sanbhuda

ข้อมูลสมาชิก – sanbhuda

เริ่มเป็นสมาชิก: November 02, 2013 14:55:59 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 0 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 2814 รายการ , คำติ: 0 รายการ

ประวัติ Feedback


เหรียญสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า4เหรียญ) สร้างเนื่องในพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ 30 มีนาคม พ.ศ.2539


เขียนโดย :pire2499 เจ้าของรายการ January 29, 2017 00:23:33


รับประกัน ตามกฎ ส่งพระตามรูปครับ***เป็นเหรียนที่หน้าเก็บสะสมก่อนจะแพง***ยอดไม่ถึง100บาท ขอค่าจัดส่ง20บาทครับ***ถ้ามีการโอน  กรุณาแจ้งในกล่องข้อความทุกครั้ง เพื่อความรวดเร็วในการจัดส่งพระครับ  ***กรุณาโอนพายใน 7 วัน หลังจากปิดประมูลครับ***เรียนผู้ชนะการประมูล ชื่อบัญชี นาง วารุณี เกิดทวี ครับผม


เขียนโดย :ตุ๋ยพระบ้าน เจ้าของรายการ January 25, 2017 11:57:17


คุ้มเกล้า นวะ พิมrNใหญ่ 850 เก๊ท่าพระจันทร์ยังทำผิวแบบนี้ไม่ได้ครับ


เขียนโดย :phichan9 เจ้าของรายการ January 25, 2017 05:37:49


เหรียญในหลวงคุ้มเกล้า เนื้อนวโลหะ ปี22 ซองเดิม


เขียนโดย :picknakub เจ้าของรายการ January 24, 2017 15:42:05

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อผง-เนื้อว่าน/7170540


***พระชุดนี้เป็นพระเก่าเก็บตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2539 โซนเนื้อออกเทาดำมีผงมวลสารเป็นเม็ดขาวๆ ผงตะไบทองประปรายและคราบขาว ที่พระอาจารย์แว่น วัดสพานสูง จ.นนทบุรี ท่านได้รับถวายมาไว้เพื่อออกให้พุทธศาสนิกชนทำบุญบูชา เพื่อนำรายได้เข้ากองทุนเพื่อการศึกษาวัดสพานสูง เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาแก่เยาวชนของชาติ  ค่ากิจกรรมต่างๆของศูนย์การเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดสพานสูง และช่วยค่ายา ค่าอาหารแก่พระสงฆ์อาพาธ  ประวัติความเป็นมาของพระเครื่องกำลังแผ่นดิน เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๙ ในโอกาสพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ฉลองสิริราชสมบัติ ๕๐ ปี ได้มีการจัดสร้าง “พระกำลังแผ่นดิน” ขึ้นโดยพระเทพประสิทธิมนต์ หรือหลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาราม บางขุนนนท์ กรุงเทพมหานคร ประธานการก่อสร้างโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เพื่อมอบแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์สมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร พระกำลังแผ่นดินที่จัดสร้างขึ้นในครั้งนั้น ประกอบด้วยเนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ และเนื้อผง องค์พระมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับพระสมเด็จจิตรลดา และที่ด้านหลัง ได้เชิญตราสัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปีมาประดิษฐานไว้ ทั้งนี้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันจันทร์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๓๙ เวลา ๑๕.๑๙ น. โดยพระภาวนาจารย์ ๑๐๙ รูป เช่น หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม นั่งปรกในวัดพระแก้ว และนอกวัดยังมีพระสงฆ์นั่งเจริญขัยคาถาอีกเป็นพันองค์รอบอุโบสถวัดพระแก้ว ในวงการพระเครื่องถือว่าพระกำลังแผ่นดิน มวลสารจิตรลดา เป็นพระสมเด็จจิตรลดา รุ่น ๒ ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ มีพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้าง


เขียนโดย :nungfino เจ้าของรายการ January 24, 2017 13:12:05

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อผง-เนื้อว่าน/7170539


***พระชุดนี้เป็นพระเก่าเก็บตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2539 โซนเนื้อออกเทาดำมีผงมวลสารเป็นเม็ดขาวๆ ผงตะไบทองประปรายและคราบขาว ที่พระอาจารย์แว่น วัดสพานสูง จ.นนทบุรี ท่านได้รับถวายมาไว้เพื่อออกให้พุทธศาสนิกชนทำบุญบูชา เพื่อนำรายได้เข้ากองทุนเพื่อการศึกษาวัดสพานสูง เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาแก่เยาวชนของชาติ  ค่ากิจกรรมต่างๆของศูนย์การเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดสพานสูง และช่วยค่ายา ค่าอาหารแก่พระสงฆ์อาพาธ  ประวัติความเป็นมาของพระเครื่องกำลังแผ่นดิน เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๙ ในโอกาสพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ฉลองสิริราชสมบัติ ๕๐ ปี ได้มีการจัดสร้าง “พระกำลังแผ่นดิน” ขึ้นโดยพระเทพประสิทธิมนต์ หรือหลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาราม บางขุนนนท์ กรุงเทพมหานคร ประธานการก่อสร้างโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เพื่อมอบแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์สมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร พระกำลังแผ่นดินที่จัดสร้างขึ้นในครั้งนั้น ประกอบด้วยเนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ และเนื้อผง องค์พระมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับพระสมเด็จจิตรลดา และที่ด้านหลัง ได้เชิญตราสัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปีมาประดิษฐานไว้ ทั้งนี้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันจันทร์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๓๙ เวลา ๑๕.๑๙ น. โดยพระภาวนาจารย์ ๑๐๙ รูป เช่น หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม นั่งปรกในวัดพระแก้ว และนอกวัดยังมีพระสงฆ์นั่งเจริญขัยคาถาอีกเป็นพันองค์รอบอุโบสถวัดพระแก้ว ในวงการพระเครื่องถือว่าพระกำลังแผ่นดิน มวลสารจิตรลดา เป็นพระสมเด็จจิตรลดา รุ่น ๒ ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ มีพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้าง


เขียนโดย :nungfino เจ้าของรายการ January 24, 2017 13:11:03


อยู๋ในซองเดิม เคาะเดียว


เขียนโดย :ทองก้อน เจ้าของรายการ January 21, 2017 14:46:56


เหรียญพระพุทธศากยมุนี หลัง ภปร.เสด็จถวายผ้าพระกฐิน วัดโพธิ์แมนคุณาราม ปี 37 กล่องเดิมๆครับ


เขียนโดย :kumsai เจ้าของรายการ January 20, 2017 11:18:20

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุด-จ.นครปฐม/7145963


                         หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระนามเดิม เปิ่น นามสกุล ภู่ระหงษ์ เกิดวันอาทิตย์ที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๖ เดือน ๙ ปีกุน ณ บ้านเลขที่ ๔ หมู่ที่ ๔ ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นบุตรของนายฟัก นางยวง ภู่ระหงษ์ เป็นบุตรคนที่ ๙ ในจำนวนพี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกันรวม ๑๐ คน หลวงพ่อเปิ่นสนใจในเรื่องของไสยศาสตร์ มาตั้งแต่สมัยเด็กอาศัยว่าครอบครัวของท่านอยู่ใกล้กับวัดบางพระซึ่งในสมัย นั้นมีพระคุณเจ้าที่จำพรรษาอยู่ที่วัดบางพระมีความเก่งกาจมีความเชี่ยวชาญใน สายไสยศาสตร์ หลายองค์ เด็กชายเปิ่นจึงเข้าออกเพื่อความอยากรู้อยากใฝ่หา ในวิชาอยู่กับวัดบางพระเป็นประจำ นายเปิ่น ศึกษาวิชากับหลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก ด้รับการถ่ายทอดยาสมุนไพรรักษาโรค คาถาอาคมต่างๆ โดยเฉพาะวิชาสักยันต์อันเกรียงไกร จากหลวงพ่อหิ่ม อินฺทโชโต เจ้าอาวาสวัดบางพระซึ่งท่านท่านรักและเมตตาศิษย์หลวงพ่อเปิ่นเป็นพิเศษ วิชาการต่าง ๆ ท่านจึงถ่ายทอดให้โดยไม่ปิดบัง ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๑ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีกุน จึงเข้าสู่บรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบางพระ ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดยมี เจ้าอธิการหิ่ม อินทโชโต เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทองอยู่  ปทุมรัตน   เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เปลี่ยน  ฐิตฺธัมโม   เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงพ่อเปิ่น ได้นามว่า "พระฐิตคุโณ" การศึกษาเล่าเรียนใด ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด แม้หลวงพ่อเปิ่นได้รับจากหลวงพ่อหิ่มมาก็ยังไม่อิ่มในรสแห่งพระธรรม เสร็จจากงานฌาปนกิจศพของหลวงพ่อหิ่มแล้ว ก็ตั้งใจจะแสวงสัจจะธรรมต่อไปอีก  หลวงพ่อเปิ่นได้เข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์  หลวงพ่อโอภาสี (พระมหาชวน)วัดบางมด ซึ่งได้อบรมแนะนำสั่งสอนพระกัมมัฎฐาน ศึกษาปฏิบัติกับหลวงพ่อโอภาสีเป็นเวลา ๑ ปีเศษ หลวงพ่อเปิ่นก็กราบลาเพื่อออกธุดงค์วัตรต่อไปทางภาคเหนือของประเทศไทย แล้วธุดงค์ลงใต้ พบอาจารย์ที่ไหน ก็จะเข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อศึกษาธรรมจากท่าน ย้อนกลับขึ้นมาที่สุราษฎร์ธานี ได้กราบนมัสการ  หลวงพ่อพุทธทาส แห่งสวนโมกข์ และ หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย  หลังจากนั้นข่าวคราวของหลวงพ่อเปิ่นเงียบหายไปอย่างสนิทกระทั่งปลายปี พ.ศ.๒๕๐๔  บ่ายแก่ของวันหนึ่ง พระธุดงค์วัยเกือบสี่สิบมาปักกลดอยู่ชายทุ่ง ใกล้กับวัดทุ่งนางหรอก อำเภอลาดหญ้า จังหวัดกาญจนบุรี พระธุดงค์องค์นี้ได้สร้างศรัทธาให้แก่ชาวบ้านอย่างมากมาย ทั้งปฏิปทาที่เคร่ง ทั้งสายวิชาพระเวท ทั้งยาสมุนไพรช่วยเหลือชาวบ้าน ยิ่งเกิดศรัทธาอันสูงสุดของชาวบ้านที่พุ่งตรงสู่พระธุดงค์รูปนี้  หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ   คือองค์พระธุดงค์องค์นั้น ภายในระยะเวลาไม่ถึง ๒ ปี หลวงพ่อเปิ่นได้พัฒนาวัดทุ่งนางหรอก อำเภอลาดหญ้า จังหวัดกาญจนบุรี ทำให้มีความเจริญรุ่งเรืองมาก ในช่วงดังกล่าว ท่านเกิดป่วยกระทันหัน จำเป็นต้องเข้ามารักษาตัวในเมือง ท่านจึงได้กลับมารักษาตัวที่วัดบางพระ ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ตั้งใจไว้ว่าเมื่อหายป่วยดีแล้วก็จะกลับไปพัฒนาส่วนอื่นที่จะต้องทำอีกต่อไป เมื่อหายป่วยดีแล้ว ก็ตั้งใจจะกราบลาพระอาจารย์เพื่อเดินทางกลับไป ประจวบเหมาะกับที่ชาวบ้านวัดโคกเขมา มาขอพระจากพระอาจารย์เปลี่ยน ฐิตธัมโม ไปเป็นเจ้าอาวาสเพื่อพัฒนาวัด คณะสงฆ์ในตำบลแหลมบัว ออกประกาศและแต่งตั้งให้ หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ เป็นเจ้าอาวาสวัดโคกเขมา ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๙ และนี่เป็นจุดแห่งบุญญาบารมีและชื่อเสียงของหลวงพ่อเปิ่นเมื่อเข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโคกเขมา หลวงพ่อเปิ่นได้เริ่มพัฒนาวัด ก่อสร้างเสนาสนะ ซ่อมแซมปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เกิดด้วยแรงศรัทธาของประชาชนที่มีต่อ หลวงพ่อเปิ่นในเวลานั้น และที่วัดโคกเขมานี่เอง หลวงพ่อเปิ่นได้สร้างพระเครื่องเป็นครั้งแรก ปัจจุบันพระเครื่องหลวงพ่อเปิ่นรุ่นนี้ของวัดโคกเขมาหายากมาก เพราะเป็นพระเครื่องที่มีประสบการณ์ สร้างอภินิหาริย์ให้ผู้เช่าบูชาได้ประจักษ์ หลังจากรุ่นรูปหล่อเนื้อทองแดงของท่านแล้ว พระเครื่องและวัตถุมงคลต่าง ๆ จากวัดโคกเขมาจึงออกมาอีก เพื่อให้ศิษย์และประชาชนทั่วไปได้เช่าหาบูชากัน เพื่อนำเงินบำรุงพัฒนาวัด ที่วัดโคกเขมา ได้จัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลหลวงพ่อเปิ่นทั้งเนื้อผง สมเด็จ  รูปหล่อ เหรียญ พระบูชาพระสังกัจจายน์ ทุกอย่างทุกองค์ที่หลวงพ่อสร้างมีค่ายิ่งสำหรับชาวบ้านที่รับไป   สิ่งที่เป็นตำนานกล่าวขานกันอย่างไม่มีวันจบสิ้น จวบจนปัจจุบันตั้งแต่วัดโคกเขมาเป็นต้นมาก็คือ "การสักยันต์" หลวงพ่อเปิ่นในสมัยที่ท่านยังมิได้รับพระราชทาน สมณะศักดิ์ หลวงพ่อเปิ่นท่านลงมือสักลงอักขระเวทด้วยองค์ท่านเอง มาภายหลังหลวงพ่อได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาการสักให้แก่ศิษย์เป็นองค์สักแทน แล้วหลวงพ่อเปิ่นเพียงทำพิธีครอบให้เท่านั้น เรื่องการสักยันต์ของหลวงพ่อเปิ่นกล่าวเพียงบทสรุป ว่าชอบ เสือ ด้วยเหตุผลที่บอกเพียงสั้น ๆ แก่ศานุศิษย์ว่า เสือเป็นสัตว์ที่มีอำนาจ เพียงเสียงคำรามของเสือ สัตว์ทั้งหลายก็สงบเงียบ กลิ่นของเสือ สัตว์ทั้งหลายเมื่อรับสัมผัสจะยอมในทันที หลีกทันก็ต้องหลีก จัดอยู่ในมหาอำนาจ เสือรูปร่างสง่างาม เต็มไปด้วยอำนาจบารมี จัดอยู่ในมหานิยม ที่สำคัญ หลวงพ่อเปิ่น เคยประจันหน้ากับเสือมาแล้ว กลางป่าลึก ระหว่างธุดงค์วัตรแถวป่าใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี จึงเกิดความประทับใจตั้งแต่นั้นมา เมื่อหลวงปู่หิ่ม อินฺทโชโต มรณภาพลงและหลวงพ่อเปิ่นออกจาริกแสวงธรรม ทางวัดบางพระเงียบเหงาลง ต่อมา"หลวงพ่อทองอยู่ ปทุมรัตน์" พระกรรมวาจาจารย์ของหลวงพ่อเปิ่นได้เป็นเจ้าอาวาสต่อจากหลวงปู่หิ่ม จนมรณภาพลงในปี พ.ศ.๒๕๑๖ เจ้าอาวาสวัดบางพระ จึงว่างลง ชาวบ้านจึงพร้อมใจกัน ไปกราบอาราธนาหลวงพ่อเปิ่นให้กลับมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางพระ ซึ่งในตอนแรกหลวงพ่อเปิ่นไม่ยอมมาด้วยสาเหตุว่าไม่มีใครดูแลวัดโคกเขมา ซึ่งเป็นเหมือนกับวัดที่ท่านสร้างขึ้นมาใหม่ ภาระและความรับผิดชอบยังอยู่ที่ท่าน กล่าวกันว่าชาววัดโคกเขมา เมื่อทราบว่าหลวงพ่อเปิ่นท่านจะต้องกลับไปพัฒนาวัดบางพระซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่าน เสียดายก็เสียดายทำอย่างไรได้เมื่อเหตุมันเกิดก็ต้องยอมแต่ยังอุ่นใจอยู่ว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นไปกราบปรึกษาหารือท่าน ก็คิดว่าจะได้รับคำแนะนำที่ดีมีประโยชน์ บางทีท่านอาจจะลงมือมาช่วยได้อีก ในที่สุดหลวงพ่อเปิ่นท่านก็กลับมาพัฒนาวัดบางพระ สมเจตนาของชาวบ้านบางพระ นั่นคือการจบชีวิตการธุดงค์ของหลวงพ่อเปิ่น ในวันที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๓ ให้พระฎีกาเปิ่น วัดบางพระ จังหวัดนครปฐม เป็น "พระครูฐาปนกิจสุนทร" ช่วงนี้นี้เองที่วัดบางพระมีการออกพระเครื่องและวัตถุมงคลของหลวงพ่อเปิ่น เพื่อทดแทนในน้ำใจแห่งศรัทธาที่ศิษยานุศิษย์และชาวบ้านได้ร่วมกันในการพัฒนาวัดบางพระนั่นเอง   ในวันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๗ หลวงพ่อเปิ่นท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณะศักดิ์จาก พระครูฐาปนกิจสุนทร เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ เป็น "พระอุดมประชานาถ" ด้วยการพัฒนาวัดและชุมชนมาโดยตลอด ทางมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์โดยอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย ถวายปริญญาบัตร พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมศาสตร์ ณ วันที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๓๘ แก่องค์หลวงพ่อเปิ่น แสดงให้เห็นว่าหลวงพ่อเปิ่นได้เป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นพระสงฆ์ของประชาชนโดยแท้ ท่านไม่ทิ้งธุระทางการศึกษา พัฒนาสาธารณะประโยชน์เกี่ยวกับการศึกษาไว้มากเพื่อเป็นแนวทางแก่พระภิกษุ - สามเณรในพระพุทธศาสนา ในวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๕ เวลา ๑๐.๕๕ น. ณ โรงพยาบาลศิริราช หลวงพ่อเปิ่นได้ละสังขารด้วยอายุ ๗๙ ปี ๕๔ พรรษา ยังความอาลัย เศร้าโศก เสียใจแก่ปุถุชนจิต แต่ได้แสดงให้เห็นถึงมรณัสสติแก่ศิษยานุศิษย์ คุณงามความดีที่หลวงพ่อเปิ่นท่านได้กระทำไว้ในพระพุทธศาสนามากมาย จะเป็นตำนานแห่งแผ่นดินสยามในทุกๆเรื่อง เป็นเครื่องเตือนสติให้พุทธศาสนิกชนได้รู้จักและปฏิบัติสืบสานกันต่อไป. 


เขียนโดย :เฮียตุ้ย เจ้าของรายการ January 19, 2017 08:55:32


เหรียญพระแก้วมรกต สามฤดู วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี 2525หลัง ภปร มีพระราชศรัธรา 1เหรียญ


เขียนโดย :บีมพระเครื่อง เจ้าของรายการ January 18, 2017 09:49:27

หน้าที่ :  55