" พระกรุวัดจุฬามณี " นับเป็นพระกรุสำคัญของเมืองพระพิษณุโลก ที่มีอายุเก่าแก่ และมีพุทธศิลปะที่เป็นไปตามคติและฝีมือช่างพื้นเมือง
ชื่อ "วัดจุฬามณี" นี้
พบเป็นครั้งแรกในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับกรมพระปรมานุชิตชิโนรส
ปรากฏความว่า "ศักราช 810 ปีมะโรง สัมฤทธิศก สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเจ้า
สร้างพระวิหารวัดจุฬามณี" และ "ศักราช 811 ปีมะเส็ง เอกศก
สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเจ้าทรงผนวช ณ วัดจุฬามณี ได้แปดเดือนแล้วลาผนวช"
ซึ่งไปตรงกับพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับจักรพรรดิพงษ์ (จาด)
แสดงให้เห็นว่า วัดจุฬามณีมีความสำคัญมากในสมัยอยุธยาเรืองอำนาจ
ถึงขนาดพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทรงปฏิสังขรณ์ สร้างโบราณสถานต่างๆ
จนถึงทรงผนวชอยู่นาน 8 เดือน
วัดจุฬามณี ที่เมืองพิษณุโลก
มีศิลาจารึกปรากฏอยู่บริเวณหน้ามณฑป รอยพระพุทธบาทจำลอง
โดยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงโปรดฯ
ให้จารึกไว้ในคราวที่ทรงจำลองรอยพระพุทธบาทที่สระบุรี
ซึ่งค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม มาประดิษฐาน ณ วัดจุฬามณี แห่งนี้
เมื่อจุลศักราช 1180 (พ.ศ.2222) ความว่า "ตีความตามนาม ´จุฬามณี´
นั้นเป็นชื่อของพระมหาเจดีย์จุฬามณี
ตามคติพุทธศาสนาที่เชื่อว่าเป็นมหาเจดีย์ประดิษฐานพระเกศธาตุขององค์สมเด็จ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระมหาเจดีย์นี้ประดิษฐานอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เป็นที่เคารพสักการะของเทพยดาทั้งมวล
ผู้ใดทำกุศลผลบุญอันมหาศาลจะได้ขึ้นไปสักการะองค์พระมหาเจดีย์จุฬามณีนี้”
วัดสำคัญที่เก่าแก่ผ่านยุคผ่านสมัยมาหลายร้อยปีดังเช่น “วัดจุฬามณี”
ย่อมต้องมีพระเครื่องที่มีชื่อเสียงอย่างแน่นอน
ซึ่งได้รับการขนานนามตามชื่อวัดว่า "พระกรุวัดจุฬามณี" หรือบางท่านก็เรียก
"พระกรุน้ำ" เนื่องจากสมัยโบราณวัดจุฬามณีอยู่ริมลำน้ำน่าน
เมื่อผ่านกาลเวลาเนิ่นนาน พระเจดีย์ที่บรรจุพระจึงถูกน้ำกัดเซาะ
ทำให้พระส่วนใหญ่แช่อยู่ในน้ำ
พระกรุวัดจุฬามณี ลักษณะเป็นพระเนื้อดินเผา
สีขององค์พระจึงมีหลายวรรณะ แต่จะมีพุทธลักษณะโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญ
คือ องค์พระมีขนาดเขื่อง ขอบพิมพ์ทรงไม่สู้จะเรียบร้อยนัก
ลักษณะการกดแม่พิมพ์มีทั้งกดด้านหน้าและด้านหลัง
จึงมักจะปรากฏขอบวงนอกของแม่พิมพ์ด้านที่กดพิมพ์หลังปลิ้นขึ้นมาเล็กน้อย
ผิวพื้นด้านที่กดพิมพ์หลังจะเว้าเป็นแอ่งกระทะน้อยๆ
ส่วนด้านที่กดพิมพ์หน้าพื้นผิวจะแอ่นโค้งออก ไม่ปรากฏขอบวงนอกปลิ้นขึ้น
และไม่จำเป็นจะต้องกดด้านใดด้านหนึ่ง
ดังนั้นด้านหน้าอาจจะมีขอบวงแม่พิมพ์ปลิ้นและพื้นเว้า
ส่วนด้านหลังอาจจะไม่มีขอบปลิ้นและแอ่นโค้งก็เป็นได้
เนื่องจากการกดแม่พิมพ์ทั้งสองด้านนี้เอง
ทำให้พระกรุวัดจุฬามณีแบ่งแยกออกเป็นหลายพิมพ์ อาทิ พิมพ์หน้าฤาษี หลังนาง,
พิมพ์หน้าฤาษีเปลวเพลิง หลังนาง, พิมพ์ชินราช หลังนาง, พิมพ์รัศมี
หน้าเดียว และพิมพ์หน้านาง หลังนาง เป็นต้น
จุดสังเกตสำคัญอีกประการหนึ่งของ พระกรุวัดจุฬามณี ก็คือ
องค์พระส่วนใหญ่แช่อยู่ในน้ำ ผิวขององค์พระจะไม่เรียบตึง
จะมีรอยหดเหี่ยวและรูพรุนน้อยๆ บางองค์เห็นเม็ดกรวดทรายอย่างชัดเจน
พระกรุวัดจุฬามณี จังหวัดพิษณุโลก
นับเป็นพระกรุสำคัญของพิษณุโลกที่มีอายุเก่าแก่
และมีพุทธศิลปะที่เป็นไปตามคติและฝีมือช่างพื้นเมือง
ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้เป็นที่นิยมสะสมกันอย่างแพร่หลาย
+++ รับประกันพระแท้ 100 ปี +++
พระเก๊คืนเต็ม100%+ค่าเสียเวลา
+++ การันตีรายการคุณภาพ พระแท้ ดูง่าย +++
+++สวยยยยยงามมมมขั้นเทพ+++
ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น