หลวงปู่นอง ธัมมโชโต
วัดวังศรีทอง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว
“กสิณไฟ..ขับไล่อวมงคล เศียรฤาษี..บันดาลดลรวยทั้งอำเภอ”
ชาติภูมิ
ท่านเกิดเมื่อพุทธศักราช 2463 เป็นคนพื้นเพจังหวัดลพบุรี โยมบิดามารดาชื่อนายช่วง และนางกลาย ปัจจะชัย มีพี่น้องรวม 8 คน หลวงปู่นองเป็นบุตรคนสุดท้อง โยมบิดามารดามีอาชีพรับจ้างเลี้ยงช้าง โยมมารดามีศักดิ์เป็นน้องสาวของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ บิดาได้นำเด็กชายนองมาฝากไว้กับหลวงลุง คือหลวงพ่อเดิมเป็นผู้ดูแล…
หลวงพ่อเดิมได้ให้เด็กชายนองบรรพชาเป็นสามเณรและอยู่ศึกษาสรรพวิชาต่าง ๆ กับหลวงพ่อเดิม ที่จังหวัดนครสวรรค์ตั้งแต่อายุได้ 12 ปี ราวพุทธศักราช 2475
หลวงพ่อเดิมเริ่มต้นถ่ายทอดพระธรรมวินัยศาสตร์พิธีกรรมต่าง ๆ เช่น หัดให้สวด 7 ตำนาน สวดธรรมจักร เรียนคัมภีร์มหาพุทธาคม ได้แก่เขียนและลบผงอิทธิเจ ปัถมัง มหาราช ตรีนิสิงเห เขียนอักขระเลขยันต์ นะ 108 คาถาหัวใจ 108 คาถาอาคมทางคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม การสร้างวัตถุมงคลต่าง ๆ ด้วยงาช้าง กระดูกช้าง การทำมีดหมอ ให้กับสามเณรนองหลานชายของท่าน ท่านคอยดูแลและแนะนำสามเณรนองมาโดยตลอด แม้เวลาที่หลวงพ่อเดิมไปปฏิบัติพระกรรมฐานในป่าเป็นเวลานาน ๆ ท่านก็จะบอกให้สามเณรนองตามไปด้วย และหลวงพ่อเดิมยังสักยันต์ “นะเมตตา” ให้เณรหลานชายด้วยตัวท่านเอง เป็นประจักษ์พยานติดตัวมาถึงปัจจุบัน
เมื่อเรียนอยู่ได้ 8 ปี สำเร็จวิชาต่าง ๆ มากมาย สามเณรนองจึงขอไปเยี่ยมโยมบิดามารดา ไต่ถามทุกข์สุขและโปรดโยมบิดามารดารวมถึงญาติพี่น้องก่อนออกเดินธุดงค์มุ่ง สร้างความแกร่งกล้าทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงแสวงหาความสงบวิเวกตามป่าเขายังจังหวัดต่าง ๆ เช่น ถ้ำกระบอก ลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย ประเทศพม่า ลาว กัมพูชา ได้ศึกษาเวทมนต์กับพระครูเทวะ พระอาจารย์จอมขมังเวทย์ชาวเขมร
ในระหว่างการเดินทางด้วยเท้าเปล่า ผ่านป่า ผ่านทุ่ง ผ่านภูเขา ผ่านความยากลำบากนานาประการ พระนองได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนวิชาเพิ่มเติมกับพระธุดงค์อีกหลายรูป แล้วท่านก็ออกเดินทางแสวงหาวิชาต่อไป
ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อกบ วัดเขาสาลิกา
ท่านมุ่งหน้าไปฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อกบ วัดเขาสาลิกา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ที่กำลังโด่งดังมากในสมัยนั้น เรื่องนี้ คุณลุงปถม อาจสาคร ปราชญ์ด้านงานเขียนเรื่องพระคณาจารย์และวิทยาคมได้สันนิษฐานว่า หลวงพ่อกบคือหนึ่งในห้าของคณะสงฆ์โลกอุดร ที่มี 1.หลวงปู่ใหญ่ 2.หลวงปู่ตีนโต 3.หลวงปู่โพรงโพธิ์ 4.หลวงพ่อกบ เขาสาลิกา และ 5.หลวงพ่อโอภาสี(ขรัวขี้เถ้า)
หลวงพ่อกบเป็นพระผู้ทรงอภิญญา ดำรงชีวิตแบบเหนือโลก เคยสำแดงปาฏิหาริย์แปลก ๆ ให้ศิษย์ชมหลายครั้ง เช่น ช่วงเช้าเดินบิณฑบาตไปโปรดญาติโยมในกรุงเทพฯ แต่สามารถกลับไปฉันตอนเช้าที่วัดเขาสาลิกาได้ในพริบตาอย่าง
น่าอัศจรรย์ มีลูกศิษย์ในสมัยนั้นยืนยันกันหลายคน หลวงพ่อกบยังมีญาณหยั่งรู้อดีต – ปัจจุบัน – อนาคต ได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
ณ เขาสาลิกาแห่งนี้ท่านได้ศึกษาวิชาต่าง ๆ จากหลวงพ่อกบ พระผู้ทรงอภิญญาเหนือโลก (โลกอุดร) เช่น วิชาการเดินธาตุต่าง ๆ วิชากสิณไฟ การห้ามลมห้ามฝน คัมภีร์ตำรับพระฤาษี คัมภีร์นิมิตเปิดตาที่สามและคัมภีร์โอมวิติตรี
ได้ดีเพราะมีอาจารย์ชื่อ “หลวงพ่อโอภาสี”
เมื่อเรียนวิชาจากหลวงพ่อกบแล้วก็มุ่งหน้ามาศึกษาและแลกเปลี่ยนวิชาเพิ่ม เติมกับหลวงพ่อโอภาสี พระทรงอภิญญาผู้เป็นศิษย์หลวงพ่อกบเช่นกัน ที่อาศรมบางมด ฝั่งธนบุรี ได้อยู่ศึกษาพระกรรมฐาน, คัมภีร์มูลกัจจายน์ และอยู่ปฏิบัติธรรมที่อาศรมบางมดระยะหนึ่ง จนสำเร็จวิชาตามที่ตั้งใจศึกษา
สำหรับหลวงพ่อโอภาสีนี้มีวัตรปฏิบัติไม่เหมือนพระภิกษุธรรมดาทั่วไป เพราะชอบทำอะไรเป็นปริศนาธรรมเสมอ เช่น การเผาสิ่งของอามิสบูชาต่าง ๆ ที่คนนำมาถวาย แสดงถึงการไม่สะสมทรัพย์สินทางโลก และการแผดเผากิเลสทั้งปวง
หลวงพ่อโอภาสีมักพูดเสมอว่า “การที่อาตมาได้เผาสิ่งของอันมีค่าสำหรับท่านทั้งหลายนี้ ก็เพื่อจะให้ท่านทั้งหลายได้ทำใจให้เป็นผู้เสียสละ เป็นผู้ไม่หวงแหน เพราะสมบัตินอกกายทั้งหลาย เมื่อมอดไหม้ไปแล้วก็กลายเป็นเถ้าถ่าน ไม่จีรังยั่งยืน
คุณพี่ท่านนี้โอนไวมากๆครับ EF105297243TH ขอบพระคุณครับ
ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น