bird_19

ข้อมูลสมาชิก – bird_19

เริ่มเป็นสมาชิก: September 08, 2012 08:53:06 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 0 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 52 รายการ , คำติ: 0 รายการ

ประวัติ Feedback

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อดิน/6434273


พระ ผงกระดูกผีหรือพระผงพรายสมุทรนั้น หลวงพ่อเจิมท่านได้สร้างไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2496 โดยท่านได้เขียนผงวิเศษเก็บรวบรวมไว้จำนวนหนึ่ง จากนั้นนำผงวัตถุอาถรรพ์ต่าง ๆ ผสมรวมลงไป ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีเถ้ากระดูกผี 7 ป่าช้าผสมรวมลงไปด้วย เถ้า กระดูกผีที่ทางไสยศาสตร์นิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการสร้างวัตถุมงคล นิยมนำเถ้าผงกระดูกของผู้ที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร หากตายโหงว่ากันว่าขลังดีนัก แต่สำหรับเถ้าผงกระดูกที่พ่อท่านเจิมนำมาเป็นส่วนผสมองค์พระนั้น ท่านไม่ได้กำหนดตายตัวแต่ประการใดว่าต้องเป็นของผู้ที่เสียชีวิต อย่าง ไร วันไหน หรือเผาวันอะไร เพียงแต่เก็บเถ้าผงกระดูกจากเชิงตะกอนเผาศพจาก 7 ป่าช้า ก่อนนำเถ้าผงกระดูกดังกล่าวมาท่านก็ได้ทำพิธีพลีกรรมและสะกดอาคมไว้เสียก่อน ด้วย    พ่อ ท่านเจิมได้ปลุกเสกวัตถุมงคลของท่านเป็นระยะเวลานานจึงนำออกแจก แต่ด้วยพระของท่านประกอบด้วยเถ้าผงกระดูกผีชาวบ้านจึงพากันกลัวไม่ขอหรือนำ เข้าบ้านสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมีประสบการณ์ที่เกิดกับผู้ได้บูชามากขึ้น โดยเฉพาะคราวาตภัยแหลมตะลุมพุก เมื่อปี พ.ศ.2506 พระเครื่องรุ่นนี้ของ ท่านได้ช่วยชาวบ้านให้รอดพ้นจากภัยดังกล่าวหลายคนทีเดียว ประกอบกับไม่ได้มีประสบการณ์หรือเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวแต่ประการใด จึงได้มีการเสาะแสวงหาไว้ติดตัวกันมากขึ้นจนถึงปัจจุบันนี้   พระผงกระดูกผี พ่อท่าน เจิม วัดหอยราก พ.ศ. ๒๔๙๙ มีมวลสารหลักได้แก่ 1. ว่าน ๑๐๘ ชนิด จำนวน ๑๐๘ บาตร 2. ดินพรายสมุทรท้องทะเลลึก ๑๐๘ ปั้น 3. ดินท้องแม่น้ำปากพนัง ๑๐๘ ปั้น 4. ดินกลางวัด ๑๐๘ วัด ๑๐๘ ปั้น 5. ดินกลางนา ๑๐๘ แปลง ๑๐๘ ปั้น 6. ดินหาดทรายแก้ว ๑๐๘ หาด 7. ดินกลางไร่ ๑๐๘ ไร่ 8. ดินรูปูนา ๑๐๘ รู 9. ดินปราบหญ้าไม่งอก ๑๐๘ ปราบ 10. ดินจอมปลวกวัวเลีย ๑๐๘ จอม 11. ดินกลางสระน้ำ ๑๐๘ สระ 12. เถ้าเชิงตะกอนเผาศพ ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ๗ ป่าช้า บดเป็นผง ๑๐๘จอก 13. เถ้าหนังสือใบลาน ๑๐๘ จอก 14. ดินป่าช้า ๓ วัด ปั้นเป็นก้อน ๑๐๘ ก้อน 15. ดอกไม้บูชาพระบรมธาตุ วันมาฆบูชา เฉพาะที่ตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ บดเป็นผง ๑๐๘ จอกชา 16. น้ำจากหุบเขาชัยราช แนวต่อจังหวัดชุมพรกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นน้ำผสมผงปั้นพระ 17. น้ำฝนตกชายคาพระอุโบสถ เฉพาะที่ตรงกับวันจันทร์ขึ้น ๑๐ ค่ำเป็นน้ำผสมผงปั้นพระ 18. ดินพอกหางหมู ๑๐๘ ก้อน 19. ผงพระท่าเรือ นครศรีธรรมราช และ ยังมีวัตถุมงคลอื่นๆอีกรวมแล้ว ๗๐๐ ชนิด มีพระสมุห์เผียน หมอเพียร ชาวบ้านหนองนก หมอปลื้ม ช่วยกันจัดหา และใน พ.ศ.๒๔๙๙ ได้เริ่มกดพิมพ์ และได้เริ่มปลุกเสกในพระอุโบสถ พ่อท่านเจิมได้ปลุกเสกด้วยพระครถามงคลต่างๆ และพระมหาทมื่น ๑๐๐,๐๐๐ จบ ปลุกเสกนาน ๕ ปี พระผงบารมีอะชิโต แรกออกให้บูชาจะมีใบฝอยจากพ่อท่านแนบ ซึ่งในใบฝอยของท่านเจิม บันทึกไว้ว่า “สวัสดี ท่านที่เคารพและญาติโยมทั้งหลาย การที่ข้าพเจ้าได้จัดทำหลวงพ่ออะชิโตขึ้นในครั้งนี้ ได้ทำตามแผนโบราณที่ผู้รู้เขียนไว้ในคัมภีร์ใบลาน พัสดุที่นำมาผสมกันเกิน ๗๐๐ ชนิด แต่ละสิ่งล้วนเป็นของศักดิ์ทั้งนั้นข้าพเจ้าได้เที่ยวหาของต่างๆนั้น ๒ ปีซ้อน แต่ทำผงนั้นราว ๔ เดือน พระปรกโพธิ์ใหญ่ สภาพสวย หายากครับ   รับประกันตามกฎทุกกรณี   @@@ช.มหานิยม ชื่อนี้การันตีคุณภาพ@@@


เขียนโดย :ช.มหานิยม เจ้าของรายการ May 22, 2016 06:15:05

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระสมเด็จทั่วไป/6246684


แตกกรุวัดหัวควนนอก พิมพ์นี้หลังยันต์ ไม่มีหู(นิยม)ครับ


เขียนโดย :chancharoen08 เจ้าของรายการ March 04, 2016 10:06:02

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคอีสาน/5999427


พระเครื่องหลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ จ.นครพนม รุ่นแรก ปี 2500 เนื้อหามวลสารดีมากๆ เนื้อจากมีเนื้อพระสมเด็จบางขุนพรหมที่หักๆ ผสมอยู่ด้วย และผงโสฬลท่าดอกเจ้าอันโด่งดัง หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ รุ่นแรกปี 2500 พระที่จัดสร้างในชุดนี้มีมวลสารประกอบด้วยกันหลายอย่ างเช่น 1.ผงพุทธคุณ, 2.น้ำมันงาเสกของลป.จันทร์, 3.ผงของพระสมเด็จบางขุนพรหม และ 4.ผงโสฬสมหาพรหม ของลป.ศรีทัต พระอาจารย์ของท่านท่าน(ผงนี้เป็นมวลสารเดียวกับพระผง ชุดโสฬสมหาพรหมของลป.ทิมแห่งวัดละหารไร่) ผู้ที่บูชาพระพิมพ์ชุดดังกล่าวติดตัวต่างประสบกับเหต ุอัศจรรย์ต่างๆมากมายอันเป็นผลเนื่องมาจากพุทธคุณที่ มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมครับ


เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ January 08, 2016 22:05:03

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระปิดตาทุกสำนัก/5999620


ประวัติของพระสุนทรศีลสมาจาร (ผล) เกิด วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม 2437 ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือน 9 ปีมะเมีย ณ บ้านโคกขาม เป็นบุตรของ นายแก้ว นางยิ้ม แก้วเพชร อุปสมบท ณ วัดหนัง มรณภาพ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2513 ณ โรงพยาบาลจุฬาฯ รวมสิริอายุ 74 ปี 6 เดือน 28 วัน 54 พรรษา พระสุนทรศีลสมาจาร คุตตจิตตเถร นามเดิมผล นามฉายา คุตฺตจิตฺโต (ฉายาเดิมที่พระอุปัชฌาย์ ตั้งไว้ในวันอุปสมบทเป็น “คงฺคสฺโส”) เจ้าคุณพระมหาโพธิวงศาจารย์ อินทโชตมหาเถร วัดอนงคาราม อดีตเจ้าคณะจังหวัดธนบุรี ปรารภว่า ที่ประชุมในคราวพิจารณาคัดเลือก พระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ คณะสังฆมนตรี พากันหัวเราะเรื่องฉายา คงฺคสฺโส มีความหมายไม่เหมาะสม ขอให้ผู้เขียนประวัติ ไปเรียน ให้พระวิเชียรกวี (ฉัตร)ทราบ และให้เปลี่ยน ฉายาเสียใหม่ ผู้เขียนกราบเรียนให้ทราบว่า หลวงพ่อ เจ้าคุณวิเชียรกวี อาพาธหนัก ขอให้พระเดชพระคุณ อดีตเจ้าคณะจังหวัดธนบุรีเปลี่ยนให้ ท่านจึงเขียน มาให้ หลวงพ่อเจ้าคุณสุนทรฯ คัดเลือกเอา ตามใจชอบเท่าที่ผู้เขียนจำได้มีอยู่ 3ชื่อ หลวงพ่อเลือกเอา คุตฺตจิตฺตเถร ท่านให้เหตุผลว่า ที่เลือกเอา ชื่อฉายา เห็นว่าเกี่ยวกับการรักษาจิตเพราะ หลวงพ่อสนใจ เรื่องทำสมาธิจิต เป็นประจำอยู่แล้ว หลวงพ่อสุนทรฯ เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2437 ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 9 ปีมะเมีย จุลศักราช 1256 ในรัชกาลที่ 5 ที่บ้านโคกขาม ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นบุตรนายแก้ว นางยิ้ม แก้วเพ็ชร เมื่อ อายุ 12 ปี ได้มาอยู่วัดหนัง ศึกษาหนังสือไทยในสำนักของพระครูสังวรยุตตินทรีย์ (คำ) เรียนภาษาบาลี กับนายมิ่ง รักชินวงศ์ อาจารย์สอนบาลีแห่งวัดหนัง พ.ศ. 2453 เลิกการศึกษากลับไปอยู่บ้านช่วยบิดามารดา ประกอบอาชีพ พ.ศ. 2455 สมัครเข้ารับราชการทหารเรือ วันที่ 27 มีนาคม 2458 อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดหนัง ตำบลคุ้งเผาถ่าน (บางค้อ) อำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรี พระภาวนาโกศลเถร (อี่ยม) วัดหนังเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการนิ่ม แห่งวัดโคกขาม พระปลัดแจ้งแห่งวัดหนัง เป็นคู่กรรมวาจาจารย์ อุปสมบทแล้วจำพรรษา ณ วัดหนัง จนถึงวันมรณภาพ ได้ศึกษา พระธรรมวินัย ในสำนักของพระอุปัชฌาย์ และมีความอุตสาหะ ศึกษาในวิปัสนาธุระ ในสำนักของอุปัชฌาย์เช่นกัน เมื่อ พ.ศ. 2478 หลวงพ่อเจ้าคุณได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท ได้เป็นกำลังช่วยบริหารกิจการของวัดตลอดมาเป็นการแบ่งเบาภาระเจ้าอาวาส จนกระทั่งได้รับตำแหน่งเป็น เจ้าอาวาสองค์ที่ 7 นับแต่สถาปนาเป็นพระอารามหลวง การปกครอง หลวงพ่อได้เคารพต่อพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับระเบียบ และคำสั่งของคณะสงฆ์ ปฏิบัติงานเด็ดขาดเป็นที่เคารพยำเกรง ของบุคคล ผู้อยู่ภายใต้การปกครอง และประชาชนทั่ว ๆ ไป หลวงพ่อศึกษาในอักรสมัย (ภาษาขอม) จนเกิดความชำนาญในการอ่านและการเขียนเป็นอย่างดี และต่อมาได้ ค้นคว้าหลักวิชาการ ในแนวทางปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน จนเป็นผู้ฝึกแนะนำให้กุลบุตรได้ปฏิบัติตามแนวทาง ที่ถูกที่ควร ดำเนิน เพื่อให้เกิดเป็นสุปฏิบัติ โดยควรแก่ความรู้ความสามารถของหลวงพ่อ ที่ท่านได้วิริยะอุตสาหะ สั่งสมอบรมมา นับว่าเป็นกำลังสำคัญของพระศาสนาที่จะช่วยกันทำนุบำรุงพระปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ให้สืบต่อ อายุพระพุทธศาสนา สืบต่อไป หลวงพ่อไม่ใช่นักพูด แต่หลวงพ่อเป็นนักทำ คือทำตนของท่านให้ศิษยานุศิษย์ และสาธุชน ได้เห็นได้ศึกษา ในการประพฤติปฏิบัติของท่าน นับว่าเป็นผลดีของการปกครองในด้านการเผยแผ่ ก็เท่ากับเป็นการเผยแผ่ตัวอย่างที่ดีให้แก่ชนรุ่นหลังได้เห็นได้รู้เอาเป็น ครูในการดำเนินรอยตาม งานบูรณะปฏิสังขรณ์ก่อสร้างเสนาสนะนั้น หลวงพ่อได้ทำมาก่อนที่ท่านจักได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส จับงานมาแต่สมัยเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ฉะนั้นงานก่อสร้างปฏิสังขรณ์พระอารามจึงไม่เป็นของแปลก และหนักใจของท่าน ท่านมิได้ถือว่างานก่อสร้างเป็นเรื่องของสมภารเจ้าวัด เอกลาภเป็นของลูกวัด ท่านถือเสียว่างานก่อสร้างทุกชิ้นที่เกิดขึ้นในวัดเป็นสมบัติของพระศาสนา เป็นของส่วนรวม เป็นส่วนกลาง เป็นที่บำเพ็ญกุศลของสาธุชนทั่วไป ฉะนันในยุคสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ จึงได้ก่อสร้างปฏิสังขรณ์ ปรับปรุงเพิ่มเติม กุฏิคณะไต้ ได้บอกบุญปลูกศรัทธาให้นางชิต นุชเนตรคหปตานี นางขุนเทียน สร้างมณฑปเป็นที่ประดิษฐาน พระบาทจำลอง ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองหน้าวัด ด้านทิศเหนือ ปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ เปลี่ยนเครื่องบนมุมกระเบื้อง ยกช่อฟ้าใหม่ ซ่อมศาลาพุทธบาท ศาลาราย บอกบุญสร้างเมรุ ศาลาทึม และปฏิสังขรณ์เสนาสนะไว้ เป็นจำนวนมาก ทำให้พระอาราม เป็นที่เจริญตาเจริญใจ ของสาธุชน ผู้เข้าไปในวัดให้เกิดศรัทธาปสาทะ น้อมใจเข้าสู่แนวทางปฏิบัติ ให้เกิดปัญญาเห็นชัดตามสภาพธรรมในขั้นต่อไป หลวงพ่อเจ้าคุณ ฯ ได้รับสมณศักดิ์และรับพระราชทานสมณศักดิ์ ตำแหน่งที่การงานโดยลำดับ ดังนี้.- พ.ศ. 2467 เป็นพระใบฎีกา ฐานานุกรมในท่าน เจ้าคุณพระภาวนาโกศลเถระ (เอี่ยม) พ.ศ. 2468 เป็นพระสมุห์ ฐานานุกรมในท่าน เจ้าคุณพระภาวนาโกศลเถระ (เอี่ยม) พ.ศ. 2470 เป็นพระปลัด ฐานานุกรมของพระวิเชียรกวี (ฉัตร) พ.ศ. 2478 เป็นพระครูสัญญาบัตรผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท (ฝ่ายวิปัสสนา) พ.ศ. 2494 เป็นพระครูสัญญาบัตรผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก พ.ศ. 2500 เป็นพระราชาคณะสามัญที่พระสุนทรศีลสมาจาร พ.ศ. 2502 เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนัง พ.ศ. 2503 เป็นเจ้าอาวาสวัดหนัง หลวง พ่อเป็นพระเถระที่ฝักไฝ่อยู่ในวิปัสสนาธุระเท่าที่องค์ปัญญาจะเกิดมีขึ้นแก่ ท่านและได้แนะนำให้ ้พระภิกษุ ุทายกทายิกา ผู้มีศรัทธาปสาทะในแนวทางปฏิบัติ ให้ได้รับเรียนวิปัสสนาในสำนักของท่าน และต่างสำนัก กิจวัตรที่หลวงพ่อมีพลังศรัทธาอยู่มาก และสนใจอยู่มากนั้นก็คือ ธุดงควัตร เมื่อเป็นพระอันดับ อยู่ท่านถือการ ธุดงค์เป็นประจำทุก ๆ ปี มาจนตราบเท่าเจริญพรรษายุกาล มากขึ้นโดยลำดับ ได้ทราบว่า หลวงพ่อวิเชียรกวี อดีตเจ้าอาวาสวัดหนังองค์ที่ 6 ในสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ ได้ขอร้องให้อยู่กับวัด โดยมิให้เดินธุดงค์จาริก ไปในคามนิคมชนบท เพราะเห็นความสำคัญในหลวงพ่อ เจ้าคุณพระสุนทร ฯ เกี่ยวกับ เรื่องวัดวาอาราม ละการอนุเคราะห์ทายกทายิกา ผู้หันหน้ามาพึ่ง เพื่อบำบัดทุกข์โศกโรคภัย นานาประการ และอีกประการหนึ่ง ก็เท่ากับว่า หลวงพ่อเจ้าคุณพระสุนทร ฯ เป็นกำลังเป็นมือขวาของหลวงพ่อ เจ้าคุณพระวิเชียรกวี เมื่อท่านละ ทิ้งวัดไปนาน ๆ ก็เกิดความว้าวุ่นใจ ของพระเถระผู้ปกครองวัด ขาดผู้แบ่งเบา ภาระ ขาดที่ปรึกษากิจการงาน ด้วยความเคารพและเห็นใจ ที่หลวงพ่อทั้งสองมีต่อกัน เป็นพื้นอยู่แล้ว เมื่อท่านขอร้องเช่นนั้น ท่านจะไม่ยอมรับเหตุผล ก็เห็นจะผิดวิสัยของท่านผู้ปรารถนาดีต่อกัน จึงจำยอมปฏิบัติตาม หลวงพ่อเจ้าคุณ ฯ เป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่มั่นคงอยู่ในเพศพรหมจรรย์ ตลอดชีวิต ความเป็นสมณะของท่าน ตั้งอยู่ในพรหมวิหารธรรม ให้ความคุ้นเคยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับบุคคลทุกชั้นทุกวรรณะมิได้แสดงอาการ อันเป็นเหตุให้อาคันตุกะได้รับความหนักใจ เพราะความมากไปด้วยเมตตากรุณนั่นเอง ท่านจึงต้องใช้สังขาร อย่างกรากกรำ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข ให้แก่คนที่หันหน้ามาพึงท่าน มิได้คำนึงถึงความเหน็ดเหนื่อย ไม่ใคร่มีเวลาพักผ่อน เวลาไม่เป็นของท่าน กิจธุระนอกวัดก็มากขึ้นตามลำดับเมื่อกลับถึงวัดก็ควรจักได้พักผ่อน ถึงวัดถึงกุฏิก็ต้องแก้ปัญหา บำบัดความทุกข์เวทนาของบุคคล ผู้มาคอยหวังความอนุเคราะห์อยู่เป็นประจำ เพราะความคุ้นเคย เป็นกันเองนั่นเอง จึงมีผู้ศรัทธาปสาทะในท่านเป็นจำนวนมาก ท่านได้บำเพ็ญตน อยู่ในลักษณะนี้ ชั่วอายุของท่าน จึงเป็นเหตุให้เราคนวัดเกือบจะไม่ได้ยินใครเรียกว่า พระสุนทรศีลสมาจารว่า เจ้าคุณ มีแต่ใช้คำเรียกท่านว่า “หลวงพ่อ”ทั้งในวัดและนอกวัดในที่ทั่ว ๆ ไป เรียกหลวงพ่อกันได้อย่างสนิทใจ เหมือนกับเป็นพ่อของคนเหล่านั้นโดยความรู้สึก โดยปกติคนเราเมื่อมีทุกข์ภัยเกิดขึ้น ก็ไม่มีคนอื่นจะดีไปกว่า บิดามารดาฉันใด หลวงพ่อก็ฉันนั้น จึงเปรียบเสมื่อนว่าเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ให้ความร่มเย็นแก่ชาวบ้านชาววัดมา เป็นเวลานานปี. วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม ท่านได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายชนิด โดยเฉพาะพระชัยวัฒน์ ก้นอุดชันโรง มีด้วยกัน 7 รุ่น ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน และยังมีเหรียญรุ่นแรก พระปิดตาเนื้อชิน และเนื้อผง นางสามเหลี่ยมพิมพ์ใหญ่ กลาง เล็ก ทั้งเนื้อชินและผง หมากทุย ผ้ายันต์ ตะกรุด เป็นต้น เหรียญรุ่นแรก ปี 2509 เนื่องในโอกาสทำบุญ 72 ปี มีเนื้อทองคำ เงิน อัลปาก้า ทองแดง ทำจากกองกษาปณ์ และภายหลังได้สั่งปั๊มเพิ่ม แก้ พ.ศ.เป็น 2511 และสั่งเพิ่มอีก แต่ใช้ พ.ศ. เดิม คือ 2509 ทั้งเปลี่ยน พ.ศ. และใช้ พ.ศ.เดิม ต่างนำมาปลุกเสกพร้อมกัน สำหรับเหรียญที่ระบุปี 2511 ได้นำออกมาแจกในงานพระราชทานเพลิงศพของท่าน พุทธคุณที่เล่าสืบทอดกันมา พุทธคุณในเหรียญรุ่นนี้เด่นทาง เมตตามหานิยม


เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ January 08, 2016 20:55:05

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุด-จ.นครปฐม/5972134


รื่องเล่า เกี่ยวกับข้อมูล หลวงพ่อลำเจียก วัดศาลาตึก นครปฐม จากผู้ที่เคยได้สัมผัสกับหลวงพ่อมาแล้ว เป็นดังนี้ ****** หลวง พ่อลำเจียก วัดศาลาตึก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม สุดยอดเกจิอาคมขลัง อีกรูป (ท่านไม่ค่อยยอมให้หนังสือพระเข้าไปทำประวัติออกเผยแพร่ ) แต่ในหมู่ลูกศิษย์ลูกหา จะรู้จักกันดี ท่านเป็นไปเรียนวิชากับเกจิดัง ๆ หลายรูปอาทิ เช่น 1.หลวงพ่อจันทร์ วัดบ้านยาง พระอุปัชฌาย์ ของท่าน หลวง พ่อจันทร์ ท่านมีวิชามนต์จินดา มีชื่อเสียงทางด้านพระปิดตา เนื้อเมฆพัดและยันต์นะปัดตลอด ท่านเป็นสหธรรมมิกกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง กล่าวกันว่า ท่านสักยันต์ ที่หน้าอกแล้วตบเปรี้ยงเดียวยันต์กลับมาอยู่ด้านหลังอย่างมหัศจรรย์ ) 2.หลวงพ่อหว่าง วัดกำแพงแสน ยอดพระเกจิอาคม ขลังอีกรูปหนึ่ง ซึ่งได้ถ่ายทอดวิชาให้ หลวงพ่อลำเจียก ตลอด 3 พรรษา 3.หลวง พ่อเกลี้ยง วัดเขาใหญ่ ซึ่งเก่งด้าน วิชาหวายคาดเอว ซึ่งหลวงพ่อลำเจียกท่านสามารถนำมาสร้างได้ เข้มขลัง มีอานุภาพมาก หวายทั้งเส้นต้องลงอักขระโดยรอบ สามารถกันภูตผีปีศาจ แก้คุณไสย์ ทำน้ำมนต์ ฯลฯ ปัจจุบันหายากมาก 4.ศึกษา วิชา ทำตะกรุดลูกอม ตำหรับ หลวงปู่ยิ้ม และ ศึกษา วิชายันต์จรเข้ จากศิษย์สาย หลวงปู่ศุข วัดปากคลอง มะขามเฒ่า มูลเหตุ..ที่ทำให้ผมรู้จัก หลวงพ่อ ลำเจียก ....เมื่อตอนที่ผมได้มารับราชการ ที่ นครปฐม ใหม่ ..ก็เป็นธรรมดาตามประสา คนชอบพระ เมื่อ มีเวลาว่าง ...ก็ตระเวน กราบหลวงพ่อ ต่าง ๆ (สักยันต์ กับ หลวงพ่อ เปิ่น , ให้หลวงพ่อไสว ท่าน เป่าทองให้ , ให้หลวงพ่อ แช่ม ท่าน คาดตะกรุดให้ , ฯลฯ วันหนึ่ง... เพื่อนแถวกำแพงแสน ..ชวนไปกราบ หลวงปู่หลิว ..เผอิญ วันนั้น ไม่พบ หลวงปู่หลิว.. เพื่อเลยชวนไป วัดศาลาตึก ต่อ ตอนนั้น...ไม่เคยรู้จัก หลวงพ่อ ลำเจียก เลย พอเข้าไป ที่กุฏิ ยังไม่ทัน ได้กราบท่านเลย เห็น หลวงพ่อ ท่านนั่งคุย อยู่กับ ญาติโยม กลุ่มหนึ่ง (ท่านใส่แว่นสีชา ) นึกในใจในขณะนั้น หลวงพ่ออะไร ใส่แว่นตากันแดด .... .... แค่นึก นะครับ ..ท่านเงยหน้า จาก กลุ่ม ลูกศิษย์ หันมาบอก..ตาหลวงพ่อสู้แสงไม่ได้ ... ...ผมก้มลงกราบแทบไม่ทัน..นะครับ วันนั้น จำได้ กวาด ตะกรุด ลูกอม จาก ตู้ในวัด มาหลายสิบดอก (ตอนนั้น ดอกละ 80 บาท ) .....หมดแล้ว ละครับ ไม่ต้องถามหา เหลือที่คอ ผม ลูกเดียว ..กับหวายคาดเอว เส้นหนึ่ง .... เครื่องรางของท่าน...หายาก แล้ว ครับ ...


เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ December 30, 2015 15:40:04


เริ่มที่ขาดทุนวัดใจแดงแรกเคาะ... สภาพสวยมาก เนื้อทองผสม ตอกโต๊ด หลังจาร


เขียนโดย :แดงบุปผา เจ้าของรายการ December 27, 2015 14:41:27

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อผง-เนื้อว่าน/5824887


 วัดใจ !  พระผงสุพรรณ " หลวงปู่ดี วัดพระรูป " สุดยอดของดีเมืองสุพรรณ " หลวงปู่ดี จัตตมโล " หรือ พระครูสุนทรสุวรรณกิจ พระเกจิชื่อดังในจังหวัดสุพรรณบุรี ต้นตำรับพระปิดตาและพระผงสุพรรณ ปี 2514 หลวง ปู่ดี มีนามเดิมว่า นายดี ศรีขำสุข เกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2454 ที่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี อายุ 23 ปีได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดไชยนาวาส และได้ศึกษาเล่าเรียนกับ พระอาจารย์คง วัดไชนาวาส และ พระอาจารย์ช้าง เจ้าอาวาสวัดพระรูป รวมทั้งศึกษาวิชาอาคมจากหลวงปู่เนียม วัดน้อย ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ในขณะที่จำพรรษาที่วัดพระรูป หลวงปู่ดีท่านมุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมและพระธรรมวินัยจน สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี และได้รับแต่งตั้งจากคณะสงฆ์จังหวัดสุพรรณบุรี ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดพระรูปต่อมา พระผงสุพรรณรุ่นนี้ จัดสร้างในปี 2536 โดยมีการนำผงพุทธคุณจากการสร้างพระผงสุพรรณปี 13 และพระกรุชุดกิมตึ๊ง ผงแตกหักกรุวัดพระรูป และผง พุทธคุณต่าง ๆ จากเกจิอาจารย์หลายวัด ในการจัดสร้าง พร้อมทั้งปลุกเสกเดี่ยว บรรจุพลังพุทธคุณอยู่นาน 1 พรรษา จึงออกนำแจกจ่ายให้แก่บรรดาศิษยานุศิษย์ พระ ผงสุพรรณ"หลวงพ่อดี วัดพระรูป" รุ่นนี้ จึงเป็นพระที่เข้มข้นไปด้วยมวรสาร และพิธีกรรมเข้มขลัง ที่เห็นเป็นคราบดำ ๆ บนองค์พระไม่ใช่พระเปรอะเปื้อนอะไรนะครับ แต่คราบดำ ๆที่เห็น หากส่องดูจะเห็นเป็นผงแร่โลหะเหล็กน้ำพี่ และชนวนแท่งโลหะตะกั่วเก่าของหลวงพ่อเนียมวัดน้อย บดเป็นผงละเอียด แต่ละองค์จะมีคราบดำ ๆ อย่างนี้เยอะบ้างน้อยบ้าง ซึ่งหลวงปู่ท่านนำมาเป็นส่วนผสมในองค์พระเพื่อเน้นในเรื่องของคงกระพันชาตรี ครับ  ... บุญยวีร์ ... เปิด ราคาวัดใจ ! แบบลืมทุน ปกติวางหน้าตู้องค์ละ 300 บาท แต่วันนี้ไม่ขาย เริ่มต้นเคาะแรกแดงเลย ทีเดียว 10 องค์เอาไปแจกเป็นของขวัญยังได้ เอาไปบูชา หรือเอาไปปล่อยต่อก็มีกำไร เคาะยังไงก็ คุ้ม ! แล้วจะรออะไร ทำไมไม่รีบเคาะล่ะครับ


เขียนโดย :บุญยวีร์ เจ้าของรายการ November 10, 2015 13:09:31

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคใต้/5885124


เหรียญรุ่นแรกหลังยันต์. "พ่อแก่เจ้าแสง วัดประเวศน์ภูผา(บ้านตรัง) จ.ปัตตานี" พ.ศ.๒๕๕๖ ขนาด(สูงรวมหูประมาณ ๓.๗ ซม.)มีตอกโค๊ตและหมายเลขกำกับ ออกแบบสวยงาม สภาพฟอร์มสวย เก็บเก่าพร้อมกล่องเดิมๆ ของดีมีประสพการณ์/น่าใช้น่าเก็บ...


เขียนโดย :toy2k เจ้าของรายการ November 05, 2015 07:57:31


วัดใจไปเลย 20.- แพะเขาควายเผือก หลวงพ่อสิน วัดระหารใหญ่ จารรอบตัว ฐาน 1.4ซม. พร้อมกระดาษยันต์ เคาะเดียว


เขียนโดย :พุทธศิลป์ ล้ำค่า เจ้าของรายการ November 05, 2015 03:11:00

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระบูชา-รูปถ่าย/5780061



เขียนโดย :ronnakab555 เจ้าของรายการ October 26, 2015 17:25:02

หน้าที่ :  2