cabbalist

ข้อมูลสมาชิก – cabbalist

เริ่มเป็นสมาชิก: February 01, 2012 10:01:55 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 0 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 156 รายการ , คำติ: 0 รายการ

ประวัติ Feedback

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระปิดตาทุกสำนัก/7049585


เวปประมูลก็ต้องเคาะประมูล ชิมิๆ เคาะกันวันละนิดจิตแจ่มใส พี่ๆแต่ละท่านก็มี ((( สไตล์ ))) ที่แตกต่างกัน อย่าว่างั้นงี้เลย ปอดกับหัวใจนู๋ไม่ค่อยแข็งแรง " พี่ๆคงไม่ปล่อยให้นู๋เร้าใจอยู่คนเดียวนะคร๊าบบบ "   พี่ๆแวะชมดูแล้วล็อคอินกันรึยังจ๊ะ วันนี้เปิด พรุ่งนี้ปิด ??? ลับแป้นรอกันเร้ยยย..ไม่เก็บวันนี้วันหน้าจะไม่มีให้เก็บนะจ๊ะ (((  หลวงปู่โต๊ะ  วัดประดู่ฉิมพลี  ))) พร้อมพระคณาจารย์ชั้นนำอีกหลายรูป ...ร่วมปลุกเสก...   พระผงปิดตา  วัดโคนอน  ปี2515 เนื้อผง  (((   สูง 2.50 ซ.ม.   )))  เก่าตามสภาพ ...คลาสสิคสุดๆ ควรค่าแก่การบูชา น่าสะสมจังเลย คร๊าบ...   (เพื่อความอุ่นใจ..พี่ๆลองเช็คราคานอกเวปดูก่อนเข้าร่วมประมูลนะคร๊าบบบ ^_^) หมายเหตุ ทุกข้อสงสัยล้วนมีคำตอบ สงสัยเรื่องใดเมล์ถามข้อมูลได้เลยคร๊าบบบ พี่ๆ ชาวดี ดี..... *** จัดส่งพระตามรูป รับประกันตามกฎเวป *** ผู้ชนะการประมูลโอนเงินแล้วรบกวนฝากข้อความในกล่องข้อความหรือโทร.แจ้งก็ได้นะครับ เพื่อความรวดเร็วในการจัดส่ง จัดส่งไปรษณีย์ลงทะเบียน ปลอดภัย ไร้กังวล คร๊าบ... ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเยี่ยมชมหรือเข้าร่วมการประมูล ขอบพระคุณคร๊าบบบ ^_^


เขียนโดย :thaiart เจ้าของรายการ December 02, 2016 07:07:15


พระปิดตาพิมพ์เล็ก เนื้อผงผสมแร่บางไผ่ทารัก มวลสาร ว่านมงคล ๑o๘ ชนิด ,ผงดอกไม้ ๑o๘ ชนิด,ผงอิฐเก่า,ผงมวลสารไม้ตะเคียน,ผงเทพธาโร,ผงมวลสารที่เคยจัดสร้างองค์จตุคามรามเทพ,ผงกะลาตาเดียว,ผงพระสมเด็จเก่าที่แตกหักทั้งของวัดระฆังและบางขุนพรหม,ผงพุทธคุณของหลวงปู่วาส วัดสพานสูง,ผงพระปิดตาหลวงปู่ทองสุข วัดสพานสูง,ผงอัฐิหลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง,ผงแร่ทรายทองได้รับมาจากวัดสามง่าม และมวลสารเนื้อแร่บางไผ่ที่เหลือจากการหล่อพระปิดตาหล่อโบราณเนื้อแร่บางไผ่  ประวัติ พระปิดตาแร่บางไผ่ รุ่นแรก หลวงปู่วาส สีลเตโช วัดสพานสูง รุ่น วาสนาบารมี ปี๒๕๕๕ วัตถุประสงค์ เพื่อหารายได้จัดสร้างกุฏิสงฆ์ของวัดอ่วมอ่องประชานฤมิตที่ทรุดโทรมมากเพราะปลวกกินทั้งหลัง จึงคิดสร้างขึ้นใหม่โดยเป็นเรือนไม้สักทรงไทยสองชั้น พระอาจารย์ช้างจึงกราบเรียนหลวงปู่วาส เพื่อขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้ขึ้นมาโดยให้ชื่อว่า รุ่น วาสนาบารมี พระปลัดศิริชัย สิริชยฺโย หรือ ท่านพระอาจารย์ช้าง เจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่องประชานฤมิต ตำบลหนองเพรางาย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี แต่เดิมวัดนี้เป็นสำนักสงฆ์ป่ากก ซึ่งมีต้นกกขึ้นอยู่หนาแน่น เจ้าของที่ดินเดิมคือ สจ.สาย อ่วมอ่อง และผู้ใหญ่สี อ่วมอ่อง ได้บริจาคที่ดินจำนวน ๑๕ ไร่ และด้วยความร่วมแรงร่วมใจของผู้มีจิตศรัทธาจึงสร้างเป็นวัดขึ้นมา โดยใช้นามสกุลของผู้บริจาคที่ดินเป็นชื่อวัด ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๔๑ จึงได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา แนวคิดในการจัดสร้างพระปิดตาวัดสพานสูง เนื้อแร่บางไผ่ ด้วยเหตุผลที่ว่ามีแร่ธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง ที่เรียกกันว่า แร่บางไผ่ ซึ่งมีแต่เฉพาะที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เท่านั้น จัดอยู่ในสายแร่ชนิดหนึ่งที่มักพบอยู่บริเวณน้ำท่วมขังและอยู่ลึกลงไปใต้ผิวดิน ส่วนมากต้องดำน้ำลงไปแล้วขุดลงใต้ผิวดินโคลนใต้น้ำจึงจะได้แร่มา ก้อนแร่มักมีลักษณะสีดำ หรือสีดำอมเขียว ซึ่งในสมัยโบราณมีพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองนาม คือ หลวงปู่จัน วัดโมลี จังหวัดนนทบุรีได้สร้างพระปิดตาแร่บางไผ่ ซึ่งงมแร่ได้ในคลองบางคูรัด ขึ้นชือลือชาด้านความคงกระพันและยังแฝงด้านเมตตามหานิยมอีกด้วย และเป็นวัตถุมงคลยอดนิยมอยู่แถวหน้าของวงการพระเครื่องมาโดยตลอด ซึ่งค่านิยมของพระปิดตาแร่บางไผ่ที่หลวงปู่จันวัดโมลีสร้างมีสนนราคาเป็นล้านบาทและหาของแท้ยากมากในปัจจุบัน การสร้างพระปิดตารุ่นวาสนาบารมีในครั้งนี้จึงเป็นการรวมความสุดยอดของพระปิดตาทั้งสองวัดเข้าด้วยกัน ทั้งแบบพิมพ์ทรงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ของหลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง และมวลสารโลหะแร่บางไผ่ตำรับ หลวงปู่จัน วัดโมลี มาหลอมรวมไว้ในองค์เดียวกัน การได้มาซึ่งแร่บางไผ่ ต้องหาในตอนที่น้ำสะอาดถึงจะมีแร่อยู่ และต้องทำพิธีบวงสรวงขอขมาและบอกกล่าวหลวงปู่จัน วัดโมลี สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเจ้าที่เจ้าทางเสียก่อนจึงลงงมหาแร่บางไผ่ได้ พระอาจารย์ช้างกล่าวว่า ได้ให้คณะศิษย์ลงงมแร่บางไผ่ที่คลองบางคูรัด ถึง 3 ครั้ง ได้ก้อนแร่มาจำนวนน้อย เมื่อได้แร่มาก็ต้องนำมาเลี้ยงโดยนำน้ำคาวปลามาใส่โอ่งแล้วนำก้อนแร่แช่ไว้ ไม่เช่นนั้นแร่จะตายหรือที่เรียกว่าแร่กินตัวเอง ถ้านำไปหลอมก็ได้เพียงขี้แร่ ใช้หล่อพระไม่ได้ และมีความเชื่อกันว่าเมื่อแร่ตายความศักดิ์สิทธิ์ของแร่ก็จะหายไปหมดซึ่งแร่ที่ตายนั้นจะมีลักษณะสีแดงเหมือนสนิมเหล็ก ในปัจจุบัน พระครูวิสาลสรคุณ หรือ หลวงพ่อไวพจน์ กตปุญโญ เจ้าอาวาสวัดสามง่าม ตำบลลำโพ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ท่านได้ศึกษาวิชาเก็บและหุงแร่บางไผ่แบบโบราณ กล่าวว่าจริงๆแล้วถิ่นกำเนิดของแร่บางไผ่นั้นไม่ได้กำเนิดที่บางไผ่ แต่ถือกำเนิดที่คลองบางคูลัด อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ดินเหนียวเหมาะแก่การทำเกษตรกรรมมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแร่ชนิดหนึ่งซึ่งเมื่อดูผิวเผินแล้วเหมือนดินดาน ชาวบ้านที่อาศัยพื้นที่ทำนาทำสวนไม่ทราบเลยว่านี่คือแร่บางไผ่ ซึ่งเมื่อนำมาหลอมด้วยไฟแรงสูงแล้วจะกลายสภาพเป็นแร่เหล็กทันที เพราะแม่เหล็กสามารถดูดติด แต่ถ้าอยู่ตามธรรมชาติ แม่เหล็กจะดูดไม่ติด  การหลอมแร่บางไผ่ในเบ้าหลอมต้องใช้ไฟแรงสูงกว่า 100 องศาเซลเซียส และเบ้าหลอมจะใช้หลอมได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น เพราะการหลอมครั้งที่ 2 นั้นจะต้องใช้ไฟแรงกว่าเดิม ถ้าใช้ถึงครั้งที่ 3 เบ้าจะแตกทันที ซึ่งต่างจากการหลอมทองแดง ซึ่งเบ้าจะใช้ได้ 7-8 ครั้ง   อธิษฐานจิตครั้งแรก ในวันพฤหัสบดีที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ซึ่งตรงกับวันอาสาฬหบูชา ซึ่งถือว่าเป็น “วันครู” ณ กุฏิหลวงปู่วาส ณ วัดสพานสูง หลวงปู่วาส และพระสงฆ์วัดสพานสูงเจริญพระพุทธมนต์ สวดธัมมจักกัปปวัฒนสูตร และพระคาถาโสฬสมงคล และหลวงปู่วาสท่านได้เมตตาอธิษฐานจิตให้ตลอดไตรมาส วัตถุมงคลทั้งหมดจะนำมาเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่อีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๕ ก่อนจะออกให้ผู้มีจิตศรัทธาเช่าบูชา และมารับพระได้ในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๕   หลวง ปู่วาสสนับสนุนและอนุญาตให้จัดสร้างวัตถุ มงคล รุ่นวาสนาบารมี ปี 55 โดยได้รับมวลสาร เช่น แร่บางไผ่ ผงธูปหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง, ผงไม้ขนุนทอง, ผงไม้บุนนาค, ผงกาฝาก 108, ผงเกสรดอกไม้ 108 และผงอิฐเก่าวัดสะพานสูง เป็นต้น หลวง ปู่วาส สีลเตโช พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นศิษย์เอกสืบสายธรรมจากหลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่กลิ่น หลวงพ่อทองสุข หลวงตาใย แห่งวัดสะพานสูง จ.นนทบุรี รวมทั้งอาจารย์แปลก ร้อยบาง ฆราวาสจอมขมังเวท ท่านเหล่านี้ล้วนเป็นพระเกจิชื่อดังเรืองนามด้วยกันทั้งสิ้น หลวงปู่วาส ได้สร้างวัตถุมงคลมาเป็นที่ต้องการของนักสะสมวัตถุมงคล ทั้งตะกรุดและพระปิดตา แร่ บางไผ่ เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่มีแหล่งแร่เฉพาะที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เท่านั้น เมื่อนำมาสร้างเป็นวัตถุมงคลจะทรงพลานุภาพความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง ดังที่พระเกจิโบราณา-จารย์ คือ หลวงปู่จัน วัดโมลี ได้จัดสร้างวัตถุมงคล “พระปิดตาแร่บางไผ่” ซึ่งเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่คงความยอดนิยมอยู่ระดับแถวหน้าตลอดมา ซึ่งหลวงปู่จัน ได้ทำพิธีบวงสรวงและขอแร่บางไผ่จากธรรมชาติ ณ บริเวณคลองบางคูรัด บ้านบางไผ่ และปัจจุบันการสร้างพระปิดตาแร่บางไผ่ที่ยังคงอนุรักษ์ตามพิธีหลวงปู่จันคือ สำนักวัดสามง่าม โดยพระครูวิสุทธิธีรญาณ (วิ) อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ปัจจุบันการสร้างพระปิดตาแร่บางไผ่ ยังคงอนุรักษ์ตามแบบพิธีที่สืบทอดจากหลวงปู่จัน ดัง นั้นการสร้างวัตถุมงคล รุ่น “วาสนาบารมี ปี 55” จึงเป็นการรวมพระปิดตา 2 สำนัก คือ สำนักวัดสะพานสูง หลวงปู่เอี่ยม และสำนักวัดโมลี หลวงปู่จัน เข้าด้วยกัน ซึ่ง การจัดสร้างครั้งนี้ได้รับเมตตาจากหลวงปู่วาส ให้ จัดสร้างในรูปแบบพระปิดตาสำนักวัดสะพานสูง และยังได้รวบรวมเอาแร่บางไผ่ ซึ่งเป็นมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงปู่จัน วัดโมลี สร้างพระปิดตาแร่บางไผ่ จนเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วไป มารวมไว้ในองค์เดียวกันคือ พระปิดตาแร่บางไผ่ หล่อโบราณ รุ่น วาสนาบารมี ปี 55 หลวง ปู่วาส สีลเตโช จึงได้จัดสร้างพระปิดตา รุ่นวาสนาบารมี ปี 55 ประกอบพิธีปลุกเสกเดี่ยวครั้งแรก วันพฤหัสบดีที่ 2 ส.ค.2555 ตรงกับวันอาสาฬหบูชา ณ กุฏิหลวงปู่วาส และปลุกเสกตลอดไตรมาส สำหรับในวันพฤหัสบดีที่ 8 พ.ย.2555 จะเป็นการปลุกเสกครั้งที่สอง ณ กุฏิหลวงปู่วาส วัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี วัตถุประสงค์เพื่อสมทบทุนสร้างกุฎิสงฆ์และซ่อมแซมวัดอ่วมอ่องประชานฤมิต ข้อมูลจาก  http://www.banmuang.co.th/oldweb/2012/08/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%AA-%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99/


เขียนโดย :nungfino เจ้าของรายการ November 13, 2016 08:52:34


 วัดใจ !  เหรียญนั่ง "พระนเรศวรมหาราช" ปราบอริราชศัตรูพ่าย เนื้อทองแดงขัดเงา  ของ ดีจากในวัง ! อีกเหรียญหนึ่งที่ผมภูมิใจนำเสนอ เหรียญนั่ง "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" มหายันต์ ปราบอริราชศัตรูพ่าย หลังนารายทรงครุฑ สร้างในวัง ปลุกเสกพิธีใหญ่ในจังหวัดอยุธยา (พิธีใหญ่สุดในรอบ 50 ปี ) ณ บริเวณศาลพระเจ้านเรศวรมหาราช ปี 2549 และปลุกเสกอีกครั้งโดยพระสายวัง สร้างแจกทหาร 3 ชายแดนภาคใต้ส่วนหนึ่ง ที่เหลืออยู่ในวังหมด ..... แถมบล็อคถูกทำลายทิ้งแล้วด้วย เป็นเหรียญประสบการณ์ที่ใครมีต่างก็หวงแหน ก่อนแจกลองกันจะจะ กระสุนด้านครับ วันนี้เอามาวัดใจ ! ให้รู้กันไปครับ ของดีมีน้อย สภาพสวยอย่างนี้ ราคาแบบนี้ ไม่เคาะไม่ได้แล้วครับ ( เหรียญมีขนาด 3 x 3.8 ซ.ม. เนื้อทองแดง สภาพเดิม ๆ ไม่ผ่านการใช้ ) หายากมาก ๆ ตอนตามสนามพระ เปิดราคาเหรียญละไม่ต่ำกว่า 1,500 บาท ถ้า ตามศูนย์พระก็ต้องมีแบงค์พัน 2 ใบขึ้นไปนะครับ ... ก็แน่ล่ะครับ เป็นของจากในวังนี่ ... เหรียญนี้ ราคานี้ ไม่มีใครเขาขายกันหรอกครับ...จะบอกให้ รู้แล้วรีบเก็บครับ ก่อนจะหายากไปกว่านี้ .... คำเตือน : ได้มาไม่กี่เหรียญ ไม่เคาะเก็บไว้ พลาดไปแล้วจะเสียใจนะครับ


เขียนโดย :บุญยวีร์ เจ้าของรายการ November 02, 2016 21:25:07

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระสมเด็จทั่วไป/6952074


เวปประมูลก็ต้องเคาะประมูล ชิมิๆ เคาะกันวันละนิดจิตแจ่มใส พี่ๆแต่ละท่านก็มี ((( สไตล์ ))) ที่แตกต่างกัน อย่าว่างั้นงี้เลย ปอดกับหัวใจนู๋ไม่ค่อยแข็งแรง " พี่ๆคงไม่ปล่อยให้นู๋เร้าใจอยู่คนเดียวนะคร๊าบบบ "   พี่ๆแวะชมดูแล้วล็อคอินกันรึยังจ๊ะ วันนี้เปิด พรุ่งนี้ปิด ??? ลับแป้นรอกันเร้ยยย..ไม่เก็บวันนี้วันหน้าจะไม่มีให้เก็บนะจ๊ะ ((( พิธีปลุกเสกใหญ่ 2 วาระ ))) หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา, หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ...ร่วมปลุกเสก... ปล.เจ้าของเดิมฝนด้านหลังแต่งเจดีย์ให้เรียบ  เก่าตามสภาพ   พระสมเด็จปรกโพธิ์  วัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม   สูง 3.20 ซ.ม.  (((  รุ่นแรก ปี2513   )))  ใส่กรอบพร้อมบูชา ...คลาสสิคสุดๆ ควรค่าแก่การบูชา น่าสะสมจังเลย คร๊าบ...   มีข้อมูลดี ดี บางช่วงบางตอน พี่ๆแวะมาศึกษาร่วมกัน อ่านกันเพลินๆนะคร๊าบบบ เครดิต http://www.new-amulet.com/Detail%20121-180/Detail_NP128.htm ขอบคุณคร๊าบ   พระพิมพ์นี้เป็นพระที่สร้างพร้อมกับสมเด็จพระปฐม พิมพ์อื่นๆ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๓ ซึ่งมีพิธีปลุกเสกถึง 2 วาระ วาระแรก...ปลุกเสกที่วัดสามง่าม โดย หลวงพ่อเต๋ คงทอง วาระที่2...ปลุกเสกที่วัดพระปฐมเจดีย์ มีพระคณาจารย์ดังๆในยุคนั้นร่วมปลุกเสกมากมาย โดยเฉพาะพระเกจิสายนครปฐม อาทิเช่น หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา, หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว   (เพื่อความอุ่นใจ..พี่ๆลองเช็คราคานอกเวปดูก่อนเข้าร่วมประมูลนะคร๊าบบบ ^_^) หมายเหตุ ทุกข้อสงสัยล้วนมีคำตอบ สงสัยเรื่องใดเมล์ถามข้อมูลได้เลยคร๊าบบบ พี่ๆ ชาวดี ดี..... *** จัดส่งพระตามรูป รับประกันตามกฎเวป *** ผู้ชนะการประมูลโอนเงินแล้วรบกวนฝากข้อความในกล่องข้อความหรือโทร.แจ้งก็ได้นะครับ เพื่อความรวดเร็วในการจัดส่ง จัดส่งไปรษณีย์ลงทะเบียน ปลอดภัย ไร้กังวล คร๊าบ... ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเยี่ยมชมหรือเข้าร่วมการประมูลขอบพระคุณคร๊าบบบ ^_^


เขียนโดย :thaiart เจ้าของรายการ October 29, 2016 05:02:02


 วัดใจ !  เหรียญนั่ง "พระนเรศวรมหาราช" ปราบอริราชศัตรูพ่าย เนื้อทองแดงขัดเงา  ของ ดีจากในวัง ! อีกเหรียญหนึ่งที่ผมภูมิใจนำเสนอ เหรียญนั่ง "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" มหายันต์ ปราบอริราชศัตรูพ่าย หลังนารายทรงครุฑ สร้างในวัง ปลุกเสกพิธีใหญ่ในจังหวัดอยุธยา (พิธีใหญ่สุดในรอบ 50 ปี ) ณ บริเวณศาลพระเจ้านเรศวรมหาราช ปี 2549 และปลุกเสกอีกครั้งโดยพระสายวัง สร้างแจกทหาร 3 ชายแดนภาคใต้ส่วนหนึ่ง ที่เหลืออยู่ในวังหมด ..... แถมบล็อคถูกทำลายทิ้งแล้วด้วย เป็นเหรียญประสบการณ์ที่ใครมีต่างก็หวงแหน ก่อนแจกลองกันจะจะ กระสุนด้านครับ วันนี้เอามาวัดใจ ! ให้รู้กันไปครับ ของดีมีน้อย สภาพสวยอย่างนี้ ราคาแบบนี้ ไม่เคาะไม่ได้แล้วครับ ( เหรียญมีขนาด 3 x 3.8 ซ.ม. เนื้อทองแดง สภาพเดิม ๆ ไม่ผ่านการใช้ ) หายากมาก ๆ ตอนตามสนามพระ เปิดราคาเหรียญละไม่ต่ำกว่า 1,500 บาท ถ้า ตามศูนย์พระก็ต้องมีแบงค์พัน 2 ใบขึ้นไปนะครับ ... ก็แน่ล่ะครับ เป็นของจากในวังนี่ ... เหรียญนี้ ราคานี้ ไม่มีใครเขาขายกันหรอกครับ...จะบอกให้ รู้แล้วรีบเก็บครับ ก่อนจะหายากไปกว่านี้ .... คำเตือน : ได้มาไม่กี่เหรียญ ไม่เคาะเก็บไว้ พลาดไปแล้วจะเสียใจนะครับ


เขียนโดย :บุญยวีร์ เจ้าของรายการ October 15, 2016 08:19:46


 วัดใจ !  เหรียญนั่ง "พระนเรศวรมหาราช" ปราบอริราชศัตรูพ่าย เนื้อทองแดงขัดเงา  ของ ดีจากในวัง ! อีกเหรียญหนึ่งที่ผมภูมิใจนำเสนอ เหรียญนั่ง "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" มหายันต์ ปราบอริราชศัตรูพ่าย หลังนารายทรงครุฑ สร้างในวัง ปลุกเสกพิธีใหญ่ในจังหวัดอยุธยา (พิธีใหญ่สุดในรอบ 50 ปี ) ณ บริเวณศาลพระเจ้านเรศวรมหาราช ปี 2549 และปลุกเสกอีกครั้งโดยพระสายวัง สร้างแจกทหาร 3 ชายแดนภาคใต้ส่วนหนึ่ง ที่เหลืออยู่ในวังหมด ..... แถมบล็อคถูกทำลายทิ้งแล้วด้วย เป็นเหรียญประสบการณ์ที่ใครมีต่างก็หวงแหน ก่อนแจกลองกันจะจะ กระสุนด้านครับ วันนี้เอามาวัดใจ ! ให้รู้กันไปครับ ของดีมีน้อย สภาพสวยอย่างนี้ ราคาแบบนี้ ไม่เคาะไม่ได้แล้วครับ ( เหรียญมีขนาด 3 x 3.8 ซ.ม. เนื้อทองแดง สภาพเดิม ๆ ไม่ผ่านการใช้ ) หายากมาก ๆ ตอนตามสนามพระ เปิดราคาเหรียญละไม่ต่ำกว่า 1,500 บาท ถ้า ตามศูนย์พระก็ต้องมีแบงค์พัน 2 ใบขึ้นไปนะครับ ... ก็แน่ล่ะครับ เป็นของจากในวังนี่ ... เหรียญนี้ ราคานี้ ไม่มีใครเขาขายกันหรอกครับ...จะบอกให้ รู้แล้วรีบเก็บครับ ก่อนจะหายากไปกว่านี้ .... คำเตือน : ได้มาไม่กี่เหรียญ ไม่เคาะเก็บไว้ พลาดไปแล้วจะเสียใจนะครับ


เขียนโดย :บุญยวีร์ เจ้าของรายการ October 15, 2016 08:13:06


เหรียญรัศมี หลังยันต์โสฬสมงคล หลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง ตอกโค้ตธรรมจักร และโค้ต นะ เนื้อทองแดง


เขียนโดย :kiti24 เจ้าของรายการ September 19, 2016 09:57:54


ในสมัยนั้นคนที่เป็นลูกศิษย์ "อาจารย์เฮง ไพรวัลย์" ผู้สร้างเหรียญพระพรหมที่หายาก, แพง ,มีจำนวนน้อย และก็เป็นเหรียญพรหมที่โด่งดังที่สุดในประเทศ ซึ่งในปัจจุบันหาชมได้ยาก...คนที่เป็นศิษย์เมื่อเริ่มมีครอบครัว และ แตกหน่อลูกหลาน วัตถุมงคลของ อาจารย์เฮง ก็ไม่มีเพราะท่านสร้างน้อย เหตุเพราะค่าครูแพง คนสมัยก่อนที่เล่นของรู้ทุกคนเพราะสมัยก่อนสร้างเป็นรายบุคคลไป ไม่ได้ทำออกมาเป็นร้อย ๆ ซึ่งในการทำวัตถุมงคลแต่ละครั้งจะต้องมี หัวหมู บายศรี ของไหว้ เล็กใหญ่ มากน้อยตามแต่ครูอาจารย์ของแต่ละองค์ ในหมู่ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ก็เรียนวิชาทุกคน ได้มากบ้างน้อยบ้าง ก็อยู่ที่พรสวรรค์ของแต่ละคน "ร้อยโทอนันต์ ตันติสิรินันท์" ผู้เป็นบิดาของ "อาจารย์วันชัย ตันติสิรินันท์" ได้เห็นแววของ อาจารย์วันชัย ตั้งแต่เล็ก ๆ ว่าชื่นชอบและสนใจไหว้พระสวดมนต์ทางนี้ จึงนำบุตรชายไปฝากตัวเป็นศิษย์ "หลวงปู่สีห์ วัดสะแก จ.อยุธยา" ซึ่งเป็นศิษย์ผู้น้องของ "อาจารย์เฮง ไพรวัลย์ (อาจารย์เฮง ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ)" เพื่อเล่าเรียนวิชาความรู้ ในการสร้าง "พระพรหม" ให้มีความศักดิ์สิทธิ์ มีบุญญาฤทธิ์ และ อิทธิฤทธิ์ หลวงปู่สีห์ วัดสะแก เป็นองค์เดียวเท่านั้นที่ได้ร่วมสร้างและเสก รวมถึงลงเลขยันต์คาถาใน "เหรียญพระพรหม อาจารย์เฮง ไพรวัลย์" อีกทั้งยังได้ตำราวิชาคาถาของ "หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ และ ตำราของวัดประดู่ทรงธรรม" สืบทอดต่อมาจาก "อาจารย์เฮง ไพรวัลย์" อีกด้วยครับ พอ "อาจารย์วันชัย" อายุได้ประมาณ 21 ปึ ได้เล่าเรียนคาถาและการลง "นะ" ต่าง ๆ ได้แม่นยำ รวมทั้งบท "รัตนมาลา" ซึ่งเป็นบทหัวใจ ของครูบาอาจารย์ทั้งหลายในสมัยก่อนที่จะต้องท่องได้ ซึ่งตามโบราณท่านกล่าวไว้ว่า "ผู้ใดจะศึกษาพระเวทย์ ต้องบูชาพระพรหม เพราะท่านเป็นผู้ถือหรือครอบครองพระคัมภีร์ "รัตนมาลา" เพราะท่านคือบรมครู ของครูทั้งหลาย ถ้าใครไม่ได้พระคาถา "รัตนมาลา" แล้วมาสร้าง "พระสหบดีพรหม" เมื่อสร้างออกมาก็ได้เพียงรูปท่าน แต่ไม่ใช่องค์ท่าน "พระพรหม" จึงไม่ค่อยมีผู้ใดสร้างได้สำเร็จ พอสิ้นท่าน "อาจารย์เฮง ไพรวัลย์" ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ที่มี "เหรียญหรือตะกรุด" ใช้บูชาอยู่ พอมาถึงรุ่นลูกก็เริ่มสึก แตกหัก เสีย หาย ขณะนั้นอายุ "หลวงปู่สีห์" ก็เริ่มมากขึ้น บิดาอาจารย์วันชัย กับเพื่อน จึงได้ขออนุญาต "หลวงปู่สีห์ วัดสะแก" สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์เชิดชูครูบาอาจารย์ว่าวัตถุมงคลชิ้นนี้เป็นของหลวงปู่สีห์ ซึ่งหลวงปู่สีห์ ท่านได้เห็นดีด้วย เหรียญนี้ พิมพ์สี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด สร้่างปี 2523 มีจารทั้งสองด้าน โดยอาจารย์ วันชัย ตันติศิรินันท์ ลูกชาย ร.อ. อนันต์ โดยหลวงปู่สีห์ อธิษฐานจิตปลุกเสกให้ 1 พรรษา รุ่นนี้ดีทุกด้านไม่ว่า เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุตม์คงกระพัน กันเขี้ยวงา และที่เด่นสุดคือหนุนดวงให้สูงส่ง เพราะพระพรหมเป็นผู้ลิขิตชีวิตมนุษย์ พุทธคุณดีรอบด้านจริง ๆ หลวงปู่สีห์ ท่านเคยกล่าวว่า ใครบูชาพระพรหม จะไม่มีวันตกอับ เพราะท่านจะเป็นที่รักของทั้งเทวดา และมวลมนุษย์


เขียนโดย :โจ สิบทิศ เจ้าของรายการ September 07, 2016 15:04:48

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/เครื่องราง-ล็อกเก็ต/6758124


1 ใน 9 ตัวที่จัดสร้างได้มาแค่ 2 ตัว พร้อมจารย์ยันต์ก้นทีละตัว แถมรูปถ่าย 2 ใบ พร้อมผ้ายันต์แดง 1 ผืน


เขียนโดย :Niicha เจ้าของรายการ August 24, 2016 12:46:51


ประวัติ หลวงปู่เฮี้ยง ปุณณัจฉันโท วัดป่า (วัดอรัญญิกาวาส) กล่าวถึงชื่อวัดอรัญญิกาวาส หรือ วัดป่า ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี บรรดาเซียนพระนักสะสมนิยมพระเครื่องต่าง รู้จักกันดี ด้วยในอดีตวัดแห่งนี้เคยมี 'พระวรพรตปัญญาจารย์' หรือ 'หลวงปู่เฮี้ยง ปุณณัจฉันโท' อดีตเจ้าอาวาสวัดอรัญญิกาวาส (วัดป่า) อ.เมือง จ.ชลบุรี พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองชล เป็นเจ้าอารามปกครองคณะสงฆ์แห่งนี้ รวมทั้งเป็นผู้ได้รับสืบทอดตำราการสร้างพระปิดตาทั้งเนื้อผงและเนื้อผงคลุกรักจากพระเกจิอาจารย์ดังหลายรูปของเมืองชลบุรี อัตตโนประวัติ มีนามเดิมว่า กิมเฮี้ยง นาคไพบูลย์ เกิดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2441 เวลา 17.45 น. ตรงกับวันพฤหัสบดี เดือนยี่ แรม 2 ค่ำ ปีจอ ที่ ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี โยมบิดา ชื่อ เร่งเซ็ง เป็นคนเชื้อสายจีน โยมมารดา ชื่อ นางผัน มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 7 คน เมื่อเจริญวัยอายุได้ประมาณ 9-10 ขวบ โยมมารดาได้พาไปฝากเรียนหนังสือกับพระวินัยธรเส็ง หรือ เส็ง เจ้าอาวาสวัดหนองไม้แดง (วัดราษฎร์สโมสร) อ.เมือง จ.ชลบุรี ต่อมา พระวินัยธร (เส็ง) ได้มรณภาพ จึงเลิกเรียนและกลับไปอยู่บ้านช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพตามวิสัยที่พึงกระทำได้ ครั้นอายุ 20 ปีบริบูรณ์ ท่านได้ไปสมัครเป็นตำรวจภูธร และมาปลดประจำการ โดยเป็นเพียงกองหนุนชั้นที่ 1 ขณะอายุได้ 22 ปี ในปี พ.ศ.2463 เมื่ออายุได้ 23 ปี ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุตามประเพณี ณ พัทธสีมา วัดป่า (อรัญญิกาวาส) เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2464 โดยมีพระเขมทัสสีชลธีสมานคุณ วัดเขาบางทราย เป็นพระอุปัชฌาย์, พระวินัยธร (เภา) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระปลัดชื่น ธัมมสาโร วัดป่า เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ปุณณัจฉันโท มีความหมายว่า ผู้มีความพอใจอันเต็มเปี่ยม ภายหลังอุปสมบทแล้ว ท่านมีอุปนิสัยสนใจด้านวิทยาคม ได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อแดง (พระครูธรรมสารอภินันท์) วัดใหญ่อินทราราม จ.ชลบุรี ยอดพระเกจิอาจารย์ชาวเขมร เมืองพระตะบอง ที่มาจำพรรษาอยู่ที่วัดใหญ่อินทราราม ถึง 53 ปี เป็นพระเถระที่ทรงวิทยาคุณในทางสมถะ มีวาจาสิทธิ์เป็นที่เคารพยำเกรงของคณะศิษยานุศิษย์และเป็นที่เล่าขานตลอดมา จนถึงปัจจุบัน ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2467 เป็นเจ้าอาวาสวัดอรัญญิกาวาส พ.ศ.2483 เป็นเจ้าคณะแขวงบางละมุง และเป็นพระอุปัชฌาย์ในคณะธรรมยุต พ.ศ.2496 เป็นเจ้าคณะธรรมยุตผู้ช่วยอำเภอจังหวัดชลบุรี ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2479 เป็นพระครูสัญญาบัตรในราชทินนามพระครูวรพรตศีลขันธ์ พ.ศ.2498 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระวรพรตปัญญาจารย์ หลวงปู่เฮี้ยง ได้พัฒนาทั้งด้านการศึกษาและเสนาสนะให้เจริญรุ่งเรือง นับได้ว่าวัดป่าหรือวัดอรัญญิกาวาสแห่งนี้ เจริญรุ่งเรือง ด้วยอำนาจบารมีแห่งวัตถุมงคลพระเครื่องต่างๆ ที่ท่านสร้างสรรค์ ทุกรุ่นเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณเมตตามหานิยม เป็นที่ปรารถนาของเซียนพระเครื่องที่ต่างแสวงหาไว้ในครอบครอง ด้วยอำนาจความเข้มขลังที่เป็นอมตะแห่งผงเก่าของยอดพระเกจิอาจารย์ชาวบางปลา สร้อยในอดีต อาทิ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์, หลวงพ่อเจียม วัดกำแพง มีส่วนเสริมให้วัตถุมงคลของหลวงปู่เฮี้ยง ทุกรุ่นทุกพิมพ์ถูกเช่าบูชาไปจากตลาดพระเครื่องอย่างรวดเร็ว จนยากที่จะหามาไว้ในครอบครอง สำหรับวัดป่ามีการสร้างวัตถุมงคลมาตั้งแต่สมัยพระปลัดธรรมสาร (ชื่น ธัมมสาโร) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 2 โดยสร้างเหรียญรูปเหมือนของท่าน เมื่อปี พ.ศ.2463 นับว่าเป็นเหรียญเก่าของชาวชลบุรีอีกเหรียญหนึ่ง การสร้างวัตถุมงคลของวัดป่าที่นับว่าโด่งดัง หลวงปู่ได้ริเริ่มสร้างวัตถุมงคลครั้งแรก เมื่อปลายปี 2484-2486 โดยมีพระใบฎีกาแฟ้ม อภิรโต เป็นผู้ดำเนินการสร้างทั้งสิ้น โดยใช้ผงต่างๆ ของหลวงพ่อแก้วและหลวงพ่อเจียม เป็นส่วนผสมและปลุกเสกอธิษฐานจิต ท่านยังเป็นพระอุปัชฌาย์ ให้การอุปสม บทกุลบุตรมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2483 มีส่วนร่วมสนับสนุนการศึกษาของพระภิกษุ-สามเณร และชาวบ้านในชุมชน ด้วยการก่อสร้างโรงเรียนประชาบาล และโรงเรียนมัธยมต้นขึ้นภายในวัดอรัญญิกาวาส มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 27 พฤษภา คม 2511 เวลา 19.50 น. ณ โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา สิริอายุ 70 พรรษา 47 ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ เมื่อปี พ.ศ.2512 แม้ละสังขารจากไปนานร่วม 40 ปี แต่เกียรติคุณของหลวงปู่เฮี้ยง ยังเลื่องลือเป็นที่จดจำของบรรดาคณะศิษย์เมืองชลบุรีสืบมา..  


เขียนโดย :tee2497 เจ้าของรายการ August 23, 2016 15:13:22

หน้าที่ :  4