"
เหรียญพระแก้วมรกต ปี พ.ศ. 2475 ฉลองกรุงรันโกสินทร์ สุดยดเหรียญดี
พิธีใหญ่ " ที่ลงตีพิมพ์ไวในนิตยสาร "พระคุณ" ปีที่1 ฉบับที่ 9
ของเดือนมกราคม 2555
ที่ท่านเขียนบรรยายเล่าประวัติความเป็นมาของเหรียญนี้ไว้อย่างละเอียดดังต่อไปนี้
หนังสือ - พระคุณ ฉบับที่ 9
คอลัมน์ – บทความพิเศษพระเครื่อง
โดย : พรเทพ เกิดเมืองพระ
เหรียญพระแก้วมรกต ปี พ.ศ.2475 ฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 150 ปี สุดยอดเหรียญดี พิธีใหญ่
เหรียญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
หรือ พระแก้วมรกต ปี พ.ศ.2475 นับเป็นเหรียญดีพิธีใหญ่
ที่มีอายุเก่าแก่พอสมควร เมื่อนับอายุจนถึงปัจจุบัน ประมาณเกือบ 80 ปีแล้ว
ถึงแม้ประวัติการสร้างและพิธีพุทธาภิเษกของเหรียญนี้ยังมิได้บันทึกไว้ชัดเจนนักหากเปรียบเทียบกับการสร้างเหรียญและวัตถุมงคลในพิธีอื่น
ๆ ในยุคสมัยเดียวกัน แต่หากดูจากอายุการสร้างของเหรียญนี้ และ
ราคาเล่นหาสะสมแล้ว นับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะโดยทั่วไป
ไม่ว่าจะเป็นเหรียญที่จัดสร้างเพื่อเป็นระลึก ในมงคลวโรกาส ต่าง ๆ
หรือเหรียญพระพุทธพระเกจิคณาจารย์ทั้งหลาย หากมีอายุการสร้างขนาดนี้
มักจะมีราคาเล่นหาตั้งแต่หลักหมื่นเป็นต้นไปจนหลักแสนหรือทะลุเกินตัวเลข7หลักไปแล้วแทบทั้งสิ้น
แต่สำหรับเหรียญนี้ มีหลายระดับราคาให้เลือกเช่าหาตามกำลังของแต่ละบุคคล
หากเป็นนักสะสมทั่วไป ชอบของดีราคาพอสมน้ำสมเนื้อ พอเล่นหากันได้ตามอัตตภาพ
ก็มีเหรียญ”บล็อกใน” ให้สะสม หากเลือกสภาพแค่พอสวย ก็อยู่แค่หลักพัน
ทั้งนี้เนื่องจากปริมาณของเหรียญมีมากมายพอหมุนเวียนให้พบเห็นได้ไม่ยากนัก
แต่หากอยู่ในกลุ่มนักเล่นนักสะสมประเภท “มือใหญ่ กระเป๋าหนัก รักพระแชมป์
หรือ ต้องหนึ่งเดียวองค์นี้เท่านั้น” ก็มีเหรียญ
“บล็อกนอก”หรือเหรียญเนื้อโลหะสูงค่าอย่างทองคำ หรือ
เงินให้เลือกเช่าหาสะสมตามความพอใจด้วยเช่นกัน
เหรียญพระแก้วมรกต
ปี พ.ศ.2475
เป็นเหรียญที่แจกให้กับผู้ร่วมสมทบทุนในการบูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
เมื่อคราวฉลองพระนครครบ 150 ปี ใน ปี พ.ศ.2470
โดยตามใบแจ้งความของสำนักผู้อำนวยการวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ระบุไว้ว่าเหรียญที่ระลึกชุดนี้
ได้สร้างก่อนการปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดารามครั้งใหญ่
ซึ่งสอดคล้องกันกับข้อมูลที่คุณประชุม กาญจนวัฒน์ บันทึกไว้ในหนังสือ
“ภาพพระเครื่องสี”
ว่าเป็นเหรียญแห่งชาติที่ทางราชการได้จัดสร้างขึ้นโดยสั่งปั๊มจากต่างประเทศจำนวนหนึ่ง
โดยมีการจัดพิธีพุทธาภิเษกด้วย ทั้งนี้
เพื่อเป็นที่ระลึกในงานพระราชพิธีฉัตรมงคล
ในช่วงปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ประมาณการจัดสร้างว่าต้องก่อนปีพุทธศักราช 2468 อันเป็นปีสวรรคต
อย่างแน่นอน และมีการจัดสร้างเพิ่มเติมขึ้นจากเดิมอีกครั้งเป็นจำนวนมาก ใน
ปี พ.ศ.2473 โดยให้ หลายบริษัทช่วยผลิต เพื่อให้ทันตามความต้องการ
สำหรับตอบแทนให้กับผู้ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนบูรณะปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดารามครั้งใหญ่
ในปี พ.ศ.2475
ในการจัดสร้างครั้งต่อมา
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ
ให้สมเด็จพระบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
ทรงเป็นประธานกรรมและมีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ที่อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม
ให้เสร็จสมบูรณ์สง่างามสมกับเป็นพระอารามหลวงในพระบรมมหาราชวัง
และเพื่อให้ทันกับพิธีสมโภชพระนคร ซึ่งจะมีอายุครบ 150 ปี ใน พ.ศ.2475
โดยตั้งงบประมาณ ที่จะต้องใช้ในการปฏิสังขรณ์ไว้สูงถึง 600,000 บาท
ซึ่งพระองค์เองทรงมีพระราชศรัทธา อุทิศพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 200,000 บาท
เป็นทุนเริ่มต้น
คณะรัฐบาลในสมัยนั้นสนองตามพระราชดำริอนุมัติเงินแผ่นดินสมทบทุนร่วมอีก
200,000 บาท สำหรับส่วนที่ยังขาดอยู่ทรงพระราชทานวโรกาส
ที่จะให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร
และไพร่ฟ้าประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสที่จะบำเพ็ญกุศลร่วมกัน
ให้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติจัดพนักงานเรี่ยไร ดำเนินการโฆษณาประกาศบอกบุญ
ปรากฏตามข้อความเชิญชวนในใบปลิว ที่โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจพิมพ์ถวาย เมื่อปี
พ.ศ.2473 ว่า
“.....โดยให้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติจัดพนักงานรับเรี่ยไร
โดยมีใบเสร็จ และ เหรียญพระแก้วตอบแทน เป็นที่ระลึก
ตามชั้นและจำนวนเงินที่บริจาค ดังต่อไปนี้
1. ผู้บริจาค ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป พระราชทานเหรียญพระแก้วทองคำ
2. ผู้บริจาค ตั้งแต่ 20 บาท ขึ้นไป พระราชทานเหรียญพระแก้วเงิน
3. ผู้บริจาค ตั้งแต่ 5 บาท ขึ้นไปพระราชทานเหรียญพระแก้วทองขาว (นิเกิล)
4. ผู้บริจาค ตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป พระราชทานเหรียญพระแก้วทองแดง