พระหลวงตาพัน สร้างด้วยมวลสารเก่าจากก้นกรุในองค์เจดีย์ วัดใหม่อมตรสล้วนๆ ซึ่งเป็นมวลสารพระสมเด็จที่หักชำรุด ถือได้ว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง เพราะพระสมเด็จ ที่หักชำรุดเหล่านี้เป็น พระสมเด็จ ที่ เจ้าประคุณสมเด็จฯโต ท่านได้ปลุกเสกเอาไว้ แล้วบรรจุกรุในองค์เจดีย์ใหญ่ที่วัดบางขุนพรหม ตอนเปิดกรุอย่างเป็นทางการ เมื่อปี ๒๕๐๐ นั้นหลวงตาพัน ท่านเป็นพระลูกวัด อาศัยอยู่ในโบสถ์วัดใหม่อมตรส ท่านจึงอยู่ในเหตุการณ์โดยตลอด พบเห็นพระหักชำรุด ดินก้นกรุที่วัดรื้อขึ้น ท่านก็เก็บรักษาเอาไว้จำนวนมาก จริงๆแล้วท่านมีมวลสารสมเด็จกรุเก่ามาก่อนแล้วเนื่องจากมีพวกมาแอบลักตกพระพอเจอพระหักก็เอาวางไว้แถวเจดีย์ไม่เอาไปด้วยพอท่านมาเจอก็เก็บพระชำรุดเหล่านั้นมาเก็บไว้เพราะความเสียดายของดีต่อมาปี ๒๕๐๒ ท่านเอาพระหักชำรุดทั้งหมดตำบดอย่างหยาบ ๆ แล้วเอาพระพิมพ์สมเด็จต่าง ๆ และพิมพ์อื่น ๆ ทำพิมพ์ด้วยยางทำฟันเป็นแม่พิมพ์อย่างง่าย ๆ จึงทำให้พระของท่านแทบทุกพิมพ์ทรงดูตื้นขาดความสวยงาม จากนั้นก็นำผงมวลสารที่ตำบดไว้ผสมน้ำมันตังอิ๊วตามสัดส่วนแล้วกดพิมพ์เป็นองค์พระพิมพ์ต่าง ๆ ออกมา ส่วนมากเป็น พระพิมพ์สมเด็จพิมพ์ตื้นๆไม่คมลึกมากนัก องค์นี้พิมพ์นางกวัก สวยคลาสสิค เดิม ๆ เนื้อจัด หนึกนุ่ม ผงเก่าบางขุนพรหมล้วน ๆ ครับ กวักโชคลาภ เงินทอง ค้าขายดีเยี่ยม ขนาด 1.5 * 2 ซม.พระหนา เคาะเดียวครับ 0844113313
พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม กรุงเทพฯ พระดี...พิธีใหญ่..หายาก... พระเกจิอาจารย์ร่วมพิธีปลุกเสกมากมายอาทิเช่น -พระสมเด็จพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ กทม. -พระเทพเมธี วัดเศวตฉัตร กทม. -พระราชสิงหคณาจารย์ (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี -พระราชมงคลมุนี (หลวงพ่อคอน) วัดชัยพฤกษมาลา กทม. -หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา -พระสุขวโรทัย (หลวงพ่อห้อม) วัดคูหาสวรรค์ สุโขทัย -หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู นครสวรรค์ -พระครูวิชาญชัยคุณ (หลวงพ่อสำราญ) วัดปากคลองมะขามเฒ่า -หลวงปู่โง่น โสรโย วัดเขาไม้รวก พิจิตร -หลวงพ่อซ่วน ปัญญาธโร สำนักสงฆ์อาจารย์ซ่วน ฉะเชิงเทรา -พระครูพิทักษ์ พรหมวิหาร (หลวงพ่อตี๋) วัดพรหมวิหาร เชียงราย -หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือแกลง ระยอง -หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม -หลวงพ่อหมื่นอุดม วัดตูม อยุธยา -หลวงพ่อเมี่ยง วัดเกาะสมอ ปราจีนบุรี -หลวงพ่อฤษีลิงขาว วัดฤกษบุญมี สุพรรณ -หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว อยุธยา -หลวงพ่อสาลิโข อุทญานธรรมโกศล ปทุมธานีฯ เป็นต้น แค่เกจิปลุกเสก พุทธคุณไม่ต้องบรรยายครับ หายห่วง จัดสร้างปี 2535 พิมพ์คะแนนกลาง ขนาด 1.8 * 2.4 ซม. ไม่ผ่านการใช้ เคาะเดียวครับ 0844113313 ยอดไม่ถึง 500 ส่งฟรีลงทะเบียนครับ ยอด 500 ส่งฟรี EMS ครับ
+
+
วัดใจ ! ++++++++ รังแตก ! ++++++++ พระสมเด็จ "หลวงปู่เครื่อง วัดสระกำแพงใหญ่" จ.ศรีสะเกษ " หลวงปู่เครื่อง สุภัทโท " หรือ " พระมงคลวุฒ " วัด สระกำแพงใหญ่ พระเกจิชื่อดัง-พระนักพัฒนาที่ชาวอีสานใต้ต่างให้ความเลื่อมใสศรัทธากันเป็น อย่างดียิ่ง ด้วยความเป็นพระเถระที่มีเมตตาธรรมขั้นสูง เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เข้มขลังในวิทยาคมศักดิ์สิทธิ์ด้านเมตตามหานิยม จนได้รับขนานนามว่า " เทพเจ้าผู้มีเมตตาแห่งอีสานใต้ " หลวง ปู่เครื่อง สุภัทโท มีนามเดิมว่า เครื่อง ประถมบุตร เกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2453 ในวัยเด็กหลวงปู่ท่านได้เข้าศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดสระกำแพงใหญ่ แต่ด้วยความที่มีฐานะยากจนต้องช่วยพ่อแม่ทำนำ จึงทำให้เรียนไม่จบ เมื่อมีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ได้กราบลาบุพการีและญาติพี่น้องเพื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดสำโรงน้อย จ.ศรีสะเกษ โดยมีพระครูเทวราชกวีวรญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ใบฎีกาชม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์พรหมมา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า " สุภัทโท " ซึ่งแปลว่า " ผู้ประพฤติงาม " 19 มิถุนายน พ.ศ.2477 ท่านจึงได้ออกเดินทางไปอยู่วัดหลวงเมืองอุบล อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อเข้าศึกษาบาลีไวยากรณ์ และนักธรรม พ.ศ.2479 สอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2480 สอบได้นักธรรมชั้นโท 24 มิถุนายน พ.ศ.2481 ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพงษ์พรต จ.ศรีสะเกษ เป็นเวลา 11 ปี ในระหว่างนั้น พ.ศ.2483 สอบได้นักธรรมชั้นเอก จากนั้นจึงออกเดินทางไปศึกษาด้านสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน ทราบว่า ท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ จำพรรษาอยู่จังหวัดอุบลราชธานี จึงออกเดินทางไปพบท่าน ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาพื้นฐานงานวิปัสสนากัมมัฏฐานกับท่าน และกลับมาพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดสระกำแพงใหญ่ กระทั่งถึงปี พ.ศ.2494 เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปขอเรียนวิชาธรรมกายจากหลวงพ่อเจ้าคุณ พระเทพมงคลมุนี (หลวงพ่อสด จนฺทสโร) วัดปากน้ำภาษีเจริญ ตั้งใจทำสมาธิประพฤติแนววิชาธรรมกาย จนหลวงพ่อสดถึงกับประกาศในหมู่ศิษย์ของท่านว่า หลวงปู่เครื่องได้บรรลุวิชาธรรมกายแล้ว จากนั้นจึงอำลากลับสู่มาตุภูมิบ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้ง และได้รับอาราธนาให้พำนักจำพรรษา ณ วัดสระกำแพงใหญ่ ภายหลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสระกำแพงใหญ่ ด้วย เหตุที่หลวงปู่เครื่องเป็นพระนักปฏิบัติ เคยเป็นศิษย์หลวงพ่อสด จนฺทสโร วัดปากน้ำภาษีเจริญ มาก่อน ประกอบกับเคยธุดงค์ไปตามป่าเขาหลายแห่งในประเทศไทย เมื่อหลวงปู่เครื่องสร้างวัตถุมงคลออกมาแจกจ่ายบูชาให้แก่เหล่าพุทธศาสนิกชน ทั่วไป ตลอดจนบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ จึงมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ ชาวเมืองศรีสะเกษต่างพร้อมใจกันขนานสมญานามให้ท่านว่า " เทพเจ้าผู้มีเมตตาแห่งอีสานใต้ " เป็นเทพเจ้าในดงขมิ้นที่สามารถกราบไหว้ได้โดยสนิทใจแท้ สมเด็จ หลวงปู่เครื่อง เป็นหนึ่งในพระเครื่องที่หลวงปู่ท่านตั้งใจปลุกเสก ด้วยพลังจิตที่แก่กล้า ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาจากหลวงปู่มั่น และวิชาธรรมกายของหลวงพ่อสด จึงทำให้พระเครื่องของหลวงปู่ น่าใช้ยิ่งนัก องค์พระมีขนาด 3.5 x 2.5 ซ.ม. แท้ดูง่าย ของดีราคาเบาที่ไม่ควรพลาด ของดีน่าเก็บ ต้องเคาะ ! เท่านั้นครับ จัดเป็นเซ็ตมาให้พร้อมกันทีเดียว 4 องค์เลยครับ
วัดใจ ! ++++++++ รังแตก ! ++++++++ พระสมเด็จ "หลวงปู่เครื่อง วัดสระกำแพงใหญ่" จ.ศรีสะเกษ " หลวงปู่เครื่อง สุภัทโท " หรือ " พระมงคลวุฒ " วัด สระกำแพงใหญ่ พระเกจิชื่อดัง-พระนักพัฒนาที่ชาวอีสานใต้ต่างให้ความเลื่อมใสศรัทธากันเป็น อย่างดียิ่ง ด้วยความเป็นพระเถระที่มีเมตตาธรรมขั้นสูง เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เข้มขลังในวิทยาคมศักดิ์สิทธิ์ด้านเมตตามหานิยม จนได้รับขนานนามว่า " เทพเจ้าผู้มีเมตตาแห่งอีสานใต้ " หลวง ปู่เครื่อง สุภัทโท มีนามเดิมว่า เครื่อง ประถมบุตร เกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2453 ในวัยเด็กหลวงปู่ท่านได้เข้าศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดสระกำแพงใหญ่ แต่ด้วยความที่มีฐานะยากจนต้องช่วยพ่อแม่ทำนำ จึงทำให้เรียนไม่จบ เมื่อมีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ได้กราบลาบุพการีและญาติพี่น้องเพื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดสำโรงน้อย จ.ศรีสะเกษ โดยมีพระครูเทวราชกวีวรญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ใบฎีกาชม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์พรหมมา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า " สุภัทโท " ซึ่งแปลว่า " ผู้ประพฤติงาม " 19 มิถุนายน พ.ศ.2477 ท่านจึงได้ออกเดินทางไปอยู่วัดหลวงเมืองอุบล อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อเข้าศึกษาบาลีไวยากรณ์ และนักธรรม พ.ศ.2479 สอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2480 สอบได้นักธรรมชั้นโท 24 มิถุนายน พ.ศ.2481 ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพงษ์พรต จ.ศรีสะเกษ เป็นเวลา 11 ปี ในระหว่างนั้น พ.ศ.2483 สอบได้นักธรรมชั้นเอก จากนั้นจึงออกเดินทางไปศึกษาด้านสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน ทราบว่า ท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ จำพรรษาอยู่จังหวัดอุบลราชธานี จึงออกเดินทางไปพบท่าน ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาพื้นฐานงานวิปัสสนากัมมัฏฐานกับท่าน และกลับมาพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดสระกำแพงใหญ่ กระทั่งถึงปี พ.ศ.2494 เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปขอเรียนวิชาธรรมกายจากหลวงพ่อเจ้าคุณ พระเทพมงคลมุนี (หลวงพ่อสด จนฺทสโร) วัดปากน้ำภาษีเจริญ ตั้งใจทำสมาธิประพฤติแนววิชาธรรมกาย จนหลวงพ่อสดถึงกับประกาศในหมู่ศิษย์ของท่านว่า หลวงปู่เครื่องได้บรรลุวิชาธรรมกายแล้ว จากนั้นจึงอำลากลับสู่มาตุภูมิบ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้ง และได้รับอาราธนาให้พำนักจำพรรษา ณ วัดสระกำแพงใหญ่ ภายหลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสระกำแพงใหญ่ ด้วย เหตุที่หลวงปู่เครื่องเป็นพระนักปฏิบัติ เคยเป็นศิษย์หลวงพ่อสด จนฺทสโร วัดปากน้ำภาษีเจริญ มาก่อน ประกอบกับเคยธุดงค์ไปตามป่าเขาหลายแห่งในประเทศไทย เมื่อหลวงปู่เครื่องสร้างวัตถุมงคลออกมาแจกจ่ายบูชาให้แก่เหล่าพุทธศาสนิกชน ทั่วไป ตลอดจนบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ จึงมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ ชาวเมืองศรีสะเกษต่างพร้อมใจกันขนานสมญานามให้ท่านว่า " เทพเจ้าผู้มีเมตตาแห่งอีสานใต้ " เป็นเทพเจ้าในดงขมิ้นที่สามารถกราบไหว้ได้โดยสนิทใจแท้ สมเด็จ หลวงปู่เครื่อง เป็นหนึ่งในพระเครื่องที่หลวงปู่ท่านตั้งใจปลุกเสก ด้วยพลังจิตที่แก่กล้า ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาจากหลวงปู่มั่น และวิชาธรรมกายของหลวงพ่อสด จึงทำให้พระเครื่องของหลวงปู่ น่าใช้ยิ่งนัก องค์พระมีขนาด 3.5 x 2.5 ซ.ม. แท้ดูง่าย ของดีราคาเบาที่ไม่ควรพลาด ของดีน่าเก็บ ต้องเคาะ ! เท่านั้นครับ จัดเป็นเซ็ตมาให้พร้อมกันทีเดียว 4 องค์เลยครับ
วัดใจ ! ต่ำกว่าราคาออกวัด ! ต่ำกว่าราคาทุน ! รูปเหมือนลายกนก เนื้อผงผสมว่าน "หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร" วัดสวนหินผานางคอย จ.อุบลราชธานี สภาพสวย หายาก หลวง ปู่พรหมมา ท่านเป็นพระเกจิที่มีอิทธิญาณบารมีแก่กล้า เป็นพระลึกลับอยู่บนยอดเขาห่างไกลผู้คน มุ่งบำเพ็ญจิตภาวนาเป็นสำคัญ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2440 บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ12 ปี จากนั้นได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิชากับสมเด็จลุน ที่เวินชัยนคร จำปาศักดิ์ นานถึง 6 พรรษา หลังจากที่สมเด็จลุนได้มรณภาพลง หลวงปู่พรหมมาก็ได้ร่วมเดินธุดงค์พร้อมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ไปหาสถานที่อันสงบเงียบบำเพ็ญภาวนาตามป่าเขา หลวงปู่พรหมมาได้จำพรรษาที่ถ้ำแห่งหนึ่งบนยอดภูเขาควายนานถึง 45 พรรษา กล่าวกันว่าหลวงปู่พรหมมา ท่านมีครูบาอาจารย์เป็นฤาษีตาไฟ มีวิชาอาคมเข้มขลัง ต่อมาได้ธุดงค์ข้ามมายังฝั่งไทย เมื่อปีพ.ศ.2533 หลวงปู่พรหมมาได้เห็นว่าถ้ำสวนหิน ภูกระเจียว ในวันเดือนหงายจะมีสัตว์ป่านานาชนิดวิ่งกันขวักไขว่ เหมาะแก่การฝึกปฏิบัติตน จึงได้พักบำเพ็ญเพียรแต่นั้นมา เมื่อเวลา 22 นาฬิกา 11 นาที 31 วินาที ของวันที่ 23 ส.ค.2545 หลวงปู่พรหมมาได้มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคหัวใจ สิริอายุรวม 105 ปี ณ วัดธาตุวราราม จ.เลย วัตถุมงคลที่ท่านจัดสร้างมีด้วยกันหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนมีประสบการณ์และสร้างอภินิหารให้แก่ผู้บูชาอย่างมากมาย เมื่อ ประมาณปี 2536 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐลงข่าวนักการเมืองท้องถิ่น นครสวรรค์โดนยิงขณะรถติดไฟแดง เห็นสภาพรถแล้วกระจกแตกหมด แต่คนที่โดนยิงไม่เป็นไร(โดนหน่ะโดนอยู่แต่ไม่เข้า) เพราะว่าเค้าแขวนพระหลวงปู่พรหมมา ฯ ..... วัตถุมงคลของท่านเป็นจึงที่นิยม และต่างแสวงหามาเพื่อบูชาเป็นสิริมงคลแก่ตัว ทำให้พระที่ท่านสร้างทุกรุ่น นับวันยิ่งทวีค่าและราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับ พระผงรูปเหมือนลายกนกองค์นี้ จัดสร้างตามสูตรโบราณ โดยมีส่วนผสมว่าน 108 ชนิด รวมถึงผงพระกรุบางขุนพรหมที่แตกหัก พระสมเด็จบางขุนพรหมปี 09 , 17 และปี 31 ฯลฯ ออกวัดองค์ละ 199 บาทแล้ว ราคา ที่ผมเปิดมานี้เก็บได้ รับรองไม่ผิดหวัง เคยเห็นหนังสือพระเปิดราคาองค์ละ 700 - 800 บาท จำนวนจัดสร้างแค่ 5000 องค์ ช่วงนี้พระสายอีสานขยับราคาขึ้นด้วยแล้ว ไม่ค่อยมีใครปล่อยออกมาให้ในราคาต่ำ ๆ จึงแนะนำให้เก็บไว้ ถ้าพลาดไปก็น่าเสียดาย ของดี มีจำนวนจำกัด...ช้าอด...ครับ จัดเป็นชุดให้ 4 องค์เลยครับ
วัดใจ ! ++++++++ รังแตก ! ++++++++ พระสมเด็จหลังรูปเหมือน "หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร" วัดสวนหินผานางคอย จ.อุบลราชธานี สภาพสวย หายาก ( พระไม่มีกล่องนะครับ ) หลวง ปู่พรหมมา ท่านเป็นพระเกจิที่มีอิทธิญาณบารมีแก่กล้า เป็นพระลึกลับอยู่บนยอดเขาห่างไกลผู้คน มุ่งบำเพ็ญจิตภาวนาเป็นสำคัญ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2440 บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ12 ปี จากนั้นได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิชากับสมเด็จลุน ที่เวินชัยนคร จำปาศักดิ์ นานถึง 6 พรรษา หลังจากที่สมเด็จลุนได้มรณภาพลง หลวงปู่พรหมมาก็ได้ร่วมเดินธุดงค์พร้อมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ไปหาสถานที่อันสงบเงียบบำเพ็ญภาวนาตามป่าเขา หลวงปู่พรหมมาได้จำพรรษาที่ถ้ำแห่งหนึ่งบนยอดภูเขาควายนานถึง 45 พรรษา กล่าวกันว่าหลวงปู่พรหมมา ท่านมีครูบาอาจารย์เป็นฤาษีตาไฟ มีวิชาอาคมเข้มขลัง ต่อมาได้ธุดงค์ข้ามมายังฝั่งไทย เมื่อปีพ.ศ.2533 หลวงปู่พรหมมาได้เห็นว่าถ้ำสวนหิน ภูกระเจียว ในวันเดือนหงายจะมีสัตว์ป่านานาชนิดวิ่งกันขวักไขว่ เหมาะแก่การฝึกปฏิบัติตน จึงได้พักบำเพ็ญเพียรแต่นั้นมา เมื่อเวลา 22 นาฬิกา 11 นาที 31 วินาที ของวันที่ 23 ส.ค.2545 หลวงปู่พรหมมาได้มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคหัวใจ สิริอายุรวม 105 ปี ณ วัดธาตุวราราม จ.เลย วัตถุมงคลที่ท่านจัดสร้างมีด้วยกันหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนมีประสบการณ์และสร้างอภินิหารให้แก่ผู้บูชาอย่างมากมาย เมื่อ ประมาณปี 2536 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐลงข่าวนักการเมืองท้องถิ่น นครสวรรค์โดนยิงขณะรถติดไฟแดง เห็นสภาพรถแล้วกระจกแตกหมด แต่คนที่โดนยิงไม่เป็นไร(โดนหน่ะโดนอยู่แต่ไม่เข้า) เพราะว่าเค้าแขวนพระหลวงปู่พรหมมา ฯ ..... วัตถุมงคลของท่านเป็นจึงที่นิยม และต่างแสวงหามาเพื่อบูชาเป็นสิริมงคลแก่ตัว ทำให้พระที่ท่านสร้างทุกรุ่น นับวันยิ่งทวีค่าและราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับ พระสมเด็จองค์นี้ จัดสร้างตามสูตรวัดบางขุนพรหม และมีเนื้อหาและส่วนผสมเดียวกันกับ สมเด็จวัดระฆัง โดยมีส่วนผสมว่าน 108 ชนิด รวมถึงผงพระกรุบางขุนพรหมที่แตกหัก พระสมเด็จบางขุนพรหมปี 09 , 17 และปี 31 ฯลฯ ออกวัดองค์ละ 299 บาทแล้ว ราคา ที่ผมเปิดมานี้เก็บได้ รับรองไม่ผิดหวัง เคยเห็นหนังสือพระเปิดราคาองค์ละ 1,000 บาท สายตรง ( อีสาน ) เขาหาเก็บกันหมด เพราะพระสร้างน้อย ออกตัวแรง ! ยิ่งช่วงนี้พระสายอีสานขยับราคาขึ้นด้วยแล้ว ไม่ค่อยมีใครปล่อยออกมาให้ในราคาต่ำ ๆ จึงแนะนำให้เก็บไว้ ถ้าพลาดไปก็น่าเสียดาย ของดี มีจำนวนจำกัด...ช้าอด...ครับ กลัวไม่สะใจ วันนี้ .... บุญยวีร์ .... จัดให้ 4 องค์เลยครับ ( พระไม่มีกล่องนะครับ )