#อีกหนึ่งสุดยอดพุทธศิลป์แห่งยุครัตนโกสินตร์
#พระกรุวัดชนะสงครามเนื้อดินผสมผง พิมพ์ซุ้มเถาวัลย์(อายุราวๆ100กว่าปีค่ะ)
สภาพสวยสมบูรณ์ค่ะ
#ประวัติโดยย่อค่ะ
➡️พระกรุนี้ได้แตกกรุออกมาเมื่อปี 2496 ตามประวัติเท่าที่มีการบันทึกไว้ ท่านเจ้าอาวาสวัดชนะสงครามในขณะนั้น คือท่านเจ้าคุณพระธรรมทัศนาธร (ทองสุก สุทสฺโส) ได้สั่งให้พระครูพิศิษฐ์วิหารการ(ศิริ อตฺตาราโม) พร้อมด้วยพระสงฆ์สามเณรได้ไปตรวจดูสถานที่ไปดูสถานที่บริเวณหมู่เจดีย์น้อยใหญ่ ใกล้ศาลาชี (ปัจจุบันเป็นที่ตั้ง ร.ร.วัดชนะสงคราม) เพราะมีผู้มาแจ้งว่า มีคนร้ายลักขุดและพังทำลายพระเจดีย์ สืบเนื่องจากพระลูกวัดได้ไปสำรวจพบร่องรอยการลักลอบขุดจนพระเจดีย์องค์เล็กเสียหาย คนร้ายล้วงเอาของมีค่าที่บรรจุไว้ในพระเจดีย์ไปเกือบหมดสิ้น พระที่พวกเหล่าร้ายทิ้งหลงเหลืออยู่บ้าง มีพระกรุแบบวัดตะไกรหน้าครุฑ พระโคนสมอแบบอยุธยา พระทรงเทริด (พระงั่ง)ฯลฯ
➡️พระกรุนี้เป็นพระเนื้อดิน ส่วนใหญ่สีดำ มีบ้างเป็นส่วนน้อยที่เป็นสำน้ำตาลอมสมแดง แบบสีหม้อใหม่ ทำให้ผู้คนสับสนเข้าใจว่าพระที่มีสีดำเป็นพระเนื้อดินผสมใบลาน แท้ที่จริงแล้วพระกรุนี้เกือบทั้งหมดเป็นพระเนื้อดินดิบ คำว่า"พระเนื้อดินดิบ" นั้นมิได้หมายความว่าเป็นพระพิมพ์ที่ไม่ได้เผา หากแต่การเผาพระกรุนี้นั้นความร้อนอาจไม่สูงมากพอทำให้พระยังไม่สุกดี ตามปกติสีของพระเนื้อดินที่เผาจนสุกได้ที่จะเป็นสีหม้อใหม่ อมแดงส้ม ทั่่วกันทั้งผิวนอกทั้งเนื้อใน ทำให้มีความแกร่งสูง แต่พระกรุวัดชนะสงครามนี้ ส่วนใหญ่ยังสุมไฟเผาพระพิมพ์ยังไม่สุกได้ที่ ผิวข้างนอกจึงมักเป็นสัดำ เนื้อหาค่อนข้างเปราะหากเทียบกับพระเนื้อดินกรุอื่น ๆ สีของเนื้อพระที่บิ่นแตกหัก ภายในจะเป็นสีอิฐ หรือสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งเป็นหลักการพิจารณาขั้นต้น ที่เซียนพระรุ่นเก่าที่สอนกันมา ว่า ถ้าส่องแล้วเห็น "ดำทั้งนอกทั้งใน" แล้วละก็วางได้เลย นอกเหนือจากนั้นพิมพ์พระต้องถูกต้องสวยงามคมชัด
➡️ในด้านพุทธคุณนั้นเรียกว่าครอบจักรวาล ทั้งชื่อที่เป็นมงคล เป็นมหาอำนาจ แคล้วคลาดคงกระพันครบสูตร เคยมีตำรวจของ สน.ชนะสงคราม ที่ได้รับแจกพระเมื่อครั้งไปช่วยอำนวยความสะดวก ในตอนเปิดกรุ ถูกคนร้ายแทงในขณะปฏิบัติงาน แต่ไม่เข้า โดยขณะนั้นมีเพียงพระกรุวัดชนะสงคราม ติดตัวเพียงองค์เดียว แม้ในปัจจุบันก็ยังมีประสบการณ์ให้เห็นพุทธานุภาพของพระกรุนี้อยู่บ่อยครั้ง