stabilo

ข้อมูลสมาชิก – stabilo

เริ่มเป็นสมาชิก: April 19, 2013 09:15:31 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 92 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 1312 รายการ , คำติ: 1 รายการ

ประวัติ Feedback


ทองแดงชนวน ยันต์เล็ก(นิยม)หรือยันต์ไตรสรณคมน์  หายากที่สุดครับเนื้อนี้ วันนี้จัดพิเศษให้เลเหรียญแจกทาน   รับมาจากมือพระอาจารย์แว่น ไม่มีกล่องนะครับ***** พระอาจารย์แว่น วัดสพานสูง จัดสร้าง ปี2558 :จริงๆแล้วรุ่นนี้สร้างและเสกมาหลายพิธีแล้ว ทั้งที่วัดละหารไร่ และวัดป่าบ้านแดง จ.อุบลราชธานี และในโบสถ์วัดสพานสูง แต่ยังไม่ได้แจกจ่ายไปบูชา พึ่งจะออกแจกจ่ายในวันที่ 25 นี้เพียง 100 เหรียญเท่านั้น  รุ่นนี้จะตอก โค้ต 2 โค้ต คือ โค้ตธรรมจักร และโค้ต นะ ด้านหลังจะมี 2 พิมพ์ คือ หลังยันต์เล็ก กับ  หลังยันต์โสฬสมงคลวัดสพานสูง ที่นำเสนอนี้ หลังยันต์เล็ก รุ่นนี้ชนวนโลหะเก่าวัดสพานสูง ตะกรุดเก่า เหรียญเก่า ชนวนโลหะเก่าที่เก็บรวบรวมจากทั่วประเทศ และประกอบพิธีพุทธาภิเษกล่าสุด พุทธาภิเษกในพระอุโบสถ วัดสพานสูง วันที่ 25 ธ.ค.2558 พระเกจิอาจารย์ : หลวงปู่วาส วัดสพานสูง ,พระครูปราโมทย์สารคุณ (หลวงพ่ออ้อน) วัดบางตะไนย์ ,พระครูอมรนนทคุณ(พระอาจารย์นวย) วัดท้องคุ้ง,พระนันทวิริยาภรณ์ (พระอาจารย์อ่าง) วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ,พระครูอมรศุภการ(พระอาจารย์ขาว) เจ้าอาวาสวัดสะพานสูง จุดเทียนชัย และพระวัดสพานสูงเจริญพระพุทธมนต์ โสฬสมงคล 108 จบ ซึ่งถือว่าเป็นที่สุดของเหรียญอีกรุ่นของวัดสพานสูง ก่อนแจกจ่ายให้ไปบูชาประมาณ 100 กว่าเหรียญในพิธี โบสถ์วัดสพานสูง


เขียนโดย :nungfino เจ้าของรายการ February 20, 2017 10:42:39



เขียนโดย :KKR เจ้าของรายการ February 18, 2017 15:00:20

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคเหนือ/7214490


*********รายการที่ประมูลได้ ถ้าจำนวนต่ำกว่า 80 บาท ถ้าต้องการให้ส่งลงทะเบียน กรุณาเพิ่ม 20 บาท ขอบคุณครับ**********


เขียนโดย :unnnop88 เจ้าของรายการ February 17, 2017 12:25:55

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคเหนือ/7214484


พระเครื่องหลวงปู่ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน   *********รายการที่ประมูลได้ ถ้าจำนวนต่ำกว่า 80 บาท ถ้าต้องการให้ส่งลงทะเบียน กรุณาเพิ่ม 20 บาท ขอบคุณครับ**********


เขียนโดย :unnnop88 เจ้าของรายการ February 17, 2017 12:24:51


เหรียญมหายันต์ พระนเรศวรมหาราช ทรงยืนประทับช้างสามเศียรปราบอริราชศัตรูพ่าย ทองแดงนอกสวย วัดใจ เคาะเดียว เหรียญพระนเรศวร พิธีรุ่นปราบไพรีอริศัตรูพ่าย อาจารย์ศุภณัฐ ชัยชนิตย์ (อาจารย์หม่อม ) สร้าง ณ ศาลสมเด็จพระเจ้านเรศวรมหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา สุดยอดพิธีที่ใหญ่ที่สุดที่เคยปรากฏในจังหวัด นิมนต์พระเกจิสายป่าและสายบ้านร่วมปลุกเสก สุดยอดอลังการ เพื่อแจกให้ ตำรวจ ทหาร ครู และผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เหรียญพระนเรศวร ขนาดเหรียญ สูง : 3.8 ซ.ม กว้าง : 3.0 ซ.ม. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเป็นประธานในพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผ้ายันต์ และหนังสือบทสวดพระพุทธมนต์ เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 27 ธ.ค. 2549 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จแทนพระองค์ยังทุ่งลุมพลี อโยธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ทรงเป็นประธานในพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลเหรียญ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และผ้ายันต์ รุ่นปราบไพรีอริศัตรูพ่าย และหนังสือบทสวดพระพุทธมนต์ ซึ่งพระเทพวรเวที เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับคณะกรรมการรวมพลังรักแผ่นดิน และผู้มีจิตศรัทธา จัดสร้างเหรียญทองแดงขัดเงา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช รุ่นปราบไพรีอริศัตรูพ่าย จำนวน 100,000 เหรียญ ผ้ายันต์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จำนวน 50,000 ผืน และหนังสือบทสวดพระพุทธมนต์ จำนวน 10,000 เล่ม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษาในปี 2550 อีกทั้งยังเพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช เจ้าทุกพระองค์ โดยเหรียญและผ้ายันต์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช รุ่นปราบไพรีอริศัตรูพ่าย รวมทั้งหนังสือสวดพระพุทธมนต์ จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยเสด็จพระราชกุศล เพื่อพระราชทานแก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ครู และผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้เสียสละและผู้ปฏิบัติหน้าที่ทดแทนคุณแผ่นดิน ด้วยความกล้าหาญ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550, เวลา 16:45:00 น. สถานที่: วังศุโขทัย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จออก ณ วังศุโขทัย พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นางภราไดย สุวรรณรัฐ ประธานคณะกรรมการรวมพลังรักแผ่นดิน นำคณะกรรมการรวมพลังรักแผ่นดิน เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเหรียญทองคำสมเด็จพระนเรศวรมหาราช รุ่นปราบไพรีอริศัตรูพ่าย และเงินเพื่อสมทบกองทุนพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ


เขียนโดย :sutad3352 เจ้าของรายการ February 17, 2017 03:45:55


ที่ระลึกในงานสร้างศาลาการเปรียญ วัดหัวคุ้ง พ.ศ.2526 เหรียญสวย คม ชัด ลึก ไม่แพง ชอบเรียนเชิญครับ


เขียนโดย :[email protected] เจ้าของรายการ February 16, 2017 21:29:39

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคอีสาน/7201927



เขียนโดย :จันทร์หอม เจ้าของรายการ February 16, 2017 15:25:10

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อผง-เนื้อว่าน/7204692


หลวงพ่อแพท่านเป็นชาวจังหวัดสิงห์บุรี เกิดในราวปี พ.ศ.2452 ที่บ้านสวนกล้วย ต.ดอนสมอ อ.ท่าช้าง เมื่อบิดามารดาเสียชีวิต จึงย้ายมาอยู่กับบิดามารดาบุญธรรมที่วัดใหม่ อ.ท่าช้าง ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดพิกุลทอง ตอนเด็กเรียนเขียนอ่านที่โรงเรียนประจำหมู่บ้าน แล้วเข้ากรุงเทพฯ เพื่อบวชเป็นสามเณรและศึกษาเล่าเรียนด้านพระปริยัติธรรมกับพระอาจารย์เขมร ที่วัดชนะสงคราม ท่านมีความใส่ใจและขวนขวายในการศึกษา อายุเพียง 14 ปีก็สามารถสอบได้เปรียญ 3 ประโยค   เมื่ออายุครบบวชจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ได้รับฉายา "เขมังกโร" แปลว่า ผู้ทำความเกษมแล้ว ท่านเป็นพระภิกษุที่มีจิตมุ่งมั่นที่จะบำเพ็ญตนเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นหลายๆ รูป อาทิ สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) พระครูภาวนา สำนักวัดโพธิ์ หลวงพ่อสี ผู้ทรงคุณวิเศษนานัปการ ฯลฯ ท่านจึงมีความเชี่ยวชาญและแตกฉานทั้งด้านคันถธุระ วิปัสสนาธุระ รวมทั้งไสยศาสตร์และวิทยาการต่างๆ   ต่อมาได้รับมอบหมายจากสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) ให้เดินทางกลับบ้านเกิดและบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามในท้องถิ่นที่ชำรุดทรุด โทรม เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป ท่านจึงเดินทางกลับไปดูแลวัดพิกุลทอง ท่ามกลางความชื่นชมยินดีของชาวบ้าน ด้วยบารมีและกุศลบุญของท่านและหลวงพ่อสี การบูรณะวัดพิกุลทองสำเร็จลุล่วงในเวลาเพียงปีเศษเท่านั้น นอกจากนี้ ท่านยังพัฒนาท้องถิ่นให้มีความเจริญควบคู่ไปด้วย ชื่อเสียงของท่านเป็นที่ร่ำลือขจรขจาย มีศิษยานุศิษย์และผู้เลื่อมใสศรัทธาเดินทางมากราบนมัสการอย่างเนืองแน่น   หลวงพ่อแพท่านมรณภาพในปี พ.ศ.2542   เมื่อหลวงพ่อแพ มีบารมีมากขึ้นผู้คนเริ่มรู้จักตามลำดับ วัดหลายวัดต่างนิมนต์ หลวงพ่อแพท่านเป็นประธานในการก่อสร้างวัด วิหาร ถาวรวัตถุต่างๆมากมายหลายวัด และเมื่อ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2493 ทางวัด แถบ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ก้อได้นิมนต์ท่านร่วมงาน หลวงพ่อแพเล่าว่า ท่านเพลียมากจึงชวนศิษย์ไปจำวัด ที่หอสวดมนต์ โดยมีคนหลายนอนอยู่ก่อนแล้ว ก่อนนอนท่านเอาผ้าอาบน้ำฝนใส่ไว้ในย่าม จึงรู้สึกว่าย่ามใหญ่ คิดว่าคนที่นอนอยู่คงเข้าใจว่าเป็นเงิน ด้วยความอ่อนเพลียท่านจึงหลับไป พอท่านตื่นจากจำวัดเวลาเช้ามืด พบว่าย่ามหายไปแล้ว จึงแจ้งทางวัดทราบ สำหรับสิ่งของในย่าม มีเพียงของเล็กๆน้อยๆ แต่ของที่สำคัญก็คือ พระสมเด็จวัดระฆังฯ ซึ่งได้รับจากสมบัติของโยมวัดชนะสงคราม จึงเป็นของที่แท้ และทรงคุณค่าทางด้านจิตใจของหลวงพ่อมาก ท่านจึงเสียดายเป็นอย่างมาก ญาติโยมช่วยกันติดตาม ปรากฏว่าได้รับของอื่นคืนครบทุกชิ้น ยกเว้นพระสมเด็จ สอบถามผู้ขโมยได้ความว่าได้นำไปขายให้บุคคลไม่ทราบชื่อ ไม่สามารถติดตามคืนได้หลวงพ่อเล่าว่าท่านเสียดายมาก ระหว่างนั้นต้องไปขอยืมสมเด็จวัดระฆังจาก อาจารย์หยด ซึ่งเคยเป็นเจ้าอาวาส มาติดตัวไปก่อนด้วยความเคารพในบารมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต เป็นอย่างยิ่ง ทำให้หลวงพ่อแพ อธิษฐานขอบารมี ณ วัดไชโยวรวิหาร ขอสร้างพระโลหะพิมพ์สมเด็จ พระสมเด็จทองเหลืองขึ้นใช้เอง และแจกจ่ายให้กับผู้เคารพศรัทธา ในปี 2494 ประมาณเดือน 6 โดยนำช่างมาเททองหล่อ ที่ด้านใต้ โบสถ์หลังเก่า ได้รับโลหะจากผู้ที่มาร่วมพิธี นำมาหล่อเช่น เครื่องเงิน ขันลงหิน โต๊กทาน เชียนหมาก ตะบันหมาก สตางค์แดง สตางค์ข้าว สตางค์สิบ ทองเหลือง เป็นจำนวนมาก


เขียนโดย :หมุนจนรวย เจ้าของรายการ February 16, 2017 06:55:25

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์/7204693


พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงสถาปนาวัดราชประดิษฐ์ฯ ขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2407 และในปี พ.ศ. 2515 นับเป็นศุภวาระมงคลวโรกาสที่วัดราชประดิษฐ์ฯ ได้สถิตสถาพรมีอายุ ครบ 108 ปี หากเป็นคนก็จะเรียกว่ามีอายุครบ 9 รอบนักษัตร พอดี ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ทิม อุฑาฒิมมหาเถร) อ่านว่า “อุดาทิมะมะหาเถระ” เจ้าอาวาสในขณะนั้นเมื่อครั้งยังดำรง สมณศักดิ์ที่ “พระธรรมปาโมกข์” ได้ประชุมปรึกษาหารือพระภิกษุและสามเณรทั้งวัดโดยต่างมีความเห็นพ้องต้องกันว่า ควรจัดงานสมโภชตามโบราณราชประเพณีประกอบกับวัดราชประดิษฐ์ฯ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก จึงได้ขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้งานสมโภชครบ 108 ปี ครั้งนี้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์พร้อมเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีอีกด้วย โดยทางวัดได้กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 16-26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 และมีวัตถุประสงค์ 3 ประการคือ   (1) สมโภชพระอารามหลวงที่มีอายุครบ 108 ปี   (2) สมโภช “พระนิรันตราย” องค์ประจำวัดซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานประจำวัดธรรมยุตตามพระราชประสงค์ของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ สมเด็จพระบรมชนกนาถ ซึ่งองค์ของวัดราชประดิษฐ์ฯ นี้มีหมายเลขลำดับที่ 14 และต่อมาได้ถูกโจรใจบาปทำการโจรกรรมไป แต่ไม่นานนักก็ติดตามกลับคืนมาได้โดยฝีมือของตำรวจภายใต้การควบคุมของ พล.ต.ต.มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น ผู้บังคับการตำรวจนครบาลเหนือ (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น)   (3) จัดสร้าง “พระนิรันตราย” (ขนาดบูชา) พร้อม “พระกริ่งนิรันตราย” และ “พระกริ่งสมเด็จพระสังฆราช (สา)” หรือ “พระกริ่งโสฬส รุ่น 2” (รุ่น แรกสร้างเมื่อครั้งจัดงานสมโภชครบ 100 ปีวัด พ.ศ.2507) นอกจากนั้นยังมี “เหรียญนิรันตราย” อีก 2 แบบคือ “พัดยศ” หรือ “เจริญยศ” และแบบ “เสมา” หรือ “เจริญลาภ” รวมทั้ง “พระกริ่งนิรันตรายขนาดเล็ก” และ “พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4” พร้อม “ล็อกเกตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช” ขณะทรงถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแก่ “สมเด็จพระมหาวีรวงศ์” เพื่อให้พุทธศาสนิกชนนำไปสักการบูชาโดยรายได้นำบูรณ ปฏิสังขรณ์วัดราชประดิษฐ์ฯ ที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา   สำหรับการจัดสร้างวัตถุมงคลนั้นทางคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วย “สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ทิม)” เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ที่ “พระธรรมปาโมกข์” เป็นประธานฝ่ายสงฆ์และ พลเอกประภาส จารุเสถียร รองหัวหน้าคณะปฏิวัติในขณะนั้นเป็นประธานฝ่ายฆราวาสโดยกราบบังคมทูลอัญเชิญเชิญเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเสด็จฯ เททองหล่อ “พระนิรันตราย” (ขนาดบูชา) เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2515 จำนวน 908 องค์ ตามจำนวนสั่งจองจากนั้นจึงนำทองชนวนที่เหลือจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเททองไปจัดสร้าง “พระกริ่งนิรันตราย ทั้งพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก, พระกริ่งสมเด็จพระสังฆราชสา (กริ่งโสฬส)” และ “เหรียญพระนิรันตราย” ทั้งสองแบบ ดังกล่าวข้างต้นอย่างละ 50,000 องค์ เท่ากันยกเว้น “พระบรมรูปรัชกาลที่ 4” ประทับยืนแบบเดียวกับองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ใน ปราสาทพระจอมเกล้า (ปราสาททรงพระปรางค์) สร้างจำนวน 108 องค์ และ “ล็อกเกต” จำนวนหลักร้อยเช่นกันซึ่งหลังการสร้างวัตถุมงคลเสร็จแล้วได้จัดทำ พิธีพุทธาภิเษกและมังคลาภิเษก ภายใน พระวิหารหลวงวัดราชประดิษฐ์ฯ ระหว่างวันที่ 16-26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 รวม 9 วัน 9 คืน ซึ่งตรงกับช่วงวันสถาปนาวัดพอดีโดยนิมนต์พระคณา จารย์ผู้ทรงวิทยาคุณในขณะนั้น ทั่วพระราชอาณาจักร เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก คืนละ 12 รูป รวมทั้งหมด 108 รูป เท่ากับอายุของวัดราชประดิษฐ์ฯ ทุกประการ   วัตถุมงคลมีจำนวนการจัดสร้างดังนี้ 1. พระบูชานิรันตราย จำนวน 908 องค์ 2. พระกริ่งนิรันตรายเนื้อโลหะผสม พิมพ์ใหญ่ จำนวน 999 องค์ 3. พระกริ่งนิรันตรายเนื้อโลหะผสม พิมพ์เล็ก จำนวน 999 องค์ 4. กริ่งโสฬส มปร. จำนวน 50,000 องค์ 5. เหรียญเจริญยศ จำนวน 50,000 เหรียญ 6. เหรียญเจริญลาภ จำนวน 50,000 เหรียญ 7. พระชัยวัฒน์แบบปั๊ม ไม่ทราบจำนวน ฯลฯ   หลังจากทางเสด็จพระราชดำเนินเททอง เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2515 ผ่านไป ทางคณะกรรมการได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก และ มังคลาภิเษก ภายในพระวิหารหลวงวัดราชประดิษฐ์ฯ ระหว่างวันที่ 16-26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 รวม 9 วัน 9 คืน อันเป็นระยะเวลาที่ตรงกับช่วงครบรอบสถาปนาพระอารามแห่งนี้ คณะกรรมการจึงได้นิมนต์พระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั่วพระราชอาณาจักรมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกและมังคลาภิเษก คืนละ 12 รูป รวม 108 รูป เท่ากับอายุของวัดราชประดิษฐ์ในปี พ.ศ. 2515   พระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณที่มาร่วมประกอบพิธี ประกอบด้วย 1. หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ 2. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ 3. หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง 4. หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยา 5. หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา 6. หลวงพ่อโชติ วัดตะโน 7. หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล จ.อุดรธานี 8. หลวงปู่เทสก์ วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย 9. หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดเลยหลง จ.เลย 10. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม 11. หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี 12. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี 13. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จนนทบุรี 14. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี 15. หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง จ.นครปฐม 16. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี จ.สมุทรสาคร 17. หลวงพ่อรวย วัดตะโก จ.อยุธยา 18. หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดไทรน้อย จ.นนทบุรี 19. พระอาจารย์วัน อุตฺตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม จ.สกลนคร 20. หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง 21. หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เป็นต้น   วัตถุมงคลที่จัดสร้างในคราว “ฉลอง 108 ปี” วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม เป็นอีกวัตถุมงคลที่ถึงพร้อมด้วย พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และพระมหากษัตริยาธิคุณ เพราะมีประสบการณ์เรื่อง “แคล้วคลาด” เป็นเยี่ยม เนื่องจากประกอบไปด้วยพระคุณของ “พระรัตนตรัย” และ “พระมหากษัตริยาธิคุณ” ของพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงคุณประเสริฐที่ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดินไทยถึง 2 พระองค์ ทั้งล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 4 และล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 เป็นวัตถุมงคลที่ควรอาราธนาติดตัว


เขียนโดย :หมุนจนรวย เจ้าของรายการ February 16, 2017 06:54:48


เหรียญสวยมากครับ.....เก่าเก็บม่วงม่วงเลย เปิดวัดใจเคาะเดียวที่เหลือแล้วแต่พี่พี่จะกรุณาครับ


เขียนโดย :Pink panda เจ้าของรายการ February 15, 2017 09:05:39

หน้าที่ :  69