องค์นี้ พิมพ์เล็ก จิ๋วน่ารัก เนื้อว่านออกโซนแดง หายากครับ ทุนสูง จัดเต็ม ...สร้างน้อย หายาก มาพร้อมกล่องเดิมๆจากวัดสพานสูง สวยมากๆน่าบูชาสุดๆ ราคาออกวัดแพงแล้วครับ ไม่ใช่คนปากเกร้ดไม่มีแน่นอน พระปิดตามหามงคล ด้านหลังตอกโค้ต ปู่เอี่ยม ลงในเนื้อว่าน น่าบูชามากๆ ส่องเห็นมวลสารกระจายเต็มองค์ มีผงว่าน 108 ชนิด ตะไบเหล็กน้ำพี้ ผงตะไบชนวนหล่อพระเก่า พระโบราณ ทั่วประเทศ ผงโสฬสมงคล ผงเก่า ผงสร้างพระ วัดสพานสูง รุ่นนี้ใช้แทนพระปิดตาหลักล้านได้เลยครับ บูชาเดี่ยวๆ เน้นโชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย ตามแบบฉบับพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง ถ้าไม่ได้ไปร่วมพิธี ไม่มีทางได้ครับ แบ่งกันไปเลย ครับ nungfino รับมากับมือจากวัดสพานสูงโดยตรง แบ่งให้ครับ เปิดประวัติศาสตร์ ครบรอบ 120 ปีละสังขาร หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสพานสูง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี คลองพระอุดม พิธีมหาพุทธภิเษก วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2559 เวลา 09.00 น. มีพระเกจิร่วมอธิษฐานจิต 10 รูป พระเกจิร่วมอธิษฐานจิต ณ โบสถ์วัดสพานสูง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 1.พระครูปราโมทย์สารคุณ (หลวงพ่ออ้อน) วัดบางตะไนย์ จ.ปทุมธานี 2.ครูบาบุญยัง วัดห้วยน้ำอุ่น จ.ลำพูน 3.ท่านเจ้าคุณพระมงคลสุธี (หลวงปู่แขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ 4.พระครูพิพัฒน์อโนมคุณ (นัส) วัดอ่าวใหญ่ จ.ตราด 5.พระครูสุภัทรกาญจนกิจ วัดเย็นสนิทธรรมาราม 6.พระครูวิสุทธิ์สมุทรคุณ (หลวงพ่ออนันต์) วัดบางพลีน้อย จ.สมุทรปราการ 7.หลวงปู่วาส สีลเตโช วัดสพานสูง จ.นนทบุรี 8.พระครูสุวรรณ โชติวุฒิ (หลวงปู่ตี๋) วัดหูช้าง จ.นนทบุรี 9.พระครูอนุกูลพิศาลกิจ (หลวงพ่อสำอาง) วัดบางพระ จ.นครปฐม 10.พระครูวิมลสมณวัตร (หลวงพ่อเพี้ยน) วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี
พระองค์ขนาดเล็ก รุ่นเก่า ปี2555 เข้าพิธีใหญ่มาไม่ตำ่กว่า 5 พิธี พร้อมกล่อง ตกค้างอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น ฝังตะกรุดทุกองค์ คัดสวย มีจำนวนจำกัด หายากครับ รุ่น นี้ถอดแบบจากพิมพ์โบราณ มวลสารว่าน 108 ชนิด ,แร่เหล็กน้ำพี้ ,ผงโสฬสมงคลสร้างพระปิดตา หลังจะตอกโค้ต "ปู่เอี่ยม" สร้างปี 2555 จำนวน 5,000 องค์(พุทธคุณครบทุกด้าน รุ่นนี้แขวนเดี่ยวๆได้สบายใจ แคล้วคลาด ปลอดภัย โชคลาภ) พระ รุ่นเก่า ไม่มีกล่อง รับจากมือพระอาจารย์แว่น วัดสะพานสูงโดยตรง พระตกค้างที่วัดจำนวนหนึ่ง หายากครับ แบ่งจริงๆ รุ่นนี้สุดยอดเข้าพิธีพุทธาภิเษกหลายวาระ ก้นฝังตะกรุดทองแดง จารมือ โดยพระอาจารย์แว่น วัดสะพานสูง ผู้สร้าง ซึ่งองค์นี้ผมรับจากมือท่านพระอาจารย์แว่น วัดสะพานสูงโดยตรง หายากมากครับ ก้นฝังตะกรุด ท่านอาจารย์แว่น วัดสะพานสูง จัดสร้างอย่างพิถีพิถันมาก สร้างน้อย เนื้อหามวลสารสุดยอด สุดยอด....พิมพ์ทรงดั้งเดิม คลาสสิค ตามแบบฉบับพระปิดตาวัดสะพานสูงโดยแท้ แบ่งพิเศษๆ ให้เลยครับ ที่อื่นแพงๆ ผมจัดให้ราคาตามศรัทธา แท้ มวลสารเยี่ยม พิธีดี หลวงปู่วาส อธิษฐานจิตวัตถุมงคลชุดนี้
พระองค์ขนาดเล็ก รุ่นเก่า ปี2555 เข้าพิธีใหญ่มาไม่ตำ่กว่า 5 พิธี พร้อมกล่อง ตกค้างอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น ฝังตะกรุดทุกองค์ คัดสวย มีจำนวนจำกัด หายากครับ รุ่น นี้ถอดแบบจากพิมพ์โบราณ มวลสารว่าน 108 ชนิด ,แร่เหล็กน้ำพี้ ,ผงโสฬสมงคลสร้างพระปิดตา หลังจะตอกโค้ต "ปู่เอี่ยม" สร้างปี 2555 จำนวน 5,000 องค์(พุทธคุณครบทุกด้าน รุ่นนี้แขวนเดี่ยวๆได้สบายใจ แคล้วคลาด ปลอดภัย โชคลาภ) พระ รุ่นเก่า ไม่มีกล่อง รับจากมือพระอาจารย์แว่น วัดสะพานสูงโดยตรง พระตกค้างที่วัดจำนวนหนึ่ง หายากครับ แบ่งจริงๆ รุ่นนี้สุดยอดเข้าพิธีพุทธาภิเษกหลายวาระ ก้นฝังตะกรุดทองแดง จารมือ โดยพระอาจารย์แว่น วัดสะพานสูง ผู้สร้าง ซึ่งองค์นี้ผมรับจากมือท่านพระอาจารย์แว่น วัดสะพานสูงโดยตรง หายากมากครับ ก้นฝังตะกรุด ท่านอาจารย์แว่น วัดสะพานสูง จัดสร้างอย่างพิถีพิถันมาก สร้างน้อย เนื้อหามวลสารสุดยอด สุดยอด....พิมพ์ทรงดั้งเดิม คลาสสิค ตามแบบฉบับพระปิดตาวัดสะพานสูงโดยแท้ แบ่งพิเศษๆ ให้เลยครับ ที่อื่นแพงๆ ผมจัดให้ราคาตามศรัทธา แท้ มวลสารเยี่ยม พิธีดี หลวงปู่วาส อธิษฐานจิตวัตถุมงคลชุดนี้
พระองค์ขนาดเล็ก รุ่นเก่า ปี2555 เข้าพิธีใหญ่มาไม่ตำ่กว่า 5 พิธี พร้อมกล่อง ตกค้างอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น ฝังตะกรุดทุกองค์ คัดสวย มีจำนวนจำกัด หายากครับ รุ่น นี้ถอดแบบจากพิมพ์โบราณ มวลสารว่าน 108 ชนิด ,แร่เหล็กน้ำพี้ ,ผงโสฬสมงคลสร้างพระปิดตา หลังจะตอกโค้ต "ปู่เอี่ยม" สร้างปี 2555 จำนวน 5,000 องค์(พุทธคุณครบทุกด้าน รุ่นนี้แขวนเดี่ยวๆได้สบายใจ แคล้วคลาด ปลอดภัย โชคลาภ) พระ รุ่นเก่า ไม่มีกล่อง รับจากมือพระอาจารย์แว่น วัดสะพานสูงโดยตรง พระตกค้างที่วัดจำนวนหนึ่ง หายากครับ แบ่งจริงๆ รุ่นนี้สุดยอดเข้าพิธีพุทธาภิเษกหลายวาระ ก้นฝังตะกรุดทองแดง จารมือ โดยพระอาจารย์แว่น วัดสะพานสูง ผู้สร้าง ซึ่งองค์นี้ผมรับจากมือท่านพระอาจารย์แว่น วัดสะพานสูงโดยตรง หายากมากครับ ก้นฝังตะกรุด ท่านอาจารย์แว่น วัดสะพานสูง จัดสร้างอย่างพิถีพิถันมาก สร้างน้อย เนื้อหามวลสารสุดยอด สุดยอด....พิมพ์ทรงดั้งเดิม คลาสสิค ตามแบบฉบับพระปิดตาวัดสะพานสูงโดยแท้ แบ่งพิเศษๆ ให้เลยครับ ที่อื่นแพงๆ ผมจัดให้ราคาตามศรัทธา แท้ มวลสารเยี่ยม พิธีดี หลวงปู่วาส อธิษฐานจิตวัตถุมงคลชุดนี้
หายากครับ พระอาจารย์แว่น วัดสพานสูงเมตตาเขียนยันต์โสฬสมงคล วัดสพานสูง ตรงตามตำรับหลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง ให้เพื่อไปสกรีนเป็นผ้ายันต์ผืนนี้เพื่อแจกจ่ายลูกศิษย์ไว้คุ้มครองตัวในช่วงดาวมฤตยูโคจรทับดวงเมืองไทย ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ให้เลี่ยมเป็นตะกรุดติดตัว หรือ ติดเสาบ้าน ติดรถ ร้านค้า จะป้องกันอันตรายต่างๆได้ด้วยพระพุทธคุณของพระยันต์โสฬสมงคล ผืนนี้ถ้าไม่ใช่ศิษย์ไม่มีแน่นอน และไม่ได้พบตามทั่วไปแน่นอน ผืนขนาด 6 x 8 นิ้ว สร้างประมาณ 500 ผืน สร้างปี2559 ผ้ายันต์โสฬสมงคล ปลุกเสก 108 จบ ถูกต้องตามตำรา หลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง แบบดั้งเดิม พุทธคุณของผ้ายันต์โสฬสมงคลนี้ ปลุกเสกที่วัดสพานสูง และ วัดสาลีโข จ.นนทบุรี ผ้ายันต์นี้้กันได้ทุกอย่าง เข้าพิธีทั้งที่วัดสาลีโข และพระอาจารย์แว่น วัดสพานสูง ท่านอธิษฐานจิตทุกวัน เป็นของดี พระอาจารย์แว่นบอกว่าให้เอาไปเลี่ยมเป็นตะกรุดก็ได้ หรือติดเสาบ้าน เพราะพระยันต์นี้ดีทุกทาง พระยันต์โสฬสเป็นยันต์ที่ติดที่เสาหลักเมืองประเทศไทยครับ ◎ พระคาถาโสฬสมงคล หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ◎ " โสฬะสะมังคะลัญเจวะ นะวะโลกุตตะระธัมมะตา จัตตาโรจะมหาทีปา ปัญจะพุทธามหามุนี ตรีปิฏะกะธัมมักขันธา ฉะกามาวะจะราตะถา ปัญจะทัสสะกะเวสัจจัง ทะสะมังสีละเมวะจะ เตรัสสะธุตังคาจะ ปาฎิหารัญจะทะวาทัสสะ เอกะเมรุจะ สุราอัฎฐะ ทะเวจันทังสุริยังสัคคา สัตตะโพชฌังคาเจวะ จุททัสสะจักกะวัตติจะ เอกาทะสะวิษณุราชา สัพเพเทวา สะมาคะตา มังรักขันตุ ปาละยันตุ สัพพะทาเอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เมฯ กล่าวให้ปรากฏ อุปเท่ห์โสฬส บันดาลชายหญิง ภาวนาทีหนึ่ง สองทีดีจริง สิบแปดทีดียิ่งมีผลานิงค์ ชักลูกประคำ ร้อยแปดเลิศล้ำ ให้ได้คาบทรงคงเกิดส่วนบุญ มีผลานิสงค์ พบแล้วอย่างง ไม่พบเร่งหา ผู้ใดไม่พบบุญน้อยถอดถด เสียชาติเกิดมา เป็นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนชีวิตเกิดมา เป็นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนได้ดวงแก้วแถม ทองผ่องแผ้ว กุศลชักนำ สิ่งใดปรารถนาภาวนาหัวค่ำ กุศลเลิศล้ำ ประมูลพูนมา อุบาทว์จัญไร กันทั้งโรคภัย ปรากฏคาถากลับจิตคิดเห็น ๆ อนัตตา มิอาจมาทำลายตัวเรา ภาวนาภัยหัวค่ำทีหนึ่งประจำ เที่ยงคืนและย่ำรุ่งเป็นสามทีเกิดสวัสดี มีลาภทุกประการอาหารการกินปรีเปรมเกษมสันต์ ภาวนา ๓-๗ เป็นสำเร็จการ ทุกค่ำสำราญกว่าคนทั้งหลาย อายุวัณโณ บรมสุขโขภัญโญทั้งปลาย ถ้าไฟไหม้มาให้เสกข้าวสาร สาดหว่านหลังคา ลมพาพัดหวลอย่าได้สงกา ฝนตกลงมาภาวนาป้องกัน ถ้าจะขายของเสกน้ำประพรม สินค้าสารพันระบือลือสั่น พากันเข้ามาค้าเรือ เหนือใต้ เขียนคาถาไว้ แผ่นกระดาษปรารถนาเสกด้วยตัวเองปิดหัวนาวา นำของสินค้าขายมีกำไร ถ้าเป็นความเสกน้ำล้างหน้าทาแป้งเสกเครื่องแต่งตน เสกหมากอย่านาน กินแล้วยาตรา กระทืบเท้าสามทีแปลกายบ่ายสู่คู่ความตามที่เป่าพ่นอย่าหนี พลุ่งพล่านต้องเวทย์มนต์ถาคาพลัน ให้ภาวนาเสกน้ำล้างหน้า กันทั้งคุณไสยอุบาทว์ จัญไร อัคคีโจรภัยตามความปรารถนา พระคาถาบทนี้ เป็นของหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งท่านได้ใช้บทนี้ ปลุกเสกสร้างพระปิดตา และ ตะกรดทำให้มีพุทธคุณมาก จนเป็นที่ต้องการของผู้คนทั้งหลายตราบเท่าทุกวันนี้ หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม ( อ่านว่า ปะถะมะนามะ หรือ ปถมนาม ) อดีตเจ้าอาวาสแห่งวัดสะพานสูง ท่านชาตะเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๙ ค่ำ เดือนยี่ ปีฉลู พ.ศ.๒๓๕๘ (ช่วงรัชกาลที่ ๒) เป็นเถราจารย์ผู้เรืองเวทย์ร่วมสมัยกับสมเด็จฯโต วัดระฆัง กรุงเทพฯ ,หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร, กรมพระยาปวเรศฯ วัดบวรนิเวศฯ กรุงเทพฯ,หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย จ.สมุทรปราการ และเจ้าคุณเฒ่า (เอี่ยม) วัดหนัง กรุงเทพฯ เป็นต้น เมื่อท่านอายุได้ ๒๒ ปี ได้อุปสมบทที่วัดบ่อ ต.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ลุล่วงถึงปี พ.ศ. ๒๓๙๕ (ช่วงรัชกาลที่ ๔ ) จึงได้ย้ายมาสู่ วัดสว่างอารมย์ (วัดสะพานสูง) ต.บ้านแหลมใหญ่ (ต.คลองพระอุดม) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขณะนั้นมีพระ ๒ รูปเท่านั้น ในระหว่างที่ย้ายมาสู่วัดสะพานสูง ท่านได้ออกธุดงค์ไปทางแถบประเทศเขมร เพื่อเล่าเรียนวิชา และธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ว่ากันว่า ท่านธุดงค์หายไปนาน ๑๐ ปี จนกระทั่งชาวบ้านแหลมใหญ่และญาติโยมคิดว่าท่านได้ถึงแก่มรณภาพแล้ว จึงจัดแจงทำบุญบังสกุล และทำสังฆทานแผ่ส่วนกุศลไปให้ท่าน ทำให้หลวงปู่เอี่ยม ทราบด้วยญาณของท่าน ท่านจึงเดินทางกลับวัด ปรากฏว่าท่านไม่ได้ปลงผม ผมจึงยาวถึงบั้นเอว จีวรขาดรุ่งริ่ง หนวดเครายาวเฟิ้ม พร้อมกับมีสัตว์ปา เช่น หมี,เสือ,งูจงอาง ติดตามมาส่งท่านด้วย จากการเจริญกรรมฐานนี้ มีเรื่องเล่ากันว่ามีต้นตะเคียนต้นหนึ่งมีน้ำมันตกและดุมากเป็นที่เกรงกลัวแก่ชาวบ้านแถบนั้น หลวงปู่จึงช่วยยืนเพ่งอยู่ ๓ วันเท่านั้น ต้นตะเคียนก็เฉาและยืนต้นตาย หลวงปู่เป็นผู้มีอาคมฉมัง วาจาสิทธิ์ มักน้อยและสันโดษ ท่านเป็นต้นแบบในการพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบันนี้ ท่านได้สร้างถาวรวัตถุที่ได้เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้คือพระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ พระเจดีย์ จึงเป็นที่มาของการสร้างพระปิดตา และตะกรุดโทนมหาโสฬสมงคลอันลือลั่นนั่นเอง จวบจนเมื่อถึงวันจันทร์ที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๘ เวลา ๑๐.๐๐ น.(ช่วงรัชกาลที่ ๕)ขึ้น ๙ ค่ำเดือน ๙ ท่านได้มรณภาพ ด้วยโรคชรา รวมสิริอายุได้ ๘๐ ปี ก่อนที่ท่านจะมรณภาพได้มีศิษย์ผู้ใกล้ชิดเป็นตัวแทนของชาวบ้าน และผู้เคารพนับถือ ศรัทธา ที่มีและไม่มีของมงคลท่านไว้บูชา กราบเรียนถามหากว่าเมื่อหลวงปู่ได้มรณภาพแล้วจักทำประการใด ท่านจึงได้ มีปัจฉิมวาจาว่า " มีเหตุสุข ทุกข์ เกิดนั้น ให้ระลึกถึงชื่อของเรา" จึงเป็นที่ทราบและรู้กันว่า หากผู้ใดต้องการมอบตัว เป็นศิษย์หรือต้องการให้ท่านช่วยแล้วด้วยความศรัทธายิ่ง ก็ให้เอ่ยระลึกถึงชื่อของท่าน ท่านจะมาโปรดและคุ้มครอง และหากเป็นเรื่องหนักหนาก็บนตัวบวชให้ท่าน รูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงปู่ท่านประดิษฐานอยู่หน้าพระอุโบสถ สร้าง(หล่อ) ขึ้นเมื่อพ.ศ. ๒๔๘๐ ในสมัยหลวงปู่กลิ่น ผู้ปกครองวัดต่อจากท่าน เพื่อการสักการะบูชา ต่อมาจนทุกๆวัน จะมีผู้ศรัทธาจากทุกสารทิศมากราบไหว้และบนบานฯ ตลอดเวลาตราบแสงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า ท่านชอบกระทง ใส่ดอกไม้เจ็ดสี จะมีผู้นำมาถวายและแก้บนแทบทุกวันโดยเฉพาะในวันพระแม้แต่ผงขี้ธูปและน้ำในคลองหน้าวัดก็ยัง มีความ"ขลัง" อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง และหลังจากที่ท่านมรณภาพล่วงไปเนิ่นนานแล้วก็ตามที ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ผลปรากฏว่าฐานที่ท่าน เคยถ่ายทุกข์เอาไว้และปิดตาย คราวที่เกิดไฟไหม้ป่าช้า ฐานของหลวงปู่เอี่ยมเพียงหลังเดียวเท่านั้นที่ไม่ไหม้ไฟ เมื่อความอัศจรรย์ปรากฏขึ้นเช่นนั้น ผู้คนจึงค่อยมาตัดเอาแผ่นสังกะสีไปม้วนเป็นตะกรุดจนหมดสิ้น นอกจากนั้นแล้ว ยังมารื้อเอาตัวไม้ไปบูชาจนไม่เหลือหรอ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่ได้อะไรเลยก็มาขุดเอาอุจจาระของท่านไปบูชา ของขลัง ...ตะกรุดมหาโสฬสมงคล ท่านได้ใช้ความตั้งใจพากเพียรพยายามทยอยสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆ เพื่อแจกจ่าย ทำทุนปัจจัยมาสร้างโบสถ์ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ และเจดีย์แก่ผู้ร่วมบริจาคทรัพย์ เงิน ๑ตำลึง หรือ ๔ บาท หรือจะนำทราย หรือ อิฐ หรือหิน จำนวน ๑ ลำ หรือกำปั้น ก็จะได้ตะกรุด ๑ ดอก การปลุกเสก...เห็นจะไม่มีอิทธิของวัตถุสำนักใดๆ ที่มีการปลุกเสกของท่านตามลำพังเงียบๆ ภายในกุฏิทุกค่ำคืน และแทบจะตลอดอายุขัยของท่านทีเดียว โดยต้องปลุกเสกด้วยโองการมหาทะมึนให้ครบ ๑๐,๐๐๐ จบ ในเวลา ๓ ปี การใช้เวลาอันเนิ่นนานปานนี้ จึงไม่มีปัญหาเลยว่า ตะกรุดของหลวงปู่ จะไม่เป็นยอดแห่งบรรดาตะกรุดทั้งหลาย เป็นตะกรุดที่ทรงคุณค่าควรเมือง หรือค่าพันตำลึงทองทรงอิทธิพลังพุทธาคุ้มเกรงภยันตรายทั้งปวง ผู้ใดมีไว้ครอบครองหมั่นบูชา กราบไหว้ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นจะเป็นสิริมงคลแก่ตัวและวงศ์ตระกูล และพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ ชีวิตจักไม่ตกต่ำเป็นมหามงคลยิ่งใหญ่มีเมตตามหานิยม เจริญลาภผล จังงัง กำบังภัย แคล้วคลาด คลกระพันชาตรี บำบัดและป้องกันเจ็บไข้ เสนียดจัญไรโจรภัยกันไฟพ้นจากศัตรูหมู่สัตว์ร้าย อย่าว่า แต่ปืนผาหน้าไม้เลย แม้แต่อหิงสา หรือฟ้าผ่าก็ยังกันได้ แจ้งเหตุการณ์ให้ทราบก่อนล่วงหน้า ดลใจในทางที่ถูกที่ควร ถ้าอยู่ในบ้านเรือนบูชา ก็จะมีแต่สิริมงคล แต่ที่สำคัญจะทำให้ผู้มีไว้ครอบครองได้สัมฤทธิ์ผล แห่งเดชนุภาพทั้งปวง แต่ต้องปฏิบัติตน ให้อยู่ในศีลในธรรม ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยมจึงเด่นขึ้นสู่ความนิยม และมีค่านิยมสูงยิ่ง เป็นอันดับหนึ่ง ของบรรดาเครื่องรางและตะกรุดมาเนิ่นนานกว่าใคร เป็นวัตถุมงคลที่มีสนนราคาสูงยิ่ง และหายากยิ่งจนมีผู้สืบเสาะ อยากจะเป็นเจ้าของกันทั่วไป เรื่องเล่าชาวสยาม เครดิต เรื่องเล่าชาวสยาม
หายากครับ พระอาจารย์แว่น วัดสพานสูงเมตตาเขียนยันต์โสฬสมงคล วัดสพานสูง ตรงตามตำรับหลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง ให้เพื่อไปสกรีนเป็นผ้ายันต์ผืนนี้เพื่อแจกจ่ายลูกศิษย์ไว้คุ้มครองตัวในช่วงดาวมฤตยูโคจรทับดวงเมืองไทย ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ให้เลี่ยมเป็นตะกรุดติดตัว หรือ ติดเสาบ้าน ติดรถ ร้านค้า จะป้องกันอันตรายต่างๆได้ด้วยพระพุทธคุณของพระยันต์โสฬสมงคล ผืนนี้ถ้าไม่ใช่ศิษย์ไม่มีแน่นอน และไม่ได้พบตามทั่วไปแน่นอน ผืนขนาด 6 x 8 นิ้ว สร้างประมาณ 500 ผืน สร้างปี2559 ผ้ายันต์โสฬสมงคล ปลุกเสก 108 จบ ถูกต้องตามตำรา หลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง แบบดั้งเดิม พุทธคุณของผ้ายันต์โสฬสมงคลนี้ ปลุกเสกที่วัดสพานสูง และ วัดสาลีโข จ.นนทบุรี ผ้ายันต์นี้้กันได้ทุกอย่าง เข้าพิธีทั้งที่วัดสาลีโข และพระอาจารย์แว่น วัดสพานสูง ท่านอธิษฐานจิตทุกวัน เป็นของดี พระอาจารย์แว่นบอกว่าให้เอาไปเลี่ยมเป็นตะกรุดก็ได้ หรือติดเสาบ้าน เพราะพระยันต์นี้ดีทุกทาง พระยันต์โสฬสเป็นยันต์ที่ติดที่เสาหลักเมืองประเทศไทยครับ ◎ พระคาถาโสฬสมงคล หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ◎ " โสฬะสะมังคะลัญเจวะ นะวะโลกุตตะระธัมมะตา จัตตาโรจะมหาทีปา ปัญจะพุทธามหามุนี ตรีปิฏะกะธัมมักขันธา ฉะกามาวะจะราตะถา ปัญจะทัสสะกะเวสัจจัง ทะสะมังสีละเมวะจะ เตรัสสะธุตังคาจะ ปาฎิหารัญจะทะวาทัสสะ เอกะเมรุจะ สุราอัฎฐะ ทะเวจันทังสุริยังสัคคา สัตตะโพชฌังคาเจวะ จุททัสสะจักกะวัตติจะ เอกาทะสะวิษณุราชา สัพเพเทวา สะมาคะตา มังรักขันตุ ปาละยันตุ สัพพะทาเอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เมฯ กล่าวให้ปรากฏ อุปเท่ห์โสฬส บันดาลชายหญิง ภาวนาทีหนึ่ง สองทีดีจริง สิบแปดทีดียิ่งมีผลานิงค์ ชักลูกประคำ ร้อยแปดเลิศล้ำ ให้ได้คาบทรงคงเกิดส่วนบุญ มีผลานิสงค์ พบแล้วอย่างง ไม่พบเร่งหา ผู้ใดไม่พบบุญน้อยถอดถด เสียชาติเกิดมา เป็นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนชีวิตเกิดมา เป็นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนได้ดวงแก้วแถม ทองผ่องแผ้ว กุศลชักนำ สิ่งใดปรารถนาภาวนาหัวค่ำ กุศลเลิศล้ำ ประมูลพูนมา อุบาทว์จัญไร กันทั้งโรคภัย ปรากฏคาถากลับจิตคิดเห็น ๆ อนัตตา มิอาจมาทำลายตัวเรา ภาวนาภัยหัวค่ำทีหนึ่งประจำ เที่ยงคืนและย่ำรุ่งเป็นสามทีเกิดสวัสดี มีลาภทุกประการอาหารการกินปรีเปรมเกษมสันต์ ภาวนา ๓-๗ เป็นสำเร็จการ ทุกค่ำสำราญกว่าคนทั้งหลาย อายุวัณโณ บรมสุขโขภัญโญทั้งปลาย ถ้าไฟไหม้มาให้เสกข้าวสาร สาดหว่านหลังคา ลมพาพัดหวลอย่าได้สงกา ฝนตกลงมาภาวนาป้องกัน ถ้าจะขายของเสกน้ำประพรม สินค้าสารพันระบือลือสั่น พากันเข้ามาค้าเรือ เหนือใต้ เขียนคาถาไว้ แผ่นกระดาษปรารถนาเสกด้วยตัวเองปิดหัวนาวา นำของสินค้าขายมีกำไร ถ้าเป็นความเสกน้ำล้างหน้าทาแป้งเสกเครื่องแต่งตน เสกหมากอย่านาน กินแล้วยาตรา กระทืบเท้าสามทีแปลกายบ่ายสู่คู่ความตามที่เป่าพ่นอย่าหนี พลุ่งพล่านต้องเวทย์มนต์ถาคาพลัน ให้ภาวนาเสกน้ำล้างหน้า กันทั้งคุณไสยอุบาทว์ จัญไร อัคคีโจรภัยตามความปรารถนา พระคาถาบทนี้ เป็นของหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งท่านได้ใช้บทนี้ ปลุกเสกสร้างพระปิดตา และ ตะกรดทำให้มีพุทธคุณมาก จนเป็นที่ต้องการของผู้คนทั้งหลายตราบเท่าทุกวันนี้ หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม ( อ่านว่า ปะถะมะนามะ หรือ ปถมนาม ) อดีตเจ้าอาวาสแห่งวัดสะพานสูง ท่านชาตะเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๙ ค่ำ เดือนยี่ ปีฉลู พ.ศ.๒๓๕๘ (ช่วงรัชกาลที่ ๒) เป็นเถราจารย์ผู้เรืองเวทย์ร่วมสมัยกับสมเด็จฯโต วัดระฆัง กรุงเทพฯ ,หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร, กรมพระยาปวเรศฯ วัดบวรนิเวศฯ กรุงเทพฯ,หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย จ.สมุทรปราการ และเจ้าคุณเฒ่า (เอี่ยม) วัดหนัง กรุงเทพฯ เป็นต้น เมื่อท่านอายุได้ ๒๒ ปี ได้อุปสมบทที่วัดบ่อ ต.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ลุล่วงถึงปี พ.ศ. ๒๓๙๕ (ช่วงรัชกาลที่ ๔ ) จึงได้ย้ายมาสู่ วัดสว่างอารมย์ (วัดสะพานสูง) ต.บ้านแหลมใหญ่ (ต.คลองพระอุดม) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขณะนั้นมีพระ ๒ รูปเท่านั้น ในระหว่างที่ย้ายมาสู่วัดสะพานสูง ท่านได้ออกธุดงค์ไปทางแถบประเทศเขมร เพื่อเล่าเรียนวิชา และธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ว่ากันว่า ท่านธุดงค์หายไปนาน ๑๐ ปี จนกระทั่งชาวบ้านแหลมใหญ่และญาติโยมคิดว่าท่านได้ถึงแก่มรณภาพแล้ว จึงจัดแจงทำบุญบังสกุล และทำสังฆทานแผ่ส่วนกุศลไปให้ท่าน ทำให้หลวงปู่เอี่ยม ทราบด้วยญาณของท่าน ท่านจึงเดินทางกลับวัด ปรากฏว่าท่านไม่ได้ปลงผม ผมจึงยาวถึงบั้นเอว จีวรขาดรุ่งริ่ง หนวดเครายาวเฟิ้ม พร้อมกับมีสัตว์ปา เช่น หมี,เสือ,งูจงอาง ติดตามมาส่งท่านด้วย จากการเจริญกรรมฐานนี้ มีเรื่องเล่ากันว่ามีต้นตะเคียนต้นหนึ่งมีน้ำมันตกและดุมากเป็นที่เกรงกลัวแก่ชาวบ้านแถบนั้น หลวงปู่จึงช่วยยืนเพ่งอยู่ ๓ วันเท่านั้น ต้นตะเคียนก็เฉาและยืนต้นตาย หลวงปู่เป็นผู้มีอาคมฉมัง วาจาสิทธิ์ มักน้อยและสันโดษ ท่านเป็นต้นแบบในการพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบันนี้ ท่านได้สร้างถาวรวัตถุที่ได้เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้คือพระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ พระเจดีย์ จึงเป็นที่มาของการสร้างพระปิดตา และตะกรุดโทนมหาโสฬสมงคลอันลือลั่นนั่นเอง จวบจนเมื่อถึงวันจันทร์ที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๘ เวลา ๑๐.๐๐ น.(ช่วงรัชกาลที่ ๕)ขึ้น ๙ ค่ำเดือน ๙ ท่านได้มรณภาพ ด้วยโรคชรา รวมสิริอายุได้ ๘๐ ปี ก่อนที่ท่านจะมรณภาพได้มีศิษย์ผู้ใกล้ชิดเป็นตัวแทนของชาวบ้าน และผู้เคารพนับถือ ศรัทธา ที่มีและไม่มีของมงคลท่านไว้บูชา กราบเรียนถามหากว่าเมื่อหลวงปู่ได้มรณภาพแล้วจักทำประการใด ท่านจึงได้ มีปัจฉิมวาจาว่า " มีเหตุสุข ทุกข์ เกิดนั้น ให้ระลึกถึงชื่อของเรา" จึงเป็นที่ทราบและรู้กันว่า หากผู้ใดต้องการมอบตัว เป็นศิษย์หรือต้องการให้ท่านช่วยแล้วด้วยความศรัทธายิ่ง ก็ให้เอ่ยระลึกถึงชื่อของท่าน ท่านจะมาโปรดและคุ้มครอง และหากเป็นเรื่องหนักหนาก็บนตัวบวชให้ท่าน รูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงปู่ท่านประดิษฐานอยู่หน้าพระอุโบสถ สร้าง(หล่อ) ขึ้นเมื่อพ.ศ. ๒๔๘๐ ในสมัยหลวงปู่กลิ่น ผู้ปกครองวัดต่อจากท่าน เพื่อการสักการะบูชา ต่อมาจนทุกๆวัน จะมีผู้ศรัทธาจากทุกสารทิศมากราบไหว้และบนบานฯ ตลอดเวลาตราบแสงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า ท่านชอบกระทง ใส่ดอกไม้เจ็ดสี จะมีผู้นำมาถวายและแก้บนแทบทุกวันโดยเฉพาะในวันพระแม้แต่ผงขี้ธูปและน้ำในคลองหน้าวัดก็ยัง มีความ"ขลัง" อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง และหลังจากที่ท่านมรณภาพล่วงไปเนิ่นนานแล้วก็ตามที ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ผลปรากฏว่าฐานที่ท่าน เคยถ่ายทุกข์เอาไว้และปิดตาย คราวที่เกิดไฟไหม้ป่าช้า ฐานของหลวงปู่เอี่ยมเพียงหลังเดียวเท่านั้นที่ไม่ไหม้ไฟ เมื่อความอัศจรรย์ปรากฏขึ้นเช่นนั้น ผู้คนจึงค่อยมาตัดเอาแผ่นสังกะสีไปม้วนเป็นตะกรุดจนหมดสิ้น นอกจากนั้นแล้ว ยังมารื้อเอาตัวไม้ไปบูชาจนไม่เหลือหรอ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่ได้อะไรเลยก็มาขุดเอาอุจจาระของท่านไปบูชา ของขลัง ...ตะกรุดมหาโสฬสมงคล ท่านได้ใช้ความตั้งใจพากเพียรพยายามทยอยสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆ เพื่อแจกจ่าย ทำทุนปัจจัยมาสร้างโบสถ์ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ และเจดีย์แก่ผู้ร่วมบริจาคทรัพย์ เงิน ๑ตำลึง หรือ ๔ บาท หรือจะนำทราย หรือ อิฐ หรือหิน จำนวน ๑ ลำ หรือกำปั้น ก็จะได้ตะกรุด ๑ ดอก การปลุกเสก...เห็นจะไม่มีอิทธิของวัตถุสำนักใดๆ ที่มีการปลุกเสกของท่านตามลำพังเงียบๆ ภายในกุฏิทุกค่ำคืน และแทบจะตลอดอายุขัยของท่านทีเดียว โดยต้องปลุกเสกด้วยโองการมหาทะมึนให้ครบ ๑๐,๐๐๐ จบ ในเวลา ๓ ปี การใช้เวลาอันเนิ่นนานปานนี้ จึงไม่มีปัญหาเลยว่า ตะกรุดของหลวงปู่ จะไม่เป็นยอดแห่งบรรดาตะกรุดทั้งหลาย เป็นตะกรุดที่ทรงคุณค่าควรเมือง หรือค่าพันตำลึงทองทรงอิทธิพลังพุทธาคุ้มเกรงภยันตรายทั้งปวง ผู้ใดมีไว้ครอบครองหมั่นบูชา กราบไหว้ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นจะเป็นสิริมงคลแก่ตัวและวงศ์ตระกูล และพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ ชีวิตจักไม่ตกต่ำเป็นมหามงคลยิ่งใหญ่มีเมตตามหานิยม เจริญลาภผล จังงัง กำบังภัย แคล้วคลาด คลกระพันชาตรี บำบัดและป้องกันเจ็บไข้ เสนียดจัญไรโจรภัยกันไฟพ้นจากศัตรูหมู่สัตว์ร้าย อย่าว่า แต่ปืนผาหน้าไม้เลย แม้แต่อหิงสา หรือฟ้าผ่าก็ยังกันได้ แจ้งเหตุการณ์ให้ทราบก่อนล่วงหน้า ดลใจในทางที่ถูกที่ควร ถ้าอยู่ในบ้านเรือนบูชา ก็จะมีแต่สิริมงคล แต่ที่สำคัญจะทำให้ผู้มีไว้ครอบครองได้สัมฤทธิ์ผล แห่งเดชนุภาพทั้งปวง แต่ต้องปฏิบัติตน ให้อยู่ในศีลในธรรม ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยมจึงเด่นขึ้นสู่ความนิยม และมีค่านิยมสูงยิ่ง เป็นอันดับหนึ่ง ของบรรดาเครื่องรางและตะกรุดมาเนิ่นนานกว่าใคร เป็นวัตถุมงคลที่มีสนนราคาสูงยิ่ง และหายากยิ่งจนมีผู้สืบเสาะ อยากจะเป็นเจ้าของกันทั่วไป เรื่องเล่าชาวสยาม เครดิต เรื่องเล่าชาวสยาม
หายากครับ พระอาจารย์แว่น วัดสพานสูงเมตตาเขียนยันต์โสฬสมงคล วัดสพานสูง ตรงตามตำรับหลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง ให้เพื่อไปสกรีนเป็นผ้ายันต์ผืนนี้เพื่อแจกจ่ายลูกศิษย์ไว้คุ้มครองตัวในช่วงดาวมฤตยูโคจรทับดวงเมืองไทย ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ให้เลี่ยมเป็นตะกรุดติดตัว หรือ ติดเสาบ้าน ติดรถ ร้านค้า จะป้องกันอันตรายต่างๆได้ด้วยพระพุทธคุณของพระยันต์โสฬสมงคล ผืนนี้ถ้าไม่ใช่ศิษย์ไม่มีแน่นอน และไม่ได้พบตามทั่วไปแน่นอน ผืนขนาด 6 x 8 นิ้ว สร้างประมาณ 500 ผืน สร้างปี2559 ผ้ายันต์โสฬสมงคล ปลุกเสก 108 จบ ถูกต้องตามตำรา หลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง แบบดั้งเดิม พุทธคุณของผ้ายันต์โสฬสมงคลนี้ ปลุกเสกที่วัดสพานสูง และ วัดสาลีโข จ.นนทบุรี ผ้ายันต์นี้้กันได้ทุกอย่าง เข้าพิธีทั้งที่วัดสาลีโข และพระอาจารย์แว่น วัดสพานสูง ท่านอธิษฐานจิตทุกวัน เป็นของดี พระอาจารย์แว่นบอกว่าให้เอาไปเลี่ยมเป็นตะกรุดก็ได้ หรือติดเสาบ้าน เพราะพระยันต์นี้ดีทุกทาง พระยันต์โสฬสเป็นยันต์ที่ติดที่เสาหลักเมืองประเทศไทยครับ ◎ พระคาถาโสฬสมงคล หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ◎ " โสฬะสะมังคะลัญเจวะ นะวะโลกุตตะระธัมมะตา จัตตาโรจะมหาทีปา ปัญจะพุทธามหามุนี ตรีปิฏะกะธัมมักขันธา ฉะกามาวะจะราตะถา ปัญจะทัสสะกะเวสัจจัง ทะสะมังสีละเมวะจะ เตรัสสะธุตังคาจะ ปาฎิหารัญจะทะวาทัสสะ เอกะเมรุจะ สุราอัฎฐะ ทะเวจันทังสุริยังสัคคา สัตตะโพชฌังคาเจวะ จุททัสสะจักกะวัตติจะ เอกาทะสะวิษณุราชา สัพเพเทวา สะมาคะตา มังรักขันตุ ปาละยันตุ สัพพะทาเอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เมฯ กล่าวให้ปรากฏ อุปเท่ห์โสฬส บันดาลชายหญิง ภาวนาทีหนึ่ง สองทีดีจริง สิบแปดทีดียิ่งมีผลานิงค์ ชักลูกประคำ ร้อยแปดเลิศล้ำ ให้ได้คาบทรงคงเกิดส่วนบุญ มีผลานิสงค์ พบแล้วอย่างง ไม่พบเร่งหา ผู้ใดไม่พบบุญน้อยถอดถด เสียชาติเกิดมา เป็นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนชีวิตเกิดมา เป็นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนได้ดวงแก้วแถม ทองผ่องแผ้ว กุศลชักนำ สิ่งใดปรารถนาภาวนาหัวค่ำ กุศลเลิศล้ำ ประมูลพูนมา อุบาทว์จัญไร กันทั้งโรคภัย ปรากฏคาถากลับจิตคิดเห็น ๆ อนัตตา มิอาจมาทำลายตัวเรา ภาวนาภัยหัวค่ำทีหนึ่งประจำ เที่ยงคืนและย่ำรุ่งเป็นสามทีเกิดสวัสดี มีลาภทุกประการอาหารการกินปรีเปรมเกษมสันต์ ภาวนา ๓-๗ เป็นสำเร็จการ ทุกค่ำสำราญกว่าคนทั้งหลาย อายุวัณโณ บรมสุขโขภัญโญทั้งปลาย ถ้าไฟไหม้มาให้เสกข้าวสาร สาดหว่านหลังคา ลมพาพัดหวลอย่าได้สงกา ฝนตกลงมาภาวนาป้องกัน ถ้าจะขายของเสกน้ำประพรม สินค้าสารพันระบือลือสั่น พากันเข้ามาค้าเรือ เหนือใต้ เขียนคาถาไว้ แผ่นกระดาษปรารถนาเสกด้วยตัวเองปิดหัวนาวา นำของสินค้าขายมีกำไร ถ้าเป็นความเสกน้ำล้างหน้าทาแป้งเสกเครื่องแต่งตน เสกหมากอย่านาน กินแล้วยาตรา กระทืบเท้าสามทีแปลกายบ่ายสู่คู่ความตามที่เป่าพ่นอย่าหนี พลุ่งพล่านต้องเวทย์มนต์ถาคาพลัน ให้ภาวนาเสกน้ำล้างหน้า กันทั้งคุณไสยอุบาทว์ จัญไร อัคคีโจรภัยตามความปรารถนา พระคาถาบทนี้ เป็นของหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งท่านได้ใช้บทนี้ ปลุกเสกสร้างพระปิดตา และ ตะกรดทำให้มีพุทธคุณมาก จนเป็นที่ต้องการของผู้คนทั้งหลายตราบเท่าทุกวันนี้ หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม ( อ่านว่า ปะถะมะนามะ หรือ ปถมนาม ) อดีตเจ้าอาวาสแห่งวัดสะพานสูง ท่านชาตะเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๙ ค่ำ เดือนยี่ ปีฉลู พ.ศ.๒๓๕๘ (ช่วงรัชกาลที่ ๒) เป็นเถราจารย์ผู้เรืองเวทย์ร่วมสมัยกับสมเด็จฯโต วัดระฆัง กรุงเทพฯ ,หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร, กรมพระยาปวเรศฯ วัดบวรนิเวศฯ กรุงเทพฯ,หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย จ.สมุทรปราการ และเจ้าคุณเฒ่า (เอี่ยม) วัดหนัง กรุงเทพฯ เป็นต้น เมื่อท่านอายุได้ ๒๒ ปี ได้อุปสมบทที่วัดบ่อ ต.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ลุล่วงถึงปี พ.ศ. ๒๓๙๕ (ช่วงรัชกาลที่ ๔ ) จึงได้ย้ายมาสู่ วัดสว่างอารมย์ (วัดสะพานสูง) ต.บ้านแหลมใหญ่ (ต.คลองพระอุดม) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขณะนั้นมีพระ ๒ รูปเท่านั้น ในระหว่างที่ย้ายมาสู่วัดสะพานสูง ท่านได้ออกธุดงค์ไปทางแถบประเทศเขมร เพื่อเล่าเรียนวิชา และธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ว่ากันว่า ท่านธุดงค์หายไปนาน ๑๐ ปี จนกระทั่งชาวบ้านแหลมใหญ่และญาติโยมคิดว่าท่านได้ถึงแก่มรณภาพแล้ว จึงจัดแจงทำบุญบังสกุล และทำสังฆทานแผ่ส่วนกุศลไปให้ท่าน ทำให้หลวงปู่เอี่ยม ทราบด้วยญาณของท่าน ท่านจึงเดินทางกลับวัด ปรากฏว่าท่านไม่ได้ปลงผม ผมจึงยาวถึงบั้นเอว จีวรขาดรุ่งริ่ง หนวดเครายาวเฟิ้ม พร้อมกับมีสัตว์ปา เช่น หมี,เสือ,งูจงอาง ติดตามมาส่งท่านด้วย จากการเจริญกรรมฐานนี้ มีเรื่องเล่ากันว่ามีต้นตะเคียนต้นหนึ่งมีน้ำมันตกและดุมากเป็นที่เกรงกลัวแก่ชาวบ้านแถบนั้น หลวงปู่จึงช่วยยืนเพ่งอยู่ ๓ วันเท่านั้น ต้นตะเคียนก็เฉาและยืนต้นตาย หลวงปู่เป็นผู้มีอาคมฉมัง วาจาสิทธิ์ มักน้อยและสันโดษ ท่านเป็นต้นแบบในการพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบันนี้ ท่านได้สร้างถาวรวัตถุที่ได้เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้คือพระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ พระเจดีย์ จึงเป็นที่มาของการสร้างพระปิดตา และตะกรุดโทนมหาโสฬสมงคลอันลือลั่นนั่นเอง จวบจนเมื่อถึงวันจันทร์ที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๘ เวลา ๑๐.๐๐ น.(ช่วงรัชกาลที่ ๕)ขึ้น ๙ ค่ำเดือน ๙ ท่านได้มรณภาพ ด้วยโรคชรา รวมสิริอายุได้ ๘๐ ปี ก่อนที่ท่านจะมรณภาพได้มีศิษย์ผู้ใกล้ชิดเป็นตัวแทนของชาวบ้าน และผู้เคารพนับถือ ศรัทธา ที่มีและไม่มีของมงคลท่านไว้บูชา กราบเรียนถามหากว่าเมื่อหลวงปู่ได้มรณภาพแล้วจักทำประการใด ท่านจึงได้ มีปัจฉิมวาจาว่า " มีเหตุสุข ทุกข์ เกิดนั้น ให้ระลึกถึงชื่อของเรา" จึงเป็นที่ทราบและรู้กันว่า หากผู้ใดต้องการมอบตัว เป็นศิษย์หรือต้องการให้ท่านช่วยแล้วด้วยความศรัทธายิ่ง ก็ให้เอ่ยระลึกถึงชื่อของท่าน ท่านจะมาโปรดและคุ้มครอง และหากเป็นเรื่องหนักหนาก็บนตัวบวชให้ท่าน รูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงปู่ท่านประดิษฐานอยู่หน้าพระอุโบสถ สร้าง(หล่อ) ขึ้นเมื่อพ.ศ. ๒๔๘๐ ในสมัยหลวงปู่กลิ่น ผู้ปกครองวัดต่อจากท่าน เพื่อการสักการะบูชา ต่อมาจนทุกๆวัน จะมีผู้ศรัทธาจากทุกสารทิศมากราบไหว้และบนบานฯ ตลอดเวลาตราบแสงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า ท่านชอบกระทง ใส่ดอกไม้เจ็ดสี จะมีผู้นำมาถวายและแก้บนแทบทุกวันโดยเฉพาะในวันพระแม้แต่ผงขี้ธูปและน้ำในคลองหน้าวัดก็ยัง มีความ"ขลัง" อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง และหลังจากที่ท่านมรณภาพล่วงไปเนิ่นนานแล้วก็ตามที ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ผลปรากฏว่าฐานที่ท่าน เคยถ่ายทุกข์เอาไว้และปิดตาย คราวที่เกิดไฟไหม้ป่าช้า ฐานของหลวงปู่เอี่ยมเพียงหลังเดียวเท่านั้นที่ไม่ไหม้ไฟ เมื่อความอัศจรรย์ปรากฏขึ้นเช่นนั้น ผู้คนจึงค่อยมาตัดเอาแผ่นสังกะสีไปม้วนเป็นตะกรุดจนหมดสิ้น นอกจากนั้นแล้ว ยังมารื้อเอาตัวไม้ไปบูชาจนไม่เหลือหรอ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่ได้อะไรเลยก็มาขุดเอาอุจจาระของท่านไปบูชา ของขลัง ...ตะกรุดมหาโสฬสมงคล ท่านได้ใช้ความตั้งใจพากเพียรพยายามทยอยสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆ เพื่อแจกจ่าย ทำทุนปัจจัยมาสร้างโบสถ์ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ และเจดีย์แก่ผู้ร่วมบริจาคทรัพย์ เงิน ๑ตำลึง หรือ ๔ บาท หรือจะนำทราย หรือ อิฐ หรือหิน จำนวน ๑ ลำ หรือกำปั้น ก็จะได้ตะกรุด ๑ ดอก การปลุกเสก...เห็นจะไม่มีอิทธิของวัตถุสำนักใดๆ ที่มีการปลุกเสกของท่านตามลำพังเงียบๆ ภายในกุฏิทุกค่ำคืน และแทบจะตลอดอายุขัยของท่านทีเดียว โดยต้องปลุกเสกด้วยโองการมหาทะมึนให้ครบ ๑๐,๐๐๐ จบ ในเวลา ๓ ปี การใช้เวลาอันเนิ่นนานปานนี้ จึงไม่มีปัญหาเลยว่า ตะกรุดของหลวงปู่ จะไม่เป็นยอดแห่งบรรดาตะกรุดทั้งหลาย เป็นตะกรุดที่ทรงคุณค่าควรเมือง หรือค่าพันตำลึงทองทรงอิทธิพลังพุทธาคุ้มเกรงภยันตรายทั้งปวง ผู้ใดมีไว้ครอบครองหมั่นบูชา กราบไหว้ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นจะเป็นสิริมงคลแก่ตัวและวงศ์ตระกูล และพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ ชีวิตจักไม่ตกต่ำเป็นมหามงคลยิ่งใหญ่มีเมตตามหานิยม เจริญลาภผล จังงัง กำบังภัย แคล้วคลาด คลกระพันชาตรี บำบัดและป้องกันเจ็บไข้ เสนียดจัญไรโจรภัยกันไฟพ้นจากศัตรูหมู่สัตว์ร้าย อย่าว่า แต่ปืนผาหน้าไม้เลย แม้แต่อหิงสา หรือฟ้าผ่าก็ยังกันได้ แจ้งเหตุการณ์ให้ทราบก่อนล่วงหน้า ดลใจในทางที่ถูกที่ควร ถ้าอยู่ในบ้านเรือนบูชา ก็จะมีแต่สิริมงคล แต่ที่สำคัญจะทำให้ผู้มีไว้ครอบครองได้สัมฤทธิ์ผล แห่งเดชนุภาพทั้งปวง แต่ต้องปฏิบัติตน ให้อยู่ในศีลในธรรม ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยมจึงเด่นขึ้นสู่ความนิยม และมีค่านิยมสูงยิ่ง เป็นอันดับหนึ่ง ของบรรดาเครื่องรางและตะกรุดมาเนิ่นนานกว่าใคร เป็นวัตถุมงคลที่มีสนนราคาสูงยิ่ง และหายากยิ่งจนมีผู้สืบเสาะ อยากจะเป็นเจ้าของกันทั่วไป เรื่องเล่าชาวสยาม เครดิต เรื่องเล่าชาวสยาม
หายากครับ พระอาจารย์แว่น วัดสพานสูงเมตตาเขียนยันต์โสฬสมงคล วัดสพานสูง ตรงตามตำรับหลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง ให้เพื่อไปสกรีนเป็นผ้ายันต์ผืนนี้เพื่อแจกจ่ายลูกศิษย์ไว้คุ้มครองตัวในช่วงดาวมฤตยูโคจรทับดวงเมืองไทย ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ให้เลี่ยมเป็นตะกรุดติดตัว หรือ ติดเสาบ้าน ติดรถ ร้านค้า จะป้องกันอันตรายต่างๆได้ด้วยพระพุทธคุณของพระยันต์โสฬสมงคล ผืนนี้ถ้าไม่ใช่ศิษย์ไม่มีแน่นอน และไม่ได้พบตามทั่วไปแน่นอน ผืนขนาด 6 x 8 นิ้ว สร้างประมาณ 500 ผืน สร้างปี2559 ผ้ายันต์โสฬสมงคล ปลุกเสก 108 จบ ถูกต้องตามตำรา หลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง แบบดั้งเดิม พุทธคุณของผ้ายันต์โสฬสมงคลนี้ ปลุกเสกที่วัดสพานสูง และ วัดสาลีโข จ.นนทบุรี ผ้ายันต์นี้้กันได้ทุกอย่าง เข้าพิธีทั้งที่วัดสาลีโข และพระอาจารย์แว่น วัดสพานสูง ท่านอธิษฐานจิตทุกวัน เป็นของดี พระอาจารย์แว่นบอกว่าให้เอาไปเลี่ยมเป็นตะกรุดก็ได้ หรือติดเสาบ้าน เพราะพระยันต์นี้ดีทุกทาง พระยันต์โสฬสเป็นยันต์ที่ติดที่เสาหลักเมืองประเทศไทยครับ ◎ พระคาถาโสฬสมงคล หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ◎ " โสฬะสะมังคะลัญเจวะ นะวะโลกุตตะระธัมมะตา จัตตาโรจะมหาทีปา ปัญจะพุทธามหามุนี ตรีปิฏะกะธัมมักขันธา ฉะกามาวะจะราตะถา ปัญจะทัสสะกะเวสัจจัง ทะสะมังสีละเมวะจะ เตรัสสะธุตังคาจะ ปาฎิหารัญจะทะวาทัสสะ เอกะเมรุจะ สุราอัฎฐะ ทะเวจันทังสุริยังสัคคา สัตตะโพชฌังคาเจวะ จุททัสสะจักกะวัตติจะ เอกาทะสะวิษณุราชา สัพเพเทวา สะมาคะตา มังรักขันตุ ปาละยันตุ สัพพะทาเอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เมฯ กล่าวให้ปรากฏ อุปเท่ห์โสฬส บันดาลชายหญิง ภาวนาทีหนึ่ง สองทีดีจริง สิบแปดทีดียิ่งมีผลานิงค์ ชักลูกประคำ ร้อยแปดเลิศล้ำ ให้ได้คาบทรงคงเกิดส่วนบุญ มีผลานิสงค์ พบแล้วอย่างง ไม่พบเร่งหา ผู้ใดไม่พบบุญน้อยถอดถด เสียชาติเกิดมา เป็นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนชีวิตเกิดมา เป็นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนได้ดวงแก้วแถม ทองผ่องแผ้ว กุศลชักนำ สิ่งใดปรารถนาภาวนาหัวค่ำ กุศลเลิศล้ำ ประมูลพูนมา อุบาทว์จัญไร กันทั้งโรคภัย ปรากฏคาถากลับจิตคิดเห็น ๆ อนัตตา มิอาจมาทำลายตัวเรา ภาวนาภัยหัวค่ำทีหนึ่งประจำ เที่ยงคืนและย่ำรุ่งเป็นสามทีเกิดสวัสดี มีลาภทุกประการอาหารการกินปรีเปรมเกษมสันต์ ภาวนา ๓-๗ เป็นสำเร็จการ ทุกค่ำสำราญกว่าคนทั้งหลาย อายุวัณโณ บรมสุขโขภัญโญทั้งปลาย ถ้าไฟไหม้มาให้เสกข้าวสาร สาดหว่านหลังคา ลมพาพัดหวลอย่าได้สงกา ฝนตกลงมาภาวนาป้องกัน ถ้าจะขายของเสกน้ำประพรม สินค้าสารพันระบือลือสั่น พากันเข้ามาค้าเรือ เหนือใต้ เขียนคาถาไว้ แผ่นกระดาษปรารถนาเสกด้วยตัวเองปิดหัวนาวา นำของสินค้าขายมีกำไร ถ้าเป็นความเสกน้ำล้างหน้าทาแป้งเสกเครื่องแต่งตน เสกหมากอย่านาน กินแล้วยาตรา กระทืบเท้าสามทีแปลกายบ่ายสู่คู่ความตามที่เป่าพ่นอย่าหนี พลุ่งพล่านต้องเวทย์มนต์ถาคาพลัน ให้ภาวนาเสกน้ำล้างหน้า กันทั้งคุณไสยอุบาทว์ จัญไร อัคคีโจรภัยตามความปรารถนา พระคาถาบทนี้ เป็นของหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งท่านได้ใช้บทนี้ ปลุกเสกสร้างพระปิดตา และ ตะกรดทำให้มีพุทธคุณมาก จนเป็นที่ต้องการของผู้คนทั้งหลายตราบเท่าทุกวันนี้ หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม ( อ่านว่า ปะถะมะนามะ หรือ ปถมนาม ) อดีตเจ้าอาวาสแห่งวัดสะพานสูง ท่านชาตะเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๙ ค่ำ เดือนยี่ ปีฉลู พ.ศ.๒๓๕๘ (ช่วงรัชกาลที่ ๒) เป็นเถราจารย์ผู้เรืองเวทย์ร่วมสมัยกับสมเด็จฯโต วัดระฆัง กรุงเทพฯ ,หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร, กรมพระยาปวเรศฯ วัดบวรนิเวศฯ กรุงเทพฯ,หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย จ.สมุทรปราการ และเจ้าคุณเฒ่า (เอี่ยม) วัดหนัง กรุงเทพฯ เป็นต้น เมื่อท่านอายุได้ ๒๒ ปี ได้อุปสมบทที่วัดบ่อ ต.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ลุล่วงถึงปี พ.ศ. ๒๓๙๕ (ช่วงรัชกาลที่ ๔ ) จึงได้ย้ายมาสู่ วัดสว่างอารมย์ (วัดสะพานสูง) ต.บ้านแหลมใหญ่ (ต.คลองพระอุดม) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขณะนั้นมีพระ ๒ รูปเท่านั้น ในระหว่างที่ย้ายมาสู่วัดสะพานสูง ท่านได้ออกธุดงค์ไปทางแถบประเทศเขมร เพื่อเล่าเรียนวิชา และธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ว่ากันว่า ท่านธุดงค์หายไปนาน ๑๐ ปี จนกระทั่งชาวบ้านแหลมใหญ่และญาติโยมคิดว่าท่านได้ถึงแก่มรณภาพแล้ว จึงจัดแจงทำบุญบังสกุล และทำสังฆทานแผ่ส่วนกุศลไปให้ท่าน ทำให้หลวงปู่เอี่ยม ทราบด้วยญาณของท่าน ท่านจึงเดินทางกลับวัด ปรากฏว่าท่านไม่ได้ปลงผม ผมจึงยาวถึงบั้นเอว จีวรขาดรุ่งริ่ง หนวดเครายาวเฟิ้ม พร้อมกับมีสัตว์ปา เช่น หมี,เสือ,งูจงอาง ติดตามมาส่งท่านด้วย จากการเจริญกรรมฐานนี้ มีเรื่องเล่ากันว่ามีต้นตะเคียนต้นหนึ่งมีน้ำมันตกและดุมากเป็นที่เกรงกลัวแก่ชาวบ้านแถบนั้น หลวงปู่จึงช่วยยืนเพ่งอยู่ ๓ วันเท่านั้น ต้นตะเคียนก็เฉาและยืนต้นตาย หลวงปู่เป็นผู้มีอาคมฉมัง วาจาสิทธิ์ มักน้อยและสันโดษ ท่านเป็นต้นแบบในการพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบันนี้ ท่านได้สร้างถาวรวัตถุที่ได้เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้คือพระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ พระเจดีย์ จึงเป็นที่มาของการสร้างพระปิดตา และตะกรุดโทนมหาโสฬสมงคลอันลือลั่นนั่นเอง จวบจนเมื่อถึงวันจันทร์ที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๘ เวลา ๑๐.๐๐ น.(ช่วงรัชกาลที่ ๕)ขึ้น ๙ ค่ำเดือน ๙ ท่านได้มรณภาพ ด้วยโรคชรา รวมสิริอายุได้ ๘๐ ปี ก่อนที่ท่านจะมรณภาพได้มีศิษย์ผู้ใกล้ชิดเป็นตัวแทนของชาวบ้าน และผู้เคารพนับถือ ศรัทธา ที่มีและไม่มีของมงคลท่านไว้บูชา กราบเรียนถามหากว่าเมื่อหลวงปู่ได้มรณภาพแล้วจักทำประการใด ท่านจึงได้ มีปัจฉิมวาจาว่า " มีเหตุสุข ทุกข์ เกิดนั้น ให้ระลึกถึงชื่อของเรา" จึงเป็นที่ทราบและรู้กันว่า หากผู้ใดต้องการมอบตัว เป็นศิษย์หรือต้องการให้ท่านช่วยแล้วด้วยความศรัทธายิ่ง ก็ให้เอ่ยระลึกถึงชื่อของท่าน ท่านจะมาโปรดและคุ้มครอง และหากเป็นเรื่องหนักหนาก็บนตัวบวชให้ท่าน รูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงปู่ท่านประดิษฐานอยู่หน้าพระอุโบสถ สร้าง(หล่อ) ขึ้นเมื่อพ.ศ. ๒๔๘๐ ในสมัยหลวงปู่กลิ่น ผู้ปกครองวัดต่อจากท่าน เพื่อการสักการะบูชา ต่อมาจนทุกๆวัน จะมีผู้ศรัทธาจากทุกสารทิศมากราบไหว้และบนบานฯ ตลอดเวลาตราบแสงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า ท่านชอบกระทง ใส่ดอกไม้เจ็ดสี จะมีผู้นำมาถวายและแก้บนแทบทุกวันโดยเฉพาะในวันพระแม้แต่ผงขี้ธูปและน้ำในคลองหน้าวัดก็ยัง มีความ"ขลัง" อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง และหลังจากที่ท่านมรณภาพล่วงไปเนิ่นนานแล้วก็ตามที ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ผลปรากฏว่าฐานที่ท่าน เคยถ่ายทุกข์เอาไว้และปิดตาย คราวที่เกิดไฟไหม้ป่าช้า ฐานของหลวงปู่เอี่ยมเพียงหลังเดียวเท่านั้นที่ไม่ไหม้ไฟ เมื่อความอัศจรรย์ปรากฏขึ้นเช่นนั้น ผู้คนจึงค่อยมาตัดเอาแผ่นสังกะสีไปม้วนเป็นตะกรุดจนหมดสิ้น นอกจากนั้นแล้ว ยังมารื้อเอาตัวไม้ไปบูชาจนไม่เหลือหรอ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่ได้อะไรเลยก็มาขุดเอาอุจจาระของท่านไปบูชา ของขลัง ...ตะกรุดมหาโสฬสมงคล ท่านได้ใช้ความตั้งใจพากเพียรพยายามทยอยสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆ เพื่อแจกจ่าย ทำทุนปัจจัยมาสร้างโบสถ์ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ และเจดีย์แก่ผู้ร่วมบริจาคทรัพย์ เงิน ๑ตำลึง หรือ ๔ บาท หรือจะนำทราย หรือ อิฐ หรือหิน จำนวน ๑ ลำ หรือกำปั้น ก็จะได้ตะกรุด ๑ ดอก การปลุกเสก...เห็นจะไม่มีอิทธิของวัตถุสำนักใดๆ ที่มีการปลุกเสกของท่านตามลำพังเงียบๆ ภายในกุฏิทุกค่ำคืน และแทบจะตลอดอายุขัยของท่านทีเดียว โดยต้องปลุกเสกด้วยโองการมหาทะมึนให้ครบ ๑๐,๐๐๐ จบ ในเวลา ๓ ปี การใช้เวลาอันเนิ่นนานปานนี้ จึงไม่มีปัญหาเลยว่า ตะกรุดของหลวงปู่ จะไม่เป็นยอดแห่งบรรดาตะกรุดทั้งหลาย เป็นตะกรุดที่ทรงคุณค่าควรเมือง หรือค่าพันตำลึงทองทรงอิทธิพลังพุทธาคุ้มเกรงภยันตรายทั้งปวง ผู้ใดมีไว้ครอบครองหมั่นบูชา กราบไหว้ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นจะเป็นสิริมงคลแก่ตัวและวงศ์ตระกูล และพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ ชีวิตจักไม่ตกต่ำเป็นมหามงคลยิ่งใหญ่มีเมตตามหานิยม เจริญลาภผล จังงัง กำบังภัย แคล้วคลาด คลกระพันชาตรี บำบัดและป้องกันเจ็บไข้ เสนียดจัญไรโจรภัยกันไฟพ้นจากศัตรูหมู่สัตว์ร้าย อย่าว่า แต่ปืนผาหน้าไม้เลย แม้แต่อหิงสา หรือฟ้าผ่าก็ยังกันได้ แจ้งเหตุการณ์ให้ทราบก่อนล่วงหน้า ดลใจในทางที่ถูกที่ควร ถ้าอยู่ในบ้านเรือนบูชา ก็จะมีแต่สิริมงคล แต่ที่สำคัญจะทำให้ผู้มีไว้ครอบครองได้สัมฤทธิ์ผล แห่งเดชนุภาพทั้งปวง แต่ต้องปฏิบัติตน ให้อยู่ในศีลในธรรม ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยมจึงเด่นขึ้นสู่ความนิยม และมีค่านิยมสูงยิ่ง เป็นอันดับหนึ่ง ของบรรดาเครื่องรางและตะกรุดมาเนิ่นนานกว่าใคร เป็นวัตถุมงคลที่มีสนนราคาสูงยิ่ง และหายากยิ่งจนมีผู้สืบเสาะ อยากจะเป็นเจ้าของกันทั่วไป เรื่องเล่าชาวสยาม เครดิต เรื่องเล่าชาวสยาม
หายากครับ พระอาจารย์แว่น วัดสพานสูงเมตตาเขียนยันต์โสฬสมงคล วัดสพานสูง ตรงตามตำรับหลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง ให้เพื่อไปสกรีนเป็นผ้ายันต์ผืนนี้เพื่อแจกจ่ายลูกศิษย์ไว้คุ้มครองตัวในช่วงดาวมฤตยูโคจรทับดวงเมืองไทย ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ให้เลี่ยมเป็นตะกรุดติดตัว หรือ ติดเสาบ้าน ติดรถ ร้านค้า จะป้องกันอันตรายต่างๆได้ด้วยพระพุทธคุณของพระยันต์โสฬสมงคล ผืนนี้ถ้าไม่ใช่ศิษย์ไม่มีแน่นอน และไม่ได้พบตามทั่วไปแน่นอน ผืนขนาด 6 x 8 นิ้ว สร้างประมาณ 500 ผืน สร้างปี2559 ผ้ายันต์โสฬสมงคล ปลุกเสก 108 จบ ถูกต้องตามตำรา หลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง แบบดั้งเดิม พุทธคุณของผ้ายันต์โสฬสมงคลนี้ ปลุกเสกที่วัดสพานสูง และ วัดสาลีโข จ.นนทบุรี ผ้ายันต์นี้้กันได้ทุกอย่าง เข้าพิธีทั้งที่วัดสาลีโข และพระอาจารย์แว่น วัดสพานสูง ท่านอธิษฐานจิตทุกวัน เป็นของดี พระอาจารย์แว่นบอกว่าให้เอาไปเลี่ยมเป็นตะกรุดก็ได้ หรือติดเสาบ้าน เพราะพระยันต์นี้ดีทุกทาง พระยันต์โสฬสเป็นยันต์ที่ติดที่เสาหลักเมืองประเทศไทยครับ ◎ พระคาถาโสฬสมงคล หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ◎ " โสฬะสะมังคะลัญเจวะ นะวะโลกุตตะระธัมมะตา จัตตาโรจะมหาทีปา ปัญจะพุทธามหามุนี ตรีปิฏะกะธัมมักขันธา ฉะกามาวะจะราตะถา ปัญจะทัสสะกะเวสัจจัง ทะสะมังสีละเมวะจะ เตรัสสะธุตังคาจะ ปาฎิหารัญจะทะวาทัสสะ เอกะเมรุจะ สุราอัฎฐะ ทะเวจันทังสุริยังสัคคา สัตตะโพชฌังคาเจวะ จุททัสสะจักกะวัตติจะ เอกาทะสะวิษณุราชา สัพเพเทวา สะมาคะตา มังรักขันตุ ปาละยันตุ สัพพะทาเอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เมฯ กล่าวให้ปรากฏ อุปเท่ห์โสฬส บันดาลชายหญิง ภาวนาทีหนึ่ง สองทีดีจริง สิบแปดทีดียิ่งมีผลานิงค์ ชักลูกประคำ ร้อยแปดเลิศล้ำ ให้ได้คาบทรงคงเกิดส่วนบุญ มีผลานิสงค์ พบแล้วอย่างง ไม่พบเร่งหา ผู้ใดไม่พบบุญน้อยถอดถด เสียชาติเกิดมา เป็นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนชีวิตเกิดมา เป็นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนได้ดวงแก้วแถม ทองผ่องแผ้ว กุศลชักนำ สิ่งใดปรารถนาภาวนาหัวค่ำ กุศลเลิศล้ำ ประมูลพูนมา อุบาทว์จัญไร กันทั้งโรคภัย ปรากฏคาถากลับจิตคิดเห็น ๆ อนัตตา มิอาจมาทำลายตัวเรา ภาวนาภัยหัวค่ำทีหนึ่งประจำ เที่ยงคืนและย่ำรุ่งเป็นสามทีเกิดสวัสดี มีลาภทุกประการอาหารการกินปรีเปรมเกษมสันต์ ภาวนา ๓-๗ เป็นสำเร็จการ ทุกค่ำสำราญกว่าคนทั้งหลาย อายุวัณโณ บรมสุขโขภัญโญทั้งปลาย ถ้าไฟไหม้มาให้เสกข้าวสาร สาดหว่านหลังคา ลมพาพัดหวลอย่าได้สงกา ฝนตกลงมาภาวนาป้องกัน ถ้าจะขายของเสกน้ำประพรม สินค้าสารพันระบือลือสั่น พากันเข้ามาค้าเรือ เหนือใต้ เขียนคาถาไว้ แผ่นกระดาษปรารถนาเสกด้วยตัวเองปิดหัวนาวา นำของสินค้าขายมีกำไร ถ้าเป็นความเสกน้ำล้างหน้าทาแป้งเสกเครื่องแต่งตน เสกหมากอย่านาน กินแล้วยาตรา กระทืบเท้าสามทีแปลกายบ่ายสู่คู่ความตามที่เป่าพ่นอย่าหนี พลุ่งพล่านต้องเวทย์มนต์ถาคาพลัน ให้ภาวนาเสกน้ำล้างหน้า กันทั้งคุณไสยอุบาทว์ จัญไร อัคคีโจรภัยตามความปรารถนา พระคาถาบทนี้ เป็นของหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งท่านได้ใช้บทนี้ ปลุกเสกสร้างพระปิดตา และ ตะกรดทำให้มีพุทธคุณมาก จนเป็นที่ต้องการของผู้คนทั้งหลายตราบเท่าทุกวันนี้ หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม ( อ่านว่า ปะถะมะนามะ หรือ ปถมนาม ) อดีตเจ้าอาวาสแห่งวัดสะพานสูง ท่านชาตะเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๙ ค่ำ เดือนยี่ ปีฉลู พ.ศ.๒๓๕๘ (ช่วงรัชกาลที่ ๒) เป็นเถราจารย์ผู้เรืองเวทย์ร่วมสมัยกับสมเด็จฯโต วัดระฆัง กรุงเทพฯ ,หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร, กรมพระยาปวเรศฯ วัดบวรนิเวศฯ กรุงเทพฯ,หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย จ.สมุทรปราการ และเจ้าคุณเฒ่า (เอี่ยม) วัดหนัง กรุงเทพฯ เป็นต้น เมื่อท่านอายุได้ ๒๒ ปี ได้อุปสมบทที่วัดบ่อ ต.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ลุล่วงถึงปี พ.ศ. ๒๓๙๕ (ช่วงรัชกาลที่ ๔ ) จึงได้ย้ายมาสู่ วัดสว่างอารมย์ (วัดสะพานสูง) ต.บ้านแหลมใหญ่ (ต.คลองพระอุดม) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขณะนั้นมีพระ ๒ รูปเท่านั้น ในระหว่างที่ย้ายมาสู่วัดสะพานสูง ท่านได้ออกธุดงค์ไปทางแถบประเทศเขมร เพื่อเล่าเรียนวิชา และธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ว่ากันว่า ท่านธุดงค์หายไปนาน ๑๐ ปี จนกระทั่งชาวบ้านแหลมใหญ่และญาติโยมคิดว่าท่านได้ถึงแก่มรณภาพแล้ว จึงจัดแจงทำบุญบังสกุล และทำสังฆทานแผ่ส่วนกุศลไปให้ท่าน ทำให้หลวงปู่เอี่ยม ทราบด้วยญาณของท่าน ท่านจึงเดินทางกลับวัด ปรากฏว่าท่านไม่ได้ปลงผม ผมจึงยาวถึงบั้นเอว จีวรขาดรุ่งริ่ง หนวดเครายาวเฟิ้ม พร้อมกับมีสัตว์ปา เช่น หมี,เสือ,งูจงอาง ติดตามมาส่งท่านด้วย จากการเจริญกรรมฐานนี้ มีเรื่องเล่ากันว่ามีต้นตะเคียนต้นหนึ่งมีน้ำมันตกและดุมากเป็นที่เกรงกลัวแก่ชาวบ้านแถบนั้น หลวงปู่จึงช่วยยืนเพ่งอยู่ ๓ วันเท่านั้น ต้นตะเคียนก็เฉาและยืนต้นตาย หลวงปู่เป็นผู้มีอาคมฉมัง วาจาสิทธิ์ มักน้อยและสันโดษ ท่านเป็นต้นแบบในการพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบันนี้ ท่านได้สร้างถาวรวัตถุที่ได้เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้คือพระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ พระเจดีย์ จึงเป็นที่มาของการสร้างพระปิดตา และตะกรุดโทนมหาโสฬสมงคลอันลือลั่นนั่นเอง จวบจนเมื่อถึงวันจันทร์ที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๘ เวลา ๑๐.๐๐ น.(ช่วงรัชกาลที่ ๕)ขึ้น ๙ ค่ำเดือน ๙ ท่านได้มรณภาพ ด้วยโรคชรา รวมสิริอายุได้ ๘๐ ปี ก่อนที่ท่านจะมรณภาพได้มีศิษย์ผู้ใกล้ชิดเป็นตัวแทนของชาวบ้าน และผู้เคารพนับถือ ศรัทธา ที่มีและไม่มีของมงคลท่านไว้บูชา กราบเรียนถามหากว่าเมื่อหลวงปู่ได้มรณภาพแล้วจักทำประการใด ท่านจึงได้ มีปัจฉิมวาจาว่า " มีเหตุสุข ทุกข์ เกิดนั้น ให้ระลึกถึงชื่อของเรา" จึงเป็นที่ทราบและรู้กันว่า หากผู้ใดต้องการมอบตัว เป็นศิษย์หรือต้องการให้ท่านช่วยแล้วด้วยความศรัทธายิ่ง ก็ให้เอ่ยระลึกถึงชื่อของท่าน ท่านจะมาโปรดและคุ้มครอง และหากเป็นเรื่องหนักหนาก็บนตัวบวชให้ท่าน รูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงปู่ท่านประดิษฐานอยู่หน้าพระอุโบสถ สร้าง(หล่อ) ขึ้นเมื่อพ.ศ. ๒๔๘๐ ในสมัยหลวงปู่กลิ่น ผู้ปกครองวัดต่อจากท่าน เพื่อการสักการะบูชา ต่อมาจนทุกๆวัน จะมีผู้ศรัทธาจากทุกสารทิศมากราบไหว้และบนบานฯ ตลอดเวลาตราบแสงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า ท่านชอบกระทง ใส่ดอกไม้เจ็ดสี จะมีผู้นำมาถวายและแก้บนแทบทุกวันโดยเฉพาะในวันพระแม้แต่ผงขี้ธูปและน้ำในคลองหน้าวัดก็ยัง มีความ"ขลัง" อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง และหลังจากที่ท่านมรณภาพล่วงไปเนิ่นนานแล้วก็ตามที ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ผลปรากฏว่าฐานที่ท่าน เคยถ่ายทุกข์เอาไว้และปิดตาย คราวที่เกิดไฟไหม้ป่าช้า ฐานของหลวงปู่เอี่ยมเพียงหลังเดียวเท่านั้นที่ไม่ไหม้ไฟ เมื่อความอัศจรรย์ปรากฏขึ้นเช่นนั้น ผู้คนจึงค่อยมาตัดเอาแผ่นสังกะสีไปม้วนเป็นตะกรุดจนหมดสิ้น นอกจากนั้นแล้ว ยังมารื้อเอาตัวไม้ไปบูชาจนไม่เหลือหรอ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่ได้อะไรเลยก็มาขุดเอาอุจจาระของท่านไปบูชา ของขลัง ...ตะกรุดมหาโสฬสมงคล ท่านได้ใช้ความตั้งใจพากเพียรพยายามทยอยสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆ เพื่อแจกจ่าย ทำทุนปัจจัยมาสร้างโบสถ์ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ และเจดีย์แก่ผู้ร่วมบริจาคทรัพย์ เงิน ๑ตำลึง หรือ ๔ บาท หรือจะนำทราย หรือ อิฐ หรือหิน จำนวน ๑ ลำ หรือกำปั้น ก็จะได้ตะกรุด ๑ ดอก การปลุกเสก...เห็นจะไม่มีอิทธิของวัตถุสำนักใดๆ ที่มีการปลุกเสกของท่านตามลำพังเงียบๆ ภายในกุฏิทุกค่ำคืน และแทบจะตลอดอายุขัยของท่านทีเดียว โดยต้องปลุกเสกด้วยโองการมหาทะมึนให้ครบ ๑๐,๐๐๐ จบ ในเวลา ๓ ปี การใช้เวลาอันเนิ่นนานปานนี้ จึงไม่มีปัญหาเลยว่า ตะกรุดของหลวงปู่ จะไม่เป็นยอดแห่งบรรดาตะกรุดทั้งหลาย เป็นตะกรุดที่ทรงคุณค่าควรเมือง หรือค่าพันตำลึงทองทรงอิทธิพลังพุทธาคุ้มเกรงภยันตรายทั้งปวง ผู้ใดมีไว้ครอบครองหมั่นบูชา กราบไหว้ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นจะเป็นสิริมงคลแก่ตัวและวงศ์ตระกูล และพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ ชีวิตจักไม่ตกต่ำเป็นมหามงคลยิ่งใหญ่มีเมตตามหานิยม เจริญลาภผล จังงัง กำบังภัย แคล้วคลาด คลกระพันชาตรี บำบัดและป้องกันเจ็บไข้ เสนียดจัญไรโจรภัยกันไฟพ้นจากศัตรูหมู่สัตว์ร้าย อย่าว่า แต่ปืนผาหน้าไม้เลย แม้แต่อหิงสา หรือฟ้าผ่าก็ยังกันได้ แจ้งเหตุการณ์ให้ทราบก่อนล่วงหน้า ดลใจในทางที่ถูกที่ควร ถ้าอยู่ในบ้านเรือนบูชา ก็จะมีแต่สิริมงคล แต่ที่สำคัญจะทำให้ผู้มีไว้ครอบครองได้สัมฤทธิ์ผล แห่งเดชนุภาพทั้งปวง แต่ต้องปฏิบัติตน ให้อยู่ในศีลในธรรม ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยมจึงเด่นขึ้นสู่ความนิยม และมีค่านิยมสูงยิ่ง เป็นอันดับหนึ่ง ของบรรดาเครื่องรางและตะกรุดมาเนิ่นนานกว่าใคร เป็นวัตถุมงคลที่มีสนนราคาสูงยิ่ง และหายากยิ่งจนมีผู้สืบเสาะ อยากจะเป็นเจ้าของกันทั่วไป เรื่องเล่าชาวสยาม เครดิต เรื่องเล่าชาวสยาม
วัดใจ ! พระปิดตา " หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง " เกจิดังจังหวัดสุพรรณบุรี พระ ครูปรีชาวุฒิคุณ หรือ " หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง" จ.สุพรรณบุรี ท่านเป็นลูกศิษย์ของคณาจารด์ดังเก่ง ๆ หลายท่าน อาทิ หลวงพ่อโอภาสี , หลวงพ่อศร วัดป่าเรไร ฯลฯ เมื่อท่านเรียนวิปัสนา ท่านได้อยู่ที่วัดเขาดีสลัก และเป็นผู้บูรณะวัดเขาดีสลักจนเจริญรุ่งเรือง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย และต่อมาท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดดอนโพธิ์ทอง และบูรณะวัดดอนโพธิ์ทองเรื่อยมา จวบจนอายุขัยของท่าน หลวงพ่อฮวด มรณภาพเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2539 สิริอายุรวมได้ 86 ปี ท่านเป็นพระที่มีวาจาศิษย์ จะไม่พูดจาติิิเตียนใคร และพูดน้อย เพราะสิ่งที่ท่านพูดจะเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง แม้แต่เรื่องในอนาคตท่านจะพูดได้ถูกต้องแม่นยำ หลวงพ่อฮวดท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นอย่างมาก วัตถุมงคลของท่านทำไว้มากมายบางอย่างก็มีราคาสูง และ บางอย่างก็หาไม่ได้ เช่่น เหรียญ พ.ศ.10 , พระชัย เอสโซ่ และพระทองคำ และอื่นๆอีกมากมาย และที่หายากที่สุดก็คือ พระกริ่งของท่าน เพราะสร้างแจกเฉพาะลูกศิษย์ 84 องค์เท่านั้น พระเครื่องของท่านเมื่อลูกศิษย์นำไปใช้เกิดปาฏิหารแทบทุกรุ่น จนเป็นที่เล่าลือและโด่งดังในจังหวัดสุพรรณบุรี ตอนนี้ท่านได้มรณะมารวม สิบกว่าปี ร่างกายของท่านกลายเป็นนิล และเป็นที่เคารพนับถืบกราบไหว้ของคนชาวเมืองสุพรรณและบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่ว ไป พระ ปิดตา " หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง " รุ่นนี้ จัดสร้างในปี 2536 มวลสาร ประกอบด้วยผงวิเศษของหลวงพ่อที่ท่านบรรจุอาคมและลบผงเอง และนำผงวิเศษของคณาจารย์ต่างๆ อาทิเช่น หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ , หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ , หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย , หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ , หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก , หลวงปู่ดี วัดพระรูป และคณาจารย์ต่างๆ อีกมากมายไม่น้อยกว่า 70-80 รูป นอกจากนี้ยังได้นำผงพระสมเด็จวัดระฆังมาประกอบด้วยและยังรวมถึงพระกรุ พระเก่าในอดีตที่ชำรุดแตกหักมาเป็นมวสสารในการจัดสร้าง พระ เกจิอาจารย์เข้าร่วมพุทธาภิเษก ประกอบด้วย พระ ครูปรีชาวุฒิคุณ (หลวงพ่อฮวด) จ.สุพรรณบุรี, หลวงปู่ดี วัดพระรูป จ.สุพรรณบุรี, หลวงพ่อเจริญ วัดธัญญวารี (หนองนา) จ.สุพรรณบุรี, หลวงพ่อปลื้ม วัดสวนหงส์ จ.สุพรรณบุรี และ หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า จ.สุพรรณบุรี ฯลฯ ดังนั้น พระปิดตารุ่นนี้ จึงมีพระพุทธคุณเอนกอนันต์ และมากมายไปด้วยมวรสารศักดิ์สิทธิ์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้เป็นมรดกแก่ลูกหลาน ... บุญยวีร์ ... เปิดราคาวัดใจ ! ให้ท่านประมูลแบบสบาย ๆ ไม่ต้องจ่ายแพงของดีแบบนี้ ราคาแบบนี้ หาได้ที่ไหน !ครับ