วัดใจแดงแรกเคาะ... สภาพสวยมาก พระหล่อเก่าโบราณ
พระยอดธงโฆษปัญโญ รุ่นแรก ลป.คำพันธ์ พิมพ์ใหญ่ เนื้อฆ้องเก่า ปี39....พิมพ์ใหญ่ รายละเอียด พระรุ่นนี้ไม่ค่อยได้เห็นลงประมูล เจ้าของเก็บไว้นาน พึ่งแบ่งออกมาให้บูชาครับ มหายันต์ที่ทรงคุณเอนกอนันต์ในหลวงปู่คำพันธุ์ที่ท่านใช้เป็นเอกลักษณ์คือ ยันต์มหาปรารถนา และ ยันต์มหาเศรษฐี มีกล่องใส่ให้ หลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญพระผู้เสกปฐวีธาตุเป็น คำว่า “เป็น” ของท่านคุณนรฯ คงหมายถึงทำได้มากจนแพร่หลายไปในหมู่ชนได้ ไม่ใช่ทำเพียงแค่ก้อนสองก้อนก็จบ น่าแปลกที่ท่านเหล่านั้นสามารถทราบได้ว่ากรวดธรรมดาหากกำหนดจิตให้เป็นของมีพลังงานด้วยกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อนเกินปุถุชนจะเข้าถึงได้ละก็ ย่อมมีอานุภาพสุดจะประมาณ ขนาดกันนิวเคลียร์ได้ก็แล้วกัน หลวงปู่คำพันบอกว่า ในตำราระบุไว้ว่าผู้จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้นต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้เล่นทางสายวิชาคือคาถาอาคมไม่ได้เลย จึงหมดสงสัยว่าทำไมหลวงปู่ขาว หลวงปู่ดูลย์ก็ทำเป็น ปฐวีธาตุของครูบาอาจารย์องค์อื่น ผมไม่ทราบว่าท่านอธิษฐานจิตในการป้องกันอย่างไร แต่ของหลวงปู่คำพันท่านอธิษฐานว่า ให้ป้องกันภัยอันจะเกิดแต่ธรรมชาติก็ดี ภัยอันเกิดแต่มนุษย์ก็ดี กันได้ทั้งสิ้น กันภัยจากอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีขึ้นในอนาคต ท่านเรียกการอธิษฐานแบบนี้ว่า “เสกครอบลงไป” การเสกแบบนี้ไม่เหมือนกับการเสกพระเครื่องทั่วไปของท่าน ท่านจึงย้ำว่า “ปฐวีธาตุนี้เป็นของที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่” เหนือกว่าวัตถุมงคลทั้งปวงของท่าน ครั้งหนึ่งท่านพระอาจารย์เวทย์ อาจารย์สัมปันโน ศิษย์ก้นกุฏิของหลวงปู่คำพัน คิดหาปฐวีธาตุ ชนิดถูกต้องตามตำราทุกประการมาถวายหลวงปู่คำพันเสก จึงหาอาสาสมัครได้พระ เณร และญาติโยมจำนวนหนึ่ง ออกค้นหาปฐวีธาตุในลำน้ำโขง การตามล่าหาของดีในคราวนั้นเป็นความยุ่งยากลำบากเหลือแสน เพราะน้ำในแม่น้ำโขง เย็นยะเยียบ เมื่อลงแช่ไปนานๆ ก็เกิดหนาวสั่นจับไข้ไม่สบายกันถ้วนหน้า อีกทั้งกรวดที่ควานขึ้นมานับร้อยๆ ก้อนในแต่ละครั้ง จะมีใสตามตำราสักก้อนก็แสนยาก หากันอยู่นาน ก็ระแคะระคายว่ามีพระทางจังหวัดนครพนมรูปหนึ่ง ท่านทำปฐวีธาตุได้ หรือท่านจะ “รับมุข” ที่ท่านเจ้าคุณนรฯพูด ทว่า เมื่อเช็คกับผู้รู้ท่านหนึ่งท่านว่าพระเถระรูปนั้นทำปฐวีธาตุแจกศิษย์มาแต่ปี พ.ศ. 2495 ก่อนท่านเจ้าคุณนรฯ เสียอีก ตำราที่ว่าด้วยการ “อธิษฐานปฐวีธาต” สามารถทำธาตุธรรมชาติธรรมดาให้มีอานุภาพ มีพลังงานขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ท่านได้ตำราตกเก่าแก่ถ่ายถอดจากบรรพบุรุษครอบครัวนีงทางจังหวัดภาคอีสานเก่าแก่มา ท่านจึงศึกษาวิธีการจนแตกฉาน จดจำได้ทุกขั้นตอน ในเวลาต่อมาก็มีพระภิกษุรูปหนึ่งมาขอตำรานั้นไป ท่านก็กรุณามอบให้ ทุกวันนี้ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใคร หลวงปู่คำพันได้เมตตาอธิบายถึงคุณลักษณะของปฐวีธาตุที่ถูกต้องตามตำราทุกประการว่า ต้องเป็นกรวดที่แช่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติเท่านั้น จะอยู่บนบกไม่ได้ ตัวกรวดเมื่อเก็บขึ้นมาต้องมีลักษณะเดิมตามธรรมชาติของเขา จะบิ่น จะแตกหักหรือร้าวไม่ได้เลย ที่สำคัญสุดยอด คือต้อง “โปร่งแสง” เท่านั้น คำว่าโปร่งแสงหมายถึง แสงสามารถลอดทะลุผ่านได้ ไม่ใช่โปร่งใส ถ้าโปร่งใสจะหมายถึงมองทะลุเห็นภาพอีกด้านได้ ซึ่งคงไม่มีกรวดชนิดใดเป็นเช่นนั้นแน่ หรือถ้ามีคงหายากสุดๆ และด้วยคุณลักษณะเช่นนี้เองที่ทำให้ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันเป็นของหายากที่สุด แม้ว่าทางวัดจะพยายามแก้ไขด้วยการนำกรวดจากแม่น้ำโขงชนิดขุ่นมาถวายท่านอธิษฐานแทนก็ตาม มันก็หาถูกต้องตามตำราบังคับไม่ หากท่านก็อนุโลมให้เป็นปฐวีธาตุได้เช่นกัน ผิดกับครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ เช่นท่านเจ้าคุณนรฯ ด้วยท่านมีข้อแม้กับปฐวีธาตุว่า ต้องอยู่ในอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการเท่านั้น ส่วนจะใสหรือขุ่น จะใหญ่หรือเล็ก ท่านไม่เอามาเป็นประมาณ ผมเองก็เพิ่งทราบว่า ไม่เพียงท่านเจ้าคุณนรฯ หรือหลวงปู่คำพันเท่านั้นที่ทำปฐวีธาตุได้ พระมหาเถระผู้ทรงคุณสูงสุดคือ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี ก็ทำปฐวีธาตุ แต่ง่ายดายมาก ด้วยการให้ศิษย์เก็บเอากรวดที่ข้างกุฏิท่านนั่นแหละมาอธิษฐาน หาง่ายแต่หายาก “หา” แรกง่าย เพราะเอากรวดข้างกุฏิไม่ต้องไปไกล “หา” หลังยาก เพราะของไม่มี คนอยากได้ก็ฝันไปก่อน รวมทั้งผม ไม่เพียงหลวงปู่ขาวเท่านั้นที่ทำปฐวีธาตุ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ก็ทำ ทำจริงๆนะ มีคนใกล้ชิดที่เชื่อถือได้ ได้รับจากมือหลวงปู่ดูลย์มาจริงๆ ก็น่าแปลกที่ท่านเหล่านั้นสามารถทราบได้ว่ากรวดธรรมดาหากกำหนดจิตให้เป็นของมีพลังงานด้วยกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อนเกินปุถุชนจะเข้าถึงได้ละก็ ย่อมมีอานุภาพสุดจะประมาณ ขนาดกันนิวเคลียร์ได้ก็แล้วกัน หลวงปู่คำพันบอกว่า ในตำราระบุไว้ว่าผู้จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้นต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้เล่นทางสายวิชาคือคาถาอาคมไม่ได้เลย จึงหมดสงสัยว่าทำไมหลวงปู่ขาว หลวงปู่ดูลย์ก็ทำเป็น ปฐวีธาตุของครูบาอาจารย์องค์อื่น ผมไม่ทราบว่าท่านอธิษฐานจิตในการป้องกันอย่างไร แต่ของหลวงปู่คำพันท่านอธิษฐานว่า ให้ป้องกันภัยอันจะเกิดแต่ธรรมชาติก็ดี ภัยอันเกิดแต่มนุษย์ก็ดี กันได้ทั้งสิ้น กันภัยจากอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีขึ้นในอนาคต ท่านเรียกการอธิษฐานแบบนี้ว่า “เสกครอบลงไป” การเสกแบบนี้ไม่เหมือนกับการเสกพระเครื่องทั่วไปของท่าน ท่านจึงย้ำว่า “ปฐวีธาตุนี้เป็นของที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่” เหนือกว่าวัตถุมงคลทั้งปวงของท่าน ครั้งหนึ่งท่านพระอาจารย์เวทย์ อาจารย์สัมปันโน ศิษย์ก้นกุฏิของหลวงปู่คำพัน คิดหาปฐวีธาตุ ชนิดถูกต้องตามตำราทุกประการมาถวายหลวงปู่คำพันเสก จึงหาอาสาสมัครได้พระ เณร และญาติโยมจำนวนหนึ่ง ออกค้นหาปฐวีธาตุในลำน้ำโขง หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ พระอริยสงฆ์ ผู้ถึงพร้อมด้วยบุญบารมีแห่งการบำเพ็ญศีลบริสุทธิ์ เป็นผู้ทรงศีลที่มีเมตตาธรรมสูง มีความเมตตาต่อผู้คนอย่างทัดเทียมกัน ไม่เลือกว่าร่ำรวยหรือยากจนโดยไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ มีเมตตาต่อผู้ที่มีความต้องการประสงค์อยากได้โดยไม่มีความรำคาญ ในความต้องการของผู้คนอันเป็นบารมีธรมมในด้านเมตตาที่สูงส่งของท่าน เป็นผู้ที่มีอำนาจเดชะบารมีมหาอำนาจในตนเองถึงพร้อม สังเกตได้จากการที่ หลวงปู่คำพันธ์ มท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่ตัดสินใจโดยตัวท่านเอง ไม่มีลูกศิษย์หรือคนคอยบงการชี้นำแทนท่าน อันเป็นเดชะตบะบารมีในด้านอำนาจของท่านเองซึ่งหาได้ยากในพระเกจิอาจารย์ในยุคปัจจุบันนี้ เป็นพระผู้หลุดพ้น จากผลแห่งผลกรรมในชาติปางก่อน ไม่ต้องชดใช้กรรมอันใดจึงเป็นผู้ที่มีพลานามัยสุขภาพแข็งแรงไม่มีโรคภัยเบียดเบียน เดินทางแผ่บารมีไปยังสถานที่ต่างๆตามคำนมัสการของศิษยานุศิษย์และวัดวาอารามที่มาขอพึ่งบารมีของหลวงปู่ท่านไปปลุกเสกวัตถุมงคลยังสถานที่ต่างๆทั้งใกล้และไกลแทบไม่มีวันหยุด พระอริยสงฆ์ ซึ่งถึงพร้อมซึ่งบารมีแห่งธรรม ดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้ นับเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบันนี้ ดังนั้นวัตถุมงคลที่ หลวงปู่คำพันธ์ ท่านได้เมตตาอธิษฐานปลุกเสกให้ ทุกรุ่นของวัด จึงเป็นวัตถุมงคลที่เปี่ยมล้นไปด้วย พลังแห่งอำนาจบารมีแห่งความเมตตาเป็นที่ตั้งในอันจะช่วยผู้อื่นให้หลุดพ้นจากความทุกข์เวทนาเป็นที่ตั้ง ย่อมน้อมนำทำให้ผู้ที่มีพระของท่านประสพความสำเร็จสมปราถนาทุกประการ CC13 101 6060 61 3 67 68 6 71 72 8 จ่ายแพงทำไมครับ พระหลวงปู่ราคาเบาๆ ยังมีให้เก็บ... เคาะเดียว.... รายละเอียดเพิ่มเติม: #1 เมื่อ : 3 สิงหาคม 2014, 0:10:38 กก รายละเอียดเพิ่มเติม: #2 เมื่อ : 3 สิงหาคม 2014, 0:10:38 กก ฉฉ 8706 07 1 08 11 12 3 บบ101 972 73 1 74 75 2 76 77 3 78 79 4 ดด 2200 01 1 04 05 3 06 07 4 08 09 5 DDWP1 3154 55 1
เปิดเบาๆเคาะเดวแดง พุทธคุณอำนาจบารมีเจริญก้าวหน้า รับประกันตามกฎ
ปรกมหามงคลหลังยันต์บารมี๓๐ทัศ(รุ่น๑.) เนื้อทองแดง. "ลป.จาม มหาปุญโญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม จ.มุกดาหาร" ที่ระลึกอายุครบ ๙๕ ปี พ.ศ.๒๕๔๗ ขนาดกระทัดรัด(ความสูงประมาณ ๑.๖ ซม.)ออกแบบสวยงาม สภาพฟอร์มสวย เก็บเก่าเดิมๆ... ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระแก้วเรซิ่นใส วัดท่าซุง อุทัยธานี หน้าตัก 3" ออกโดยวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ออกปี 2552
พระขุนแผนกั่วเผาะ มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์เล็ก กับพิมพ์ใหญ่ มี 3 เนื้อ ขาว แดง ดำ และอีกรุ่นคือ ขุนแผนชินกั่วเผาะ เนื้อตะกั่ว ซึ่งสร้างหลังจากชุดเนื้อผง ขุนแผนกั่วเผาะ ฟันลูกเดียว ผสมผงพรายกุมารกับลึงค์ช้าง เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา มีพระสงฆ์อยู่ในป่ารูปหนึ่ง ท่านอยู่รูปเดียวกระท่อมเล็กๆที่หมู่บ้านหิน เหล็ก ไฟ ต.กะโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ หมู่บ้านกะโพ ที่ท่านจำพรรษาอยู่ลึกเข้าไปในป่า เป็นหมู่บ้านของชาวขอทาน ซึ่งเป็นหมู่บ้านของคนที่มีวิชาอาคม และเป็นหมู่บ้านที่มีช้าง ซึ่งมีชื่อเสียงมากของประเทศไทย หลวงพ่อรูปนี้ท่านมีของดีที่เรียกว่า”กั่วเผาะ”เป็นสุดยอดทางเมตตามหานิยม “ท่านทำมาจากของดีที่เอายาก คนไปเอาของดีชนิดนี้ ดีไม่ดี ตายเอาง่ายๆ” “กั่วเผาะ” มันคือสุดยอดของเครื่องรางทางเมตตามหานิยมที่มีต้นกำเนิดทางอีสานใต้ หาคนทำได้ยากที่สุด เพราะถ้าคนทำไม่เก่งจริง มีแต่ตายลูกเดียว คนที่จะทำ”กั่วเผาะ”ได้ จะต้องเสี่ยงกับความตายโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน พระอาจารย์รูปนี้ ท่านปลูกกระท่อมอยู่รูปเดียวในหมู่บ้านหินเหล็กไฟ ที่อยู่ลึกไปจาก ต.กะโพ อีก 10 กว่ากิโล ท่านชื่อ “หลวงพ่อชู กันตะวีโร”เมื่อประมาณปี 2527 คือ 20 ปีท่แล้ว ท่านเพิ่งบวชได้เพียง 7 พรรษา อายุเพียง 56 ปีเท่านั้น ยังเป็นพระสงฆ์ที่หนุ่มแน่นอยู่มาก ก่อนที่ท่านจะมาบวช ท่านเคยเป็น “ณุ เฒ่า”มาก่อน “ณุ เฒ่า”คือหมอไสยศาสตร์ หรือคนที่มีวิชาอาคมเก่งกล้า เป็นอาจารย์ของพวกส่วยที่เลี้ยงช้าง ท่านเป็น”ณุ เฒ่า”มาตั้งแต่หนุ่มๆ ชาวบ้าน และลูกศิษย์ของท่าน เรียกท่านว่า”จอมพลสวัสดิ์ 2″ เพราะท่านมีเมียมีลูกมาก จนจำไม่ได้ว่าลูกคนไหน แม่คนไหน เพราะมีมากเหลือเกิน ชาวบ้านแถวนั้นเล่าว่า..หลวงพ่อชูสมัยเป็นฆราวาส ท่านเป็นหมอไสยศาสตร์ที่เก่งกาจมาก จะหาคนเท่าเทียมได้ยาก นอกจากท่านจะเก่งกาจในเรื่องช้างแล้ว ท่านยังเชี่ยวชาญเรื่องการทำเสน่ห์ยาแฝดอีกด้วย วัตถุที่ท่านนำมาทำเป็น “กั่วเผาะ”คือ “น้ำมันช้างตกมัน” (ตามภาษาส่วยเรียกว่า”กั่วเผาะ” ถ้าเรียกตามภาษากลางกลาง”กั่วเผาะ”ก็คือ”สีผึ้ง” นั่นเอง) สีผึ้งของหลวงพ่อชู ท่านจะผสม น้ำมันของช้างที่กำลังตกมัน ซึ่งเจ้าของต้องตีปลอกล่ามโซ่ไว้ เพื่อป้องกันมันไปกระทืบคน เพราะเวลาที่ช้างตกมัน เป็นเวลาที่มีอารมณ์รุนแรง โดยเฉพาะอารมณ์ทางเพศจะรุนแรงมาก และน้ำมันที่ไหลออกมาจากขมับทั้งซ้ายและขวา จะเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่แรงและมีพลังอำนาจมากๆ และท่านยังเอาว่าน และวัตถุอาถรรพณ์ต่างๆ เช่นสีผึ้งตามท่ารถ ท่าเรือ 7 ท่า มาผสมและว่านมงคลต่างๆ และสิ่งสุดท้ายที่ท่านผสมคือ น้ำมันช้างตกมันนั่นเอง หลวงพ่อชู ท่านเล่าว่า นำมันช้างตกมันเป็นของอาถรรพณ์ที่ที่หายาก มีผลทางเสน่ห์มหานิยมมากที่สุด เมื่อไปเอามาได้แล้วต้องผสมลงในสีผึ้งทันที่เพราะเป็นน้ำมันที่ระเหยเร็วมาก จากนั้นจึงนำมาทำพิธีปลุกเสกและแจกจ่ายให้ผู้ที่มาขอให้ท่านช่วยเหลือเพียงคนละเล็กละน้อยเท่านั้น หลวงพ่อชูท่านยังกล่าวอีกว่า “กั่วเผาะ”ที่ท่านทำขึ้นนั้น ใช้ได้ผลดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นให้ผัวเมียรักกัน หรือ ให้ผัวกลับมารักเมีย หลงเมีย เลิกจากเมียน้อย ท่านก็ทำได้ทั้งนั้น แต่วิชานี้เป็นวิชามาร ทำไปมากๆเข้ามารก็มาสิงในตัวท่าน ผู้หญิงที่มาหาท่านให้ท่านลงของหรือทำของให้ ท่านก็จะเอาทำเมียหมด เมื่อทำเข้าบ่อยครั้งเข้า ท่านก็สำนึกได้ว่านั่นคือ “นรก” ท่านจึงตั้งใจจะบวชสักพรรษาเดียว เพื่อจะฝึกจิตให้แข็งกว่ามาร จะได้เลิกทำชั่ว เมื่อบวชแล้ว ท่านจึงรู้ว่าที่ทำไปมันก็นรกดีๆนี่เอง ท่านจึงบวชไม่ยอมสึกและมาปลูกกระท่อมอยู่กลางป่าในหมู่บ้านหินเหล็กไฟ คุณชินพรสุข สถิตย์ จึงไปขอให้ท่านสร้างขุนแผนขึ้น นับเป็นขุนแผนรุ่นแรกที่สร้างขึ้นจากผงพรายกุมาร หลังจากที่หลวงปู่ทิม มรณะภาพแล้ว โดยผมสมกับกั่วเผาะ เรียกว่า “ขุนแผนกั่วเผาะ” มีทั้งพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก ปลุกเสกในคืนวันราหูอมจันทร์ ขณะกบกำลังกินเดือน ซึ่งถือเป็นวันที่มีเสน่ห์ทางเพศสูงสุด และขุนแผนกั่วเผาะรุ่นแรก ก็ดังจริงๆ คนที่นำไปใช้ก็เห็นผลกันทั่วหน้า จนคุณชินพร ต้องทำขึ้นมาอีกรุ่น รุ่นนี้ นอกจากจะเอากั่วเผาะผสมลงไปด้วยแล้ว หลวงพ่อชู ยังให้เอา”ลึงค์ช้าง”มาผสมเข้าไปอีกด้วย และบอกเคล็บลับ ต่างๆในการสร้าง จนหมดเปลือก และขุนแผนรุ่น 2 ก็ดังอย่างสุดๆ และตั้งสมญานามให้ว่า”ฟันลูกเดียว” และมีชื่อออกมาอย่างเป็นทางการว่า”ขุนแผนชินกั่วเผาะ” สร้างตามฤกษ์ ที่ขุนแผนตีดาบฟ้าฟื้น แล้วก็ดังจริงๆ ตอนทำพิธีปลุกเสกหลวงพ่อชูยังกล่าวอีกว่า มีมารผจญ จนท้อใจ แต่ก็ทำจนสำเร็จ พระขุนแผนกั่วเผาะ มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์เล็ก กับพิมพ์ใหญ่ มี 3 เนื้อ ขาว แดง ดำ และอีกรุ่นคือ ขุนแผนชินกั่วเผาะ เนื้อตะกั่ว ซึ่งสร้างหลังจากชุดเนื้อผงครับ ....เพิ่มเติม ข้อมูลเชิงลึกของ หลวงพ่อชู กันตะวีโร ท่านเป็นพระสงฆ์ ที่มีความเด็ดเดี่ยวมากจากคำบอกเล่าของชาวบ้านหิน เหล็ก ไฟ ข้อมูลอาจคลาดเคลื่อน จากเวบอื่นที่ให้ข้อมูลเนื่องจากกระผมสืบจากปากชาวบ้านหินเหล็กไฟ และลูกศิษย์ก้นกุฏิ ที่เคยรับใช้แต่เด็ก คือ พี่รวย หรือคุณรวย ชาวบ้านหินเหล็กไฟ ทราบว่าท่านมาจำพรรษาอยู่ที่ป่าหินเหล็กไฟ หรือชาวบ้านเรียกหมู่บ้านนี้ว่าบ้านโสก ซึ่งเป็นภาษาลาว ชาวบ้านนี้พูดภาษาท้องถิ่นลาวเป็นหลักเนื่องจากอพยพมาจากที่อื่น จาก เขต จ.ร้อยเอ็ดบ้าง หลายจังหวัดมารวมกันอยู่อย่างกลมกลืน จากปากของ คุณลุงมา อดีต ผู้ใหญ่บ้านเป็นโยมอุปัฏฐาก อาจารย์โผน ศิษย์รับใช้ซึ่งเป็นพระสงฆ์และท่านสึกมาภายหลัง และอีกหลายหลายท่านที่เมตตาให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขออนุโมทนาคุณความดีเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลาย และองค์หลวงพ่อที่ล่วงลับไปแล้ว ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่าแต่เดิมท่านเป็นคนทาง อ.สังขะหรือกาบเชิง ของ จ.สุรินทร์ ท่านเล่าให้โยมภรรยาผู้ใหญ่มา ฟังว่าสมัยท่านเป็นฆราวาส แต่ก่อนเป็นนักเลงหัวไม้ เจ้าชู้ เป็นโจร คือแบบว่าไม่ดีมากๆ ชอบเรียนวิชาอาคมมากที่ไหนดีมีดีอาจารย์ขลังท่านจะไปขอเรียนวิชามาหมด ทั้งเรื่องคงกระพัน เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ เรียนจนสำเร็จจึง จะไปหาอาจารย์อื่น พอ สมัยผู้ว่าเสนอ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์สมัยนั้น ปราบปรามโจรอย่างหนักตาม นโบายรัฐบาล พูดง่ายๆ แบบใบไม้ร่วง (โจรนะครับ) โยมแม่ของท่านกลัวท่านจะถูกร่างแหไปด้วย จึงขอให้ท่านบวชให้ ท่านจึงคิดว่าจะบวชสักระยะหนึ่ง แต่พอบวชได้สักระยะกลับรู้สึกว่าถูกกับจริตตนจึงไม่ยอมสึก เดินธุดงค์ไปเรื่อยหาความสงบจนมาพบป่าดงสายทอ เป็นหมู่บ้านโสก สมัยนั้นป่ารกทึบ ท่านจึงมาขอให้ชาวบ้านปลูกกระท่อมให้เล็ก อยู่ในบริเวณสำนักสงฆ์หินเหล็กไฟ ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เอาจริงเอาจัง เคยมีโยมท่านหนึ่งอยู่บ้านบอน หมู่ 4 ต.เดียวกัน มาลองของท่าน ท่านจึงพันผ้าสบงเปล่าวางไว้บนเสารั้ว (มีผู้อยู่ในเหตุการณ์ คือ เมียผู้ใหญ่มา ) โยมคนดังกล่าวใช้ปืนสั้น .38 ไทยประดิษฐ์ ยิงผ้าดังกล่าว ปรากฏว่า ยิงไม่ออกทั้ง 3 นัด และ อีก คำบอกเล่า ของคุณรวย คือ เมื่อตอนเด็ก หลวงพ่อชูชอบใช้ท่าน ให้ไปเอาของดี พี่รวยบอกว่าก็ไม่รู้ว่าอะไรคือของดี แต่ได้เงินไปซื้อขนมกินก็พอใจตามประสาเด็กคือท่านจะเมตตาเด็ก ของดีอีกอย่างที่ท่านให้ไปเอาคือ น้ำผึ้งเดือนห้า และตามเวลาที่ท่านกำหนดท่านจะจับเวลาเองแล้วใช้ให้ไปเอา พอได้มาท่านก็จะเมตตาให้เงินไปซื้อขนม คือไปเอาในป่าหลังวัดนั่นแหละ และของอาถรรพ์ต่างเช่น กิ่งไม้ซึ่งคนใช้ผูกคอตาย อื่นๆเยอะ เก็บไว้ทำของดี แจกญาติโยม รวมถึงกั่วเผาะ หรือน้ำมันช้างตกมัน เวลาไปเอาท่านจะสะกดช้างแล้วเข้าไปเอา ส่วนใหญ่ใช้ตัวช่วยมากว่า ใช้วิชา ปกติเวลาตกมันควาญที่เคยหาหญ้ามันยังกระทืบใส้แตกเลยครับ ท่านก็ไปเอามาได้ น้ำมันชนิดนี้กลิ่นเหม็นมาก นึกภาพกลิ่นขี้ไก่สดๆครับ และก็ได้น้อยระเหยเร็ว เฉพาะควาญช้างที่ใช้ตัวช่วย ขวดกระทิงแดงขายเป็นหมื่นครับ เอายากมาก เสี่ยงตายสูงขนาดควาญยังทำไม่ได้ทุกคนเลยครับ ท่านก็เอามาทำสีผึ้ง หรือนวดนี่แหละครับ ท่านจะไม่ให้พร่ำเพรือนะครับ ท่านจะให้ผัวเมียแยกกันให้กลับมารักกัน ยกตัวอย่าง ช้าวบ้านโคกกุง จำชื่อไม่ได้ติดกับบ้านโสกนี่แหละครับ เมียทิ้ง ได้สีผึ้งไป เมียกลับมาครับ ขนาดเมียทิ้งนะครับ วัยรุ่นไปขอท่านไม่ให้ครับ กลัวไปใช้ในทางไม่ดี ท่านไม่ส่งเสริม ตัวผมเอง ยังหาไม่ได้เลยครับ มีวาสนาเพียงขุนแผนกั่วเผาะรุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ เนื้อขาว จำคร่าวๆว่า คุณชินพรสร้างมีผงพรายหลวงปู่ทิมผสมด้วยครับเป็นรุ่นแรกที่สร้างหลังหลวงปู่ทิมมรณะครับ ก่อนจะไปสร้างถวายหลวงปู่ธรรมรังษี ที่ดังและราคาแรงมากๆ ก็เสือรุ่นแรกครับ ขนาดผสมแค่ 3 ช้อนชานะครับ (ที่อุดเสือรุ่นปี 39) และขุนแผนรุ่นแรกหลวงพ่อชูใช้ดีนะครับ ไม่เฉพาะแต่จีบสาว ผมจะใช้ด้านเมตตามากกว่าครับ อธิฐานเอาครับ ส่วนใหญ่ใช้เรื่องเจรจาตกลงได้ผลดีมากครับ กับตัวเองนะครับ ยังมีอีกครับ เรื่อง คงกระพันท่านไม่ด้อยไปกว่าอาจารย์องค์อื่นเลยนะครับ อย่ามองข้ามเหรียญรุ่นแรกท่านนะครับ ปี 28 ท่านเสก หนึ่งไตรมาส เฉพาะเนื้อทองแดงเนื้อเดียว 7พันกว่าเหรียญ บล็อกก็แตก ท่านชินพรสร้างถวายครับ ทหารที่มาหาท่านมาลองของท่านท่านก็เมตตาไม่โกรธ ชอบลองท่านก็ให้ลอง ท่านตั้งห่อพระที่ท่านเสก หลังศาลาวัดในปัจจุบัน คุณรวย อยู่ในเหตุการณ์ และอีกหลายๆท่านที่ไม่ได้กล่าวถึง ทหารนำปืน เอ็ม 16 บรรจุกระสุน 3 นัด ยิง 2นัดแรกด้านครับ เสียงไกสับดัง แชะ แชะ นัดที่ 3 ปัง ไม่ถูกครับระยะแค่ 5 เมตร ยิงโดยมืออาชีพ แล้วเอากระสุนที่เหลืออีก 2 นัด มายิงขึ้นฟ้า โป้ง โป้ง แตกหมดครับ ที่คุณชินสร้างถวายหลวงพ่อชู ก็ไดนำปัจจัยมาให้ท่านประมาณหลักแสน ท่านก็เอามาสร้างศาลาปัจจุบันที่มอง เข้าไปเห็นทันที ชาวบ้านเสียดายที่ท่านมาด่วนมรณภาพก่อน ท่านอาพาธและเสียชีวิต เร็วมาก หากท่านยังอยู่วัดวาอารามอาจเจริญสรุ่งเรือง มากกว่านี้ ท่านเป็นพระที่เก่ง เก่งทั้งเมตตามหานิยม เก่งทั้งแคล้วคลาด มหาอุตม์ แต่เหรียญท่านเป็นพระดีที่โลกลืม กระผมไม่ลืมหรอกครับ ลุงมาตอนนี้แกเลียงช้างอยู่ห้อยติดคออยู่เหรียญเดียว คิดจะไปหาเก็บที่แหล่งกำเนิดอาจหาไม่ง่ายแล้วครับ เพราะชาวบ้านไม่ค่อยมีเก็บมีอยู่ไม่กี่คน ใครหาขุนแผนหลวงปู่ทิมมาใช้ไม่ได้เพราะราคาเกินเอื้อม ก็หาหลวงพ่อชู แทนกันได้ครับ เหมือนมีสองอาจาย์มาช่วยครับ เจรจาตกลงเป็นที่หนึ่งไม่รองใครครับ ขนาดคนชังกันยังหันมาคุยด้วยเลยครับ xxxxx ขอบคุณข้อมูลจาก ลำพูลพระ xxxxx
รูปหล่อพระพิฆเนศวร์ เนื้อชินตะกั่ว ผิวเดิมๆ พุทธศิลป์สวยงาม (ฑ34) รบกวนผู้ชนะการประมูล เมื่อโอนเงินแล้ว กรุณาโทรแจ้ง หรือ เมล์แจ้งทางกล่องข้อความ พร้อมระบุยอดเงินและรายการพระเครื่องที่ท่านประมูลได้ และกรุณาระบุที่อยู่จัดส่งด้วยครับ เพราะว่ายอดเงินของท่าน อาจจะตรงกับรายการปิดประมูลของท่านอื่น ทำให้ไม่สามารถจัดส่งได้ ส่วนหมายเลข EMS และหมายเลขทะเบียน จะแจ้งให้ท่านทราบใน FEEDBACK ครับ ขอบพระคุณมากๆครับ
รับประกันความแท้ครับ ไม่พอใจยินดีรับคืน ส่วนตัวคิดว่าเป็นสายวัดระฆ้งครับ
@@@ (วัดใจ)นางพญา วัดนางพญา พิมพ์เล็ก หลังยันต์ดวง ปี 2514 อ.ถนอมสร้าง จ.พิษณุโลก @@@ เนื้อแกร่งเป็นหิน เนื้อดำมีน้อย เก่าเก็บไม่ผ่านการใช้ คม ชัด ลึก สวยจริง ๆ "รับประกันแท้ตลอดไป รับประกันความพอใจตามกติกา"