หลวงปู่ญาท่านสวน ปี 2545 รุ่นเมตตามหานิยม เนื้อทองแดงรมดำ วัดนาอุดม จ.อุบลราชธานี สภาพสวย

ปิด สร้างโดย: หงษ์เหนือมังกร  VIP  (4466)

สมเด็จว่านชานหมาก (ว่านอุดมมงคล) ญาท่านสวน วัดนาอุดม จ.อุบลฯ เนื้อว่าน ปี 2538 สภาพสวย ปลุกเสกยาวนานถึง 9 ไตรมาส มีขนาดสูง 3.2 x 2.1 ซ.ม. หลวงปู่ปลุกเสกนานมากถึง ๙ ปี(๓๘-๔๖) หายากมากๆในขณะนี้ มาพร้อมบัตรรับรองพระเครื่อง เพื่อยืนยันความแท้ ไม่มีหัก แต่ง ซ่อม ใดๆทั้งสิ้นพระอาจารย์ชิง ธัมมทินโน เจ้าอาวาสวัดไตรมิตร อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า...... ท่าน(พระอาจารย์ชิง) ได้นำพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ รุ่นปฐวีธาตุ ไปให้หลวงปู่ญาท่านสวนปลุกเสกให้ หลังจากพูดคุยกันสักพักพระอาจารย์ชิง จึงได้นำพระทั้งหมดมาจัดวางไว้ตรงหน้าหลวงปู่ญาท่านสวน พร้อมโยงด้ายสายสิญจน์มาให้หลวงปู่ญาท่านสวนเมื่อ หลวงปู่ฯได้รับสายสิญจน์แล้วท่านจึงมองมาที่วัตถุมงคลทั้งหมดแล้วค่อยๆเข้า สู่สมาธิ พระอาจารย์ชิงเล่าว่า หลวงปู่ญาท่านสวนท่านนั่งนิ่งมาก นิ่งจนขนาดที่ทำให้พระอาจารย์ชิงอยากรู้ว่าหลวงปู่ท่านปลุกเสกอย่างไรพระ อาจารย์ชิงท่านจึงได้เข้าสมาธิเอาจิตตามเข้าไปดูว่าท่านปลุกเสกอย่างไร แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปก็โดนรัศมีของหลวงปู่ญาท่านสวนเหวี่ยงกระเด็นออกมา ท่านจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานขอขมาและขออนุญาตเข้าไปดูใหม่ ก็สามารถดูได้“............. อาตมา ได้เห็นลำแสงพวยพุ่งออกจากฝ่ามือของท่าน แล้ววิ่งไปตามเส้นด้ายสายสิญจน์ สว่างเหมือนลำแสงของหลอดไฟนีออนและวิ่งไปสปาร์คที่กองพระกริ่งพระชัยวัฒน์ เกิดเป็นแสงสว่างไสวมากและคุมอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง ......”หลังเสร็จสิ้นการอธิษฐานจิต หลวงปู่ญาท่านสวนได้มองเล็งมายังท่านพร้อมกับอมยิ้มแล้วพูดกับท่านว่า“เป็นพระหนุ่มนี่ ใจร้อนเน๊อะ...”พระอาจารย์ชิง ท่านได้แต่ยิ้มรับและยังไม่ทันที่จะได้ตอบอะไร หลวงปู่ญาท่านสวนท่านได้พูดกระแทกตรงใจท่านอีกว่า“ถ้าอยากทำเป็น ก็หมั่นฝึกเอาทำเอา ไม่นานเดี๋ยวก็เป็นเอง..”หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร วัดนาอุดมศิษย์เอกพระอาจารย์กัมมัฏฐานแพง วัดสิงหาญ จ.อุบล ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ท่านมีนามเดิมว่า “สวน แสงเขียว” เกิดเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2453ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีจอที่บ้านนาทม ต.คำหว้า อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานีบิดาชื่อ “คูณ” เป็นชาวบ้านสำโรง มารดาชื่อ “ผุย”เป็นชาวบ้านนาทม ประกอบอาชีพทำนา มีพี่น้องท้องเดียวกันรวม 8 คนชีวิตตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยรุ่นเป็นผู้ที่มีจิตใจสุขุมเยือกเย็น มีใจโอบอ้อมอารีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนฝูงและมีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามากกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันเมื่ออายุครบ 20 ปีได้ขอบิดามารดาเข้าอุปสมบทที่วัดนาอุดม (บ้านนาทม) อ.ตาลสุม เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2473โดยมีเจ้าอธิการพรหมมา วัดบ้านระเว ต.ทรายมูล (ปัจจุบัน ต.ระเว) อ.พิบูลมังสาหาร เป็นพระอุปัชฌาย์พระดี เป็นพระกรรมวาจาจารย์พระบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า “ฉนฺทโร”เมื่ออุปสมบทแล้วได้เรียนสวดมนต์และปาติโมกข์อยู่ในสำนักของเจ้าอธิการสวน เจ้าอาวาสวัดนาอุดมในขณะนั้นประมาณ 3 ปีจึงย้ายไปศึกษาต่อเพิ่มเติมที่วัดบ้านนาหว้า อ.ตาลสุม เป็นเวลา 3 เดือนแล้วไปเรียนต่อที่วัดบ้านสำโรงใหญ่ ต.สำโรง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโยมบิดาขณะนั้นมีอาจารย์หม่อน แสงเขียว เป็นเจ้าอาวาสเมื่อ พ.ศ.2478ต่อมาปี พ.ศ.2480 อาจารย์หม่อนได้อาพาธด้วยโรคเหน็บชาและมรณภาพลงพระแก้ว ธมฺมฐิติ ได้รับการแต่งตั้งให้ปกครองวัดสืบแทนเพราะมีอาวุโสที่สุดในช่วงนั้นหลวงปู่สวนได้ช่วยเหลือพระแก้วพัฒนาวัด สร้างศาลาการเปรียญขึ้น แต่ยังไม่สำเร็จพระแก้วได้ลาสิกขาเสียก่อนท่านจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดสำโรงใหญ่แทน และได้สร้างศาลาจนเสร็จลุล่วงในปี พ.ศ.2517 ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์สัญญาบัตรพัดยศที่ พระครูอาทรพัฒนคุณ” ปี พ.ศ.2525เลื่อนสมณศักดิ์จากเจ้าคณะตำบลชั้นตรี เป็นชั้นโท ในราชทินนามเดิมในด้านพระเวทวิทยาคมนั้นได้ร่ำเรียนมาจากสำเร็จลุน และญาท่านกรรมฐานแพง อดีตเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์แห่งลุ่มน้ำโขงโดยท่านได้มองการณ์ไกลไปข้างหน้าว่า พระเวทวิทยาคมที่ท่านศึกษาอยู่นี้จะเป็นประโยชน์มากแก่การทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาและจะได้ช่วยเหลือสงเคราะห์ญาติโยมและผู้เดือดร้อนในอนาคตด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท่านมีความขยันหมั่นเพียรศึกษาทางด้านการเจริญสามธิเพิ่มพูนพลัง จิต ควบคู่กับการเรียนวิชาอาคมต่างๆส่งผลให้ท่านมีความจำแม่นยำเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว มีการทดสอบจากผู้เป็นอาจารย์จนเป็นที่พอใจโดยเฉพาะญาท่านกรรมฐานแพง ได้มีเมตตาถ่ายทอดสุดยอดวิชาและเคล็ดลับต่างๆ ให้ท่านจนหมดสิ้นทั้งนี้ วิชาที่ท่านได้ศึกษากับ 2 ปรมาจารย์ดังคือ การสร้างเครื่องรางของขลังต่างๆเช่น การลงตะกรุด เท่าที่รวบรวมได้มีดังนี้ ตะกรุด 5 กษัตริย์ มีผลทางมหาอุด แคล้วคลาด คงกระพัน,ตะกรุดสายรกพระพุทธเจ้า,ตะกรุดโทน,ตะกรุดกับระเบิด,ตะกรุดอุปคุต,ตะกรุดสาลิกาตอมเหว่,ตะกรุดหนังกลองแตก เป็นสุดยอดของตะกรุดเมตตา,ตะกรุดไก่ขึ้นรถลงรา (มีผลทางด้านเมตตาค้าขายดีนักแล),ตะกรุดเข้าตา ทำจากเงินปากผีเผาวันอังคาร ใส่เข้าใต้เปลือกตาได้เพราะมีขนาดเล็กมาก,ตะกรุดคลอดลูกง่ายนอกจากนี้ ยังมีวิชาการทำผ้ายันต์ เสื้อยันต์ การสร้างลูกปะคำโทน(ลูกอม)สร้างรูปนางกวัก,ปลัดขิก,ราหูอมจันทร์,สีผึ้งมหาเสน่ห์,วิชาการเรียกสูตร ลบผงอิทธิเจ ผงปถมัง และผงวิเศษอื่นๆ,การทำน้ำพระพุทธมนต์ซึ่งมีเคล็ดลับพิสดารมากมาย,วิชาหมากินใจ (หมากินความคิด) เป็นสุดยอดแห่งวิชาเมตตาอีกวิชาหนึ่งและอีกหนึ่งวิชานั่นคือ “การฝังเข็มดำ” ซึ่งเป็นวิชาสุดยอดทางด้านคงกระพัน ป้องกันศาสตราวุธต่างๆซึ่งน้อยคนนักที่จะมีวาสนาได้เรียนและเรียนได้สำเร็จญาท่านสวนเป็นพระเถระผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตาบารมี บุ.ลักษณะของท่านน่าเลื่อมใสศรัทธาใบหน้าเอิบอิ่มยิ้มแย้ม ใครมีทุกข์มาหาจะไม่เคยปฏิเสธ และไม่เลือกชนชั้นวรรณะอีกทั้งยึดมั่นเคารพในพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด มีศีลาจารวัตรงดงามชอบบำเพ็ญกุศล ทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมให้ความเป็นธรรมแก่ศิษยานุศิษย์เพื่อเป็นแบบอย่างแก่ภิกษุสามเณรถือปรนิบัติตามจึงทำให้มีลูกศิษย์จำนวนมาก และปรากฏผลงานการสร้างสรรค์ของท่านอยู่ในหลายสถานที่สำหรับเรื่องพุทธคุณดีทั้งทางเมตตาค้าขาย และแคล้วคลาดปลอดภัย ซึ่งบรรดาลูกศิษย์ลูกหาประสบกันมาอย่างน่าอัศจรรย์เมื่อคราวที่หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร ได้รับกิจนิมนต์ไปร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯเมื่อถึงกำหนดเวลา เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปกราบนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ทุกรูป โดยมีหลวงปู่ญาท่านสวนนั่งอยู่ด้านหน้าเจ้า หน้าที่ได้เดินนำหลวงปู่เข้าไปในพระอุโบสถ พระรูปที่สองที่เดินตามท่านมาก็คือ หลวงปู่ทิม อัตตสันโต วัดพระขาว จ.อยุธยา ซึ่งท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติปฏิบัติชอบที่ได้รับการกล่าวขานจาก ศานุศิษย์ว่าท่านเป็น "เทพเจ้าแห่งความเมตตา"เจ้าหน้าที่ได้จัดอาสนะสำหรับพระที่มาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกที่ระเบียงด้านขวาเมื่อหลวงปู่ญาท่านสวนเดินไปถึงและเจ้าหน้าที่ได้กราบนิมนต์ท่านนั่งหัวแถวรูปแรกแต่ท่านไม่ยอมขึ้น เจ้าหน้าที่กราบนิมนต์ท่านขึ้นนั่ง ๓-๔ ครั้ง ท่านก็ไม่ยอมขึ้น ท่านยืนรอหลวงปู่ทิม ที่เดินตามท่านมาเมื่อหลวงปู่ทิมเดินมาถึง หลวงปู่ญาท่านสวนจึงได้นิมนต์หลวงปู่ทิมขึ้นนั่งหัวแถวก่อน...ส่วนหลวงปู่ทิมท่านก็ไม่ยอมขึ้นนั่ง.. ท่านนิมนต์ให้หลวงปู่ญาท่านสวนขึ้นก่อน...ต่างคนต่างยิ้มให้เกียรติกันและกัน จนในที่สุดหลวงปู่ญาท่านสวนท่านจึงจำใจขึ้นนั่งก่อนและตามด้วยหลวงปู่ทิมเป็นรูปที่สองหลัง จากเสร็จพิธีมหาพุทธาภิเษก ลูกศิษย์ชาวกรุงเทพฯ ได้พากันถามหลวงปู่ทิมว่า "ทำไมหลวงปู่ไม่ขึ้นไปนั่งก่อน..ทำไมถึงให้หลวงปู่รูปนั้นขึ้นไปนั่งก่อน หลวงปู่ ...ไม่รู้ว่าอยู่วัดไหน...พวกกระผมไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้จัก"หลวงปู่ทิมได้เมตตาตอบลูกศิษย์ของท่านว่า " จะให้เราไปนั่งก่อนพระอรหันต์ได้อย่างไรล่ะ ก็ต้องให้ท่านขี้นนั่งก่อนสิ"บัด นี้ลูกศิษย์พวกนั้น คงจะได้ทราบชื่อหลวงปู่รูปนั้นแล้วว่าท่านคือ "หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร" แห่งวัดนาอุดม อำเภอตาลสุม จ.อุบลราชธานี แล้วกระมัง...วันที่ 14 มี.ค. 2549 วงการสงฆ์เมืองอุบลราชธานีได้สูญเสียพระครูอาทรพัฒนคุณหรือที่เรียกขานกันว่า “ญาท่านสวน ฉนฺทโร” เจ้าอาวาสวัดนาอุดม อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานีท่านมรณภาพลงด้วยโรคชราเมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเช้า สิริอายุได้ 95 ปีหลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนแกดท่านกล่าวว่า “ตอนนี้ท่านได้เป็นพระอรหันต์แล้วนะ”แม้แต่เส้นเกศาหรือชานหมาก เมื่อตอนท่านยังไม่ละสังขารก็ยังกลายเป็นพระธาตุท่านเป็นศิษย์สายสำเร็จลุน และญาท่านกรรมฐานแพง 2 ปรมาจารย์ผู้มีพลังจิตอันลึกล้ำมีอิทธิปาฏิหาริย์มากมาย เป็นที่เลื่องลือแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือแถบลุ่มแม่น้ำโขงในอดีต





















































































Read more

เหลือเวลา
รายการปิดแล้ว!

วันที่เริ่ม September 18, 2020 14:55:42
วันที่ปิดประมูล September 19, 2020 23:59:52
ราคาเปิด10
เพิ่มครั้งละ10
ธนาคารออมสิน (บุรีรัมย์) ,

มหาเทพ

ผู้เสนอราคาล่าสุด

200

ราคาล่าสุด


ความคิดเห็นจากผู้ซื้อ


ขอบคุณครับ


มหาเทพOctober 12, 2020 23:40:12

ความคิดเห็นจากผู้ขาย


+1 Auto Feedback


หงษ์เหนือมังกรOctober 20, 2020 00:09:00

รายละเอียดเพิ่มเติม


เหรียญพระพุทธ-คณาจารย์ ปี 2520-2549

เครื่องราง-ล็อกเก็ต

หงษ์เหนือมังกร – September 19, 2020 09:08:13


ความเห็นจากเพื่อนสมาชิก

ประวัติการประมูล

ประวัติการเสนอราคา

ชื่อสมาชิก/วันที่เสนอราคา เสนอ

ประวัติการเสนอราคา

เหลือเวลา
รายการปิดแล้ว!


ต้องการเข้าร่วมประมูล !

ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น