เคาะเดียวแดง กดVหลังชื่อ กรรณิกา ยังมีพระราคาไม่แพง อีกมากครับ(โอนแล้วช่วยแจ้งด้วยครับ)วัดคลองขอม หมู่ 3 คลองขอม เขตสามชุก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อราวปีพุทธศักราช 2456-2460 เจ้าอาวาสวัดคลองขอมในขณะนั้น คือหลวงพ่ออุ่ม ท่านเป็นศิษย์องค์หนึ่งของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่ออุ่มมักไปมาหาสู่กับหลวงปู่ศุขเป็นประจำ หลวงปู่ศุข ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ก็มักได้รับนิมนต์ให้ไปปลุกเสกพระที่ วัดต่างๆ เช่นวัดอนงคาราม ในกรณีนี้ก็เช่นกัน หลวงปู่ศุข ท่านก็ได้มาช่วยสร้างพระเพื่อหาทุนสร้างพระอุโบสถที่ วัดคลองขอมแห่งนี้ มวลสารที่นำมาเป็นส่วนผสมในการทำพระใช้ผงวิเศษ ว่าน 108 เกสรดอกไม้ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ จากการลบสูตรแบบโบราณ และยังได้นำใบลานเก่ามาเป็นส่วนผสมด้วย ประวัติศาสตร์ส่วนนี้กล่าวกันว่า ขณะที่นำเอาตำราใบลานเก่าที่ชำรุดมาเผา หลวงปู่ศุข และหลวงพ่ออุ่ม ก็ได้เดินจงกรมทำสมาธิไปรอบๆกองไฟด้วย เชื่อกันว่าผงใบลานนี้ให้ผลทางคงกระพันชาตรี เมื่อสร้างเสร็จ หลวงพ่ออุ่มและหลวงปู่ศุขได้ร่วมกันปลุกเสกเป็นเวลา 1 ไตรมาส (ก่อนเข้าพิธีใหญ่) พิธีพุทธาภิเศกพระที่บรรจุในกรุคลองขอม ประมาณปี พ.ศ.2456-2460 ในสมัยหลวงพ่ออุ่มเป็นเจ้าอาวาสนั้น เป็นการปลุกเสกหมู่ครั้งใหญ่ โดยมีหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์จากเขตสุพรรณบุรี ชัยนาทและจากที่อื่นๆที่เก่งๆอีกหลายท่าน มาร่วมปลุกเสก แต่ที่รู้จักกันดีได้แก่ หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว, หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา แม้กระทั่งหลวงพ่อปาน แห่งวัดบางนมโค ก็มาร่วมพิธีนี้ด้วย เพียงแค่นี้ก็ถือได้ว่าสุดยอดแห่งพิธีกรรมแล้ว เพราะพระเกจิที่มาปลุกเสกนั้นถือได้ว่าเข้มขลังและ “เก่งจริง!” หลังจากนั้นก็แจกแก่บรรดาผู้มาร่วมการกุศล กล่าวกันว่า เมื่อโบสถ์สร้างเสร็จ พระผงยังคงเหลืออยู่จำนวนมาก ส่วนเนื้อทองเหลืองเหลือน้อย หลวงพ่ออุ่ม ได้บรรจุพระเข้าในเจดีย์ที่สร้างขึ้นหน้าโบสถ์ และใต้ฐานชุกชีพระประธานในโบสถ์ พร้อมกับบันทึกเหล็กจารในแผ่นเงิน ระบุความเป็นมาของพระชุดนี้บรรจุ เข้าไปในพระเจดีย์ด้วย และที่เจดีย์นั้นได้มีการเขียนป้ายปิดไว้ว่าเป็นกรุพระของหลวงปู่ศุขอย่างชัดเจน เมื่อครั้งที่แตกกรุมาใหม่ๆ ประมาณปี พ.ศ.2522 - 24 ว่ากันว่าเซียนพระจากส่วนกลางได้เดินทางไปบูชาเหมามาเป็นจำนวนมาก ว่ากันว่าค่อนกรุเลยทีเดียว ต่อมาประมาณสิบกว่าปีที่ผ่านมา ได้มีคนนำมาลงโฆษณาในหนังสือมหาโพธิ์เป็นเจ้าแรก ให้ผู้ที่สนใจตัดบัตรไปแลกซื้อ ต่อมาก็มีข่าวว่ามีหนังสือเล่มอื่นๆ ทำด้วยเหมือนกัน เรื่องเล่าเกี่ยวกับการแตกกรุ ได้ฟังจากเซียนใหญ่ที่ได้พระมาตั้งแต่ครั้งแตกกรุใหม่ๆเป็นจำนวนมาก ท่านว่ากรุที่อยู่ใต้พระประธานอุโบสถวัดคลองขอมแตกออกมาเนื่องจากหลังคารั่ว น้ำฝนได้ตกลงมาที่องค์พระเป็นเวลานาน ทำให้ฐานด้านหนึ่งขององค์พระผุและหักล้มลงพิงกำแพง ชาวบ้านต้องช่วยกันยกไว้วางข้างๆตำแหน่งเดิม จึงได้พบกรุที่บรรจุพระพิมพ์เป็นหลุมขนาดใหญ่ สภาพกรุมีสองชั้น พระที่อยู่ชั้นบนผิวพรรณสะอาด ชั้นล่างมีน้ำฝน ไหลซึมผ่าน ขังแล้วแห้งไปๆ เมื่อได้นำพระขึ้นมา ปรากฎมีทั้งดินทรายจับเป็นจำนวนมาก ทางวัดได้นำมากองเรียงๆ ไว้เป็นก้อนใหญ่บ้าง เล็กบ้าง พระมีดินจับอยู่เต็ม และติดกันเป็นก้อน พอจะนับแยกองค์ ก็ต้องเอาน้ำหยอดแล้วเอาเครื่องมือที่พอหาได้ ค่อยๆเซาะพระออกจากกันทีละน้อยๆ ซึ่งแน่นอนพระอาจจะมีตำหนิหรือจะไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก อีกจุดหนึ่งคือกรุพระที่อยู่ภายในเจดีย์ ซึ่งได้ถูกคนร้ายแอบเจาะจนชำรุด ทางวัดจึงได้ปรึกษาคณะ กรรมการทำการเปิดกรุ พบพระเครื่องเหล่านี้บรรจุอยู่มากมาย ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง (กรุงเทพ-สุพรรณและชัยนาท)ต่างก็พามาเช่าหากัน หมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว แบบพิมพ์ของพระในกรุวัดคลองขอม สุพรรณบุรีนี้มีหลายแบบด้วยกัน 1. เหรียญหล่อ เนื้อโลหะผสม แก่ทองเหลือง เป็นสมเด็จสี่เหลี่ยมทรงครุฑ มีหลายพิมพ์ เนื้อโลหะนี้รู้จักกันในวงกว้าง เพราะส่วนหนึ่งหลวงปู่ศุขท่านนำติดตัวไปแจกที่ชัยนาทด้วย 2. พระเนื้อผงใบลาน เนื้อแห้งสนิท สีออกเทาดำ ทำเป็นพิมพ์สมเด็จรัศมีแขนสอบ ขนาดเท่าพระหลวงปู่ศุขทั่วๆไป หรือเท่ากับพระคะแนนของวัดต่างๆ พุทธลักษณะจะผอมเห็นองค์เป็นลายเส้น พระเศียรเป็นรูปข้าวหลามตัด หูเป็นแบบบายศรี มีเส้นรัศมีเล็กๆโดยรอบ ครอบด้วยซุ้มระฆัง และประทับบนฐาน 3 ชั้น มีด้วยกันหลายบล็อค เพราะสร้างพิมพ์นี้เป็นพิมพ์หลัก ที่เป็นพระปิดตาเนื้อดำลงรักทับ มีน้อยมาก 3. พระเนื้อผงขาว มีหลายพิมพ์ด้วยกัน ได้แก่ - พิมพ์สมเด็จรัศมีแขนสอบ มีหลายบล็อค - พิมพ์สมเด็จรัศมีแขนกลม (องค์พระต้อกว่า เศียรกลม และเส้นสายใหญ่ วงแขนเป็นรูปวงกลม) - พิมพ์ปิดตา มีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก - พิมพ์พิเศษ หรือพิมพ์พระประธาน มีขนาดใหญ่เท่ากับสมเด็จพิมพ์ใหญ่ และที่ขนาดใหญ่มากเกือบคืบก็มีแต่พบน้อย มีด้วยกัน 3-4 พิมพ์ เนื้อหาเหมือนกับพระพิมพ์เนื้อขาวปกติทุกประการ บางองค์ปิดทองด้วย หาคนรู้จักได้น้อย ปัจจุบันหาชมยากมาก 4. พระเนื้อผงสีชมพู เป็นเนื้อที่ผสมว่านสบู่เลือด ซึ่งมีสีแดง ว่านนี้มีผลทางอยู่ยงคงกระพัน เมื่อผสมกับผงพระพุทธคุณแล้วทำให้มีสีขาวเจือชมพู ที่พบทำเป็นพิมพ์สมเด็จรัศมีแขนสอบ ลักษณะเหมือนๆกันแต่ก็มีหลายบล็อค พิมพ์แขนกลมมีเป็นส่วนน้อยมาก ปัจจุบันพระกรุคลองขอมจำนวนมากๆ ก็ยังอยู่ในความครอบครองของเซียนหลายท่าน เจ้าละมากๆ ทำให้ไม่เป็นที่แพร่หลายหรือรู้จักเท่าที่ควรเพราะ ไม่มีให้เล่น ที่มีออกมาให้เห็นโดยมากเป็นของเก็บเก่าของชาวบ้าน หรือผู้ศรัทธาในองค์หลวงปู่ศุข ได้ไปเช่าหาเก็บไว้เมื่อครั้งกรุแตก อย่างไรก็ตามหากท่านผู้อ่านคิดจะเก็บพระกรุของแท้ล้านเปอร์เซ็นต์ไว้ศึกษา หรือเพื่อนำมาบูชาติดตัวถือได้ว่าไม่ผิดหวังในเรื่องของพุทธคุณ ดังที่เคยปรากฏเป็นข่าวบ่อยๆ ทั้งเรื่องแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ หรือยิงฟันไม่เข้า มีหลายคนที่มีปัญหาเดือดร้อนเรื่องการเงิน เอาไปบูชาสวดขอพรทุกคืนก็ประสบผลสำเร็จ หากถ้าคิดจะเก็บจะหาไว้บูชาก็ช่วงนี้ละครับ เพราะราคายังไม่แพง เป็นพระหลักร้อยพุทธคุณหลักแสน ก็ว่าได้!! พระชุดนี้แม้แต่ต่างชาติที่นับถือหลวงปู่ศุข อย่างชาวสิงค์โปร์ มาเมืองไทยทีก็จะกว้านซื้อไปครั้งหนึ่งเยอะๆเหมือนกัน และถ้าพูดถึงในระดับวงการ ประกวดก็มีงานประกวดกันมานานแล้วนะครับ ค่านิยมปัจจุบันยังไม่สูงนักเมื่อเทียบกับคุณค่า แต่เชื่อว่าเมื่อผู้คนได้ทราบข้อมูลว่าหลวงปู่ศุขท่านได้ปลุกเศก ไว้และเป็นพระเก่ามีอายุเกือบร้อยปี เพราะเนื้อพระท่านเก่าจริง ไม่เชื่อลองหาพระเนื้อผงหรือเนื้อว่านอายุสัก 20-30 ปี มาเทียบดูจะพบว่าพระกรุคลองขอมนั้นมีความแห้งกว่ากันอย่างมาก ปัจจุบันพระกรุคลองขอมเริ่มเป็นที่นิยมกันมาก แม้แต่เซียนใหญ่ๆ หลายท่านยังกว้านหาสะสมและบูชาติดตัว ทั้งนี้เพราะมีพุทธคุณเข้มขลัง เอกอุเหลือคณานับ มีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์มาตลอด
เคาะเดียวแดง กดVหลังชื่อ กรรณิกา ยังมีพระราคาไม่แพงอีกมากครับ(โอนแล้วช่วยแจ้งด้วยครับ)
ท่านจัดสร้างทั้งพระผงและเหรียญหลวงปู่ทวดในปี05-06 โดยมีอ.ทิม วัดช้างให้ ร่วมปลุกเสก สภาพเดิมๆ เก่าเก็บ ดูง่ายมีบิ่นมุมนิด ราคาเบาๆเคาะเดียวครับ
วัดโคนอนเป็นวัดเก่าแก่ที่หลวงปู่เอี่ยม ท่านมาจำพรรษาอยู่ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่วัดหนัง ในปี ปี 2515 ในงานฝังลูกนิมิตฉลองโบสถ์ ได้จัดสร้างวัตถุมงคลหลายแบบ โดยมีเกจิดังในสมัยนั้นร่วมปลุกเสก อาทิเช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง, หลวงพ่อบุญมี วัดอ่างแก้ว, หลวงพ่อมิ่ง วัดกก, หลวงพ่อกรับ วัดโกรกกราก, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ คงทอง, หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา, หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์, หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง, หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม, หลวงพ่อพัฒน์ วัดบ้านบึง, หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก, หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร,อ.นำวัดดอนศาลา เป็นต้นฯ ในพิธีพุทธาภิเษกและสวดชัยมงคลคาถา 9วัน9คืน มี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นประธานนั่งปรกอธิษฐานจิต ส่วนใหญ่พระเนื้อตะกั่วที่พบบ่อยจะเป็นพิมพ์พระปิดตา ส่วนพระรอดจะมีจำนวนน้อยกว่า โดยเฉพาะองค์นี้สภาพพอสวย.ตอกโค้ดชัด เปิดราคาเบาๆเคาะเดียวครับ
***พระนาคปรกผงว่าน พระธาตุพนม จ.นครพนม เนื้อผงเก่าผงว่านจำปาสักกรุพระธาตุ พ.ศ.2518 พิธีใหญ่ อ.ฝั้นร่วมปลุกเสก เป็นของดีราคาถูกมานานแล้วพระเก่าเก็บเดิมๆ มีคราบความเก่า เปิดราคาเบาๆ ที่เคาะแรกครับ
พระผงเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี ปี พ.ศ. 2497 ประวัติการสร้างพระนาคปรกผงเทพนิมิตร ปี 2497 ความเป็นมาที่เป็นเหตุที่ให้ชื่อว่าเทพนิมิตร เพราะได้ตำราจากความฝัน ว่ามีอาจารย์ผู้เฒ่ารูปหนึ่งมาบอกว่าต่อไปเมื่อหน้า ความสุขความสบายจะไม่มีแก่มนุษย์ผู้ไร้ศีลธรรมจะประสบภัยอันเกิดจากศาสตรา อาวุธนานาชนิดซึ่งไม่เคยพบเห็น ภัยจากโจรผู้ร้ายที่มีใจดำอำมหิตเยี่ยงสัตว์ป่า และภัยจากภูตผีปีศาจ เพื่อให้พ้นจากภัยนี้ท่านบอกว่าให้หาดอกไม้ที่พระสงฆ์เถรานุเถระทำวัตรขอขมา โทษซึ่งกันและกันก่อนเข้าพรรษา และดอกไม้หน้าพระประธานวันเข้าพรรษาวันเดียวให้ได้ ๑๐๘ วัด กับให้เอาตะใคร่พระเจดีย์ที่บรรจุบรมธาตุ ตะใคร่พระศรีมหาโพธิ์ ผงวิเศษของอาจารย์ต่างๆหลายสำนัก ผงวิเศษของอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน มาทำเป็นรูปพระเข้าพิธีปลุกเสกตลอดสามเดือน พร้อมด้วยการทดลองคุณภาพให้เห็นเป็นที่ไว้วางใจได้ ให้ผู้ที่บูชาพระผงเทพนิมิตรนี้ละบาปบำเพ็ญบุญ มั่นอยู่ในศีลธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณพระจะรักษาให้พ้นภัยทั้งปวงดังกล่าวแล้ว พระผงเทพนิมิตรที่สร้าง ในปี 2497 นี้จะมีด้วยกันหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์ขุนแผน พิมพ์ชินราชท่าเรือ พิมพ์นางตรานาคปรกใหญ่-เล็ก พระนาคปรกหลังยันต์ เป็นต้น โดยมีการสร้างแต่ละพิมพ์ พิมพ์ละ 84,000 องค์ และจัดให้มีการประกอบพิธีพุทธาภิเษก จัดให้มีขึ้นตลอดพรรษา ณ วิหารวัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช ได้ฤกษ์พิมพ์องค์พระในวันที่ 2 สิงหาคม 2497 ครบ 84,000 องค์ วันที่ 1 กันยายน 2497 ทำพิธีปลุกเสกวันที่ 14 กันยายน 2497 ออกพิธีวันที่ 12 ตุลาคม 2497 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา โดยพิธีนี้ได้นิมนต์พระเถราจารย์ ผู้เรืองเวทวิทยาคม 108 รูป มาร่วมประกอบพิธี มีท่านเจ้าคุณพระภัทรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระชุดนี้ได้ทำพิธีปลุกเสกที่ วัดบรรพตพินิจ อ.เขาชัยสน พัทลุง และมาปลุกเสกที่วัดบรมธาตุนครศรีธรรมราช อีกครั้งหนึ่ง โดยมีคณาจารย์สายใต้และสายเขาอ้อร่วมปลุกเสกดังนี้ 1. หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จันดี 2. หลวงพ่อโอภาสี บางมด ธนบุรี 3. หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน 4. หลวงพ่อเมือง วัดท่าพญา 5. หลวงพ่อคง วัดคลองน้อย 6. หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำ ปากพนัง 7. หลวงพ่อแดง วัดโท ท่าศาลา 8. หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์ 9. หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก ทุ่งใหญ่, 10. หลวงพ่อตุด วัดทุ่งกง กระบี่ 11. หลวงพ่อวัน มะนะโส วัดประสิทธิชัย 12. หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง 13. หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ 14. หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน 15. หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ 16. หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก 17. หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ตะวันออก พัทลุง 18 หลวงพ่อพัว วัดเขาราหู (วัดบางเดือน) 19. หลวงพ่อแดง วัดคลองไทร 20, หลวงพ่อวิรัช วัดกะเปา คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี 21. หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน 22, หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย 23. หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู 24, หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ชุมพร 25, หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์ บางสะพาน 26, หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์ 27. หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี 28. หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี 29. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม 30. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม ฯลฯ อาจารย์ที่เป็นฆราวาสได้แก่ อ.ชุม ไชยคีรี, อ.นำ แก้วจันทร์, พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช การปลุกเสกเน้นเด่นเฉพาะทาง แบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน เช่น ปลุกเสกเน้นด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุด 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน เนรมิตกายกำราบศัตรูให้เห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน มวล สารที่รวบรวมมามีพระกรุสุดยอดพระเครื่องจากทั่วประเทศ มาดำเนินการสร้างพระชินราชท่าเรือนี้ จากการรวบรวมปรากฎว่าได้พระกรุมากว่า 108 กรุ ว่านยาอีก 108 ชนิด รวมทั้งผงวิเศษ อาทิเช่น พระกรุนางตรา-ท่าเรือ, กรุท้าวโคตร, สมเด็จวัดระฆัง, สมเด็จบางขุนพรหม, พระผงสุพรรณ, ผงดำผงแดงหุ่นพยนต์, หลวงพ่อเกตุ วัดขวิด, ขุนแผนวัดพระรูปและวัดบ้านกร่าง, พระนางพญาวัดนางพญาและวัดต้นจันทร์ สุพรรณบุรี, พระกรุต่าง ๆ ในกำแพงเพชร, พระกรุต่าง ๆ ในสุโขทัย, หูยานลพบุรี, ท่ากระดานหูไห กาญจนบุรี, พระกรุวัดท่ามะปราง, พระวัดชินราช พิษณุโลก, พระหลวงพ่อจุก, พระจุฬามณี พิษณุโลก, พระรอด พระคง พระเปิม-ลำพูน, มหาว่านวัดเขาอ้อ-พัทลุง, และพระกรุศรีวิชัยฯลฯ สำหรับพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกขอยกมาเป็นบางส่วน ได้แก่ เมื่อ เสร็จพิธีกรรม อาจารย์ชุม ไชยคีรี เล็ก พระนาคปรกหลังยันต์ พระพิมพ์ชินราชใหญ่-เล็ก พระพิมพ์ขุนแผน ออกแจกด้วยตัวท่านเอง พร้อมสมุดอุปเท่ห์การบูชาพระ ต่อมาปลวกมาทำรัง พระที่พบจึงมีทั้งแบบมีคราบปลวกและที่ไม่มีคราบ พุทธคุณวิเศษของพระ ในพิธีนี้ มีครบทุกด้านไม่ว่า ทางโชค ลาภ บอกเหตุดีร้ายให้ผ้บูชาล่วงหน้า และคงกระพัน ดังนั้นลูกศิษย์ ลูกหา ของอาจารย์ชุม จึงมักนิยมพระชุดนี้ ติดตัวกันไว้เสมอ ไม่พิมพ์ใดก็พิมพ์หนึ่ง แต่ปัจจุบันพระชุดนี้ หายากพอสมควรค่ะ
พิธีใหญ่น่าสะสมครับ
พระพุทธโคดม เนื้อแร่หมัดไฟ หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว ปี05 หลวงพ่อมุ่ย,หลวงพ่อกวย ร่วมปลุกเสก
เคาะเดียววัดใจเลย พระผงขวัญ วัดเกาะจันทร์ ปี 2497 ท่านใดสนใจเชิญเคาะได้เลยครับ จัดส่งถึงมือแน่นอนครับ ยินดีรับประกันตามกฎครับ