เหรียญพระพุทธญาณนเรศวร์ เนื้อทองแดง หลังพระปรมาภิไธย ภปร.และ สก. วัดญาณสังวราราม ชลบุรี ปี 2527 สมเด็จพระญาณสังวร ประธานในพิธีมหาพุทธาภิเษก
เหรียญพระพุทธญาณนเรศวร์ เนื้อทองแดง หลังพระปรมาภิไธย ภปร.และ สก. วัดญาณสังวราราม ชลบุรี ปี 2527 สมเด็จพระญาณสังวร ประธานในพิธีมหาพุทธาภิเษก
ประวัติ สมเด็จพระพุทธญาณนเรศวร์
พระประธานในพระอุโบสถ วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร นับเป็นพระพุทธรูปสำคัญ
พระพุทธปฏิมาประธานประจำอุโบสถ
ได้รับการถวายพระนามว่า " สมเด็จพระพุทธญาณนเรศวร์ " สร้างน้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีขนาดประมาณองค์พระพุทธชินสีห์ในประอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร หน้าพระเพลา 5 ศอก 1 คืบ 7 นิ้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทางเททองหล่อ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2523 ณ บริเวณมณฑลพิธีหน้าพระอุโบสถเก่าคณะรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร
ปฐมบทการจัดสร้างพระพุทธปฏิมาประธานนี้ เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ทรงกอบกู้อิสรภาพสู่สยามประเทศ เป็นที่เคารพ สักการะของปวงชนชาวไทยทั้งแผ่นดิน จึงดำริประดิษฐานองค์พระพุทธปฏิมาให้อยู่บนพื้นแผ่นดิน โดยการต่อท่อบรรจุดินขึ้นมาจนถึงฐานชุกชี เพื่อให้แผ่พระบารมีไปทั่วทั้งแผ่นดิน
นอกจากนี้ ภายในยังได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่จอมพระเกศ และพระพุทธพิมพ์เท่าพระธรรมขันธ์ตามโบราณราชประเพณี โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงถวายพระนามว่า "สมเด็จพระพุทธญาณนเรศวร์"
ความศักดิ์สิทธิ์และปาฏิหาริย์แห่งองค์สมเด็จพระพุทธญาณนเรศวร์ เริ่มมาตั้งแต่การจัดสร้างองค์พระทีเดียว กล่าวคือ ในการ จัดสร้างได้ใช้ต้นแบบจาก พระพุทธชินสีห์ พระประธานในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหารมาเป็นแบบปั้นหุ่น เมื่อตรวจแบบหุ่นขี้ผึ้งเป็นที่เรียบร้อยจึงกำหนดประกอบพระราชพิธีเททอง พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินทรงเททองหล่อ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2523 ณ บริเวณมณฑลพิธีหน้าพระอุโบสถเก่า คณะรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร
ปรากฏว่า...หลังจากถอดพิมพ์พระออก องค์พระที่ได้กลับไม่งดงามดังที่ตั้งใจไว้ เป็นที่กังวลใจของบรรดาคณะกรรมการยิ่งนัก และได้อัญเชิญองค์พระขึ้นไปประดิษ ฐานบนฐานชุกชี เพื่อรอฉลองในวันรุ่งขึ้น
ในเช้าวันรุ่งขึ้น ปาฏิหาริย์ได้บังเกิดจนทุกคนที่เข้าร่วมพิธีต้องตะลึง เมื่อเปิดประตูพระอุโบสถ ปรากฏองค์พระปฏิมางดงามตระการตายิ่งนัก พระพักตร์แสดงถึงพระบารมีแก่กล้าน่าเกรงขาม พระรัศมีเปล่งประกาย ยิ่งเมื่อพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่จอมพระเกศแล้วเสร็จ องค์พระพุทธปฏิมายิ่งฉายแสงแห่งพระบารมีเจิดจ้า
พระเกจิคณาจารย์ผู้ทรงคุณที่เข้าร่วมพิธี ต่างกล่าวว่า เนื่องจากบรรดาพรหมเทพองค์สำคัญๆ ได้อัญเชิญพุทธรัศมีแห่งองค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลงมายังองค์พระปฏิมา รวมทั้งเหล่าเทวดาที่มาลงรักษาองค์พระ สร้างให้มีอานุภาพสูงส่ง จึงบังเกิดความแตกต่างให้ปรากฏราวปาฏิหาริย์
ความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระปฏิมาประธาน "สมเด็จพระพุทธณาณนเรศวร์" นี้ จึงเป็นที่กล่าวขวัญกันว่า ต้องคนดี คิดดี ทำดี เท่านั้น ถึงเข้าไปกราบได้ และเมื่อขอพรสิ่งใดที่เป็นไปโดยปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแล้วก็ จะสำเร็จผลสมดังปรารถนาทุกประการ
คาถาบูชา ตั้งนะโม 3 จบ
"นะมามิ สิระสา พิมพัง พุทธญาณนเรสรัง สัพพะทุกขะ สะเมตารัง สันติทัง สุขะทัง สะทาติฯ"
"ข้าพเจ้าขอนอบน้อมนมัสการด้วยเศียรเกล้า ต่อองค์สมเด็จพระพุทธญาณนเรศวร์ ผู้ทรงบำบัดทุกข์ทั้งปวงอำนวยสันติ และอำนวยสุขทุกเมื่อแล"
คำขอพรพระ
"ขอเทพยดาผู้รักษาพระพุทธรูปศักดิ์ สิทธิ์ หลวงพ่อพระพุทธณาณนเรศวร์ จงรับรู้การกราบสักการะของข้าพเจ้าในครั้งนี้ ขออุทิศบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้สร้างสมมา ข้ามภพ ข้ามชาติ แด่ทวยเทพเทวาผู้รักษา ผู้สถิต ผู้ดูแล พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ หากการอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำเป็นไปโดยชอบด้วยศีลธรรมและกฎหมาย ขอท่านจงประสิทธิ์ประสาทพรให้ข้าพเจ้าสมหวังดังที่มุ่งมาดปรารถนา ขอบุญเก่าจงหนุนนำ กรรมดีจงสานต่อ ให้สำเร็จในสิ่งที่อธิษฐานนับแต่วินาทีนี้สืบไปในเมื่อหน้าเทอญ"
"สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิลาโภ ชะโย นิจจัง ภะวะตุสัมปะทา"
เหลือเวลา
รายการปิดแล้ว!
