SHITOS12

ข้อมูลสมาชิก – SHITOS12

เริ่มเป็นสมาชิก: April 25, 2014 11:56:02 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 0 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 1281 รายการ , คำติ: 0 รายการ

ประวัติ Feedback


ผิวเดิมแห้งหิ้ง100% พระไม่ผ่านการใช้ เส้นสายสวยคมกริ๊บ ชอบผิวเดิมหิ้งๆเชิญครับ แบ่งจริง ราคาตามศรัทธา ที่อื่นแพงๆกันนะครับ  ผิวหิ้งๆ แห้งๆ เดิมๆ สุดหายาก + พร้อมเลี่ยมพลาสติกกันน้ำใสๆ พร้อมบูชาได้ทันที สุดคุ้ม บล็อควงเดือน หายาก นานๆพบสักองค์ ใช้บูชาแทนเหรียญจอบใหญ่รุ่นปี2515 ที่ราคาแพงเป้นแสนได้เลยครับ งามคลาสสิค น้ำทองแห้งหิ้งเดิมๆแบบนี้ นานๆผ่านมาสักองค์


เขียนโดย :nungfino เจ้าของรายการ December 04, 2015 14:27:56


สภาพสวย  กริ่งดังดีไม่มีติด  รับประกันตามกฎ


เขียนโดย :jarungrux เจ้าของรายการ December 04, 2015 12:34:11


ประกันความพอใจ


เขียนโดย :ชัยวัฒน์ บัวแผ่น เจ้าของรายการ December 03, 2015 10:38:38

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระสมเด็จทั่วไป/5935576


พระสภาพสวย ยังไม่ผ่านการสัมผัสใช้เลยครับ คราบกรุคลุมบางๆ หลังลงเหล็กจาร พุทธคุณครอบจักรวาลครับ ส่งออกบัตรรับรองให้เรียบร้อยแล้วครับท่าน เพื่อความสบายใจทั้งผู้ซื้อและผู้ขายครับผม รับประกันตามกฏครับ


เขียนโดย :เทพอมร เจ้าของรายการ December 03, 2015 10:30:48


ปลุกเสก5พิธี ทดลองยิงไม่ดัง เปิดวัดใจ 10 บาท เหรียญบาตรน้ำมนต์หลวงพ่อเงินวัดบางคลานรุ่นพระพิจิตร 42-43 หลวงปู่หมุนเสก รุ่นประสบการณ์ ราคาแรงต่อเนื่องครับ  องค์นี้เนื้อทองแดงพระสวยคม รับประกันพระแท้ตลอดชีพ  วัตถุประสงค์ 1. เพื่อหารายได้สร้างสะพานข้ามแม่น้ำน่าน หน้าวัดดาน ต ไผ่ขวาง อ เมืองพิจิตร มูลค่าเจ็ดล้านบาท มีพระสุทัสสีมุนีวงศ์ วัดท่าหลวงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ฯพณฯ ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ประธานฝ่ายฆราวาส พระครูวิจักษ์กันตธรรม รองเจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร เป็นประธานดำเนินงาน 2. เพื่อก่อตั้งกองทุนส่งเสริมประเพณีทางน้ำ อันเป็นวิถีชีวิตอันดีงามที่ผูกพันอยู่กับธรรมชาติ/สายน้ำ และศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวพิจิตร 3. เป็นกองทุนสงเคราะห์ส่งศพผู้ยากไร้ มูลนิธิโรงเจจังหวัดพิจิตร พระพิจิตร สุดยอดวัตถุมงคลแห่งความเข้มขลัง...5 พิธีกรรมจัดสร้างอันศักดิ์สิทธิ์ พิธีที่ 1 พิธีพุทธาภิเษกหลอมชนวนศักดิ์สิทธิ์ 95 แห่งและโลหะธาตุกายสิทธิ์เพื่อผสมเนื้อนวโลหะกลับดำนำไปรีดเป็นแผ่นเพื่อจารพระยันต์บังคับ ณ วัดท่าหลวง (พระอารามหลวง) จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2542 มีพระวิสุทธาธิบดี (วีระ) เป็นประธานในพิธีพร้อมพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง 13 รูป 1. พระวิสุทธาธิบดี วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ 2. พระวิมลมุนี วัดชัยมงคล พิจิตร 3. พระสุทัศสีมุนีวงศ์ วัดท่าหลวง พิจิตร 4. หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม 5. หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม นครปฐม 6. หลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส อุทัยธานี 7. ครูบาทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง เชียงใหม่ 8. หลวงพ่อพยนต์ วัดเอี่ยมสำองค์ เพชรบูรณ์ 9. หลวงพ่อไพรินทร์ วัดพระพุทธชินราช พิษณุโลก 10. หลวงพ่อป่วน วัดบรรหารแจ่มใส สุพรรณบุรี 11. หลวงพ่อขาว วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา 12. พระอาจารย์อิฎฐ์ วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม 13. พระครูวิจักษณ์กันตธรรม(ออด) วัดดาน พิจิตร พิธีที่ 2 พิธีบวงสรวง-จารลบถมแผ่นยันต์ 108 นะปถมัง 14 ยันต์หลวงพ่อเงิน บางคลาน ยันต์คู่ชีวิตหลวงพ่อพิธ (วัดฆะมัง) เจ้าของตะกรุดคู่ชีวิตอันลือชื่อ ยันต์หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ เจ้าของเหรียญหางแมงป่องอันลือลั่น ลงในแผ่นนวโลหะเพื่อความสมบูรณ์เข้มขลังแต่เนื้อในองค์วัตถุมงคล รุ่นพระพิจิตร และพิธีซัดเม็ดกริ่ง ณ วัดบางคลาน(วัดหลวงพ่อเงิน) วันที่ 9 กันยายน 2542 เวลา 14:29 น. พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ 9 รูป ร่วมประกอบพิธี จาร-ลบถมพระยันต์อันทรงคุณวิเศษลงในเนื้อ นวะโลหะ หนัก 69 ก.ก. ชนวนศักดิ์สิทธิ์ รุ่น พระพิจิตร วันที่ 9 กันยายน 2542 ณ วัดบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร 1.พระอาจารย์อิฎฐ์ วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม พระอาจารย์ชาญณรงค์ วัดเลา จารยันต์ 108 นะปถมัง 14 ยันต์สุกิตติมา โสฬสมงคล จตุโรบังเกิดทรัพย์ มหาราช มหาจักรพรรตราธิราช ฯลฯ 2.หลวงพ่อทาน วัดฆะมัง พิจิตร จารยันต์คุ่ชีวิต หลวงพ่อพิธ(ตาไฟ) 3.หลวงพ่อไพรินทร์ วัดพระพุทธชินราช พิษณุโลก จารยันต์ตำรับหลวงพ่อเงิน บางคลาน 4.หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว นครสวรรค์ จารยันต์หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว ,หลวงพ่อเดิม 5.หลวงพ่อออด รก.วัดท่าฬ่อ พิจิตร จารยันต์ หลวงปุ่ภู วัดท่าฬ่อ เจ้าของเหรียญหางแมงป่อง 6.หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม,หลวงพ่อพูน วัดไผ่ล้อม,หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ ราชบุรี 7.หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง สระบุรี,หลวงปู่ตี๋ อุทัยธานี นั่งบริกรรมปลุกเสก หนุนธาตุขณะพิธี นำแผ่นนวะโลหะอีกส่วนหนึ่งไปถวายพระเถราจารย์ผู้ชำนาญในมหายันต์สำนักพุทธาคมอันลือชื่อของเมืองไทยในอดีต จาร ปลุกเสกตลอดไตรมาส 1.หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม อยุธยา (สายหลวงพ่อกลั่น) 2.หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม (สายหลวงปู่บุญ,หลวงปู่เพิ่ม) 3.หลวงพ่อ เขียว วัดระเว โคราช (สายหลวงพ่อหมา,หลวงพ่อใหญ่) 4.พระครูกาชาด วัดดอนศาลา พัทลุง (สายเขาอ้อ) 5.พระมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ ชัยนาท (สายหลวงปู่ศุข ปากคลองมะขามเฒ่า) 6.หลวงพ่อสาคร วัดหนองกลับ ระยอง (สายหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่) 7.หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง อยุธยา (สายหลวงพ่อปาน บางนมโค) 8.พระพิศาลวิหารกิจ (ประจวบ) วัดระฆังโฆษิตาราม กทม. (ชินบัญชร สมเด็จโต) พิธีที่ 3 พิธีพุทธาภิเษกเททอง วัตถุมงคล รุ่นพระพิจิตร (เพ็ญเดือน12) ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช (แพ) นิยมเททองหล่อพระกริ่ง ตรงกับวันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2542 ณ พระอุโบสถหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง จ.พิจิตร ระหว่างเวลา 04:59 -10:39 น. โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศนั่งบริกรรมปลุกเสก จำนวน 21 รูป ประกอบพิธีเททองแบบโบราณ (ดินไทย)ให้แล้วเสร็จภายในฤกษ์ รายนามเกจิอาจารย์นั่งปรกพิธีพุทธาภิเษกเททอง รุ่น พระพิจิตร 22 พฤศจิกายน 2442 1. หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี จ.สุรินทร์ 2. หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม 3. หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม 4. หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม นครปฐม 5. หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ ราชบุรี 6. หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง สระบุรี 7. หลวงปู่ตี๋ วัดหลวง อุทัยธานี 8. หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ นครสวรรค์ 9. หลวงพ่อธงชัย วัดไตรมิตร กทม 10. พระอาจารย์อิฎฐ์ วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม 11. หลวงพ่อโถม วัดธรรมปัญญาราม สุโขทัย 12. หลวงพ่อบุญมี วัดท่าหลวง พิจิตร 13. หลวงพ่อทาน วัดฆะมัง พิจิตร 14. หลวงพ่อออด วัดดาน พิจิตร 15. หลวงพ่อสิริ วัดตาล นนทบุรี 16. หลวงพ่อขาว วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา 17. หลวงพ่อป่วน วัดบรรหารแจ่มใส สุพรรณบุรี 18. หลวงพ่อแขก วัดสุนทรประดิษฐ์ พิษณุโลก 19. หลวงพ่อเขียว วัดระเว โคราช 20. พระอาจารย์ชาญณรงค์ วัดเลา 21. หลวงพ่อไพรินทร์ วัดพระพุทธชินราช พิษณุโลก พิธีที่ 4 พิธีพุทธาภิเษก สมโภช มงคลวัตถุ รุ่นพระพิจิตร ครั้งที่ 1 ณ อุโบสถ วัดบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร โดย พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณจาก 4 ภาคของประเทศไทย จำนวน 32 รูป (เท่าอาการ 32) ในวันที่ 30 มกราคม 2443 พิธีที่ 5 พิธีพุทธาภิเษก สมโภชมงคลวัตถุ รุ่นพระพิจิตร ครั้งที่ 2 ณ อุโบสถหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง จ.พิจิตร โดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศ จำนวน 108 รูป(ตลอดคืน) พร้อมเบิกแว่นเทียนสมโภช ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2443 ก่อนส่งมอบมงคลวัตถุให้กับผู้ร่วมบริจาค ชนวน-มวลสาร-โลหะธาตุ-แผ่นยันต์ จัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น พระพิจิตร 1. ชนวนพระเครื่องเก่าเมืองพิจิตร เหรียญจอบเล็ก หลวงพ่อเงินบางคลาน 1 องค์ หลวงพ่อเพชร มือแป 2 องค์ รูปหล่อหลวงพ่อเขียน (หน้าลิง) 4 องค์ รูปหล่อหลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า รุ่น 1 และ 2 จำนวน 2 องค์ หลวงพ่อเพชร หลังอุ รุ่น 2 (หลวงพ่อทวีสร้าง) 1 องค์ เหรียญหลวงพ่อยิ้ม วัดท่าหลวง 3 เหรียญ พระพิจิตร เม็ดข้าวเม้า (เกศคด) ชำรุด 1 องค์ รูปหล่อหลวงพ่อเขียนสำนักขุนเณรเนื้อเงิน ปี 2502 1 องค์ 2. ชนวนเหรียญหางแมงป่อง เหรียญใบมะยม เหรียญ ร5 หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ 8 เหรียญ 3. ชนวนตะกรุดคู่ชีวิต หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง 1 ดอก ตะกรุดหลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง 2 ดอก 4. ชนวนตะกรุดหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ 2 ดอก จ.นครสวรรค์ ตะกรุดหลวงพ่อฮวบ วัดหาดงิ้ว จ.อุตรดิตถ์ 1 ดอก ตะกรุดหลวงพ่อไซ้ร วัดช่องลม จ.อุตรดิตถ์ 1 ดอก 5. ชนวนรูปหล่อหัวไม้ขีด 5 องค์ ตะกรุดหลวงพ่อทบ วัดชนแดน จ.เพชรบูรณ์ 7 ดอก 6. ชนวนรูปปั้นลอยองค์ จอบใหญ่ จอบเล็ก เนื้อทองคำ หลวงพ่อเงิน บางคลาน (พิธีเพิร์ธ) 1ชุด 3 องค์ หนัก 65 กรัม 7. ชนวนเหรียญจอบเล็ก จอบใหญ่ ขวัญถุงหลวงพ่อเงิน เหรียญหลวงพ่อเงิน-กรมหลวงชุมพร ปี 15 จำนวน 7 เหรียญ 8. ชนวนพระกริ่งนเรศวรพระองค์ดำ 100 ปี พิษณุโลกพิทยาคม 2542 หนัก 5 กิโลกรัม 9. ชนวนพระพุทธชินราชอินโดจีนมหาจักรพรรดิ 115 ปี พิษณุโลกพิทยาคม 10. ชนวนพระชัยวัฒน์พระองค์ดำสุดฤกษ์ 100 ปี พิษณุโลกพิทยาคม 11. ชนวนพระชัยบูชานเรศวรพระองค์ดำ (เนื้อนวะโลหะ) ขนาด 3.2 ซ.ม. 12. ชนวนพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ สุตาธีรการี (หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์) 13. ชนวนพระกริ่งอโยธยา หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา 14. ชนวนพระกริ่งนเรศวร (พล.ต.ต.ยรรยง สท้านไตรภพ) 2507 15. ชนวนพระกริ่ง นเรศวรวังจันทน์ 2515 จ.พิษณุโลก 16. ชนวนพระกริ่ง นเรศวรเผด็จศึก 2522 จ.พิษณุโลก 17. ชนวนพระกริ่งหลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ จ.นครศรีธรรมราช 18. ชนวนพระกริ่ง 84 หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี 19. ชนวนวัตถุมงคล อนุสรณ์ 100 ปี วัดพิกุลทอง เนื้อเงิน , เนี้อนวะโลหะ 20. ชนวนกริ่ง อตฺต รกฺโข หลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม 2542 21. ชนวนพระกริ่งเวฬุวัน พระอาจารย์อิฎฐ์ วัดจุฬามณี จ.วมุทรสงคราม 2542 22. ชนวนพระกริ่งทองคำ 99 หลวงปู่ทองคำ วัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์ 23. ชนวนรูปเหมือนปั๊มเนื้อนวะ หลวงพ่อเงิน บางคลาน พิธีเพิร์ธ 2537 24. ชนวนพระกริ่งมงคลสวัสดิ์ หลวงพ่อสวัสดิ์ สำนักเม้าสุขา จ.ชลบุรี 25. ชนวนพระกริ่ง วัดเลา พระอาจารย์ ชาญณรงค์ กรุงเทพฯ 26. ชนวนพระกริ่งญาณวิทยาคม หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา 27. ชนวนพระกริ่ง 84 หลวงปู่ตี๋ (แผ่นยันต์ไม่ละลาย) วัดหลวงราชาวาส จ.อุทัยธานี 28. ชนวนพระกริ่งติสสเทโว หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ จ.อยุธยา 29. ชนวนเหรียญกษาปณ์เพิร์ธ หลวงพ่อเงิน บางคลาน เนื้อเงิน,เนื้อทองแดง 30. ชนวนพระกริ่ง อ.พ.ต. พระศรีสัจญาณมุนี (ประหยัด) วัดสุทัศน์ 2516 ฯลฯ ทดลองยิงแล้วแชะ หลังจากพระเกจิปลุกเสกผ่านได้ 2 ชุด ทางคณะกรรมการวัดได้หยิบพระหลวงพ่อเงิน ทุกเนื้อ และทุกพิมพ์ อย่างละ 2-3 องค์ ที่จัดสร้างในคราวนั้น นำมาห่อด้วยผ้าขาว แล้วนำมาวางบนที่ตั้งระหว่างต้นพิกุล กับเสาไฟฟ้า หน้าวัดท่าหลวง เพื่อทดลองยิง โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรในขณะนั้น นายประสาท พงษ์ศิวาภัย เป็นประธานร่วมกับ พล.ต.ต เกริก กัลยาณมิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธร และผู้ร่วมรายการกว่าร้อยคนเฝ้าดู โดยใช้ปืนพกของ ดาบตำรวจ สมิง ปราบสมรชัย และกำนัน บุญมี แก้วกำพล ตำบลไผ่ขวาง เป็นคนยิงโดยยกปืนยิงขึ้นฟ้า นัดแรกดังปัง ต่อมาบรรจุกระสุนใหม่แล้วยกปืนเล็งที่ห่อพระ ปรากฏว่ากระสุนด้าน เสียงสับไกดังแชะ กรรมการได้นำลูกปืนออกจากกระบอกปืนให้ทุกคนดู ที่ก้นลูกปืนมีรอยสับไก 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็นำลูกปืนลูกเดิม ใส่เข้าไปในกระบอกปืนใหม่ แล้วยิงขึ้นฟ้าเสียงดังปัง กรรมการนำลูกปืนให้คนร้อยกว่าคนดู มีรอยสับไก 2 ครั้ง น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก


เขียนโดย :pittavas เจ้าของรายการ December 01, 2015 09:06:21

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อชิน/5952894


พระกรุวัดหนองกระทุ่ม ตำบลหนองนางนวล อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี พระกรุนี้ สร้างโดยหลวงพ่อเดช พระอาจารย์ยุคเก่าผู้เรืองวิทยาคมอีกรูปหนึ่ง ท่านได้สร้างพระเนื้อตะกั่วไว้หลายพิมพ์ด้วยกันแล้วบรรจุกรุ เป็นพระเครื่องที่องค์ไม่โตอะไรมากนักขนาดกะทัดรัดน่าห้อยคออย่างมาก ความเป็นมาของหลวงพ่อเดชนั้นไม่มีใครทราบรายละเอียดว่าท่านเป็นคนที่ไหน เท่าที่ชาวบ้านเล่าลือสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ว่าท่านเป็นพระที่มีความรอบรู้ทางไสยศาสตร์ ทางด้านปริยัติธรรม ทางด้านรักษาโรคต่างๆ ทางทำน้ำมนต์เก่งอย่างมาก ท่านต้องเป็นพระที่เก่งอย่างมากไม่อย่างนั้นแล้วการก่อสร้างเสนาสนะใดๆก็ดีจะไม่สำเร็จเอาอย่างง่ายๆ พระรูปนั้นต้องเก่งและมีคนให้ความเคารพนับถือ ชาวบ้านถึงได้มีความร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือก่อสร้าง ความเป็นมาของวัดหนองกระทุ่ม วัดนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลนางนวล อำเภอหนองฉาง อยู่ที่ฝั่งซ้ายของถนนสายอุทัยธานี บ้านไร่ เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง สร้างมาแต่สมัยใดนั้นไม่ปรากฏหลักฐาน ประมาณว่าร่วมสามชั่วอายุคนแล้วก็ 150 ปีขึ้นไป บริเวณวัดหนองกระทุ่มนั้น ตอนนั้นห่างไกลความเจริญและกันดารอย่างมาก บ้านเรือนผู้คนมีไม่กี่สิบหลังคาเรือน วัดนี้ก็รกร้างไปบ้างบางคราว พระสงฆ์ที่มาปกครองดูแลทนความอดอยากยากแค้นไม่ไหวก็ต้องเดินทางไปอยู่วัดอื่น จนมาถึงสมัยพระอาจารย์เดชผู้มีความแก่กล้าทางด้านวิชาอาคมขลัง ท่านได้ก่อสร้างโบสถ์ขึ้นเป็นครั้งแรกด้วยไม้สัก สมัยนั้นหาไม้ง่ายในจังหวัดนี้หลังคามุงด้วยแฝก และกระเบื้องดินเผา ด้วยกาลเวลาที่เนิ่นนาน สิ่งก่อสร้างได้ชำรุดทรุดโทรมลงอย่างมาก เจ้าอาวาสสมัยนั้นท่านมาจากนครสวรรค์ได้ทำการบูรณะใหม่ก่อสร้างศาลาการเปรียญและโบสถ์ขึ้นใหม่ เมื่อทำการปรับพื้นดินขุดบริเวณโบสถ์จึงได้พบพระเครื่องเนื้อตะกั่วขึ้นในปี พ.ศ.2470 สมัยนั้นได้ให้ชาวบ้านบูชาองค์ละ 1 สตางค์ พระเครื่องที่พบในครั้งนั้นเอาขึ้นมาแล้วก็เอาบรรจุไว้ในกรุอีกส่วนหนึ่ง พ.ศ.2519 โบสถ์ที่สร้างขึ้นก็ชำรุดทรุดโทรมลงอีก ท่านเจ้าอาวาสและชาวบ้านก็ร่วมใจกันรื้อและสร้างขึ้นมาใหม่ ท่านทำพื้นโบสถ์ให้สูงขึ้น เพราะพื้นเดิมนั้นน้ำจะท่วมได้ในฤดูน้ำและพอฝนตกลงมามากๆ ท่วมขังทำให้พื้นโบสถ์ทรุดตัวลงมาอีก การปรับพื้นครั้งนี้ได้พบพระเครื่องตรงหน้าพระประธานคะเนแล้วคงจะตรงที่พระอุปัชฌาย์ท่านนั่งพอดี พบพระเครื่องบรรจุในโอ่งดินเผาขนาดใหญ่จากหลักฐานอักษรที่จารึกในโอ่งดินระบุว่า ร.ศ.109 (พ.ศ.2433) การพบพระเครื่องครั้งที่สองนี้ ทางกรมศิลปากรได้เดินทางไปพิสูจน์ให้ข้อพิจารณาว่า พระกรุนี้มีอายุราวประมาณ 100 ปี เมื่อเทียบเคียงกับหลักฐานที่จารึกในโอ่งดินบรรจุพระว่า ร.ศ. 109 พ.ศ. 2433 มาถึงขณะนี้ก็เป็นเวลาร้อยกว่าปีแล้ว พระเครื่องที่พบนั้นส่วนมากจะดูคล้ายๆ พระกรุ จ.พิจิตร เพราะมีขนาดเล็กกระทัดรัด มีจำนวนมากกว่า 16 พิมพ์ บางพิมพ์มีขนาดโตหน่อยและมีความคมชัดเจนสวยงามผู้คนนิยม จะหายาก เนื้อเป็นเนื้อตะกั่ว มีทั้งที่ตัดขอบและไม่ตัดขอบ การบรรจุกรุในโอ่งดินเผาปิดผนึกแน่นหนา ทำให้น้ำดินเข้าไปไม่ได้ สนิมจึงไม่จัด มีแต่คราบนวลของกรุและอันเกิดจากคราบสนิมที่ทำปฏิกิริยากับเนื้อตะกั่ว พระกรุนี้เป็นพระเก่าแท้แน่นอนจากบรรดาเซียนและกรมศิลปากรยืนยัน


เขียนโดย :งูงูปลาปลา เจ้าของรายการ December 01, 2015 04:51:21

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อชิน/5933825


สวยคับมาพร้อมบัตร จับวัดใจ ราคาคุณกำหนด รับประกันตามกฏคับ - ผู้ชนะโอนเงิน หรือ เปลี่ยนที่อยู่แจ้ง MailBox ด้วยคับ -


เขียนโดย :twopiece เจ้าของรายการ November 23, 2015 09:37:39

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/หลวงพ่อทวด-วัดอื่นๆ/5854267


พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน วัดโพธิ์ท่าเตียน (วัดพระเชตุพนฯ) ปี 2502 สร้างพิมพ์ใกล้เคียงกันกับพิมพ์ หลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ ปีพ.ศ. 2497 อายุการสร้างใกล้เคียงกับปีพ.ศ. 2497 มากที่สุด โดยปกติพระเครื่องหลวงปู่ทวดในยุคต้นๆ ในแต่ละวัด มักจะสร้างจากพระคุณเจ้าที่เคยรับนิมนต์เข้าร่วมปลุกเสกพระเครื่องหลวงปู่ ทวดในปี 2497 วัดช้างไห้ ปัตตานี เช่น อาจารย์นอง วัดทรายขาว พ่อท่านฉิ้น วัดเมือง ยะลา ในส่วนที่เป็นสหธรรมมิกหรือเพื่อนกันกับ พระอาจารย์ทิม ธัมมธโร (พระครูวิสัยโสภณ ทิม) วัดช้างให้ คือท่านพระอาจารย์สงัด วัดโพธิ์ท่าเตียน ท่านได้สร้าง พระหลวงปู่ทวดวัดโพธิ์ ในปลายปี 2502 ออกให้เช่าบูชาและร่วมทำบุญในต้นปี 2503 จำนวน 84,000 องค์ ซึ่งห่างจากปี 2497 เป็นเวลาแค่ 6 ปี มาปัจจุบันตอนนี้ก็มีอายุการสร้าง 50 กว่า ปีแล้ว มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้าง ว่านรุ่น 108 แบบเดียวกันกับที่ใช้สร้างพระหลวงปู่ทวด รุ่น 2497 ที่วัดช้างไห้ปัตตานี ดินกากยายักษ์ ผสมด้วยใบลานที่ใช้จารึกตำราพิชัยสงคราม เนื้อเก่าบางส่วนของพระหลวงปู่ทวดรุ่น2497ที่ได้จากอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ จากปัตตานีมาถวายให้ •ในการจัดสร้างนิมนต์ สมเด็จพระวันรัตปุ่น เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระอาจารย์ทิม ธัมมธโรจากวัดช้างไห้ ปัตตานี มาร่วมในพิธีปลุกเสก ร่วมกับคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น รวม 108 รูป เช่น • หลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง • หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม • หลวงพ่อสุด วัดกาหลง • หลวงพ่อทบ วัดชนแดน • หลวงพ่อเทียน วัดโบสถ์ • หลวงพ่อคง วัดสรรพรส • หลวงพ่ออั้นวัดพระญาติ • หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง • หลวงปู่ดู่ วัดสะแก • หลวงปู่สี วัดสะแก • หลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม • หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน • หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช • หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี • หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง • หลวงปู่นาค วัดระฆัง • หลวงพ่อเส็ง วัดกัลยาณมิตร • หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก • หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ • หลวงพ่อถิร วัดป่าเลยไลย์ • หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ • หลวงพ่อสุด วัดกาหลง • หลวงพ่อหวล วัดพิกุล • หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม • หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง • หลวงพ่อผล วัดหนัง บางขุนเทียน • หลวงพ่อเทียน วัดโบสถ์ • หลวงพ่อหน่าย วัดบ้างแจ้ง • หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม • หลวงพ่ออุตตมะ กาญจนบุรี • หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง •• พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน วัดโพธิ์ ปี 2502 นี้ พบที่กรุ บริเวณวิหารกรมหลวงชุมพร ภายในวัดโพธิ์ ประมาณ ปี 2536 ซึ่งทางวัดได้มีการบูรณะหลังคาโบสถ์ และช่างที่ทำการซ่อมแซมได้พบพระที่เก็บไว้ใต้หลังคาโบสถ์ จึงได้มีการลักรอบนำออกมาบางส่วน และส่วนใหญ่ทางวัดได้เก็บไว้ที่เดิมและนำมาให้ประชาชน ญาติโยมได้เช่าบูชาและร่วมทำบุญ อย่างเป็นทางการใน ปี 2540 ราคาออกวัดพร้อมกล่องในปีนั้น (14 ปีที่แล้ว) องค์ละ 1009 บาท พุทธคุณดีเทียบเท่าพระหลวงปู่ทวดปีพ.ศ. 2497 ทุกประการ ปัจจุบันหายากแล้ว • พระหลวงปู่ทวด ปี 2497 คงไม่มีความสามารถไปหากันได้ในราคาถูกๆ แน่เช่าบูชารุ่นนี้ข้อมูลชัดเจน มีประกวดแทบทุกงาน พุทธคุณไม่แพ้กันแน่ นอก จากพิธีการปลุกเสกที่ดีแล้ว เมื่อทำการบรรจุไว้ใต้หลังคาโบสถ์ ลองคิดดูว่าพุทธคุณจะมากมายขนาดไหน ในช่วงที่บรรจุไว้ที่โบสถ์ประมาณ 30 กว่าปี ได้มีการทำพิธีสวดยัด และอื่นๆอีกกี่ครั้งเข้าไป


เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ November 21, 2015 11:25:03


รับประกันตามกฎครับผม สำหรับท่านที่จะส่งออกบัตรผมขอผ่านนะครับเนื่องจากทางเวปมาสเตอร์ ยังไม่รับออกบัตร เครื่องรางนะครับ แต่ผแต่ผมรับประกันแท้ตามกฎครับผม


เขียนโดย :ทานตะวัน เจ้าของรายการ November 21, 2015 07:50:04

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อชิน/5850816


ท้าวเวสสุวัณ เทพเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติ จ้าวแห่งยักษ์หมั่นบูชา ทำให้ทรัพย์เพิ่มพูนทวี คาถาบูชา ตั้งนะโม ๓ จบ ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ อิ ติปิโส ภะคะวา ยมราชาโน ท้าวเวสสุวัณโน มรณังสุขัง อหังสุคโต นโมพุทธายะ ท้าวเวสสุวัณโน จตุมหาราชิกา ยักขพันตาภัทภูริโต เวสสะพุสะ พุทธังอรหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวัณโน นโมพุทธายะ ภาวนาพระคาถานี้ ๙จบ แล้วตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากท่านท้าวเวสสุวัณ จะสำเร็จสมความมุ่งมั่นปรารถนา ปกป้อง คุ้มครองตัว เดินทางปลอดภัยปราศจากอุบัติเหตุภยันอันตรายทั้งปวง หากบูชาในช่วงระยะเวลา ๓ เดือนขึ้นไป จะสังเกตุได้อย่างดีว่ามักจะมีโชคมีลาภลอยมาอยู่เสมอบรรดาภูตผีทั้งหลายต่าง เกรงกลัวกันนัก หากต้องการสักการบูชาขอพร หรือปรารถนาสิ่งใดๆให้กระทำในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ โดยบูชาด้วย กุหลาบแดง ๙ ดอก จุดธูป ๙ดอกภาวนาคาถานี้ ๙ จบแล้วตั้งจิตอธิษฐานตามความปรารถนา จะประสพผลสำเร็จทุกประการ หรือ จะภาวนาคาถานี้เวลาเดินทางไปค้างแรมต่างถิ่น หากต้องการจะขับไล่คนถูกผีเข้าหรือบ้านเรือนที่มีความเฮี้ยน ความอาถรรพณ์ของวิญญาณแอบแฝงอยู่ หรือขับไล่คุณไสย์เสนียดจัญไรออกจากตัวให้อารธนารูปหล่อท้าวเวสสุวัณแช่ใน ขัน เพื่อทำน้ำมนต์ จุดธูป ๙ ดอก เทียน ๒ เล่ม และใช้เทียนอีก ๑ เล่มวางบนขอบขขันน้ำมนต์ ทำจิตให้เป็นสมาธิตั้งนโม ๓ จบบูชาพระรัตนไตร แล้วว่าพระคาถานี้ โอมท้าวเวสสุวัณผู้เป็นใหญ่ในหมู่อสูร ท้าวเธอจึงใช้ให้กูมากำหราบปราบหมู่มารไพรี ฝูงผีปีศาจ ราชทูต ผีภูติ ผีพรายอันร้ายกาจทุกแห่งหนสูจะทนทาน กูอยู่มิได้พวกสูจงเร่งพากันหนีไปให้พ้นกูจะปัดจะพ่นด้วย พระมนต์อันศักดา ท้าวกุเวรมหาราชประสิทธิไว้ให้กู เวสสุวัณโนมหาราช เวสสะวุธทัสสะ อัตถะมหายักขังเสนาสุขิตา ภวันตุเม โอมสวาหะ สวาหายฯ มนต์บทนี้ใช้ทำน้ำมนต์หากมีคนถูกผีเข้าหรือทำให้ถูกคุณไสย์มนต์ดำให้เขากิน น้ำมนต์นี้ พร้อมกับรดน้ำมนต์ไปและภาวนาคาถานี้พร้อมกันไปด้วย ผีที่เข้าสิงจะออกจากร่างคนนั้นพากันหนีไปสิ้น หากต้องการปัดเป่าเสนียดจัญไรออกจากตัวเองให้อาบน้ำมนต์นี้บริเวณกลางแจ้ง ก่อนเวลาตะวันตกดิน หรือจะภาวนามนต์ทั้งหลายนี้อาราธนารวมกันกับพระคาถาในตอนต้นก็ได้ ยิ่งทวีความศักดิ์สิทธิดีนักแล พระคาถาต่างๆนี้มีปรากฏในตำราคัมภีร์โบราณแท้ๆซึ่งเป็นลายมือ หลวงพ่อเนียม ครูบาอาจารย์ของหลวงปู่กาหลง โดยท่านมีศักดิ์เป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยมีเนื้อความอัญเชิญพระพุทธคุณ และอำนาจทิพย์แห่งท้าวเวสสุวัณมาสถิตในร่างกาย พร้อมอัญเชิญอำนาจแห่งเสนาบดียักษ์ของท้าวเวสสุวัณมาช่วยเสริมอำนาจพลัง ต่างๆเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ผู้บูชาดีนักแล โดยเหตุที่ท้าวเวสสุวัณเป็น “ เทพเจ้าแห่งทรัพย์ “เป็นผู้รักษาทรัพย์ในแผ่นดินเป็นท้าวโลกบาลประจำทิศเหนือของสวรรค์ชั้นจตุ มหาราชิกาเป็นเทพเจ้าแห่งยักษ์และภูตผีปีศาจและความมั่งคั่งไพบูลย์ทั้งหลาย มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น ไวศรวัณ เวสสุวัณ ธนบดี(เป็นใหญ่ในทรัพย์) ธเนศวร(เจ้าแห่งทรัพย์) อุจฉาวสุ(มั่งมีได้ดั่งใจ) ยักษราช(ขุนแห่งยักษ์) รัตนครรณ(พุงแก้ว)อีศะสขี(เพื่อนพระศิวะ)ฯลฯ ในคัมภีร์ไตรภูมิพระร่วง เรียกท้าวเวสสุวัณว่า “ท้าวไพศรพมหาราช” และได้พรรณนาถึงการแต่งองค์ไว้ว่า”ท้าวไพศรพมหาราชเป็นพระยาแก่ฝูงยักษ์แล เทพยดาทั้งหลายฝ่ายทิศอุดรเถิงกำแพงจักรวาลเบื้องอุดรทิศพระสุเมรุราชแล เครื่องประดับตัว แลบริวารทั้งหลายเทียรย่อมทองเนื้อสุกฝูงยักษ์ทั้งหลายนั้น บ้างถือค้อน ถือสากแลจามจุรีเทียรย่อมทองคำบ่มิรู้ขิร้อยล้านแลฝูงยักษ์นั้นมีหน้าอันพึง กลัวแลท้าวไพศรพจึงขึ้นม้าเหลืองตัว๑ดูงามดั่งทอง” จากคำพรรณนาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าท้าวเวสสุวัณหรือท้าไพศรพนั้นร่ำรวย มหาศาลมีทองคำมากมายไม่รู้กี่ร้อยล้าน ทั้งยังมีเครื่องประดับเป็นทองคำ บริวารก็ถือ ค้อนทอง สากทอง และทรงม้าสีทอง ฝ่ายพุทธศาสนามีปรากฏในคัมภีร์พระไตรปิฎกมหานิทานสูตร มหาวรรค ทีฆนิกาย กล่าวไว้ว่าดินแดนที่ประทับของท้าวเวสสุวัณชื่ออาลกมันทาราชธานีเป็นนคร เทพเจ้าที่งดงามรุ่งเรืองมากโดยท้าวเวสสุวัณเทวราชโลกบาลองค์นี้เป็นพระ อริยบุคคลชั้นโสดาบันและเมื่อพระมหาโมคคัลลานะเดินทางขึ้นมาเยี่ยมเยียนพระ อินทร์ท้าวสักกะเทวราช ณ มหาปราสาทไพชยนต์วิมาน ท้าวเวสสุวัณพระองค์นี้ก็ได้เสด็จเข้าร่วมให้การต้อนรับด้วยพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แห่งแคว้นมคธ หลังจากที่เสด็จสวรรคตเนื่องจากการทารุณกรรมของพระเจ้าอชาตศัตรูผู้เป็นราช โอรสที่เข้ายึดอำนาจก็ได้มาอุบัติในโลกสวรรค์เป็นพญายักษ์เสนาบดีตนหนึ่งของ ท้าวเวสสุวัณนั่นเอง ในอรรถาโลภปาลสูตรกล่าวว่าเมื่อถึงวันอุโบสถคือขึ้นหรือแรม ๘ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ องค์ จะลงมาตรวจโลกมนุษย์อยู่เสมอโดยจะถือแผ่นทองและดินสอมาด้วยและจะเที่ยวเดิน ดูไปทุกแห่งทั่วถิ่นฐานบ้านเมืองใหญ่น้อยทั้งหลายในโลกมนุษย์ถ้าใครทำบุญ ประพฤติธรรมทำความดีก็จะเขียนชื่อและการกระทำลงบนแผ่นทองคำแล้วนำแผ่นทองคำ ไปให้ปัญจสิขรเทวบุตรซึ่งจะนำไปให้พระมาตุลีอีกต่อหนึ่ง พระมาตุลีจึงเอาไปทูลถวายแด่พระอินทร์ถ้าบัญชีในแผ่นทองมีมากเทวดาทั้งหลาย ก็จะแซ่ซ้องสาธุการ ด้วยความยินดีที่มนุษย์จะได้ขึ้นสวรรค์มาก แต่หากมนุษย์ใดทำความชั่วก็จะจดชื่อส่งบัญชีให้พญายมราช เพื่อให้นายนิรยบาลทั้งหลายจะได้ทำกรรมกรณ์ให้ต้องตามโทษานุโทษเท่าสัตว์นรก เหล่านั้น ศิลาจารึกสมัยกรุงศรีอยุธยากล่าวว่า ท้าวเวสสุวัณมีปราสาทช้างเรืองอร่ามด้วยแสงแก้วอยู่เหนือยอดเขายุคนทร มียักษ์เฝ้าประตูวังและยักษ์เสนาบดีอยู่หลายตนมีร่างทิพย์ ม้าทิพย์ ราชรถทิพย์และบุษกทิพย์ มีศักดิ์เป็นใหญ่แก่ฝูงยักษ์ทั้งหลาย ๙ ตนมีบริวารที่เรียกว่า”ยักขรัฏฐิภะ”ซึ่งมีหน้าที่สืบข่าวและตรวจตรา เหตุการณ์ต่างๆรวม ๑๒ ตนและยังมียักษ์ที่สำคัญเป็นเสนาบดียักษ์อีก ๒๘ นายที่คอยรับใช้ท้าวเวสสุวัณอยู่ดังจะเห็นว่า ท้าวเวสสุวัณ มีกำเนิดจากหลายตำนาน แม้กระทั่งใน ลัทธิของจีนฝ่ายมหายานว่า ท้าวโลกบาลทิศอุดรมีชื่อว่า ”โตบุ๋น” เป็นขุนแห่งยักษ์มีพวกยักษ์บริวารมีกายสีดำ ถือดวงแก้วและงู ทางทิเบตมีกายสีทองคำถือธงและพังพอน ทางญี่ปุ่น ถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภนามว่า " พิสะมอน " ถือแก้วมณีทวนและธงตามที่ได้พรรณนามานั้นเป็นเพียงประวัติย่อๆของท้าว เวสสุวัณเพื่อชี้ให้เห็นว่าท่านมีความสำคัญมากเพียงใดโบราณาจารย์จึงได้จัด สร้างรูปไว้เคารพบูชามาตั้งกว่าพันปีมาแล้ว โดยสรุปแล้วท้าวเวสสุวัณ ถือเป็นเทพเจ้าที่สำคัญยิ่ง เป็นที่เคารพนับถือในหลายต่อหลายประเทศ ในไทยเราเองนั้นนับถือเทพเจ้าองค์นี้มาก ในฐานะผู้คุ้มครองในห้ปลอดภัยจากวิญญาณร้าย ดังเราจะเห็นได้ว่าครุบาอาจารย์มักทำผ้ายันต์ท้าวเวสสุวัณ เป็นผืนสีแดงไว้ติดตามประตู เพื่อป้องกันภูตีผีปีศาจ คติความเชื่อนี้ถือว่าเก่าแก่ และเป็นที่คุ้นตาที่สุด หรืออย่างพิธีสวดภาณยักษ์ ก็เช่น พระคาถาภาณยักษ์ หรือบท “วิปัสสิ” นี้เป็นพระคาถาทีท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ท่าน โดยมีท้าวเวสสุวัณเป็นหัวหน้า นำมามอบให้พระพุทธเจ้า เพราะเห็นว่าบริวารของตนนั้นมีมาก บางพวกก็มีนิสัยดี แต่บางพวกมีนิสัยพาลเกเร อาจทำร้ายแก่พระธุดงค์ที่อยู่ตามป่าช้า ตามเขา ตามป่าได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันจึงได้มอบพระคาถาภาณยักษ์ถวายแต่พระพุทธองค์ ปัจจุบันเราก็ยังสามารถพบเห็นการสวดภาณยักษ์ได้อยู่ และจะเห็นรูปท้าวเวสสุวัณเด่นเป็นสง่าเสมอ ในพิธีสวดภาณยักษ์นี้ เพราะท้าวเวสสุวัณเป็นผู้ที่มีสิทธิเฉียบขาดในการลงโทษภูตีผีปีศาจทั้งหลาย จึงเป็นที่ศรัทธาเชื่อมั่นว่า ท้าวเวสสุวรรณนี้เป็นเทพเจ้าที่มีคุณในการทำลายล้างสิ่งอัปมงคล ทั้งกันทั้งแก้เรื่องผีปีศาจ คุณไสยมนต์ดำทั้งหลายได้ ทั้งยังให้คุณเรื่องโภคทรัพย์อีกประการหนึ่งดังที่กล่าวมาแล้ว


เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ November 20, 2015 07:50:04

หน้าที่ :  72