Srimuang1968

ข้อมูลสมาชิก – Srimuang1968

เริ่มเป็นสมาชิก: April 21, 2014 04:59:49 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 0 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 552 รายการ , คำติ: 1 รายการ

ประวัติ Feedback


 หนึ่งเดียวในเวป !  เหรียญกษาปณ์ 1 บาท " ในหลวง รัชกาลที่ 9 หลังตราแผ่นดิน " ปี 2505 ตอกโค๊ต " คูณ " ... หลวงพ่อคูณปลุกเสก 1 ไตรมาส ( หายาก )  ของดี ๆ ของแท้ ๆ มาเปิดขายแบบวัดใจ พี่ ๆ ก็ประมูลกันซะกลัวผมจะได้กำไร ก็เลยวัดใจไม่ไหวล่ะสิครับ ของเก๊นอกเวป แพง ๆ ก็ซื้อกันจัง ของแท้ราคาถูก ๆ ก็ไม่กล้าเคาะ ไม่กล้าไล่ราคากัน คนขายก็หมดกำลังใจกันเลยครับพี่ รายการนี้พระจัดส่งตรงตามภาพครับ 


เขียนโดย :บุญยวีร์ เจ้าของรายการ February 03, 2017 10:45:11

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุด-จ.นครปฐม/7174290


              หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระนามเดิม เปิ่น นามสกุล ภู่ระหงษ์ เกิดวันอาทิตย์ที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๖ เดือน ๙ ปีกุน ณ บ้านเลขที่ ๔ หมู่ที่ ๔ ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นบุตรของนายฟัก นางยวง ภู่ระหงษ์ เป็นบุตรคนที่ ๙ ในจำนวนพี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกันรวม ๑๐ คน หลวงพ่อเปิ่นสนใจในเรื่องของไสยศาสตร์ มาตั้งแต่สมัยเด็กอาศัยว่าครอบครัวของท่านอยู่ใกล้กับวัดบางพระซึ่งในสมัย นั้นมีพระคุณเจ้าที่จำพรรษาอยู่ที่วัดบางพระมีความเก่งกาจมีความเชี่ยวชาญใน สายไสยศาสตร์ หลายองค์ เด็กชายเปิ่นจึงเข้าออกเพื่อความอยากรู้อยากใฝ่หา ในวิชาอยู่กับวัดบางพระเป็นประจำ นายเปิ่น ศึกษาวิชากับหลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก ด้รับการถ่ายทอดยาสมุนไพรรักษาโรค คาถาอาคมต่างๆ โดยเฉพาะวิชาสักยันต์อันเกรียงไกร จากหลวงพ่อหิ่ม อินฺทโชโต เจ้าอาวาสวัดบางพระซึ่งท่านท่านรักและเมตตาศิษย์หลวงพ่อเปิ่นเป็นพิเศษ วิชาการต่าง ๆ ท่านจึงถ่ายทอดให้โดยไม่ปิดบัง ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๑ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีกุน จึงเข้าสู่บรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบางพระ ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดยมี เจ้าอธิการหิ่ม อินทโชโต เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทองอยู่  ปทุมรัตน   เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เปลี่ยน  ฐิตฺธัมโม   เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงพ่อเปิ่น ได้นามว่า "พระฐิตคุโณ" การศึกษาเล่าเรียนใด ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด แม้หลวงพ่อเปิ่นได้รับจากหลวงพ่อหิ่มมาก็ยังไม่อิ่มในรสแห่งพระธรรม เสร็จจากงานฌาปนกิจศพของหลวงพ่อหิ่มแล้ว ก็ตั้งใจจะแสวงสัจจะธรรมต่อไปอีก  หลวงพ่อเปิ่นได้เข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์  หลวงพ่อโอภาสี (พระมหาชวน)วัดบางมด ซึ่งได้อบรมแนะนำสั่งสอนพระกัมมัฎฐาน ศึกษาปฏิบัติกับหลวงพ่อโอภาสีเป็นเวลา ๑ ปีเศษ หลวงพ่อเปิ่นก็กราบลาเพื่อออกธุดงค์วัตรต่อไปทางภาคเหนือของประเทศไทย แล้วธุดงค์ลงใต้ พบอาจารย์ที่ไหน ก็จะเข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อศึกษาธรรมจากท่าน ย้อนกลับขึ้นมาที่สุราษฎร์ธานี ได้กราบนมัสการ  หลวงพ่อพุทธทาส แห่งสวนโมกข์ และ หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย  หลังจากนั้นข่าวคราวของหลวงพ่อเปิ่นเงียบหายไปอย่างสนิทกระทั่งปลายปี พ.ศ.๒๕๐๔  บ่ายแก่ของวันหนึ่ง พระธุดงค์วัยเกือบสี่สิบมาปักกลดอยู่ชายทุ่ง ใกล้กับวัดทุ่งนางหรอก อำเภอลาดหญ้า จังหวัดกาญจนบุรี พระธุดงค์องค์นี้ได้สร้างศรัทธาให้แก่ชาวบ้านอย่างมากมาย ทั้งปฏิปทาที่เคร่ง ทั้งสายวิชาพระเวท ทั้งยาสมุนไพรช่วยเหลือชาวบ้าน ยิ่งเกิดศรัทธาอันสูงสุดของชาวบ้านที่พุ่งตรงสู่พระธุดงค์รูปนี้  หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ   คือองค์พระธุดงค์องค์นั้น ภายในระยะเวลาไม่ถึง ๒ ปี หลวงพ่อเปิ่นได้พัฒนาวัดทุ่งนางหรอก อำเภอลาดหญ้า จังหวัดกาญจนบุรี ทำให้มีความเจริญรุ่งเรืองมาก ในช่วงดังกล่าว ท่านเกิดป่วยกระทันหัน จำเป็นต้องเข้ามารักษาตัวในเมือง ท่านจึงได้กลับมารักษาตัวที่วัดบางพระ ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ตั้งใจไว้ว่าเมื่อหายป่วยดีแล้วก็จะกลับไปพัฒนาส่วนอื่นที่จะต้องทำอีกต่อไป เมื่อหายป่วยดีแล้ว ก็ตั้งใจจะกราบลาพระอาจารย์เพื่อเดินทางกลับไป ประจวบเหมาะกับที่ชาวบ้านวัดโคกเขมา มาขอพระจากพระอาจารย์เปลี่ยน ฐิตธัมโม ไปเป็นเจ้าอาวาสเพื่อพัฒนาวัด คณะสงฆ์ในตำบลแหลมบัว ออกประกาศและแต่งตั้งให้ หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ เป็นเจ้าอาวาสวัดโคกเขมา ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๙ และนี่เป็นจุดแห่งบุญญาบารมีและชื่อเสียงของหลวงพ่อเปิ่นเมื่อเข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโคกเขมา หลวงพ่อเปิ่นได้เริ่มพัฒนาวัด ก่อสร้างเสนาสนะ ซ่อมแซมปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เกิดด้วยแรงศรัทธาของประชาชนที่มีต่อ หลวงพ่อเปิ่นในเวลานั้น และที่วัดโคกเขมานี่เอง หลวงพ่อเปิ่นได้สร้างพระเครื่องเป็นครั้งแรก ปัจจุบันพระเครื่องหลวงพ่อเปิ่นรุ่นนี้ของวัดโคกเขมาหายากมาก เพราะเป็นพระเครื่องที่มีประสบการณ์ สร้างอภินิหาริย์ให้ผู้เช่าบูชาได้ประจักษ์ หลังจากรุ่นรูปหล่อเนื้อทองแดงของท่านแล้ว พระเครื่องและวัตถุมงคลต่าง ๆ จากวัดโคกเขมาจึงออกมาอีก เพื่อให้ศิษย์และประชาชนทั่วไปได้เช่าหาบูชากัน เพื่อนำเงินบำรุงพัฒนาวัด ที่วัดโคกเขมา ได้จัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลหลวงพ่อเปิ่นทั้งเนื้อผง สมเด็จ  รูปหล่อ เหรียญ พระบูชาพระสังกัจจายน์ ทุกอย่างทุกองค์ที่หลวงพ่อสร้างมีค่ายิ่งสำหรับชาวบ้านที่รับไป   สิ่งที่เป็นตำนานกล่าวขานกันอย่างไม่มีวันจบสิ้น จวบจนปัจจุบันตั้งแต่วัดโคกเขมาเป็นต้นมาก็คือ "การสักยันต์" หลวงพ่อเปิ่นในสมัยที่ท่านยังมิได้รับพระราชทาน สมณะศักดิ์ หลวงพ่อเปิ่นท่านลงมือสักลงอักขระเวทด้วยองค์ท่านเอง มาภายหลังหลวงพ่อได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาการสักให้แก่ศิษย์เป็นองค์สักแทน แล้วหลวงพ่อเปิ่นเพียงทำพิธีครอบให้เท่านั้น เรื่องการสักยันต์ของหลวงพ่อเปิ่นกล่าวเพียงบทสรุป ว่าชอบ เสือ ด้วยเหตุผลที่บอกเพียงสั้น ๆ แก่ศานุศิษย์ว่า เสือเป็นสัตว์ที่มีอำนาจ เพียงเสียงคำรามของเสือ สัตว์ทั้งหลายก็สงบเงียบ กลิ่นของเสือ สัตว์ทั้งหลายเมื่อรับสัมผัสจะยอมในทันที หลีกทันก็ต้องหลีก จัดอยู่ในมหาอำนาจ เสือรูปร่างสง่างาม เต็มไปด้วยอำนาจบารมี จัดอยู่ในมหานิยม ที่สำคัญ หลวงพ่อเปิ่น เคยประจันหน้ากับเสือมาแล้ว กลางป่าลึก ระหว่างธุดงค์วัตรแถวป่าใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี จึงเกิดความประทับใจตั้งแต่นั้นมา เมื่อหลวงปู่หิ่ม อินฺทโชโต มรณภาพลงและหลวงพ่อเปิ่นออกจาริกแสวงธรรม ทางวัดบางพระเงียบเหงาลง ต่อมา"หลวงพ่อทองอยู่ ปทุมรัตน์" พระกรรมวาจาจารย์ของหลวงพ่อเปิ่นได้เป็นเจ้าอาวาสต่อจากหลวงปู่หิ่ม จนมรณภาพลงในปี พ.ศ.๒๕๑๖ เจ้าอาวาสวัดบางพระ จึงว่างลง ชาวบ้านจึงพร้อมใจกัน ไปกราบอาราธนาหลวงพ่อเปิ่นให้กลับมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางพระ ซึ่งในตอนแรกหลวงพ่อเปิ่นไม่ยอมมาด้วยสาเหตุว่าไม่มีใครดูแลวัดโคกเขมา ซึ่งเป็นเหมือนกับวัดที่ท่านสร้างขึ้นมาใหม่ ภาระและความรับผิดชอบยังอยู่ที่ท่าน กล่าวกันว่าชาววัดโคกเขมา เมื่อทราบว่าหลวงพ่อเปิ่นท่านจะต้องกลับไปพัฒนาวัดบางพระซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่าน เสียดายก็เสียดายทำอย่างไรได้เมื่อเหตุมันเกิดก็ต้องยอมแต่ยังอุ่นใจอยู่ว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นไปกราบปรึกษาหารือท่าน ก็คิดว่าจะได้รับคำแนะนำที่ดีมีประโยชน์ บางทีท่านอาจจะลงมือมาช่วยได้อีก ในที่สุดหลวงพ่อเปิ่นท่านก็กลับมาพัฒนาวัดบางพระ สมเจตนาของชาวบ้านบางพระ นั่นคือการจบชีวิตการธุดงค์ของหลวงพ่อเปิ่น ในวันที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๓ ให้พระฎีกาเปิ่น วัดบางพระ จังหวัดนครปฐม เป็น "พระครูฐาปนกิจสุนทร" ช่วงนี้นี้เองที่วัดบางพระมีการออกพระเครื่องและวัตถุมงคลของหลวงพ่อเปิ่น เพื่อทดแทนในน้ำใจแห่งศรัทธาที่ศิษยานุศิษย์และชาวบ้านได้ร่วมกันในการพัฒนาวัดบางพระนั่นเอง   ในวันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๗ หลวงพ่อเปิ่นท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณะศักดิ์จาก พระครูฐาปนกิจสุนทร เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ เป็น "พระอุดมประชานาถ" ด้วยการพัฒนาวัดและชุมชนมาโดยตลอด ทางมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์โดยอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย ถวายปริญญาบัตร พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมศาสตร์ ณ วันที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๓๘ แก่องค์หลวงพ่อเปิ่น แสดงให้เห็นว่าหลวงพ่อเปิ่นได้เป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นพระสงฆ์ของประชาชนโดยแท้ ท่านไม่ทิ้งธุระทางการศึกษา พัฒนาสาธารณะประโยชน์เกี่ยวกับการศึกษาไว้มากเพื่อเป็นแนวทางแก่พระภิกษุ - สามเณรในพระพุทธศาสนา ในวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๕ เวลา ๑๐.๕๕ น. ณ โรงพยาบาลศิริราช หลวงพ่อเปิ่นได้ละสังขารด้วยอายุ ๗๙ ปี ๕๔ พรรษา ยังความอาลัย เศร้าโศก เสียใจแก่ปุถุชนจิต แต่ได้แสดงให้เห็นถึงมรณัสสติแก่ศิษยานุศิษย์ คุณงามความดีที่หลวงพ่อเปิ่นท่านได้กระทำไว้ในพระพุทธศาสนามากมาย จะเป็นตำนานแห่งแผ่นดินสยามในทุกๆเรื่อง เป็นเครื่องเตือนสติให้พุทธศาสนิกชนได้รู้จักและปฏิบัติสืบสานกันต่อไป.   


เขียนโดย :เฮียตุ้ย เจ้าของรายการ January 31, 2017 05:45:31

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระสมเด็จทั่วไป/7110253


ประวัติการสร้างพระสมเด็จอาจารย์สุพจน์ ท่านอาจารย์สุพจน์(พระครูพุทธมนต์วราจารย์)ท่านเป็นพระที่เก่งเงียบท่านมี วิชาลบผงและสร้างผงจากตำราโบราณของวัดสุทัศน์ และเป็นสหายธรรมกับหลวงปู่นาค และหลวงปู่หินแห่งวัดระฆังฯ จึงได้รับมอบพระสมเด็จวัดระฆังที่ชำรุดแตกหักมาสร้างพระชุดนี้ และท่านได้กราบเรียนสมเด็จพระสังฆราชแพเพื่อขออนุญาตินำพระเข้าร่วมปลุกเสก ในพิธีอินโดจีนปี2485 ในวันที่1 กุมภาพันธ์ 2485 ที่วัดสุทัศน์โดยมีสมเด็จพระสังฆราชแพเป็นองค์ประธานในพิธี พระสวย ดูง่ายครับ เนื้อจัดมากครับ เพราะมีส่วนผสมของชิ้นส่วนวัดระฆังที่แตกหัก รับประกันตามกฏครับ


เขียนโดย :เทพอมร เจ้าของรายการ January 26, 2017 13:20:13

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อผง-เนื้อว่าน/7149567


***วัดใจเคาะเดียวครับ***พระหางหมากมหาลาภหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เนื้อผง ปี 2533 วัดท่าซุง สภาพสวยเดิมๆ (พระหางหมาก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)     ลองอ่านพุทธคุณของพระหางหมากดูเถิด      พระสมเด็จหางหมาก โดยพระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน      “จะไหวหรือหลวงพี่...?” หัวหน้าชาติชายป่าไม้จอมเฮี้ยบ (ปัจจุบันคือพระชาติชาย สุธมฺมธนปาโล) ถามขึ้นทั้งที่อ้าปากพะงาบ ๆ อย่างกับปลาติดแห้ง อาตมาเองก็มีสภาพไม่ต่างกันเท่าใดนัก...      “สิบเอ็ดลูกเขาของบึงลับแล ยังไม่เหนื่อยแทบขาดใจเหมือน ๓๐๐ เมตรของที่นี่...” แดง (มงคล จอมผา) ที่นอนแผ่หราทับเป้หลัง พูดพลางตอบพลาง อากาศแทบทุกอณูของที่นี่ แฝงไว้ด้วยแรงกดดันมหาศาล...พระและฆราวาสเดนตายทั้งสามเดินทางมาเพื่อจะพิสูจน์ว่า แร่ยูเรเนียมที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานเมตตาบอกไว้นั้น มันจะมีมากมายขนาดไหน แล้วก็สมใจนึกบางลำภู แค่ปากประตูก็แทบเอาชีวิตไม่รอดซะแล้ว...!      ดูจากสภาพทั่วไปก็เป็นป่าธรรมดานี่เอง จะผิดจากที่อื่นก็ตรงแห้งแล้งกรอบเกรียมไปหมดเท่านั้น เนินเขาที่ต้องปีนก็เตี้ยนิดเดียว คะเนด้วยสายตาแล้วสูงไม่เกิน ๔๐๐ เมตร แบบนี้ก็หมูตายชัก...ใช่...เกือบจะตายชักจริง ๆ อากาศมันทั้งแน่นทั้งหนัก เดินเข้าไปคล้ายกับเดินสวนน้ำตกก็ไม่ปาน แต่ละคืบแต่ละศอกเหมือนทวนกระแสคลื่น ต้องทุ่มเทกำลังทั้งหมดถึงตะเกียกตะกายเข้าไปได้ทีละนิด... ที่ร้ายกาจที่สุดคือ เหมือนกับว่าอ๊อกซิเย่นในอากาศไม่มีเหลืออยู่เลย หายใจแทบสุดชีวิตได้อากาศไม่ถึงครึ่งปอด หน้ามืดวูบวาบ ไม่ทราบว่าจะหมดสติลงไปในวินาทีไหน จะหวังพึ่งใครก็ไม่ได้ ปางตายด้วยกันทั้งนั้น...!      หลังพิธีพุทธาภิเษกที่วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร “หลวงพ่อ” เมตตาเล่าให้ฟังว่า “สมเด็จองค์ปัจจุบันเสด็จมาเป็นประธานเอง ระหว่างปลุกเสกมองไปเห็นสมเด็จหางหมาก แต่ละองค์เปล่งแสงสว่างจ้ายิ่งกว่าดวงไฟ ๑๐๐ แรงเทียนซะอีก...”      “สมเด็จท่านตรัสว่า อานุภาพของสมเด็จหางหมากนั้น รอบรัศมี ๔ เมตร กัมมัตภาพรังสีจะเข้าไม่ได้เลย ถ้าใช้ในการรบเพื่อประเทศชาติ คำว่าตายรับรองว่าไม่มี แต่ถ้าใครนำไปใช้ในทางที่ผิด จะถูกปืนยิงแสกหน้าตาย...!”      นี่ขนาดกัมมันตภาพรังสีเข้าไม่ได้แล้วนะ ไม่ถึงครึ่งทางยังแทบตายเลย ถ้ามันเข้าได้จะมีสภาพอย่างไรหนอ...? กัดฟันโซซัดโซเซต่อไป ตายก็ตายซิวะ...มาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าถอยหลังก็เสียชื่อลูกหลวงพ่อหมด...!      “หลวงปู่...มีพระสมเด็จหางหมากเหลือบ้างหรือไม่ครับ...?” ผู้กองพงษ์เทพ (พ.ต.พงษ์เทพ พุ่มนิคม) ถามอาตมาที่เพิ่งกลับจากทำวัตรเย็น “โดนปล้นหมดตัวไปตั้งนานแล้ว ใจคอเอ็งจะปล้นซ้ำอีกเรอะ...?” “ผมเพิ่งกลับจากฝึกภาคสนาม เลยเอาพระของหลวงพ่อไปลองด้วย...” น่าน...เจริญล่ะเอ็ง... “แล้วผลเป็นอย่างไร...?” “ผมเอาพระผูกปากกระบอกเครื่องยิงลูกระเบิด ทั้ง ค.๖๐ ทั้ง ค.๘๑ ยิงไม่ออกทั้งนั้น...!” “ฮื้อ...ปืน ค.มันด้านออกจะบ่อยไป...” “มันคงไม่ด้านทุกนัดหรอกครับ พอปืนค.ยิงไม่ออก เพื่อนผมใช้ปืนพกยิงเสียงดังเชียะ...ลูกปืนหล่นอยู่แค่ปากกระบอกนั่นแหละ...!” ผลก็คือพระสมเด็จรุ่นนี้ที่มีแค่หนึ่งแสนองค์ หมดเกลี้ยงในพริบตา และขึ้นราคาหูดับไปเลย...!      “ไอ้ก้องไปลองมาแล้วหลวงพี่...” แดงมารายงานให้ทราบ “ก้องมันยิงออกครับ แต่ยิงเท่าไรไม่ถูก ห่างองค์พระเป็นศอกทุกที...” อือม์...แบบนี้ค่อยน่าเชื่อถือหน่อย ไอ้เสือก้อง (ศุภฤกษ์ รัชฎาวงศ์) เชื่อมือได้ มันยิงตอกหัวตะปูได้เลย...!      ในงานเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งที่ ๑๖ คุณธนาวุธ เลิศศิริจินดา เอาภาพพระสมเด็จหางหมากและสมเด็จคำข้าว ที่ขึ้นพระธาตุทั้งองค์มาโชว์ให้ดู เป็นที่ฮือฮากันมากเพราะไม่ใช่ของที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ...      เป็นว่าสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้เป็นพระธาตุ เพื่อรับรองมรรคผลของหลวงพ่อ ปรากฏครบ ๓ สิ่งแล้ว คือ      ๑. ชานหมากของหลวงพ่อ      ๒. เกศาของหลวงพ่อ      ๓. วัตถุมงคลของหลวงพ่อ      “สุปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ สังฆัง นมามิ”      ๓๐ กันยายน ๒๕๓๕      พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ .................................................      เรื่องอานุภาพพระคำข้าว-พระหางหมาก ของคุณเกตุ      (คัดลอกบางตอน จากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม ๓ หน้า ๒๖๖ )      เกล้ากระผม ได้บูชา "พระหากหมาก และ พระคำข้าว" ของหลวงพ่อ ไปเมื่อกลางปี พ.ศ. ๒๕๓๔ จะเป็นวันเดือนใดจำไม่ได้ ได้เอาพระคำข้าว และพระหางหมาก และเหรียญของหลวงพ่อ มอบให้ลูกเขยคนเล็กชื่อ อนันต์ ... อยู่บ้านเลขที่ ๑๘๒๐ ซอยสุขศรีเฉลิมพจน์ ถนนกรุงเทพ-นนท์ เขตดุสิต กรุงเทพฯ      แกเอาพระคำข้าวและพระหางหมาก เหรียญของหลวงพ่อติดตัวไป และวางไว้หน้ารถแท็กซี่ ในขณะขับไป บังเอิญเด็กวิ่งตัดหน้ารถ เบรกไม่ทัน รถแท็กซี่ได้ชนกับเด็ก กระเด็นไป ๔-๕ วา กระโปรงหน้ารถยนต์ฉีก และได้อุ้มเอาเด็กขึ้นรถไปโรงพยาบาล ขอให้แพทย์ช่วยตรวจ และเอ็กเรย์ให้ ปรากฏว่าหมอบอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ จะฟกช้ำดำเขียว ถลอกก็ไม่มี      นี่เป็นที่น่าอัศจรรย์รถชนขนาดนี้ไม่มีเหลือสักราย หรือมิฉะนั้นก็ป่วยหนักเสียสุขภาพ นี่กลับไม่เป็นอะไรเลย ก็เพราะบุญของหลวงพ่อได้คุ้มครองป้องกัน และเมื่อให้หมอตรวจดูปลอดภัยแล้ว ลูกเขยก็นำขึ้นรถกลับบ้าน และมอบเงินบำรุงขวัญ ๒,๐๐๐ บาท (สองพันบาทถ้วน) แจ้งให้ผู้ปกครองทราบ และก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น      ทั้งนี้เพราะอำนาจศักดิ์ของพระคำข้าว และพระหางหมาก และเหรียญหลวงพ่อคุ้มครอง      ((ปลุกพระนี่แสงไม่เหมือนกัน ถ้าปลุกแก้วเหมือนกันทุกครั้งนะมาปลุกพระคำข้าวแสงหนาทึบขาว แสงขึ้นหนามาก แต่พระหางหมากนี่ แสงเหมือนกับดวงเทียน ดวงเทียนกับไฟฟ้าใหญ่ๆนะ แต่ละองค์สว่างมากไม่เหมือนกัน อานุภาพต่างกันและท่านก็บอกว่า พระหางหมาก นี่หนักไปในทางป้องกันและสู้....ก็ห้อย 2 องค์ ตอนเสกต้องเต็มอัตรา คุมอยู่นี่ คุมเลย อารมณ์นี่พลาดนิดไม่ได้ ได้ผลเร็วเป็นอัศจรรย์นะ..หลวงพ่อว่า))


เขียนโดย :BOY.LS เจ้าของรายการ January 26, 2017 08:02:43


+++หลวงปู่ทวดเนื้อว่าน108 พิมพ์อิคคิวซัง หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ปลุกเสกพิธีรวยทันใจ ปี 2543 ออกวัดป่าช่องกุ่ม จ.สระแก้ว พร้อมกล่องเดิมครับ พระดีอีกรุ่นหนึ่งของหลวงปู่หมุน สุดยอดประสบการณ์และเป็นที่เสาะแสวงหาทั่วไป ราคายังไม่แพง แต่มีอนาคตและน่าใช้ครับ+++รับประกันตามกฎกติกา+++


เขียนโดย :ธิติ2509 เจ้าของรายการ January 25, 2017 14:49:56


ได้รับแล้วครับ ขอบคุณครับ


เขียนโดย :sanbhuda ผู้ชนะประมูล January 18, 2017 05:39:25


ขอบคุณครับ (auto feedback)


เขียนโดย :Phuwanat1983 ผู้ชนะประมูล January 17, 2017 18:00:07


พิเศษตอกโค๊ดยันต์ 2 ตัว ชอบเชิญครับ


เขียนโดย :มังกรดำ เจ้าของรายการ January 17, 2017 14:15:06


เคาะเดียวแดง กดVหลังชื่อ กรรณิกา ยังมีพระราคาไม่แพง อีกมาก(โอนแล้วช่วยแจ้งด้วยครับ)


เขียนโดย :กรรณิกา เจ้าของรายการ January 16, 2017 21:40:14

หน้าที่ :  43