***เริ่ม 20 บาท*** เหรียญพระไพรีพินาศ หลังพระยันต์อริยสัจจโสฬสมงคล มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว + กล่องเดิม

เหรียญพระไพรีพินาศ หลังพระยันต์อริยสัจจโสฬสมงคล มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ สมาชิกราชสกุลสายรัชกาลที่ ๔ สร้างเหรียญพระสัมพุทธพรรณี เหรียญพระนิรันตราย เหรียญพระสยามเทวาธิราช และวัดบวรนิเวศวิหาร อนุญาตให้สร้างเหรียญพระไพรีพินาศ เพื่อสมนาคุณแก่ผู้ช่วยบริจาคเงิน ก่อตั้งมูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม (UNESCO) องค์การสหประชาชาติได้เทิดทูนในฐานะบุคคลสำคัญของโลก เมื่อพ.ศ.๒๕๔๗ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้กองกษาปณ์จัดทำ และเปิดอนุญาตให้สั่งจองได้ในวันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ณ หอวชิราวุธานุสรณ์ บริเวณหอสมุดแห่งชาติเทเวศน์ เป็นต้นไป และที่ทำการไปรษณีย์ไทยทุกแห่งทั่วประเทศ และศูนย์พระเครื่องชั้นนำทั่วไป

พระไพรีพินาศ

            นับตั้งแต่เจ้าฟ้ามงกุฎฯทรงผนวชเป็นต้นมา ได้มีผู้ไม่หวังดีกลั่นแกล้งต่างๆนานา โดยเจตนาจะไม่ให้ได้รับราชสมบัติ ที่เห็นชัดก็คือ เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ใกล้จะเสด็จสวรรคตมีผู้ไปทูลอ้างรับสั่งให้ไปเฝ้า เมื่อเสด็จไปก็ถูกกักบริเวณให้อยู่ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ถึง ๗ วัน ผู้ที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้วางแผน ก็คือ กรมหลวงรักษ์รณเรศ ซึ่งทำตัวเป็นหัวเรือใหญ่ กีดกันไม่ให้สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎฯได้ราชสมบัติ ท่านผู้นี้เคยแกล้งพระธรรมยุติที่เข้าไปรับบาตรในวัง โดยแกล้งเอาข้าวต้มร้อนๆใส่บาตร บาตรเหล็กถูกของร้อนก็ร้อนไปด้วย พระทนความร้อนไม่ได้ก็ต้องโยนบาตรทิ้ง และกรมหลวงรักษ์รณเรศเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง จนถึงคิดจะเป็นพระเจ้าแผ่นดินเสียเองถ้ารัชกาลที่ ๓ สวรรคต ทั้งยังเคยเจรจามั่นหมายไว้ว่า ถ้ามีวาสนาใหญ่โตจนมีสิทธิ์ขาดในแผ่นดินแล้ว ก็จะทำลายล้างสิ่งที่สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎฯทำไว้จนหมดสิ้น

               เผอิญมีผู้ทำฎีกากล่าวโทษกรมหลวงรักษ์รณเรศด้วยข้อหาร้ายแรงหลายเรื่อง โปรดให้ชำระมีความผิดฉกรรจ์ จึงโปรดให้ลงพระราชอาญาแล้วให้สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทร์ เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๙๑ กล่าวกันว่าในเวลาใกล้เคียงกับที่กรมหลวงรักษ์รณเรศถูกสำเร็จโทษนั้นมีคนอัญเชิญพระพุทธรูปศิลาแบบมหายาน ปางนั่งประทานอภัย มาถวายแด่สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎฯที่วัดบวรนิเวศวิหาร จึงโปรดถวายพระนามว่า “พระไพรีพินาศ” เป็นนิมิตรหมายว่าหมดศัตรูแล้ว ต่อมาเมื่อเสวยราชสมบัติได้ประมาณ ๒ ปี คือพ.ศ. ๒๓๙๖ ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล “ผ่องพ้นไพรี” เนื่องจากทรงหลุดพ้นจากการเบียดเบียนของศัตรูเป็นงานใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงนับถือกันว่า “พระไพรีพินาศ”เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อาจบันดาลให้ศัตรูพ่ายแพ้ไปในที่สุด

พระยันต์อริยสัจจ์โสฬสมงคล

ด้านหลังของเหรียญทั้ง ๔ แบบ มีพระยันต์อริยสัจจ์โสฬสมงคลเหมือนกันหมด และเป็นครั้งแรกที่บรรจุพระคาถาและตัวเลขรวมอยู่ในพระยันต์เดียวกัน พระคาถา “ตะ โย ธะภาณาคะติ เสยยาเญยยา โลกะขะยะปะทัง ระโถภะยาปะโย” นั้นเป็นส่วนหนึ่งของพระคาถาที่บรรจุอยู่ในพระเจดีย์ของพระเจ้าอโศกมหาราชได้ทรงสร้างไว้ ภายหลังโบราณาจารย์ได้ถอดพระคาถาดังกล่าวออกเป็นตัวเลขปรากฎเป็นยันต์โสฬสมงคล เมื่อรวมกับพระคาถาอริยสัจจ์ข้างต้น จึงเรียกว่า “พระยันต์อริยสัจจ์โสฬสมงคล”

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้เจ้าอยู่หัวทรงนับถือยันต์อริยสัจจ์นี้มากได้นำมาจารึกไว้ที่ฐานพระชัยวัฒน์ประจำพระองค์ และโบราณาจารย์นับถือว่าเป็นยันต์ที่มีคุณานุภาพลงในผ้าขาว ผ้าแดง ผูกหัวเสาเมื่อปลูกเรือน กันฟ้า กันไฟ ป้องกันภัยพิบัติอุปัทวันตราย ลงตะกรุดทางอยู่ยงคงกระพันและเมตตา เกิดโภคทรัพย์ลาภผล ซื้อง่ายขายคล่อง ทั้งคุ้มครองป้องกันทุกข์ภัยให้อยู่เย็นเป็นสุข ถือเป็นยอดมหายันต์ที่ศักดิ์สิทธิ์

ยังมีอีกหลายรายการที่น่าสนใจครับ  VIP  VIP  VIP  VIP  VIP  VIP  VIP  VIP  VIP  VIP  VIP  VIP  VIP  VIP 

ขอขอบคุณท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่านมา ณ. โอกาสนี้ ***รับประกันตามกฏเวปทุกประการ***

ขอบคุณครับ