พระเกจิ ชื่อดัง ยุคสงครามอินโดจีน ท่านมีชื่อเสียงในอยุธยาเป็นหนึ่งใน "สามเสือแห่งเมืองกรุงเก่า"หลวงพ่อปาน หลวงปู่ยิ้ม หลวพ่อจง และเป็นหนึ่งในสี่ยอดเกจิอาจารย์ยุคสงครามอินโดจีน "จาด จง คง อี๋" หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อจง พุทธสโร มีนามเดิมว่า "จง" เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ปีวอก พุทธศักราช 2415 ที่ตำบล หน้าไม้ อำเภอ บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อ นายยอด มารดาชื่อนางขลิบ มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน คือ 1.หลวงพ่อจง พุทธสโร 2.หลวงพ่อนิล ธมมโชติ 3.นางปริด สุนสโมสร เมื่ออายุได้ 11 ขวบ ได้บวชเป็นสามเณร ที่วัดหน้าต่างใน จนอายุ 21 ปี ในปี 2435 จึงได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดหน้าต่างใน โดยมีหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ เป็นพระอุปชฌาย์ พระอาจารย์อินทร วัดหน้าต่างนอก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์โพธิ์ วัดหน้าต่างใน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า พุทธสโร หลวงพ่อจงได้ศึกษาอักษรไทยและอักษรขอมกับพระอาจารย์โพธิ์ เจ้าอาวาสวัดหน้าต่างใน ผู้เป็นพระอนุสวนาจารย์ของท่าน ท่านอาจารย์โพธิ์องค์นี้เชี่ยวชาญชำนาญในพระเวทย์วิทยาคมยิ่งนัก อีกทั้งยังเป็นสหธรรมมิกกับหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ ต่อมาท่านยังฝากตัวเป็นศิษย์เรียนพระกัมมัฏฐานกับหลวงพ่อปั้น วัดพิกุล และหลวงพ่อสุ่นวัดบางปลาหมอ จนเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน ได้ชำนาญในปี 2450 ท่านได้ถูกแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดหน้าต่างนอก เมื่อครั้งนั้น หลวงพ่อสุ่นวัดบางปลาหมอ หลวงพ่อปั้นวัดพิกุล และพระอาจารย์โพธิ์ วัดหน้าต่างใน ซึ่งเป็นพระอาจารย์หลวงพ่อจงกำลังมีชื่อเสียงมากในขณะนั้น ภายหลังพระอาจารย์ทั้ง 3 ได้มรณะภาพลง จึงทำให้หลวงพ่อจงเริ่มเป็นที่รู้จักของประชาชนชาวพุทธในอยุธยา ในปี 2493-2518 ซึ่งเป็นช่วงเกิดสงครามอินโดจีนครั้งที่2 มีทหารกล้าของไทยหลายนายได้เข้าร่วมรบในสงครามอินโดจีนนี้โดยได้นำ วัตถุมงคลหลวงพ่อจงติดตัวไปด้วย อาทิ เช่น ผ้ายันต์ ตะกรุด และเหรียญหลวงพ่อจง ซึ่งการนำวัตถุมงคลของหลวงพ่อจงติดตัวไปทำศึกสงครามที่เวียดนามในครั้งนั้น ได้เกิดประสบการณ์ปาฏิหาริย์มากมายที่ไม่อาจอธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ได้ เช่น ทหารไทย กองพลจงอางศึก และ กองพลเสือดำ ซึ่งไปรบที่เวียดนาม ผู้ที่มีวัตถุมงคลหลวงพ่อจงติดตัว เมื่อเข้าปะทะกับข้าศึกทหารเวียดกง ยิงยังไงก็ไม่ตาย สามารถวิ่งฝ่าดงกระสุนเล็ดลอดสังหารฝ่ายเวียดกงไปหลายนาย จนทหารไทยถูกขนานนามว่า "ทหารผี ฆ่าไม่ตาย" ทางฝ่ายเวียดกงจึงมักเปลี่ยนแผนการสู้รบไม่ค่อยอยากเผชิญหน้ากับทหารไทยเท่าไหร่นักถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ซึ่งวีรกรรมในสงครามอินโดจีนครั้งนี้ ทำให้ชื่อเสียงของ หลวงพ่อจงดังไปทั่วประเทศไทยเลยทีเดียว หลวงพ่อจง พุทธสโร ท่านเป็นพระเกจิชื่อดังของเมืองกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อครั้งท่านมีชีวิตท่านได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและพุทธบริษัททั้งหลายโดยมิได้เลือกชนชั้นวรรณะ ใครขออะไรท่านปลดทุกข์คลายโศกให้ด้วยจิตที่มีเมตตาแม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่เหล่าลูกศิษย์และผู้เคารพศรัทธายังคงรำลึกถึงท่านเสมอมา และท่านยังเป็นพระสหธรรมมิกกับหลวงพ่อปานวัดบางนมโค และหลวงปู่ยิ้มวัดเจ้าเจ็ดใน ด้วย เช้าตรู่ของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ปี 2508 เวลา 01:55 น.หลวงพ่อจงได้ มรณภาพลงด้วยอาการสงบ ณ กุฏิของท่านนั้นเอง สิริอายุได้ 92 ปี 10 เดือน 17 วัน พรรษา 72
สวยเดิม พิมพ์เล็กครับ รับระกันเเท้ตามกฏ
ตามกฎเวป
จังหวัดชุมพร ประตูสู่ทักษิณ ชาวเมืองนี้เขายึดมั่นเคารพศรัทธาเทิดทูนหนึ่งเจ้าฟ้า และหนึ่งเกจิเป็นชีวิตจิตใจ เสมือนเป็นสองศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกพันชาวชุมพร เจ้าฟ้าพระองค์นั้นคือเสด็จเตี่ย พลเรือเอกพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งราชนาวีสยาม ส่วนหนึ่งเกจิองค์นั้นก็คือ หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย เกจิผู้มีอิทธิฤทธิ์เอกอุ ขนาดเต่ายังยกกองทัพมาเคารพศพท่าน และที่ว่าหนึ่งเจ้าฟ้า หนึ่งเกจิมีความผูกพันกันนั้น ก็เพราะเสด็จเตี่ย พระองค์มีความเลื่อมใส ในพระเวทของหลวงพ่อสงฆ์ ส่วนหลวงพ่อสงฆ์ ก็ชื่นชมในพระบารมีของพระองค์ เคยมาเฝ้าที่หาดทรายลี จนสานความผูกพันต่อกันแบบเกจิกับเกจิ ในสมัยที่หลวงพ่อสงฆ์ มีชีวิตอยู่ ท่านเคยขึ้นเรือรบหลวงชุมพร นั่งปรกปลุกเสก วัตถุมงคล ใต้กระบอกปืนใหญ่ และเคยจัดสร้างเหรียญเสด็จเตี่ย แจกแก่ศิษย์ นำไปสักการบูชา ซึ่งปัจจุบันเป็นที่แสวงหาอย่างกว้างขวาง ในปี ๒๕๓๕ทางวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ได้ทำการจัดสร้าง เหรียญเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร หลังหลวงพ่อสงฆ์ เนื้อนวะโลหะขนานแท้ และเนื้อทองแดง ตอกโค๊ต ร . แล้วได้นำเข้าพิธีมหาพุทธาพิเสก ครั้งยิ่งใหญ่สำคัญๆ อีกหลายครั้ง และท้ายสุดก็นำเหรียญนี้ ขอความเมตตาจากหลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก และหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ปลุกเสกเพื่อความเข็มขลังเอกอุยิ่ง ยิ่งขึ้น เหรียญเสด็จเตี่ย หลังหลวงพ่อส ฆ์ ปี ๓๕ เหรียญนี้ ราคายังไม่แพง ข้อมูลการจัดสร้างชัดเจน ตอกโค๊ตกำกับทุกเหรียญ จึงเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่น่าสะสม
จังหวัดชุมพร ประตูสู่ทักษิณ ชาวเมืองนี้เขายึดมั่นเคารพศรัทธาเทิดทูนหนึ่งเจ้าฟ้า และหนึ่งเกจิเป็นชีวิตจิตใจ เสมือนเป็นสองศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกพันชาวชุมพร เจ้าฟ้าพระองค์นั้นคือเสด็จเตี่ย พลเรือเอกพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งราชนาวีสยาม ส่วนหนึ่งเกจิองค์นั้นก็คือ หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย เกจิผู้มีอิทธิฤทธิ์เอกอุ ขนาดเต่ายังยกกองทัพมาเคารพศพท่าน และที่ว่าหนึ่งเจ้าฟ้า หนึ่งเกจิมีความผูกพันกันนั้น ก็เพราะเสด็จเตี่ย พระองค์มีความเลื่อมใส ในพระเวทของหลวงพ่อสงฆ์ ส่วนหลวงพ่อสงฆ์ ก็ชื่นชมในพระบารมีของพระองค์ เคยมาเฝ้าที่หาดทรายลี จนสานความผูกพันต่อกันแบบเกจิกับเกจิ ในสมัยที่หลวงพ่อสงฆ์ มีชีวิตอยู่ ท่านเคยขึ้นเรือรบหลวงชุมพร นั่งปรกปลุกเสก วัตถุมงคล ใต้กระบอกปืนใหญ่ และเคยจัดสร้างเหรียญเสด็จเตี่ย แจกแก่ศิษย์ นำไปสักการบูชา ซึ่งปัจจุบันเป็นที่แสวงหาอย่างกว้างขวาง ในปี ๒๕๓๕ทางวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ได้ทำการจัดสร้าง เหรียญเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร หลังหลวงพ่อสงฆ์ เนื้อนวะโลหะขนานแท้ และเนื้อทองแดง ตอกโค๊ต ร . แล้วได้นำเข้าพิธีมหาพุทธาพิเสก ครั้งยิ่งใหญ่สำคัญๆ อีกหลายครั้ง และท้ายสุดก็นำเหรียญนี้ ขอความเมตตาจากหลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก และหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ปลุกเสกเพื่อความเข็มขลังเอกอุยิ่ง ยิ่งขึ้น เหรียญเสด็จเตี่ย หลังหลวงพ่อส ฆ์ ปี ๓๕ เหรียญนี้ ราคายังไม่แพง ข้อมูลการจัดสร้างชัดเจน ตอกโค๊ตกำกับทุกเหรียญ จึงเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่น่าสะสม
ขอบคุณครับ (auto feedback)
พระพุทโธน้อย ผสมมวลสารพระผงของ แม่ชีบุญเรือน จัดสร้างในปี 2516 มี 2 พิมพ์ พุทธคุณไม่แพ้รุ่นแรกครับ ปลุกเสกและร่วมกันอธิษฐานจิต ทำพิธีในวันที่สร้างศาลาการเปรียญที่วัดสารนาถธรรมาราม จ.ระยอง ปี พ.ศ.2516 เมื่อเสร็จงานก็นำพระส่วนที่เหลือบรรจุกรุไว้ที่วัดสารนาถธรรมาราม ขนาดองค์พระกว้าง 2 ซ.ม. สูง 2.9 ซ.ม. พระสวย หายากแล้ว สภาพเดิมๆ มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองระยอง มาร่วมพิธีปลุกเสกด้วย ทั้ง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ,หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า, หลวงพ่อบุญ วัดบ้านนา หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ, หลวงปู่แหวน สุจิณโณ และพระเกจิอาจารย์สายธรรมยุต และ สายมหานิกาย ร่วมกันอธิษฐานจิต ปลุกเสกกันเลยทีเดียว .คนพื้นที่เมืองแกลง บางคนที่อยู่ทันในพิธีปลุกเสก ต่างยืนยันว่า สามารถใช้แทนรุ่นแรกได้เป็นอย่างดีครับ
รูปหล่อหลวงพ่อแช่ม ครบรอบ 100 ปี พ.ศ. 2551 พิมพ์หลังคู้ เนื้อทองแดง วัดฉลอง จ.ภูเก็ต สร้างเองในปี 2551 วาระพิเศษครบรอบ 100 ปี "หลวงพ่อแช่ม" เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่มณฑลพิธีวัดฉลอง 3 วัน 3 คืน เมื่อวันที่ 16-18 เม.ย.2551 พระสงฆ์ที่ทรงคุณวิเศษทั่วประเทศไทยและมาเลเซีย ผลัดกันเข้าพิธีปลุกเสกมากกว่า 120 รูป ปลุกเสกเข้มหลัง และยิ่งใหญ่มาก