พระกรุวังมะสะ จ.พิษณุโลก ยุคสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปรากฏในพระราชศรัทธาและกฤษดาภินิหาร ของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
พระมหาวีรราชเจ้าจอมไทย ผู้ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็น พระมหากษัตริย์ ผู้มีพระราชศรัทธาตั้งมั่นในพระพุทธศาสนาอย่างสูงส่งกล่าวกันว่า ทรงสร้าง พระพิมพ์เนื้อดิน กรุวังมะสะ เมืองพิษณุโลก เพื่อแจกแก่ไพร่พลในระหว่างสงครามกอบกู้เอกราชของชาติไทยในพระราชพงศาวดาร ฉบับจักรพรรดิพงศ์ กล่าวว่า หลังชนะศึกเมืองคัง สมเด็จพระนเรศวร ได้เสด็จกลับเมืองพิษณุโลก พร้อมทำการสมโภช ๓ วัน แล้วจึงเสด็จไปเฝ้าพระราชบิดาที่กรุงศรีอยุธยาทรงมีพระราชศรัทธาในสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา เสมือนพระอาจารย์ สมเด็จพระพนรัตน์ ทูลแนะนำให้ทรงสร้างพระมหาเจดีย์ยุทธหัตถี หรือพระชัยมงคลเจดีย์ เฉลิมพระเกียรติยศ ที่ทรงมีชัยชนะเหนือพม่า ณ วัดใหญ่ชัยมงคล (วัดป่าแก้ว) อันเป็นต้นกำเนิดสกุลพระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยาดังนั้นพระเครื่องในยุคที่เกี่ยวข้องและปรากฏในพระราชศรัทธาและกฤษดาภินิหาร ของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จึงมีเพียง 2 กรุ คือกรุวังมะสะกรุวัดใหญ่ชัยมงคลนอกจากนี้ยังปรากฏนามพระกรุนี้เป็นคำขวัญของ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ปัจจุบันดังนี้" พรหมพิรามเมืองพระ วังมะสะพระเครื่อง ลือเลื่องทุ่งสาน ชลประทานเขื่อนนเรศวร หลากล้วนมังคละดนตรี "พระกรุนี้ เป็นพระที่นิยมในพื้นที่และผู้ที่ศึกษาประวัติความเป็นมา ตอนแตกกรุใหม่ปี 2534 ในพื้นที่บริเวณวัดวังมะสะ (ที่ซึ่งเคยเป็นสถานที่รวมพลของสมเด็จพระนเรศวร) ได้มีชาวบ้านในพื้นที่แอบลักลอบขุดออกมาเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันบริเวณที่ขุดพบเป็นพื้นไร่นาของชาวบ้านเกือบหมดแล้ว จึงเหลือเพียงชื่อเสียงที่เล่าขานสืบทอดกันมาปัจจุบันหายากนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสะสมพระ หรือชอบพุทธคุณทางด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตา โชคลาภ