nongnid5151

ข้อมูลสมาชิก – nongnid5151

เริ่มเป็นสมาชิก: April 25, 2015 04:54:39 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 0 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 2495 รายการ , คำติ: 0 รายการ

ประวัติ Feedback

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุด-จ.นครปฐม/6442971


พระขุนแผนเนื้อดิน 7 ป่าช้า หลวงพ่อแหยม วัดดอนพุทรา จ.นครปฐม เป็นสุดยอดเมตตา มหาเสน่ห์มากๆครับ แถมยังได้กุมารมาช่วยเสริมอีกแรงครับ โชคลาภก็ดีมากๆ หากหาขุนแผนหลังมะ หลวงพ่อเต๋ ไม่ได้ใช้องค์นี้แทนได้เลย พื้นที่หวงแหนกันมาก บางคนห้อยจนแม่บ้านต้องขอร้องให้เลิกแขวน กันไปเลย ท่านเป็นเกจินครปฐมยุคเดียวกับหลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง เป็นพระที่ทรงอภิญญาจิตสูงมาก ขุนแผนท่านโด่งดังมาก่อนหลวงพ่อเต๋ ประสบการณ์ด้านเมตตามหาเสน่ห์สูงมาก แถมพกไปมีคนเห็นเป็นเด็ก(กุมาร)ตามไปด้วยอีกต่างหาก การสร้างพระขุนแผน..เนื้อผงพราย..... ท่านเริ่มสร้างพระขุนแผน ตั้งแต่ ราวปี พ.ศ. 2485 เรื่อยมาจนถึงประมาณปี พ.ศ.2500 โดยมวลสารที่ใช้ เป็นเนื้อดินอาถรรพณ์ ไม่แตกต่างกับ พระขุนแผนของหลวงพ่อเต๋เลย นั่นคือ เดินเจ็ดป่าช้า เจ็ดโป่ง เจ็ดไร่ เจ็ดนา ไคลเสมา ดินขุยปู ผงวิเศษ ว่าน108 เถ้าอังคารกระดูก ฯลฯ เนื้อพระ แบ่งออกเป็นหลายเนื้อ คือ เนื้อดินเผา จะมีสีแดงอมน้ำตาล เนื้อดินดำผสมผงใบลาน เนื้อดินดิบ และ เนื้อผงใบลาน ส่วนพิมพ์ของพระขุนแผน จะมีลักษณะพิมพ์เป็นห้าเหลี่ยม องค์พระ จะมีพิมพ์ปางมารวิชัย และ พิมพ์ปางปลุกกุมาร พนมมือนั่งขัดสมาธิเพชร ประทับนั่งบนฐาน ด้านล่างใต้ฐานเป็นกุมารนอนด้านหลังองค์พระขุนแผน มีรอยจารเปียก เป็นอักขระเลขยันต์ อันประกอบด้วย พระพุทธเจ้า5 พระองค์ คือ"นะ-โม-พุท-ธา-ยะ" หัวใจแม่ธาตุทั้ง4 คือ"นะ-มะ-พะ-ทะ" หัวใจขุนแผน คือ"สุ-นะ-โม-โล" ยันต์นะเทพรัญจวน ยันต์นะทรหด มะ-อะ-อุ อุ-อะ-มะ ฯลฯ สำหรับการจารเปียก ของหลวงพ่อแหยม ท่านใช้เหล็ก กับ ก้านธูป เป็นตัวจาร การจารในแต่ละครั้ง ก็ไม่เหมือนกัน บางองค์จารตามกำลังวัน บางองค์จารยันต์ทั้งแปดทิศ แล้วแต่เจตนาของท่านเอง เพราะท่านพิจารณาฤกษ์ยามกำลังวัน ในการจารทุกครั้ง มีเรื่องเล่ากันว่า "ในการปลุกเสกพระขุนแผน ของหลวงพ่อแหลม ทุกครั้ง ท่านจะปลุกเสกจนกว่า กุมารที่นอนอยู่ใต้ฐานพระขุนแผน ดิ้นส่ายไปส่ายมา พลิกซ้าย พลิกขวา ตามตำรา ท่านจึงจะนำออกมาให้ญาติโยมได้บูชากัน" นอกจากนั้น หลวงพ่อแหยม ยังได้มอบพระขุนแผนของท่าน ส่วนหนึ่ง ไปแจกแก่เหล่าทหารและตำรวจที่ไปร่วมรบ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อนำไปอาราธนาติดตัวไว้ป้องกันภัยต่างๆ ล้วนเกิดอภินิหารเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ไปรบในคราวนั้น รอดตายกลับมา จนเล่าขานกันมาทุกวันนี้ ร่วมถึงชาวนครปฐมในยุคนั้น รู้กิตติศัพท์พระขุนแผนของท่านเป็นอย่างดี จุดประสงค์ เนื่องจาก พระขุนแผน รุ่นแรก (อินโดจีน) ของหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม ราคาไปไกลเกินเอื้อม (หลายหมื่น) อีกทั้ง พระขุนแผน หลวงพ่อแหยม ราคาไม่แพง แถมสร้างในยุคเดียวกัน ราวปลายพ.ศ.2500 มีกรรมวิธีการสร้างที่ไม่แตกต่างกัน เพราะท่านเรียนวิชามาจากพระอาจารย์ รูปเดียวกัน


เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ June 02, 2016 16:10:04


*..วัดใจ..* ลูกอมผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ขนาด 1.7 ซ.ม ผ่านงานประกวด ชมรมพระเครื่อง จังหวัดระยอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2558..พร้อมกล่องงานประกวด  รับประกันตามกฏคะ


เขียนโดย :เดินตามฝัน เจ้าของรายการ May 31, 2016 03:46:22


พระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆังปี2495พิมพ์เทวดาใหญ่ฝังตระกุด5ดอก พระสวยคมชัดลึกมีคราบน้ำมนต์ไม่มีอุดและซ่อม รับประกันตามกฏและหลักสากล


เขียนโดย :manlompon เจ้าของรายการ May 29, 2016 02:58:34


พระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆังปี2495พิมพ์เทวดาใหญ่ฝังตระกุด2ดอก พระสวยคมชัดลึกมีคราบน้ำมนต์ไม่มีอุดและซ่อม รับประกันตามกฏและหลักสากล


เขียนโดย :manlompon เจ้าของรายการ May 29, 2016 02:58:06

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/กระดานวัดดวง/6475895



เขียนโดย :w2525 เจ้าของรายการ May 26, 2016 04:39:20

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/กระดานวัดดวง/6481650



เขียนโดย :Ninjazza เจ้าของรายการ May 25, 2016 16:47:06

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุด-จ.นครปฐม/6413625


 เหรียญขวัญถุง หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม เนื้อทองแดง สภาพสวยเดิม


เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ May 24, 2016 12:05:02


สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี ) 72 ปี พระครูบริหารคุณวัตร เจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส ปี 2538 พระพิมพ์สมเด็จที่ทางวัดใหม่อมตรส บางขุนพรหมได้จัดสร้างอย่างเป็นทางการในนามของทางวัดได้แก่ รุ่นปี 2509, 2517, 2531, 2539 และ 2543 นอกจากรุ่นดังกล่าว ก็จะมีที่จัดสร้างโดยมีการผสมผงบางขุนพรหม แต่ไม่ได้ออกในนามวัดคือ 1.พระสมเด็จหลวงตาพัน สร้างระหว่างปี พ.ศ.2500 - 2507 2.พระสมเด็จหลวงปู่ลำภู สร้างระหว่างปี พ.ศ.2502 - 2509 3.พระสมเด็จ รุ่นสร้างกุฏิวัดเทพคงคา สร้างโดยพระมหานันทโก รองเจ้าอาวาส พุทธาภิเษกโดย หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ สร้างประมาณปี 2535 4.พระสมเด็จฉลอง 72 ปีพระครูบริหารคุณวัตร เมื่อปี พ.ศ.2538 พระสมเด็จบางขุนพรหมองค์นี้ เป็นพระที่สร้างฉลองอายุ 72 ปีของพระครูบริหารคุณวัตร หรือ หลวงตาชม หรือ พระอาจารย์ชม เจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส สร้างเมื่อ 16 มีนาคม 2538 หลังการสร้างพระรุ่น 31 มาได้ 7 ปี แต่สร้างก่อนการสร้างพระรุ่น 39 และ 43 เนื้อหามวลสารประกอบด้วยผงเก่าบดละเอียดผสมกับปูน บางองค์ยังเห็นชิ้นส่วนของผงเก่ากระจายอยู่ โดยความเห็นส่วนตัวผมยังเชื่อว่า มีผงเก่าผสมอยู่มากกว่ารุ่น 2531 - 2539 และ 2543


เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ May 24, 2016 12:05:01

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระปิดตาทุกสำนัก/6404468


ประวัติของพระสุนทรศีลสมาจาร (ผล) เกิด วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม 2437 ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือน 9 ปีมะเมีย ณ บ้านโคกขาม เป็นบุตรของ นายแก้ว นางยิ้ม แก้วเพชร อุปสมบท ณ วัดหนัง มรณภาพ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2513 ณ โรงพยาบาลจุฬาฯ รวมสิริอายุ 74 ปี 6 เดือน 28 วัน 54 พรรษา พระสุนทรศีลสมาจาร คุตตจิตตเถร นามเดิมผล นามฉายา คุตฺตจิตฺโต (ฉายาเดิมที่พระอุปัชฌาย์ ตั้งไว้ในวันอุปสมบทเป็น “คงฺคสฺโส”) เจ้าคุณพระมหาโพธิวงศาจารย์ อินทโชตมหาเถร วัดอนงคาราม อดีตเจ้าคณะจังหวัดธนบุรี ปรารภว่า ที่ประชุมในคราวพิจารณาคัดเลือก พระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ คณะสังฆมนตรี พากันหัวเราะเรื่องฉายา คงฺคสฺโส มีความหมายไม่เหมาะสม ขอให้ผู้เขียนประวัติ ไปเรียน ให้พระวิเชียรกวี (ฉัตร)ทราบ และให้เปลี่ยน ฉายาเสียใหม่ ผู้เขียนกราบเรียนให้ทราบว่า หลวงพ่อ เจ้าคุณวิเชียรกวี อาพาธหนัก ขอให้พระเดชพระคุณ อดีตเจ้าคณะจังหวัดธนบุรีเปลี่ยนให้ ท่านจึงเขียน มาให้ หลวงพ่อเจ้าคุณสุนทรฯ คัดเลือกเอา ตามใจชอบเท่าที่ผู้เขียนจำได้มีอยู่ 3ชื่อ หลวงพ่อเลือกเอา คุตฺตจิตฺตเถร ท่านให้เหตุผลว่า ที่เลือกเอา ชื่อฉายา เห็นว่าเกี่ยวกับการรักษาจิตเพราะ หลวงพ่อสนใจ เรื่องทำสมาธิจิต เป็นประจำอยู่แล้ว หลวงพ่อสุนทรฯ เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2437 ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 9 ปีมะเมีย จุลศักราช 1256 ในรัชกาลที่ 5 ที่บ้านโคกขาม ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นบุตรนายแก้ว นางยิ้ม แก้วเพ็ชร เมื่อ อายุ 12 ปี ได้มาอยู่วัดหนัง ศึกษาหนังสือไทยในสำนักของพระครูสังวรยุตตินทรีย์ (คำ) เรียนภาษาบาลี กับนายมิ่ง รักชินวงศ์ อาจารย์สอนบาลีแห่งวัดหนัง พ.ศ. 2453 เลิกการศึกษากลับไปอยู่บ้านช่วยบิดามารดา ประกอบอาชีพ พ.ศ. 2455 สมัครเข้ารับราชการทหารเรือ วันที่ 27 มีนาคม 2458 อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดหนัง ตำบลคุ้งเผาถ่าน (บางค้อ) อำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรี พระภาวนาโกศลเถร (อี่ยม) วัดหนังเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการนิ่ม แห่งวัดโคกขาม พระปลัดแจ้งแห่งวัดหนัง เป็นคู่กรรมวาจาจารย์ อุปสมบทแล้วจำพรรษา ณ วัดหนัง จนถึงวันมรณภาพ ได้ศึกษา พระธรรมวินัย ในสำนักของพระอุปัชฌาย์ และมีความอุตสาหะ ศึกษาในวิปัสนาธุระ ในสำนักของอุปัชฌาย์เช่นกัน เมื่อ พ.ศ. 2478 หลวงพ่อเจ้าคุณได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท ได้เป็นกำลังช่วยบริหารกิจการของวัดตลอดมาเป็นการแบ่งเบาภาระเจ้าอาวาส จนกระทั่งได้รับตำแหน่งเป็น เจ้าอาวาสองค์ที่ 7 นับแต่สถาปนาเป็นพระอารามหลวง การปกครอง หลวงพ่อได้เคารพต่อพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับระเบียบ และคำสั่งของคณะสงฆ์ ปฏิบัติงานเด็ดขาดเป็นที่เคารพยำเกรง ของบุคคล ผู้อยู่ภายใต้การปกครอง และประชาชนทั่ว ๆ ไป หลวงพ่อศึกษาในอักรสมัย (ภาษาขอม) จนเกิดความชำนาญในการอ่านและการเขียนเป็นอย่างดี และต่อมาได้ ค้นคว้าหลักวิชาการ ในแนวทางปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน จนเป็นผู้ฝึกแนะนำให้กุลบุตรได้ปฏิบัติตามแนวทาง ที่ถูกที่ควร ดำเนิน เพื่อให้เกิดเป็นสุปฏิบัติ โดยควรแก่ความรู้ความสามารถของหลวงพ่อ ที่ท่านได้วิริยะอุตสาหะ สั่งสมอบรมมา นับว่าเป็นกำลังสำคัญของพระศาสนาที่จะช่วยกันทำนุบำรุงพระปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ให้สืบต่อ อายุพระพุทธศาสนา สืบต่อไป หลวงพ่อไม่ใช่นักพูด แต่หลวงพ่อเป็นนักทำ คือทำตนของท่านให้ศิษยานุศิษย์ และสาธุชน ได้เห็นได้ศึกษา ในการประพฤติปฏิบัติของท่าน นับว่าเป็นผลดีของการปกครองในด้านการเผยแผ่ ก็เท่ากับเป็นการเผยแผ่ตัวอย่างที่ดีให้แก่ชนรุ่นหลังได้เห็นได้รู้เอาเป็น ครูในการดำเนินรอยตาม งานบูรณะปฏิสังขรณ์ก่อสร้างเสนาสนะนั้น หลวงพ่อได้ทำมาก่อนที่ท่านจักได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส จับงานมาแต่สมัยเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ฉะนั้นงานก่อสร้างปฏิสังขรณ์พระอารามจึงไม่เป็นของแปลก และหนักใจของท่าน ท่านมิได้ถือว่างานก่อสร้างเป็นเรื่องของสมภารเจ้าวัด เอกลาภเป็นของลูกวัด ท่านถือเสียว่างานก่อสร้างทุกชิ้นที่เกิดขึ้นในวัดเป็นสมบัติของพระศาสนา เป็นของส่วนรวม เป็นส่วนกลาง เป็นที่บำเพ็ญกุศลของสาธุชนทั่วไป ฉะนันในยุคสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ จึงได้ก่อสร้างปฏิสังขรณ์ ปรับปรุงเพิ่มเติม กุฏิคณะไต้ ได้บอกบุญปลูกศรัทธาให้นางชิต นุชเนตรคหปตานี นางขุนเทียน สร้างมณฑปเป็นที่ประดิษฐาน พระบาทจำลอง ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองหน้าวัด ด้านทิศเหนือ ปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ เปลี่ยนเครื่องบนมุมกระเบื้อง ยกช่อฟ้าใหม่ ซ่อมศาลาพุทธบาท ศาลาราย บอกบุญสร้างเมรุ ศาลาทึม และปฏิสังขรณ์เสนาสนะไว้ เป็นจำนวนมาก ทำให้พระอาราม เป็นที่เจริญตาเจริญใจ ของสาธุชน ผู้เข้าไปในวัดให้เกิดศรัทธาปสาทะ น้อมใจเข้าสู่แนวทางปฏิบัติ ให้เกิดปัญญาเห็นชัดตามสภาพธรรมในขั้นต่อไป หลวงพ่อเจ้าคุณ ฯ ได้รับสมณศักดิ์และรับพระราชทานสมณศักดิ์ ตำแหน่งที่การงานโดยลำดับ ดังนี้.- พ.ศ. 2467 เป็นพระใบฎีกา ฐานานุกรมในท่าน เจ้าคุณพระภาวนาโกศลเถระ (เอี่ยม) พ.ศ. 2468 เป็นพระสมุห์ ฐานานุกรมในท่าน เจ้าคุณพระภาวนาโกศลเถระ (เอี่ยม) พ.ศ. 2470 เป็นพระปลัด ฐานานุกรมของพระวิเชียรกวี (ฉัตร) พ.ศ. 2478 เป็นพระครูสัญญาบัตรผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท (ฝ่ายวิปัสสนา) พ.ศ. 2494 เป็นพระครูสัญญาบัตรผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก พ.ศ. 2500 เป็นพระราชาคณะสามัญที่พระสุนทรศีลสมาจาร พ.ศ. 2502 เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนัง พ.ศ. 2503 เป็นเจ้าอาวาสวัดหนัง หลวง พ่อเป็นพระเถระที่ฝักไฝ่อยู่ในวิปัสสนาธุระเท่าที่องค์ปัญญาจะเกิดมีขึ้นแก่ ท่านและได้แนะนำให้ ้พระภิกษุ ุทายกทายิกา ผู้มีศรัทธาปสาทะในแนวทางปฏิบัติ ให้ได้รับเรียนวิปัสสนาในสำนักของท่าน และต่างสำนัก กิจวัตรที่หลวงพ่อมีพลังศรัทธาอยู่มาก และสนใจอยู่มากนั้นก็คือ ธุดงควัตร เมื่อเป็นพระอันดับ อยู่ท่านถือการ ธุดงค์เป็นประจำทุก ๆ ปี มาจนตราบเท่าเจริญพรรษายุกาล มากขึ้นโดยลำดับ ได้ทราบว่า หลวงพ่อวิเชียรกวี อดีตเจ้าอาวาสวัดหนังองค์ที่ 6 ในสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ ได้ขอร้องให้อยู่กับวัด โดยมิให้เดินธุดงค์จาริก ไปในคามนิคมชนบท เพราะเห็นความสำคัญในหลวงพ่อ เจ้าคุณพระสุนทร ฯ เกี่ยวกับ เรื่องวัดวาอาราม ละการอนุเคราะห์ทายกทายิกา ผู้หันหน้ามาพึ่ง เพื่อบำบัดทุกข์โศกโรคภัย นานาประการ และอีกประการหนึ่ง ก็เท่ากับว่า หลวงพ่อเจ้าคุณพระสุนทร ฯ เป็นกำลังเป็นมือขวาของหลวงพ่อ เจ้าคุณพระวิเชียรกวี เมื่อท่านละ ทิ้งวัดไปนาน ๆ ก็เกิดความว้าวุ่นใจ ของพระเถระผู้ปกครองวัด ขาดผู้แบ่งเบา ภาระ ขาดที่ปรึกษากิจการงาน ด้วยความเคารพและเห็นใจ ที่หลวงพ่อทั้งสองมีต่อกัน เป็นพื้นอยู่แล้ว เมื่อท่านขอร้องเช่นนั้น ท่านจะไม่ยอมรับเหตุผล ก็เห็นจะผิดวิสัยของท่านผู้ปรารถนาดีต่อกัน จึงจำยอมปฏิบัติตาม หลวงพ่อเจ้าคุณ ฯ เป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่มั่นคงอยู่ในเพศพรหมจรรย์ ตลอดชีวิต ความเป็นสมณะของท่าน ตั้งอยู่ในพรหมวิหารธรรม ให้ความคุ้นเคยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับบุคคลทุกชั้นทุกวรรณะมิได้แสดงอาการ อันเป็นเหตุให้อาคันตุกะได้รับความหนักใจ เพราะความมากไปด้วยเมตตากรุณนั่นเอง ท่านจึงต้องใช้สังขาร อย่างกรากกรำ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข ให้แก่คนที่หันหน้ามาพึงท่าน มิได้คำนึงถึงความเหน็ดเหนื่อย ไม่ใคร่มีเวลาพักผ่อน เวลาไม่เป็นของท่าน กิจธุระนอกวัดก็มากขึ้นตามลำดับเมื่อกลับถึงวัดก็ควรจักได้พักผ่อน ถึงวัดถึงกุฏิก็ต้องแก้ปัญหา บำบัดความทุกข์เวทนาของบุคคล ผู้มาคอยหวังความอนุเคราะห์อยู่เป็นประจำ เพราะความคุ้นเคย เป็นกันเองนั่นเอง จึงมีผู้ศรัทธาปสาทะในท่านเป็นจำนวนมาก ท่านได้บำเพ็ญตน อยู่ในลักษณะนี้ ชั่วอายุของท่าน จึงเป็นเหตุให้เราคนวัดเกือบจะไม่ได้ยินใครเรียกว่า พระสุนทรศีลสมาจารว่า เจ้าคุณ มีแต่ใช้คำเรียกท่านว่า “หลวงพ่อ”ทั้งในวัดและนอกวัดในที่ทั่ว ๆ ไป เรียกหลวงพ่อกันได้อย่างสนิทใจ เหมือนกับเป็นพ่อของคนเหล่านั้นโดยความรู้สึก โดยปกติคนเราเมื่อมีทุกข์ภัยเกิดขึ้น ก็ไม่มีคนอื่นจะดีไปกว่า บิดามารดาฉันใด หลวงพ่อก็ฉันนั้น จึงเปรียบเสมื่อนว่าเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ให้ความร่มเย็นแก่ชาวบ้านชาววัดมา เป็นเวลานานปี. วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม ท่านได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายชนิด โดยเฉพาะพระชัยวัฒน์ ก้นอุดชันโรง มีด้วยกัน 7 รุ่น ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน และยังมีเหรียญรุ่นแรก พระปิดตาเนื้อชิน และเนื้อผง นางสามเหลี่ยมพิมพ์ใหญ่ กลาง เล็ก ทั้งเนื้อชินและผง หมากทุย ผ้ายันต์ ตะกรุด เป็นต้น เหรียญรุ่นแรก ปี 2509 เนื่องในโอกาสทำบุญ 72 ปี มีเนื้อทองคำ เงิน อัลปาก้า ทองแดง ทำจากกองกษาปณ์ และภายหลังได้สั่งปั๊มเพิ่ม แก้ พ.ศ.เป็น 2511 และสั่งเพิ่มอีก แต่ใช้ พ.ศ. เดิม คือ 2509 ทั้งเปลี่ยน พ.ศ. และใช้ พ.ศ.เดิม ต่างนำมาปลุกเสกพร้อมกัน สำหรับเหรียญที่ระบุปี 2511 ได้นำออกมาแจกในงานพระราชทานเพลิงศพของท่าน พุทธคุณที่เล่าสืบทอดกันมา พุทธคุณในเหรียญรุ่นนี้เด่นทาง เมตตามหานิยม


เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ May 20, 2016 16:35:04


เปิดเบาๆวัดใจ รับประกันตามกฎ


เขียนโดย :แจ๊คปากน้ำ เจ้าของรายการ May 20, 2016 11:54:19

หน้าที่ :  200