน 9 รูป หนึ่งในนั้นมี พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระเกจิชื่อดังร่วมในพิธีแผ่เมตตาจิจิต วัตถุประสงค์ตั้งใจจะแจกในงานพระราชพิธีดังกล่าว แต่ภายหลังได้รับความนิยมสูง จึงเปลี่ยนให้เช่าบูชา เพื่อนำปัจจัยมาบูรณะองค์พระธาตุพนม ต่อมาได้สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2522 ด้านหน้าเหรียญ ประดิษฐานพระธาตุพนม มีเปลวรัศมีบริเวณยอดฉัตร นับได้ 24 เปลว ถ้าสังเกตให้ดีบริเวณเปลวรัศมีระหว่างช่องที่ 6-7 เฉพาะเนื้อทองแดงจะพบรอยนูนเป็นตำหนิ ซึ่งมีสาเหตุที่บล็อกเริ่มแตกปริ และพิมพ์ไม่ครบตามจำนวน ด้านหลังมีตัวหนังสือนูนระบุจุดประสงค์ในการสร้างไว เหรียญรุ่นนี้ได้รับการกล่าวขวัญถึงประสบการณ์ เป็นที่นิยมในหมู่ทหาร ตำรวจ ตชด. และ นปข.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสมรภูมิ
ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น