kitdol

ข้อมูลสมาชิก – kitdol

เริ่มเป็นสมาชิก: June 10, 2016 04:02:45 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 0 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 45 รายการ , คำติ: 0 รายการ

ประวัติ Feedback

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระปิดตาทุกสำนัก/6806099


พระปิดตา เนื้อเมฆพัตร สวยเก่า ไม่ทราบที่ครับ (ศ30) รบกวนผู้ชนะการประมูล เมื่อโอนเงินแล้ว กรุณาโทรแจ้ง หรือ เมล์แจ้งทางกล่องข้อความ พร้อมระบุยอดเงินและรายการพระเครื่องที่ท่านประมูลได้ และกรุณาระบุที่อยู่จัดส่งด้วยครับ เพราะว่ายอดเงินของท่าน อาจจะตรงกับรายการปิดประมูลของท่านอื่น ทำให้ไม่สามารถจัดส่งได้ ส่วนหมายเลข EMS และหมายเลขทะเบียน จะแจ้งให้ท่านทราบใน FEEDBACK ครับ ขอบพระคุณมากๆครับ


เขียนโดย :สำเหร่พระเครื่อง เจ้าของรายการ September 07, 2016 01:12:17

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระปิดตาทุกสำนัก/6804695


หลวงพ่อแพ เขมังกโร เป็นชาวจังหวัดสิงห์บุรี ท่านมีนามเดิมว่า "แพ ใจมั่นคง" เกิดเมื่อวันจันทร์ ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๘ ตรงกับ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะเส็ง ณ บ้านสวนกล้วย เลขที่ ๙๓/๓ หมู่ที่ ๓ ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี บิดาชื่อ นายเทียน ใจมั่นคง มารดาชื่อ นางหน่าย ใจมั่นคง  เมื่ออายุได้ ๘ เดือน มารดาผู้ให้กำเนิดได้ถึงแก่กรรม ดังนั้น นายบุญ และนางเพียร ขำวิบูลย์ สามี ภรรยา ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา ได้ขอเด็กชายน้อยๆ ที่มีอายุเพียง ๘ เดือน จากนายเทียน ใจมั่นคง บิดาผู้บังเกิดเกล้าโดยรับอุปการะเป็นบุตรบุญธรรม เมื่ออายุได้ ๑๑ ปี บิดามารดาบุญธรรม ได้นำเด็กชายแพไปฝากอยู่วัด กับสำนักอาจารย์ป้อม เพื่อที่จะศึกษาเล่าเรียนตามแบบโบราณนิยม คือ การเรียนภาษาไทยภาษาขอม นอกจากนั้น ยังได้เรียนหนังสือ มูลบทบรรพกิจ ทางธรรมก็มีพระมาลัยสูตร และยังได้หัดอ่านพระธรรมเจ็ดคัมภีร์ เมื่ออายุได้ ๑๔ ปี บิดามารดาบุญธรรมได้ส่งไปศึกษาต่อที่สำนักวัดอาจารย์ อาจารย์ สม ภิกษุชาวเขมร วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ การศึกษาในกรุงเทพฯขั้นแรกได้เริ่มเรียนหนังสือโบราณท่องสนธิ เรียนมูลกัจจายนสูตร เป็นเวลา ๑ ปี ต่อมา ก็ไปเป็นนักเรียนบาลีไวยากรณ์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ ครั้นหลวงพ่อแพศึกษาหาความรู้จนอายุได้ ๑๖ ปี ก็กลับบ้านเกิด เพื่อบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๓ ณ วัดพิกุลทอง ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีพระอธิการพันจันทสโร เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ครั้นเมื่อบวชเป็นสามเณรแล้วก็ได้เดินทางกลับไปอยู่วัดชนะสงครามตามเดิม และได้ศึกษาบาลีไวยากรณ์ต่อไปอีก จนสอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร ในปีพ.ศ.๒๔๖๘ นายเทียน ใจมั่นคง บิดาผู้บังเกิดเกล้าก็ได้ถึงแก่กรรม โดยความมุมานะพยายาม โดยอาศัยแสงสว่างจากเทียนไขหรือตะเกียง โดยส่วนมากเพราะสาเหตุนี้ นัยน์ตา อันเป็นส่วนสำคัญของสังขาร ก็เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง ทุกครั้งที่ตรากตรำอ่านหนังสือมากเกินไปในที่สุด นายแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ ได้แนะนำ ไม่ให้อ่านหนังสืออีกต่อไป มิฉะนั้น นัยน์ตาอาจพิการได้ ดังนั้นภายหลังจากสอบได้เปรียญธรรม ๔ ประโยคแล้ว การศึกษาด้านพระปริยัติธรรมก็ต้องยุติลง แต่ด้วยความที่เป็นผู้มีใจใฝ่การศึกษา พระภิกษุแพ เขมังกะโร จึงได้ศึกษา และปฏิบัติสมถกัมมัฎฐาน วิปัสสนากัมมัฎฐานในสำนักของพระครูภาวนา วัดเชตุพน จนชำนาญ และดำเนินการสั่งสอนให้แก่ประชาชนทั่วไป สามเณรเปรียญแพ  ขำวิบูลย์ได้ทำการอุปสมบทเมื่ออายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ในวันขึ้น ๖ ค่ำ ปีขาล ตรงกับวันพุธที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๙ ณ พระอุโบสถวัดพิกุลทอง โดยมีพระมงคลทิพย์มุนี เจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิ์ราชาวาส กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูสิทธิเดช วัดชนะสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านเจ้าอธิการอ่อน วัดจำปาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์  ได้รับฉายาว่า "เขมังกะโร" (แปลว่า ผู้ทำความเกษม) ภายหลังจากอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์แพ เขมังกะโร หรือมหาแพ ก็ได้เดินทางกลับสู่วัดชนะสงคราม เพื่อตั้งใจศึกษาทางด้านพระปริยัติธรรม ให้ได้ในระดับสูงที่สุด เพื่อที่จะได้นำความรู้ ความสามารถที่ได้ฝักใฝ่ศึกษาเล่าเรียนนั้น นำไปสร้างสรรค์ให้เกิดคุณค่า และประโยชน์ต่อชุมชนและพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ พระภิกษุแพ เขมังกะโร พยายามที่จะศึกษาเล่าเรียนหาความรู้ อ่านหนังสือตำราเรียนอยู่เสมอ ในปี พ.ศ.๒๔๗๔ อาจารย์หยด พวงมสิต เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง ได้ลาสิกขาบท ทำให้ตำแหน่งว่างลง ชาวบ้านพิกุลทอง และชาวบ้านจำปาทอง จึงนิมนต์ให้พระภิกษุแพมารับเป็นเจ้าอาวาสในเดือน เมษายน พ.ศ.๒๔๗๔ ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุเพียง ๒๖ ปี ต่อมาก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงค์ตำแหน่ง ตามหน้าที่การงานต่างๆ ดังนี้ พ.ศ.๒๔๘๒ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลถอนสมอ พ.ศ.๒๔๘๓ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็น พระอุปัชฌายะ พ.ศ.๒๔๘๔ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอท่าช้าง พ.ศ.๒๕๒๕ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดสมณศักดิ์ พ.ศ. ๒๔๘๔ เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ทำกิจปริยัติธรรมวินัยที่พระคณุศรีพรหมโสภิต พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระสุนทรธรรมภาณี พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระสิงหคณาจารย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนชั้นสมณศักดิ์ เป็นกรณีพิเศษ วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๕ ในวาระครบ ๖๐ พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นพระราชาคณะ ชั้นเทพที่พระเทพสิงหบุราจารย์ พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นกรณีพิเศษ วันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๙ ใน วโรกาสเสด็จครองราชย์ครบ ๕๐ ปี เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมมุนี  นับตั้งแต่พระภิกษุแพ ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดพิกุลทอง ได้บำเพ็ญประโยชน์ภายในวัด และสาธารณประโยชน์ทั่วไป พอสรุปได้ดังนี้ ดำเนินการก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัด ได้แก่ พระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ หอประชุมกุฎิสงฆ์ หอไตร หอฉัน ศาลาวิปัสสนา โรงฟังธรรม ฌาปนสถาน ศาลาเอนกประสงค์ เขื่อนหน้าวัด ฯลฯ ดำเนินการก่อสร้างสาธารณะประโยชน์ เพื่อเป็นการอนุเคราะห์แก่ประชาชนทั่วไป พอสรุปได้ดังนี้ 1. เป็นประธานในการก่อสร้างโรงพยาบาลอำเภอท่าช้าง 2. เป็นประธานในการก่อสร้างที่ว่าการอำเภอท่าช้าง 3. เป็นประธานในการก่อสร้างสถานีตำรวจอำเภอท่าช้าง 4. เป็นประธานในการก่อสร้างสถานีอนามัยตำบลพิกุลทอง 5. เป็นประธานในการก่อสร้างโรงเรียนประชาบาลวัดพิกุลทอง 6. เป็นประธานในการหาทุนสมทบในการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อำเภอ อินทร์บุรีและสะพานข้ามแม่น้ำน้อย อำเภอท่าช้าง ดำเนินการก่อสร้างสาธารณประโยชน์ ให้กับโรงพยาบาลสิงห์บุรี พ.ศ. ๒๕๒๘ ก่อสร้างอาคารหลวงพ่อแพ ๘๐ ปี เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง ๔ ชั้น มูลค่า ๑๑,๑๐๐,๐๐๐ บาท (สิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนบาทถ้วน) สามารถให้บริการผู้ป่วยได้ ๘๙ เตียง พร้อมทั้งจัดตั้งกองทุนเพื่อใช้เป็นค่ายาและเวชภัณฑ์ สำหรับพระภิกษุสามเณรที่อาพาธในโรงพยาบาลสิงห์บุรี เป็นเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สองแสนบาทถ้วน) พ.ศ. ๒๕๓๒ ก่อสร้างอาคารเอ็กซเรย์ (อาคารหลวงพ่อแพ ๘๖ ปี) เป็นอาคารคอนกรีต เสริมเหล็ก สูง ๒ ชั้น มูลค่า ๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท (เจ็ดล้านบาทถ้วน) ก่อสร้างแล้วเสร็จ และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๓ พ.ศ. ๒๕๓๕ พ.ศ.๒๕๓๔ ก่อสร้างอาคารหลวงพ่อแพ ๙๐ ปี เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง ๖ ชั้น มูลค่า ๓๕,๐๙๕,๕๕๕ บาท (สามสิบห้าล้านเก้าหมื่นห้าพันห้าร้อยห้าสิบห้าบาทถ้วน) อาคารหลังนี้ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๔ เวลา ๐๙.๐๙ น. และเปิดให้บริการ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๗ โดยชั้นที่ ๑ ถึงชั้นที่ ๕ เป็นหอผู้ป่วยสามัญ ชั้นที่ ๖ เป็นหอผู้ป่วยพิเศษ จำนวน๑๕ ห้อง และทางโรงพยาบาลสิงห์บุรีได้กราบทูลเชิญ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารหลวงพ่อแพ ๙๐ ปี เมื่อวันจันทร์ที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ พ.ศ. ๒๕๓๘ พ.ศ. ๒๕๓๘ ก่อสร้างอาคารหลวงพ่อแพ เขมังกโร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง ๙ ชั้น มูลค่า ๑๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาทถ้วน) ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อ วันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ อาคารหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอย ๑๑,๔๓๐ ตารางเมตร โดย ชั้นที่ ๑ - ๒ เป็นแผนกบริการผู้ป่วยนอก ชั้นที่ ๓ - ๔ เป็นฝ่ายอำนวยการ ชั้นที่ ๕ - ๙ เป็นห้องผู้ป่วย จำนวน ๖๐ ห้อง ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ พระธรรมมุนี ปัจจุบันมีอายุได้ 95 ปี พรรษา 74 ตลอดชีวิตของหลวงพ่อได้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างเอนกอนันต์ และได้อุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้แก่ประชาชนผู้เดือดร้อนหรือตกทุกข์ได้ยากตลอดมาหลวงพ่อแพ เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรของประชาชนทั่วไปได้แผ่บารมีช่วยเหลือกิจการต่างๆ  นอกจากด้านศาสนาแล้วยังช่วยเหลือด้านการศึกษาและสาธารณสุขด้วยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมายโดยเฉพาะ ในส่วนของโรงพยาบาลสิงห์บุรีได้รับความอนุเคราะห์จากพระเดชพระคุณหลวงพ่อแพดังจะเห็นได้จากการก่อสร้าง อาคารหลวงพ่อแพ 80 ปี ,อาคารหลวงพ่อแพ 86 ปี (อาคารเอ็กซเรย์) ,อาคารหลวงพ่อแพ 90 ปี ที่เด่นเป็นสง่า และดูสวยงามภายในโรงพยาบาสิงห์บุรี และปัจจุบันกับอาคารหลวงพ่อแพเขมังกโร ที่สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีก็ด้วยเพราะบุญบารมีของหลวงพ่อแพ ที่ท่านมอบต่อสาธุชนด้วยเมตตาธรรม พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นชั้นธรรม ที่ พระธรรมมุนี หลวงพ่อแพท่านได้มรณภาพ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 ณ โรงพยาบาลสิงห์บุรีสิริรวมอายุได้ 94 ปี ยังความเศร้าโศกเสียแก่แก่ชาวพุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เป็นอย่างมาก


เขียนโดย :ping เจ้าของรายการ September 06, 2016 10:07:16

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระปิดตาทุกสำนัก/6804710


หลวงพ่อแพ หรือ พระธรรมมุนี เป็นพระที่มากด้วยเมตตาบารมี และมีชื่อเสียงโด่งดังมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนปี 2500 หลวงพ่อแพ ตลอดชีวิตของท่านสร้างแต่คุณงามความดีเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล โรงเรียน วัดต่างๆ หลวงแพ เป็นพระที่มีอายุยืนยาวมากถึง 94 ปี มรณภาพเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2542 สำหรับหลวงพ่อแพ  ในเรื่องของวิทยาคมก็เก่งไม่เป็นรองใคร หลวงพ่อแพ เคยไปปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดแห่งหนึ่งแถวพัทยา ในปี 2512 ในพิธีนั้นมีพระดังๆจากตะวันออกมาหลายท่าน เช่นหลวงพ่อหอม วัดชากหมาก หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า เป็นต้น เมื่อเสร็จงาน หลวงพ่อหอม ได้บอกกับคนพื้นที่แถวนั้น ให้เข้าไปกราบหลวงพ่อแพ  ซึ่งขณะนั้นชาวบ้านไม่รู้จักท่าน  เดิมที หลวงพ่อแพ ท่านเรียนด้านปริยัติ เข้ามาศึกษาพักอยู่ที่วัดชนะสงคราม หลายปี  ต่อมา เมื่อหลวงพ่อแพ ได้เป็นเจ้าอาวาส วัดพิกุลทอง  ท่านได้หันมาให้ความสนใจด้านวิทยาคม เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน ต่อมาหลวงพ่อแพ ได้ไปขอเรียนวิชากับ หลวงพ่อเกลี้ยง วัดสุทัศน์  และ ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ สิงห์บุรี  และหลวงพ่อจุ้ย วัดสามปลื้ม นอกจากนี้หลวงพ่อแพ ยังมีความสนิทสนมกับพระเกจิดังๆในอดีตหลายท่าน เช่น เจ้าคุณศรี วัดสุทัศน์ หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ เป็นต้น หลวงพ่อแพ เป็นพระที่น่าเคารพกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจรูปหนึ่ง  แม้ว่าหลวงพ่อแพ จะออกวัตถุมงคลมาจำนวนนับร้อยรุ่น แต่ถ้าเป็นพระยุคแรกๆของหลวงพ่อก็ไม่ค่อยได้พบให้เห็นบ่อยนัก โดยเฉพาะพระแท้ๆ  เนื่องจากพระของหลวงพ่อแพ มีปลอมเยอะ บางครั้งคนที่คิดจะสะสมไม่กล้าซื้อก็มีครับ  เท่าที่ทราบพระเครื่องของหลวงพ่อแพ จะเด่นด้านเมตตา แคล้วคลาด ค้าขาย เป็นหลักครับ 


เขียนโดย :กานต์ เมืองปทุม เจ้าของรายการ September 06, 2016 08:13:32


เหรียญสามพี่น้อง วัดโตนดหลวง ปี21 เนื้อทองแดง พระสวยเดิมตามภาพครับ **รับประกันตามกฎครับ**


เขียนโดย :Gthana เจ้าของรายการ September 06, 2016 01:50:33

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระสมเด็จทั่วไป/6800511


วัตถุ มงคลของ วัดประสาทบุญญาวาสที่สร้างขึ้น ช่วงปีพ.ศ.2505-พ.ศ.2506 เป็นวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมจากนักสะสมพระเครื่องอย่างสูงเนื่องด้วยสุด ยอดในเรื่องมวลสาร มีเจตนาการสร้างวัตถุมงคลที่บริสุทธิ์ และพิธีกรรมมหาพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่มากๆครับ มีพิธีมหาพุทธาภิเษกวันที่6-7-8-9 มีนาคม พ.ศ.2506 มีเกจิคณาจารย์ร่วมปลุกเสกถึง234รูป อาทิเช่น 1.หลวงปู่ทิมวัดช้างไห้ 2.หลวงพ่อคล้ายวัดสวนขัน 3.หลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม 4.หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี 5.หลวงพ่อแดงวัดเขาบันไดอิฐ 6.หลวงพ่อจงวัดหน้าต่างนอก 7.หลวงพ่อเต๋วัดสามง่าม 8.หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว 9.หลวงพ่อทองสุขวัดสะพานสูง ฯลฯ องค์นี้เป็นพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่เนื้อขาว พระแท้ ดูง่ายครับ เนื้อขาว เนื้อนิยมครับ มีส่วนผสมของพระสมเด็จบางขุนพรหมตอนเปิดกรุปี2500ครับ มาพร้อมบัตรรับรองครับ รับประกันตามกฏครับ


เขียนโดย :เทพอมร เจ้าของรายการ September 03, 2016 04:18:45



เขียนโดย :ทองก้อน เจ้าของรายการ August 20, 2016 14:40:30


เหรียญเสมาหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ปี36 เนื้อทองแดง พระสวยตามภาพครับ **รับประกันตามกฎครับ**


เขียนโดย :Gthana เจ้าของรายการ August 20, 2016 05:02:45


ปรกมะขาม หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก .....เคาะแรก 


เขียนโดย :สุขี เจ้าของรายการ August 19, 2016 16:16:19


ไม่แพงเคาะเดียวครับ


เขียนโดย :วิจิตรศิลป์ เจ้าของรายการ August 19, 2016 09:53:38

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระปิดตาทุกสำนัก/6649499


ผู้สร้างโดย พระครูวิศิษฏ์สมโพธิ์ (ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพน เป็นลูกศิษย์ของสมเด็จพระสังฆราช(ปุ่น) ) ได้ขออนุญาตหลวงปู่สี ได้สร้างพระปิดตาขึ้นมาอีก 1รุ่น โดยสร้างพร้อมกับ พิมพ์พระรอด และ พิมพ์พระกลีบบัว เนื้อพระประกอบด้วย ผงว่าน108 ดอกบัวบูชาหลวงพ่อโสธร ขี้ธูปจากที่บูชาพระสมเด็จพุฒนาจารย์(โต)วัดระฆัง ขี้ธูปดอกไม้จากศาลหลวงพ่อหลักเมือง ดอกไม้บูชาพระแก้วมรกต ดอกไม้บูชาพระนอนวัดโพธิ์ ชานหมากและน้ำหมากหลวงปู่สี ผงวิศิษหลวงปู่สี ผงปูน เศษทองปิดองค์พระพุทธรูปในวัดโพธิ์ท่าเตียน   ****ประกันพระแท้ตามกฎ 


เขียนโดย :puttakhun8400 เจ้าของรายการ August 12, 2016 16:45:03

หน้าที่ :  2