เริ่ม 300 พร้อมบัตรรับรอง 1 ใน กลอน 9 เครื่องราง สะท้าน แผ่นดิน แหวนอักขระ วัดหนองบัว ตัวจริงเสียงจริงหายากมาก
เริ่ม 300 พร้อมบัตรรับรอง 1 ใน กลอน 9 เครื่องราง สะท้าน แผ่นดิน แหวนอักขระ วัดหนองบัว ตัวจริงเสียงจริงหายากมาก
สวย ๆ ราคากลางตลาด หลายหมื่นบาทครับ ขนาดใหญ่กว่าเหรียญ 5 นิดหน่อยครับ
แหวนพิรอดเก้ายอดหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว 1 ใน เครื่องรางมงคล ๙ ของเมืองไทย แหวนพิรอดมหามงคล เป็นอิทธิวัตถุมงคล ที่มีฤทธานุภาพสูงสุด สร้างเอาไว้ตามตำรับพิธีตำราโบราณ พิถีพิถันละเอียดปราณีตในการสร้างมาก เป็นสุดยอดแหวนหมายเลข ๑ ของเมืองไทย แหวนอักขระต้องวัดหนองบัว เป็นของมงคลที่อยู่ใน ๙ อย่างที่คนเก่าแก่โบราณพูดกันไว้ว่า... หมากดี ที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลัง วัดนายโรง ไม้ครู คู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบิน วัดหนองโพ พิสมร วัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้าย วัดโตนดหลวง ราหู คู่วัดศรีษะ แหวนอักขระ วัดหนองบัว ลูกแร่ ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน เก้าสิ่งล้วนเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา ติดกายยามยาตรา ภัยมิกล้ามาแผ้วพานฯ เอาของหลักๆในวงการที่หายากมาฝากให้ลูกค้าผู้มีเกียรติทุกท่านได้มีสิทธิ์ไว้ครอบครอง ในราคาที่กำหนดกันเอง ปิดเท่าไหร่จัดส่งทุกราคา
พิธีกรรมการสร้างแหวน
•••••แหวนหลวงปู่ยิ้ม พ่อเฒ่ายิ้ม อาจารย์ใหญ่แห่งวัดหนองบัว จังหวัดกาญจนบุรี
•••••สร้างจากตำราโบราณ เช่นเดียวกันกับกำไลแขนแหวนพิรอดวัดบ้านทวน ตามตำราโบราณบันทึกไว้ว่าทำจากผ้าดิบห่อศพ หรือผ้ามัดตราสังฆ์ เป็นการใช้ผ้าสูตรเดียวกับของหลวงพ่อม่วงแห่งวัดบ้านทวน แต่เอกลักษณ์การขึ้นถักทำรูปแหวนแตกต่างกัน น่าจะมาจากการแลกเปลี่ยนวิชากันของพระเถราจารย์ทั้งสองท่าน เพราะทั้งสองเป็นพระเถราจารย์ร่วมรุ่น ร่วมยุค ร่วมสมัย และโด่งดังเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ทั้งสองท่านถือว่าเป็นที่สุดของ จ.กาญจนบุรี เกี่ยวกับปี พ.ศ. ที่ควรรู้!
•••••“หลวงพ่อม่วงเกิด พ.ศ.๒๓๖๖ , หลวงปู่ยิ้มเกิด พ.ศ.๒๓๘๗” หลวงพ่อม่วงมีอายุมากกว่าหลวงปู่ยิ้ม ๒๑ปี และปีที่หลวงปู่ยิ้มเกิด คือปีที่หลวงพ่อม่วงอุปสมบท คือปี พ.ศ.๒๓๘๗_คนโดยส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดคิดว่าหลวงปู่ยิ้มมีอายุมากกว่าหลวงพ่อม่วง คงเนื่องมาจากคำนำหน้าที่ใช้เรียกตัวท่าน จึงลงปีเกิดมาเพื่อเป็นความรู้เล็กๆมาแบ่งปันกันครับ
•••••หลวงปู่ยิ้ม (๒๓๘๗-๒๔๕๓) วัดหนองบัว พระอมตเถราจารย์แห่งจังหวัดกาญจนบุรี ผู้มีกิตติคุณทางวิปัสสนาธุระและคาถาอาคม อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองบัว (วัดศรีอุปลาราม) ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าที่มีผู้เคารพเลื่อมใสมาก หลวงปู่ยิ้ม เป็นพระเถระผู้เฒ่าแห่งเมืองกาญจนบุรี ที่โด่งดังมาตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ ๕ สมเด็จพระมหาสมณเจ้าทรงตรัสชมเชย ว่า ท่านได้เป็นปรมาจารย์สายแม่กลองที่พระเถระทั่วทั้งสายปรารถนาจะมอบตัวเป็น ศิษย์ ด้วยว่าท่านเชี่ยวชาญในพระเวทย์วิทยาการทุกแขนงแต่บรรดาพระเกจิอาจารย์รูป ต่างๆ ที่ตั้งหน้ามาศึกษาหาความรู้ ต่างก็ต้องผิดหวัง เหตุเพราะว่า หลวงปู่ยิ้ม ท่านจะยิ้มตามชื่อของท่าน และกล่าวว่า_ฉันไม่ค่อยมีเวลานัก ถ้าพวกเธอจะเรียนก็จงนั่งเทียนวิปัสสนาเพ่งเตโชกสิณให้ไส้เทียนขาดเสียก่อน ถ้าทำได้ฉันจะสอนให้ ถ้าทำไม่ได้ก็กลับไปฝึกใหม่! ทั้งนี้เพราะการเรียนวิชากับหลวงปู่ยิ้มนั้น ท่านไม่ได้สอนขั้นเริ่มต้น แต่ท่านสอนผู้ที่เป็นแล้ว เพราะไม่ต้องเสียเวลามาก คำว่า เตโชกสิณ แปลว่า การแสดงถึงความแข็งกล้าแห่งจิต ถ้ามีความแข็งกล้าแห่งจิตแล้วเรียนอะไรก็ไม่ยาก ท่านได้เป็นอาจารย์สอนด้านวิปัสสนาและคาถาอาคมให้แก่พระเถระหลายรูป อาทิ
พระโสภณสมาจารย์ (เหรียญ)
วัดศรีอุปลาราม, พระเทพมงคลรังษี (ดี)
วัดเทวสังฆาราม, พระกาญจนวัตรวิบูลย์ (สอน)
วัดทุ่งลาดหญ้า, พระโสภณสมณกิจ (หัง) วัดเหนือ,
พระราชมงคลวุฒาจารย์ (ใจ) วัดเสด็จ?
จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่พื้นที่ ที่ผมผู้เขียน(วัต ท่าพระจันทร์) เคยคุยและเคยได้ยินมา แต่ผมยังไม่ขอยืนยันว่าถูกต้องชัดเจนแค่ไหนหรือไม่คือลูกศิษย์ สายสมุทรสงคราม นอกจากหลวงปู่ใจ วัดเสด็จแล้ว ยังมี หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม, หลวงพ่อเหมือน วัดกลางบางเหนือ, หลวงพ่อแช่ม วัดจุฬามณี, หลวงพ่อรอด วัดวังน้ำวน, หลวงพ่อรุ่ง วัดหัวกระบือ เป็นต้น และหนึ่งในศิษย์ฆราวาสคนสำคัญของท่าน คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เหตุเพราะกิตติคุณของท่านเป็นที่เลื่องลือไปหลายหัวเมือง ทั้งเจ้านายและข้าราชการผู้ใหญ่ในกรุงเทพฯ อาทิ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งโปรดวิชาไสยศาสตร์ ยังได้เคยเดินทางไปหาท่านที่วัด เลื่อมใสฝากตัวเป็นศิษย์และเคารพนับถือท่านเป็นอาจารย์อีกท่านหนึ่ง ขอเรียนวิชาและได้มีดหมอจากท่านมา ๑ เล่มไว้ใช้เป็นของประจำพระองค์ มีดหมอมีสรรพคุณปราบภูตผีปีศาจ และปราบคนที่อยู่ยงคงกระพัน ไม่ว่าผู้นั้นจะเก่งกาจเพียงไรก็คุ้มไม่ได้ มีติดตัวไว้ยังป้องกันอันตรายและแคล้วคลาด เสด็จในกรมฯ ทรงโปรดมาก ทั้ง ๆ ที่พระองค์ท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท อยู่แล้ว ก็ยังเกรงวิชาของหลวงปู่ยิ้ม และถึงขนาดหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านยังเคยธุดงค์มาจำวัด ที่วัดหนองบัว และได้แลกเปลี่ยนวิชากันกับหลวงปู่ยิ้ม แม้ทุกวันนี้เครื่องรางของขลังของหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าก็ยังคงหลง เหลือให้เห็นอยู่กับคนหนองบัวเมืองกาญฯ
•••••ข้อคิด เคยมีผู้รู้ได้กล่าวไว้ว่าเครื่องรางไม่มีรูปแบบที่ตายตัว แต่จะต้องมี วัฒนธรรม(กลิ่นไอ) ศิลปะ เอกลักษณ์ที่สังเกตได้ ดังนั้นการที่จะได้ข้อยุติในเครื่องรางแต่ละชิ้นแต่ละสำนัก ล้วนแต่จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ที่มีอยู่ เคยจับต้อง เคยพบ เคยเห็นหรือเคยสัมผัสมามากๆ จนบางครั้งจำเป็นต้องถามผู้ใหญ่รุ่นเก่า หรือผู้ที่รู้มากกว่าเรา เพราะความรู้ต่างๆที่ถ่ายทอดกันมา จะได้สืบต่อสานต่อ จากรุ่นสู่รุ่น เมื่อทำได้ดังนี้แล้ว การเล่นหาและสะสมเครื่องรางก็จะเป็นสิ่งที่ๆไม่ยากจนเกินความสามารถอีกต่อ ไป
เครดิตข้อมูล พี่วัต ท่าพระจันทร์
เหลือเวลา
รายการปิดแล้ว!
