ปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์
หินที่ได้รับการถวายจากพญานาคราชนี้ถือเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุลมมี กายสิทธิ์ฝ่ายสัมมาทิฐิเข้าครอง
กายสิทธิ์ คือคำที่ใช้เรียก จิตของผู้ทรงอภิญญาที่ฝึกฝนจิตจนกระทั่งได้ฌาณสมาบัติเมื่อสิ้นอายุขัย แต่ยังต้องการบำเพ็ญเพียรทางจิตต่อไปในโลกมนุษย์ (หรือเพราะต้องทำหน้าที่บางประการ) จึงต้องละจากสังขารเดิมแล้วเข้าอาศัยในบางสิ่ง เช่น รัตนชาติ (กายสิทธิ์ จึงไม่ใช่เทวดา แต่เป็นผู้ทรงอภิญญา)
ธาตุกายสิทธิ์ เป็นธาตุที่มีพลังและอิทธิฤทธิ์ในตัวเองโดยธรรมชาติแบ่ง ออกเป็นหลายประเภทตามธาตุทั้ง 4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลมและธาตุไฟ ธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือ เหล็กไหลซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุดิน มีกายสิทธิ์เข้าไปถือครองส่วนใหญ่จะเป็นกายสิทธิ์ภาคดำ (มิจฉาทิฐิ) จึงมักจะดุร้ายมักจะให้โทษแก้ผู้ถือครองเป็นส่วนใหญ่ นอกจากเหล็กไหลแล้ว กายสิทธิ์อาจถือครองในหินหรือรัตนชาติ (หินที่มีค่า เช่น หินเขี้ยวหนุมาน เพชร เป็นต้น)
ธาตุกายสิทธิ์ จะปรากฏต่อเมื่อมีผู้ทรงคุณวิเศษปฏิบัติ ได้ถึงขั้นกายสิทธิ์ ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต แห่งวัดเทพศิรินทราวาส คือก้อนกรวดใต้น้ำที่ท่านเจ้าคุณนรฯ บอกให้คุณปลัดโกศล หลานชายท่านฯ นำมาจาก อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ห้ามเก็บจากที่อื่นเนื่องจากที่นั่นได้มีพญานาคราชได้ถวายกายสิทธิ์ให้แก่ ท่าน และได้อธิษฐานจิตให้พร้อมทั่งได้อธิบายให้คุณปลัดโกศลฟังว่า "ก้อนกรวด นี้ขลังมาก สามารถที่จะคุ้มครองป้องกันนิวเคลียร์ และป้องกันไฟได้" เป็นของสิ่งแรกที่ท่านได้อธิษฐานจิตโดยการนั่งหันหน้าเข้าหาสิ่งของนั้น เมื่อท่านเจ้าคุณนรรัตน์ท่านจะละสังขารท่านได้เคยบอกกับลูกศิษย์ของท่านไว้ ว่า"ช้างเผือกเกิดขึ้นทางฝั่งโขง สามารถเสกปฐวีธาตุได้เหมือนเฉกเช่นเดียวกับท่าน"
ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ แห่งวัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม คือหินที่อยู่ในน้ำที่ผ่านการเจียรไนจากธรรมชาติเป็นร้อยเป็นพันปี จนใสแสงผ่านได้ เมื่อเอามือไปบังที่ก้อนปฐวีธาตุจะแลเห็นและต้องเป็นหินจากใต้แม่น้ำโขง ณ ตำแหน่งบริเวณที่ท่านได้กำหนดบอกให้ไปเก็บเท่านั้น เนื่องจากพญานาคราชได้ถวายให้ท่านดุจเดียวกัน หินที่ได้รับการถวายจากพญานาคราชนี้ถือเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุลมมี กายสิทธิ์ฝ่ายสัมมาทิฐิเข้าครองซึ่งส่วนใหญ่กายสิทธิ์เหล่านี้จะบรรลุธรรม ขั้นสูงอีกทั้งได้รับการอธิษฐานจิตจากพระเถระเจ้าที่ทรงคุณวิเศษจึงกล่าวได้ ว่ามี อิทธิปาฎิหาริย์ และพุทธานุภาพ เหนือชั้นกว่าเหล็กไหลและให้คุณแก่ผู้ครอบครอง ล้วนแล้วแต่สร้างอภินิหารและประสบการณ์ให้กับผู้บูชานับจำนวนไม่ถ้วนทั้ง เรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน ปลอดภัย โชคลาภ และเมตตามหานิยม นำไปแช่น้ำทำน้ำมนต์แก้คุณไสยได้ ถ้าจะให้ได้ผลดีควรให้ได้สัมผัสไอตัวผู้ใช้ให้มากที่สุด
สำหรับการบูชาปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์ นั้น ท่านว่าถ้าท่านไม่ได้นำติดตัวไปไหนมาไหน หลวงปู่ท่านสั่งว่าให้นำปฐวีฐาตุแช่ลงในน้ำสะอาดซึ่งภาชนะนั้นต้องสะอาดด้วย จากนั้นก็ให้ตั้งบูชาไว้ในที่สูงหรือที่อันควร เพื่อที่จะได้น้ำนั้นเป็นน้ำมนต์ เพื่อจะนำน้ำนั้นมาดื่มกินหรือประพรหมบ้านเรือนก็เป็นมงคลยิ่ง และในวันพระหลวงปู่ท่านให้เอาน้ำอบ น้ำหอมและดอกมะลินำมาใส่บูชา และท่านให้น้อมรำลึกถึงคุณ พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ แล้วตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า "ทิตะทิรา มันทะโล กะสิลา กะละลาสะติโสจะถิโห คะนะตะเน" ท่านให้ว่า 3 จบ แล้วให้น้อมรำลึกถึงหลวงปู่คำพันธ์ หมู่เทพยาดา และพระยานาคที่รักษาปฐวีธาตุอยู่แล้วอธิษฐานเอาในสิ่งที่ปรารถนา ด้วยจิตที่มุ่งมั่นต่อพระรัตนตรัยและเดชานุภาพของปฐวีธาตุจักบันดาลให้เกิด ความสำเร็จในไม่ช้าครับ