ติดที่2 งานศูนย์ราชการ วัดใจ *-* พระชัยวัฒน์ พระครูสอน ปี2484 วัดมักกะสัน กทม. (แชมป์)

พระชัยวัฒน์พระครูสอนวัดมักกะสัน พิมพ์นิยม พ.ศ. 2484 สภาพสวยมากๆ เดิมๆ ผิวเดิมๆครับ อีกหนึ่ง พระชัยวัฒน์ ยอดนิยม ที่มีประสบการณ์ เรื่องคุ้มครองแคล้วคลาดคงกระพันชาตรี เป็นที่ประจักษ์มาแล้วมากมายจนเป็นตำนานกล่าวขาน เรื่องเหนียว เรื่องคงกระพันชาตรีนั้น พระชัยของพระครูสอนแห่งวัดมักกะสันผู้เป็นศิษย์เอกของท่านเจ้ามานั้น ไม่เป็นสองรองใครครับ นักเลงรุ่นปู่ต่างยอมรับกีนว่าเรื่องคมหอกคมศาสตราวุธ รับรองว่าไม่ได้กินเลือดครับ ทหารที่ไปสงครามนั้นมั่นใจเรียกได้ว่าอาวุธสงครามไม่ระคายผิวกันเลยครับ

วัดมักกะสัน เป็นชื่อเดิมของ "วัดดิสหงษาราม" ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. เมื่อประมาณพ.ศ.๒๔๘๔ เป็นช่วงมหาสงครามเอเชียบูรพา กำลังคุกรุ่น วัดดิสหงษารามจึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลออกแจกจ่ายแก่ทหารที่เตรียมออกรบ ตามคำร้องขอร้องของทางราชการ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ทหารหาญ ตำรวจ และประชาชนที่อยู่ในระหว่างเกิดความวิตกกังวลถึงพิษภัยแห่งสงคราม

            ในช่วงนั้นเอง ได้มีการสร้างวัตถุมงคลกันอย่างมากมายที่สุดเป็นประวัติการณ์ของเมืองไทย โดยบรรดาพระเกจิอาจารย์ดังต่างๆ ได้รับการขอร้องจากทางราชการให้จัดสร้างพระเครื่องรางของขลัง อย่างทั่วถ้วน เพื่อเป็นที่ยึดมั่นทางจิตใจให้สาธุชนได้อุ่นอกอุ่นใจกันนั่นเอง

            พระครูสอน วัดมักกะสัน เป็นลูกศิษย์เอกของ ท่านเจ้ามา (พระพุฒาจารย์มา) วัดสามปลื้ม ปรมจารย์ใหญ่สายพระชัยวัฒน์ของไทยเลยครับ ผู้สร้าง พระกริ่งล้มลุก อันโด่งดังในช่วงสมัยรัชกาลที่ ๕ วัดสามปลื้ม.. ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ทางราชการได้ขอร้อง ให้พระอาจารย์ผู้มีวิทยาคม ได้สร้างวัตถุมงคล เพื่อแจกจ่าย ให้ ข้าราชการและผู้ที่ศรัทธา นำไปบูชาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ และคุ้มครองให้ปลอดภัยจากภยันอันตรายทั้งปวง พระครูสอนจึงได้จัดสร้าง พระชัยวัฒน์ ขึ้นมาแจกจ่ายเป็นครั้งแรก เมื่อพ.ศ.๒๔๘๔ โดยได้เจริญรอยตามท่านเจ้ามา ผู้เป็นพระอาจารย์ ซึ่งจะสังเกตได้จากลักษณะของ พระชัยวัฒน์ ที่ พระครูสอน สร้างจะมีรูปลักษณ์คล้ายกับ พระชัยวัฒน์ของท่านเจ้ามา หากดูลักษณะโดยรวมแล้วจะคล้ายพระชัยวัฒน์ พิมพ์เศียรทุย ของท่านเจ้ามา ผิดกันที่เนื้อหาและรายละเอียดของพิมพ์ทรง ซึ่งพระชัยวัฒน์ของพระครูสอนเป็นพระหล่อโบราณ เนื้อโลหะแก่ทองเหลือง องค์พระประทับนั่งปางสมาธิบนอาสนะฐานเขียง แบ่งออกเป็น ๒ พิมพ์ คือ  พิมพ์หน้าเดียว และ พิมพ์สองหน้า เป็นที่น่าสังเกตว่า พิมพ์สองหน้า ส่วนของฐานล่างจะบาง และแบนกว่าพิมพ์หน้าเดียว พิมพ์หน้าเดียวฐานจะหนากว่า เศียรค่อนข้างใหญ่ พระชัยวัฒน์ ที่หลวงพ่อสอนสร้างขึ้นนี้จะเน้นหนักพุทธคุณไปทางด้านมหาอุตม์ คงกระพันชาตรีเป็นหลัก จนมีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขวัญอย่างกว้างขวาง เอาว่าเหนียวไม่เป็นรองใครครับ ทำให้พระชัยวัฒน์รุ่นนี้ขึ้นอันดับทำเนียบ พระชัยวัฒน์ยอดนิยมพิมพ์หนึ่งของวงการนักสะสมพระเครื่องชนิดหล่อโบราณตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลยครับ...


ครูบาอาจารย์ และผู้ที่นิยมสะสมพระเครื่องในยุคก่อน ได้จัดอันดับพระชัยวัฒน์ยอดนิยมยุคก่อนไว้ดังนี้ (ยุคก่อน2500)
1. พระชัยวัฒน์ หลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง
2. พระชัยวัฒน์ ท่านเจ้ามาวัดสามปลื้ม
3. พระชัยวัฒน์ หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า(หม่อมมิตร)
4. พระชัยวัฒน์ วัดสมเด็จพระสังฆราช(แพ)แห่งวัดสุทัศน์
5. พระชัยวัฒน์ หลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว
6. พระชัยวัฒน์ พระครูลืมวัดอรุณ
7. พระชัยวัฒน์ พระครูสอนวัดมักกะสัน
8. พระชัยวัฒน์ ท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์วัดสุทัศน์ ฯลฯ
ว่ากันว่า ไม่ว่าจะเป็นพระชัยของครูบาอาจารย์ท่านใดใน 8 ท่านที่จัดอันดับมา ก็สามารถแขวนเดี่ยวได้อย่างมั่นใจและสนิทใจได้ในทุกสถานการณ์ เรื่องคุ้มครองแคล้วคลาด คงกระพันชาตรีนั้น มีประสบการณ์ เป็นที่ประจักษ์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน โดยส่วนตัว เขตที่มีการจัดลำดับเรียง ตามนั้นก็น่าจะเป็นไปตาม อายุ การสร้าง พระชัยวัฒน์ ของแต่ละคณาจารย์ด้วยครับ หลายคน งงว่าทำไมไม่มีพระชัยวัฒน์หลวงปู่ทิมวัดละหารไร่และหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี ติดในทำเนียบด้วย เพราะมีค่านิยมสูงมากๆ และมีประสบการณ์ดีเช่นกัน คำตอบก็คือ พระชัย คลองหลวงปู่ทิมและหลวงปู่โต๊ะนั้น สร้างในยุคหลังปี 2500 ครับ เรียกว่าสร้างหลังกว่ากันอยู่หลายสิบปีเลยครับ