พระเศรษฐีนวโกฎิ" เป็นรูปเคารพแทนมหาเศรษฐีทั้ง ๙ ท่านในสมัยพุทธกาล ท่านเหล่านี้เป็นผู้สร้างคุณประโยชน์อเนกอนันต์ให้แก่พระพุทธศาสนา มีความมั่งคั่งในโภคทรัพย์อยู่ในระดับเดียวกับกษัตริย์ ทั้งยังเป็นสัมมาทิฏฐิ และยังเป็นพุทธอุปฐากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงยกย่องว่า ท่านเหล่านี้เป็นผู้เลิศในการทำทาน และเป็นยอดของมหาเศรษฐีทั้งปวง
มหาเศรษฐีทั้ง ๙ ท่านนี้ ล้วนสำเร็จเป็นพระอริยบุคคลทั้งที่ดำรงเพศฆราวาส ตามตำนานของชาวล้านนา สมัยหนึ่งเกิดทุกข์เข็ญทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง ประชาชนเดือดร้อน บังเกิดความอดอยากขึ้น จึงมีพระภิกษุผู้เป็นอริยะรูปหนึ่งได้แนะนำให้สร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิขึ้น เพื่อสักการะบูชาแก้เคล็ดในความทุกข์ยากทั้งหลาย และเมื่อสร้างและฉลองสำเร็จก็ปรากฏมีเหตุการณ์ปรากฏขึ้นเป็นอัศจรรย์ คือ ความทุกข์ยากอดอยากทั้งหลายได้บรรเทาลงและสงบระงับในที่สุด จึงเป็นคติที่เชื่อถือของชาวล้านนาว่า ถ้าผู้ใดได้บูชาพระเศรษฐีนวโกฏิแล้วจะมีสิริมงคล ทำมาค้าขึ้น ประสบแต่โชคลาภ อยู่เย็นเป็นสุข ด้วยอานิสงส์แห่งบารมีธรรมของพระเศรษฐีนวโกฏิ
พุทธลักษณะของพระเศรษฐีนวโกฏิมี 9 พระพักตร์เรียงกัน ทั้ง ๙ พระพักต์แทนมหาเศรษฐีต่างๆ ทั้ง 9 ท่าน ดังนี้ ๑.ท่านธนันชัยเศรษฐี ๒.ท่านยัสสะเศรษฐี ๓.ท่านสุมานะเศรษฐี ๔.ท่านชะฏิกัสสะเศรษฐี ๕.ท่านอนาถปิณฑิกะเศรษฐี ๖.ท่านเมนฑะกัสสะเศรษฐี ๗.ท่านโชติกะเศรษฐี ๘.ท่านสุมังคะกัสสะเศรษฐี และ ๙.ท่านวิสาขามหาอุบาสิกา
หลวงปู่ผาดได้จัดสร้าง "พระเศรษฐีนวโกฏิ" ปางนั่งสมาธิบนฐานตุ่มเงินตุ่มทอง ใต้ฐานอุดผง เพื่อหวังอานิสงส์ด้านโภคสมบัติโดยเฉพาะ โดยท่านให้ปั้นพระเศรษฐีนวโกฎิ (พระ 9 หน้า หมายถึงทำอะไร คิดสิ่งใด อธิษฐานสิ่งใด 9 หน้าตลอด) ขณะกำลังทรงบาตร อันแสดงถึงพุทธกิจที่อำนวยต่อความอิ่มหนำสำราญ ทั้งมีไหสมบัติ 9 ไห รายล้อมอยู่บริเวณรอบฐานพระ อันแสดงถึงความสมบูรณ์พูนสุข ในทรัพย์สมบัติอย่างที่สุด
ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น