สมเด็จกำแพงแก้ว หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ออกวัดบ้านกล้วย ท่าวุ้ง ลพบุรี ๒๕๐๔

ปิด สร้างโดย: pire2499   (9684)

สมเด็จ กำแพงแก้ว หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ออกวัดบ้านกล้วย ท่าวุ้ง ลพบุรี ๒๕๐๔ ที่เล่นกันเป็นพระของหลวงพ่อจง เพราะท่านมาทำพิธีปลุกเสกและนำพระกลับไปแจกที่วัดท่านเป็น จำนวน มาก ทุกวันนี้คนอยุธยาที่เคารพในตัวท่าน ทราบถึงพุทธคุณและประสบการณ์ของพระรุ่นนี้ มักพากันเดินทางมาหาพระที่วัดบ้านกล้วย ท่าวุ้ง กันเสมอๆครับ ประวัติการสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๔ ตามวันที่ประกอบพิธี นอกนั้นส่วนใหญ่ก็ว่ากันถูกต้องแล้วครับ คือ สร้างขึ้นโดยพระโสภิตธรรมสาสน์ เจ้าอาวาสฯ ในงานหล่อช่อฟ้า และพุทธาภิเสกพระเกตุ พระแก้ว ของวัดรัมภาราม (วัดบ้านกล้วย) ต.ท่าวุ้ง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เมื่อ ๒๕-๓๑ มีนาคม ๒๕๐๔ พร้อมกันนั้นได้สร้างพระสมเด็จกำแพงแก้ว อันลือชื่อและสมเด็จพุทธภูมิ พร้อมกับกริ่งเกตุแก้ว เข้าพิธีปลุกเสกพร้อมกัน ๗ วัน ๗ คืน โดยมีพระอาจารย์ร่วมปลุกเสก ๒๗ รูปรายนามพระคณาจารย์ ที่อาราธนามานั่งปรกปลุกเสก หมุนเวียนกันก็มีอาทิเช่น ๑.) พระเทพสิทธินายก ( หลวงปู่นาค ) วัดระฆัง ๒.) พระครูทักษิณานุกิจ ( หลวงพ่อเงิน ) วัดดอนยายหอม ๓.) พระครูวิริยะกิตติ ( หลวงปู่โต๊ะ ) วัดประดู่ฉิมพลี ๔.) พระครูประสาธน์วิทยาคม ( นอ ) วัดกลางท่าเรือ ๕.) พระครูอาคมสุนทร ( มา ) วัดสุทัศน์ฯ ๖.) พระครูศรีพรหมโสภิต ( แพ ) วัดพิกุลทอง ๗.) พระครูรักขิตวันมุนี ( ถิร ) วัดป่าเลไลย์ ๘.) พระครูนิสิตคุณากร ( กัน ) วัดเขาแก้ว ๙.) หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ๑๐.) หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา ๑๑.) หลวงพ่อซวง วัดชีประขาว ๑๒.) หลวงพ่อชม วัดตลุก ๑๓.) หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ๑๔.) หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ๑๕.) หลวงพ่อมี วัดเขาสมอคอน ๑๖.) หลวงพ่อฉาย วัดป่าธรรมโสภณ ๑๗.) หลวงพ่อผัน วัดพยัคฆาราม ๑๘.) หลวงพ่อดำ วัดเสาธงทอง ๑๙.) หลวงพ่อสาย วัดไลย์ ๒๐.) หลวงพ่อโสภิต วัดรัมภาราม ๒๑.)หลวงพ่อโต๊ะ วัดสระเกตุ ๒๒.)หลวงพ่อโมรา จากประเทศกัมพูชา มาจำพรรษา ณ วัดนิคมฯ ๒๓.)หลวงพ่อโก๊ะ วัดลาดสาลี่ ลพบุรี ๒๔.)หลวงพ่อเก็บ วัดสวนลำใย ชัยนาท ๒๕.)หลวงพ่อทอง วัดเขาจั๊กจั่น ลพบุรี ๒๖.)อาจารย์จรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี ๒๗.)หลวงพ่อไข่ วัดเขาวง นครสวรรค์ มวล สารที่ใช้สร้างสมเด็จกำแพงแก้วประกอบด้วยดิน ๗ กรุ ไคลเสมาของวัดที่มีชื่อลงท้ายว่าแก้ว ๗ วัด ดินสังเวชนียสถานจากอินเดีย ๗ ตำบล ทรายกระถางธูป เกสรดอกไม้ ๗ วัด ใบโพธิ์ตรัสรู้อินเดีย ๗ ต้น พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ตัวอักขระขอ ๗๐ ผูก ผงกษรจากหลวงปู่นาค วัดระฆังฯ ผงพระปิลันทน์ ผงหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ผงตะไบพระพุทธชินราชอินโดจีน ผงหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ผงพระนางพญาของพระอาจารย์ถนอม พิษณุโลก ผงพระกรุสุโขทัย กรุกำแพงเพชร กรุลพบุรี กรุลำพูน กรุพิจิตร ผงของหลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ ผงหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ผงของหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ผงหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ และว่านมงคลต่างๆ พระคาถากำแพงแก้วเจ็ดชั้น ตั้งนะโมสามจบแล้วว่า พุทธัง สัตตะรัตนะมะหาปะการัง สะระนัง คัจฉามิ ธัมมัง สัตตะรัตนะมะหาปะการัง สะระนัง คัจฉามิ สังฆัง สัตตะรัตนะมะหาปะการัง สะระนัง คัจฉามิ สำหรับสวดภาวนา เสมือนมีกำแพงแก้วมหึมาคุ้มกัน แม้อยู่ในถิ่นอันตราย ศัตรูและสัตว์ร้ายไม่อาจทำอะไรได้ กลางคืนให้สวด ๗ จบ แล้วเอาจิต (นึกเห็น) วงรอบบ้านเริ่มจากขวาไปซ้าย เป็นทักษิณาวรรตป้องกันสรรพภัย วิเศษนักแล วันนี้ ขอนำเรื่องหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก มาเล่าสู่กันฟังต่ออีกสักเล็กน้อย เรื่องนี้บันทึกโดยพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ความว่า เมื่อ หลวงพ่อปานแห่งวัดบางนมโคได้มรณภาพไปแล้ว หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านก็แวะมาวัดของหลวงพ่อจงบ่อยขึ้น วันหนึ่ง ขณะที่ท่านกำลังนั่งคุยอยู่กับหลวงพ่อจง ก็พอดีภรรยาของกำนันมากได้มากราบหลวงพ่อจงเพื่อถามถึงสามีของเธอที่ไปธุระ ทางเมืองเหนือ แล้วก็เงียบหายไปทั้ง ๆ ที่ควรจะกลับถึงบ้านหลายวันแล้ว เธอเกรงว่าอาจจะเกิดอันตราย หลวงพ่อจงฟังแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบหนังสือตำราพรหมชาติขึ้นมา เปิดปุ๊บก็อ่านปั๊บ ท่านอ่านว่า สิทธิการิยะ เวลานี้ชาวบ้านเขามาขอดูกำนันมาก ว่าเดินทางไปทำไมจึงยังไม่กลับ แต่วันนี้เป็นวันศุกร์ เป็นมหาฤกษ์ ตามตำราท่านทายว่า เวลานี้กำนันมากเอาเรือมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านแล้ว แล้วท่านก็วางหนังสือลง บอกว่านี่ ตำราเขาบอกว่ากำนันมากน่ะ เอาเรือมาจอดอยู่ที่บ้านแล้วนะ ลองไปดูสิว่าตำราเขาพูดไว้ถูกหรือผิดประการใด เมื่อภรรยาของกำนันมากลาไปแล้ว หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็หยิบหนังสือขึ้นมาดู เพราะแปลกใจว่าตำราที่ไหนจะรู้มากขนาดบอกได้ว่ากำนันมากเอาเรือมาจอดอยู่ที่ หน้าบ้านแล้ว ปรากฏว่าไม่มีในตำรา จึงกราบเรียนถามหลวงพ่อจงว่าตำราเขาไม่ได้เขียนไว้อย่างนั้นนี่นา มันเป็นเรื่องอื่น หลวงพ่อจงท่านก็บอกว่าฉันเป็นคนแก่ สายตาไม่ค่อยดี ตามันเห็นอย่างไรก็อ่านไปอย่างนั้น คุยกับท่านอยู่สักพักใหญ่ ลูกชายกำนันมากก็เข้ามากราบหลวงพ่อจง บอกว่าคุณพ่อกลับมาแล้วขอรับหลังจากคุณแม่มาหาหลวงพ่อประเดี๋ยวเดียวยังไม่ ทันจะกลับ เรื่องนี้ก็เป็นความอัศจรรย์ ส่วนใครจะถามว่าหลวงพ่อจงท่านดูแบบไหน ก็เป็นเรื่องของอภิญญาเท่านั้นที่จะตอบได้ จาก เรื่องจริงอิงนิทาน เล่ม ๑ โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (เล่าเรื่องหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก) หลวงพ่อจงเดินไปวัดบางนมโค ใน สมัยที่หลวงพ่อปานมีชีวิตอยู่ วันนั้นท่านจะทำงานอะไรอาตมาจำไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะฉลองศาลา เป็นงานใหญ่มาก งานที่หลวงพ่อปานจัดไม่มีมหรสพ ปี่พาทย์ก็ไม่มี ท่านบอกว่าท่านหนวกหู แล้วพระอื่นก็มาหมดแล้ว ถึงเวลาบ่าย๓ โมงเย็น พระมาหมด เวลาที่จะลงมือสวดมนต์เย็นก็ประมาณบ่ายสี่โมง หลวงพ่อจงยังไม่มา ท่านก็ให้อาตมาไปตาม นายปั๋งเป็นคนญวนเข้ามารับอาสาเอาเรือเร็วให้นั่งไป เขาเป็นคนขับ เมื่อไปถึงหลวงพ่อจงปรากฏว่าหลวงพ่อจงกำลังจะรดน้ำมนต์ผู้ชาย๕ คน อยู่ที่วัดก็ขึ้นไป เรียนท่านว่า เวลานี้พระที่สวดมนต์เย็นมาครบแล้วครับ หลวงพ่อปานให้มาตาม ท่านก็บอกว่าประเดี๋ยวก่อน ฉันรดน้ำมนต์ก่อนเดี๋ยวฉันไปทัน ก็เลยกราบเรียนถามว่าหลวงพ่อไปเรือจ้างน่ะ ช้าครับ กระผมเอาเรือเร็วมารับ ท่านก็บอกไม่ต้องหรอก ฉันจะเดินไป เรือมันช้ากว่าเดิน แหมแต่ความจริงไปทางเรือไกลกว่าทางเดินประมาณครึ่งเท่า แต่ว่าถ้าจะเดินจริงๆ จากวัดบางนมโคไปวัดหน้าต่างนี้ประมาณ๔ กิโล แล้วเรือวิ่งประมาณ ๑๐ นาทีเศษๆ เดินถ้าเดินจริงๆ ก็ถึงชั่วโมง หรือเกือบชั่วโมง เพราะไม่ใช่มีทาง ต้องเดินลัดทุ่ง เดินไม่ถนัดนัก ท่านก็บอกว่าไม่ไปเรือมันช้า ฉันจะเดิน ก็บอกว่าเรือเร็วขอรับ ท่านบอกว่าเร็วก็สู้ฉันเดินไม่ได้ ไปก่อน ในที่สุดท่านก็ขับให้มา เมื่อท่านขับให้มาก็ต้องกลับ เมื่อกลับมาถึงวัดบางนมโค แล้วก็ขึ้นไปกราบเรียนหลวงพ่อปานบอกว่า หลวงพ่อจงท่านกำลังจะรดน้ำมนต์คนอยู่ นิมนต์ให้ท่านมาเรือท่านก็ไม่มา ท่านจะเดินมา อีกสักครู่ท่านคงจะมาถึง หรืออาจจะเย็นหน่อย เพราะต้องเดินลัดทุ่งมา พอหลวงพ่อปานฟังก็ยิ้ม หัวเราะชอบใจ บอกว่านี่เจ้าลิงดำ หลวงพ่อจงเล่นตลกกับแกเสียแล้วละ แกไปดูบนศาลาซิ ก็เลยกราบท่านแล้วขึ้นไปดูบนศาลา ปรากฏว่าหลวงพ่อจงนั่งอยู่หน้าอาสนสงฆ์ นั่งอยู่หน้าพระองค์อื่นทั้งหมด เพราะท่านมีอาวุโสมาก พวกพระครูพระราชาคณะที่ไปในที่นั้น ไม่มีใครนั่งหน้าหลวงพ่อจง เพราะถืออาวุโสเป็นสำคัญ เว้นไว้แต่เข้าวัง เขาถือพัด พัดยศ ถือยศเป็นสำคัญ แต่ข้างนอกนี่เขาไม่ถือยศเป็นสำคัญ เขาถืออาวุโสเป็นสำคัญ ไปถึงก็กราบๆ ท่านถามว่ามาถึงนานแล้วรึ ก็กราบเรียนท่านว่าพึ่งมาถึงขอรับ ไปหาหลวงพ่อปานสักสองนาทีก็มานี่ ท่านก็เลยบอกว่าฉันบอกแล้วไงล่ะ ว่าไอ้เรือน่ะมันช้ากว่าฉันเดิน เลยมานั่งสงสัยว่าหลวงพ่อจงนี่เดินยังไง คนหนุ่มๆ ยังเดินตั้งชั่วโมง หลวงพ่อจงเดินแบบไหน นั่งเรือไม่ถึง ๑๕ นาที แล้วหลวงพ่อจงก็กำลังจะรดน้ำมนต์เขา ยังไม่ทันจะรดเลย ขณะที่มากำลังทำน้ำมนต์อยู่ กำลังจะรด แต่ว่านั่งเรือเร็วมาท่านมาถึงก่อน นี่แปลกใจ กำลังนั่งคิดอยู่ท่านถามว่าแปลกใจรึ ก็บอกว่าแปลกใจขอรับ ท่านบอกว่ามีอะไรแปลก พระในพระพุทธศาสนาถ้าปฏิบัติไปถึงขั้นเดินเก่งละมันเดินเก่งทุกคนแหละ ถ้าปฏิบัติไม่ถึงมันก็ยังเดินไม่เก่ง เรื่องนี้ขอผ่านไป เรื่องของหลวงพ่อจงที่รู้ๆ มามีมาก แต่เอาแค่หอมปากหอมคอ เอาอีกเรื่องเดียวจบกัน

เหลือเวลา
รายการปิดแล้ว!

วันที่เริ่ม May 15, 2019 08:50:18
วันที่ปิดประมูล May 16, 2019 09:45:52
ราคาเปิด50
เพิ่มครั้งละ50
ธนาคารทหารไทย (เดอะมอลล์3รามคำแหง) , ทหารไทย (เดอะมอลล์3รามคำแหง) , กสิกรไทย (วงเวียนสระแก้วลพบุรี) ,

[email protected]

ผู้เสนอราคาล่าสุด

250

ราคาล่าสุด


ความคิดเห็นจากผู้ซื้อ


ขอบคุณฒากๆค่ะ


[email protected]May 19, 2019 17:32:42

ความคิดเห็นจากผู้ขาย


+1 Auto Feedback


pire2499June 16, 2019 09:47:00

รายละเอียดเพิ่มเติม

ความเห็นจากเพื่อนสมาชิก

ประวัติการประมูล

ประวัติการเสนอราคา

ชื่อสมาชิก/วันที่เสนอราคา เสนอ

ประวัติการเสนอราคา

เหลือเวลา
รายการปิดแล้ว!


ต้องการเข้าร่วมประมูล !

ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น