อ้างอิงถึงรายการ : /auction/หลวงปู่ทิม-หลวงพ่อสาคร-หลวงพ่อสิน/6040278

ขุนแผนเวสิยาฤกษ์ หลังม้าศรีหมอก พิธีมงคลเวสิยาฤกษ์ และขุนแผนนะอกแตก พิธีมงคลเวสิยาฤกษ์พิธีมงคลเวสิยาฤกษ์หรือเทศาตรีฤกษ์ เทศาตรีฤกษ์ แปลตรงตัวว่า “ข้ามท้องถิ่น” บางตำราเรียกว่า “เวสิยาฤกษ์” หมายถึง ฤกษ์พ่อค้า แม่ขาย สตรีทำการค้า เหมาตลอดถึงการเอาตัวเองทำการค้า จึงเป็นฤกษ์สำหรับงานติดต่อการค้าระหว่างถิ่น ความสนุกสนาน ครอบคลุมถึงดารา นักร้อง ศิลปิน ประกอบอาชีพนอกสถานที่ หรือ อาชีพเร่ร่อน ไม่เป็นที่เป็นทาง ต้องย้ายถิ่นฐานอยู่เสมอ อ. ชินพร ได้ทำพิธีเบิกตินฤกษ์เป็นฤกษ์ที่ ๘ ในการสร้างพระกริ่งชินบัญชร ๙ มหาฤกษ์ ๙ มหาชัย ๙ มหามงคล ๙ มหาเศรษฐี เมื่อวันศุกร์ที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๔ ที่ผ่านมาและในเทศาตรีฤกษ์นี้ ยังมีความพิเศษกว่าฤกษ์อื่น คือ จะมีตินฤกษ์หรือฤกษ์อกแตกซ้อนกันอยู่ในมหาฤกษ์นี้ด้วย จะบังเกิดผลด้านมหาเมตตา อุดม ประสบ โชคลาภ สมความปราถนาและเป็นมหาเสน่ห์อย่างรุ่นแรง ด้วยแจ้งแก่ใจในฤกษ์ พิศดารนี้ อ.ชินพร จึงได้จัดสร้างวัตถุมงคล ขึ้นมาให้เป็นการเฉพาะและเหมาะสมกันกับฤกษ์มหาเมตตาอย่างแรงในครั้งนี้จึง ได้เชิญ ฤาษีเฒ่าเพชรดำเมืองขุนแผน จ.สุพรรณบุรี ผู้ทรงญานวิเศษของฤาษีเพชรฉลูกรรณ์ มาร่วมทำพิธีเบิกฤกษ์ด้วย เมื่อพบกัน อ.ชินพรกล่าวทักทาย และสัมผัสตัวฤาษีเพชรดำ ณ ประรำพิธีเกิดปรากฏมหัศจรรย์ฟ้าร้องคำรามถึง ๓ ครั้ง ฤาษีเพชรดำตกใจกล่าวกับ อ.ชินพรว่า “ครูแรงจริง”ศิษย์ อ. ชินพรหลายคนพูดว่า สองผู้มีวิชาเจอกันก็มีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นจนได้ จะถึงเวลาทำพิธีเบิกฤกษ์ ฤาษีเพชรดำเข้าญาณเชิญครูฤาษีพระเพชรฉลูครรณีจนเกิดฝนฟ้า พายุพัดอย่างรุนแรงบริเวณที่จัดพิธี จนคณะศิษย์ อ.ชินพรและศิษย์ที่ติดตามฤาษีว่า ฝนตกหนักจะจัดพิธีได้หรือ? ฤาษีท่านบอกว่า “ข้าใช้มนต์ธรณีสารใหญ่ เพื่อล้างอาถรรพ์ต่าง ๆ เดี๋ยวก็หยุด” และก่อนจะได้เวลาที่กำหนด พายุฝนที่ตกลงมาอย่างแรงไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดได้โดยง่าย ก็หายไปอย่างอัศจรรย์ เมื่อได้เวลาอันเป็นมงคลฤาษีเพชรดำและอ.ชินพรจึงเริ่มพิธีเบิกฤกษ์สร้างพระ กริ่งทำการหุงน้ำมันเพศยาสาวสามร้อยผัว และปลุกเสกวัตถุมงคลอันได้แก่ พระขุนแผนเวศิยา(โคตรผงมหาภูติ) และผ้ายันต์ม้าเสพนางและตะกรุดนะอกแตกและอุษณีพระมารดา (๑๕) ชั้น(แจกผู้ร่วมพิธีในงาน) พอทำพิธีเสร็จในช่วงเช้าซึ่งเป็นเทศาตรีฤกษ์ ฤาษีเพชรดำถึงกับกล่าวขึ้นว่า “ของแรง ของแรง ดี จริง ๆ” หลังจากนั้นในขณะที่รอทำพิธีในตอนเย็น ซึ่งเป็นทินฤกษ์หรือฤกษ์อกแตกฤาษีเพชรดำยังได้เมตตาเล่าถึงนิมิตรในพิธีปลุก เสกว่า “ข้าเชิญครูพระเพชรฉลูกรรณ์ และเรียกนามเชิญพ่อขุนแผนมาช่วย” เมื่อพอคณะศิษย์หลวงปู่ทิม จัดปะรำพิธีในช่วงเย็นเสร็จ ฤาษีเพชรดำ ยังกล่าวขึ้นอีกว่า “เอ็งเห็นไหมพ่อขุนแผนกับปู่ใหญ่ท่านก็มา อยู่กลางปะรำพิธี” ซึ่งก่อนพิธีจะเริ่มลูกศิษย์หลวงปู่ทิมที่รับอาสาปั้นรูปฤาษีอิสริโกและขุน แผนนั่งแท่นก็ได้นำรูปั้นต้นแบบมาส่งให้ อ.ชินพร ท่านจึงให้ไปวางในปะรำพิธีจากนั้นพอได้เวลามหามงคล (ฤกษ์อกแตก) ฤาษีเพชรดำและ อ.ชินพรจึงทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลต่าง ๆ อีกครั้ง ทั้งยังได้มีพิธีหุงสีผึ้งกามตัณหา ตามตำรากามสูตรขึ้นในฤกษ์อกแตกอีกด้วย หลังการนั่งปลุกเสกประจุอาคมได้ประมาณพักใหญ่ อ.ชินพร จึงทำเตโชกสิน เพิ่งไปยังวัตถุมงคล จนเปลวเทียนชัยในพิธีเกิดแสงสว่างมากขึ้น อ.ชินพร ยังร่ายเวทย์ต่าง ๆ เป่าลงในวัตถุมงคลต่าง ๆ ในปะรำพิธีจนฤาษีเพชรดำ ต้องออกจากญาณสมาธิและสวดมนต์ให้แทน ถามภายหลังจึงทราบว่า “ของเต็มแล้วเอ็งจะให้ข้าทำอะไรอีก” เมื่อเสร็จพิธี อ.ชินพรจึงโปรยข้าวตอกดอกไม้แล้วให้ฤาษีเพชรดำ พรมน้ำพระพุทธมนต์ด้วยฤกษ์มหามงคล ฤาษีเพชรดำจึงนำตะกรุดตอแหลมาแจกซึ่งท่านไม่เคยแจกงานที่ใดมาก่อนกับผู้ร่วม ในพิธี ให้เหมาะสมกับฤกษ์อกแตก และวัตถุมงคลต่าง ๆ ผู้ที่มาร่วมชมพิธีกว่าร้อยคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้เป็นพิธีเล็ก ๆ แต่ศักดิ์สิทธิ์และเข้มขลังเหลือเกินแทบไม่อยากเชื่อถ้าไม่มาเห็นด้วยตาตัว เอง สำหรับของที่ปลุกเสกมีรายละเอียดดังนี้ ขุนแผนเวสิยาฤกษ์ (โคตรผงมหาภูติ) หลังยันต์อกแตกและม้าศรีหมอก ขุนแผนเวสิยาฤกษ์ (โคตรผงมหาภูติ) หลังยันต์อกแตก สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกโดยศิษย์คนสุดท้ายของหลวงปู่ทิม ตามฤกษ์มหามงคล เวสิยาฤกษ์พร้อมผ้ายันต์ม้าเสพนาง น้ำมันเพศยาสาวสามร้อยผัวสำหรับขุนแผนนั้นได้ นำมวลสารที่ อ.ชินพร เก็บรักษาและผ่านการปลุกเสกมาแล้วหลายวาระ อาทิ น้ำมันช้างตกมัน น้ำมันพรายผีแม่ส้ม ผงมหาภูติ ร้อยหมื่นสังขารจากแม่น้ำคงคา น้ำมันหลวงพ่อฤทธิ์ วัดชลประทาน จังหวัดบุรีรัมย์ น้ำมันชาตรีขุนแผน รากราคะ ว่านดอกทอง ๑๒ ชนิด ผงลูกสวาท ผงยอดสวาท ไม้กาหลง ไม้มงคล ๙ ชนิด ในพิธีย่างกุมารทอง ไม้จิ้มผี เถ้าไม้อาถรรพ์ ผงมหาภูติ ดินถ้ำขุนแผน ดินใจกลางอกขุนแผน ผงไม้ตะเคียน ๒๐๐ ปี ไม้ไก่กุ๊ก ดิน ๗ ท่า ดิน ๗ ทุ่ง ดิน ๗ ป่าช้า ดินโป่งนก ไม้กาหลง ผงไม้ขนุนตายพราย ผงกะลาไม่มีตา ผงไม้วัวลืมคอก ผ้าอาถรรพ์ซับน้ำมันพรายหลวงปู่ทิม และผ่านพิธีสำคัญมาหลายพิธีโดยเฉพาะ พิธีย่างกุมาร หุงสีผึ้งพรายแม่ส้ม และซับน้ำมันพรายที่เดือดขึ้นเองในพิธีนี้ด้วยผงมหาภูติยอดพราย สำหรับอาถรรพ์ต่าง ๆ อ. ชินพร ได้นำผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม คลุมไว้เพื่อไม่ให้เกิดหรือส่งผลทางร้าย ต่อผู้นำไปใช้ ดังนี้หลวงปู่ทิมเคยพูดว่า คนสมัยใหม่เชื่อถืออะไรยากคุณพระให้ผลช้า ต้องเอาผีช่วยแอบ (ผีในที่นี้หมายถึงภูติที่หลวงปู่ทิม บวชให้แล้ว) ขุนแผนเวสิยาฤกษ์ (โคตรผง) หลังยันต์อกแตกและม้าสีหมอกจึงเป็นเลิศทางอาถรรพ์มงคลด้านเมตตามหา นิยม(ใหญ่) จะบังเกิดอิทธิคุณเกื้อหนุนให้เป็ฯไปตามใจปราถนา แห่งผู้สักการบูชาโดยเร็วที่สุดและ อ.ชินพรปลุกเสกตามวิชามหาเมตตา(ใหญ่) อันได้แก่ มหาเมตตา ใครเห็นหน้าแล้วต้องชอบใจเมตตาสงสารรักใคร่ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ สำเร็จด้วยมนต์ ขุนแผนชมตลาด มหานิยม เมื่อรู้จักเห็นหน้าถูกชะตา แล้วต้องสนทนาพูดคุยใครได้ยินเสียงแล้วจะเกิดประทับใจติดหูคล้อยตาม แม้จากไปคนทั้งหลายก็จะนิยมสรรเสริญ สำเร็จด้วยมนต์พยาการเวก มหาเสน่ห์ เมื่อเกิดประทับใจแล้วยังไม่พอต้องอยากเจออีกครั้ง และ ดีใจเมื่อได้พบหน้าอยู่เสมอ เรียกว่าเป็นคนมีเสน่ห์ ด้วยมนต์นะหน้าทอง นะอุณาโลมแก่ทุกเพศทุกวัย มหาละลวย เมื่อเป็นที่ประทับใจแล้วบางครั้ง อาจทำผิดพลาดเป็นเหตุให้เกิดการโกรธเคือง มันต้องใช้วิธีมหาละลวย จึงจะส่งผลให้เกิดความเมตตาสงสารโกรธเกลียดไม่ลง เรียกว่า “มหาละลวย” มหารำลึก เมื่อเป็นที่เมตตารักใคร่ของทั้งหลายแล้ว ถ้าให้ดีเขาต้องหมั่นคึดถึง ห่วงใย ในตัวเรา ดั่งบิดามารดาอาทรต่อบุตร คิดถึงอยู่วันละ ๗ ราตรี คอยเป็นห่วงด้วยพระมนต์ มหารำลึก เทพนิมิต เมื่อเป็นที่รักที่คิดถึงแล้ว ถ้าจะให้มีกำลังถึงที่สุดจนอ่อนใจ ทุกครั้งเมื่อได้พบปะ เจอะเจอกันต้องเสกด้วยมนต์เทพนิมิต คือ ตื่นก็ชื่นชม เห็นหน้าก็คิดถึงไม่เห็นหน้าก็คิดถึง หลับก็เก็บเอาไปคิดฝัน จึงจะเรียกได้เต็มปาก เต็มคำว่าเป็น มหาเมตตา ด้วยมนต์เทพนิมิต มหาลาภ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับมหาเมตตา (ใหญ่) คือ จะต้องมีมหาลาภด้วย จึงจะครบสมบูรณ์ เพราะก่อนที่ใครจะให้ลาภเรา เขาต้องมีจิตเมตตาในตัวเราเสียก่อน จึงใช้มนต์พญาไก่กุกและมนต์พญาการะเวกเรียกทรัพย์การปลุกเสกในระดับจิตชั้น สูง จะเป็นต้องมีพระมนต์สำคัญ อีก ๔ บทคือ มนต์มหาจินดามณี ซึ่งเป็นตำราเก่าของหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดระหารไร่ ซึ่ง อ .ชินพร จะใช้เป็นหลักใน การปลุกเสกวัตถุมงคลทุกชนิดที่ ส่งผลอิทธิพุทธคุณ ไปทางเมตตา เจริญด้วยลาภสักการะน้อยใหญ่ อุดมด้วย อาหาร การกิน เจริญรุ่งเรืองในด้านการค้าขาย มนต์นางพันธุรัตน์เรียกเหยื่อ หรือมนต์เฒ่าพรานเรียกเนื้อเรียกสัตว์เป็นวิชาที่หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ .เพชรบุรี ใช้เป็นประจำเมื่อมีผู้มาขอให้ทำวัตถุมงคลด้านเมตตามหานิยม ท่านก็จะใช้ มนต์นางพันธุรัตน์ นี้ปลุกเสกกำกับลงไป ด้วยทุกครั้งเพราะมนต์นางพันธุรัตน์นี้ จะส่งผลทางโชคลาภน้อยใหญ่ โดยเฉพาะลาภลอย ติดต่อ เจรจา งานธุรกิจกับผู้ใหญ่ก็ดียิ่งนัก มนต์พระฉิมพลี มีอิทธิคุณปรากฏ ผลทางโชคลาภโดยเฉพาะได้รับของกำนัล ของฝาก โดยเทพ เทวา ทั้ง ๘ ทิศาดลจิตหรือเนรมิตให้บังเกิด ไปในแห่งใด ๆ ใครเห็นหน้า ดีนักรักเมตตา มีดีอะไรดีนำมาให้ พระสีวลีมหาลาภ มีฤทธิ์ทางลาภ ผลต่อเนื่องเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ทั้งปวง ไปอยู่ที่ใดไม่มีอด จะค้าขายก็มีกำไร ไม่ขาดทุน มีโชค มีทรัพย์น้อยใหญ่ไม่ขาดสาย " ดุลดังพระสิวลีที่พระพุทธองค์สรรเสริญว่าเป็นมนต์กะท่อมเศรษฐี หรือ อิติปิโสเข้าถ้ำเป็นบทสรรเสริญพระพุทธคุณ ๕๖ ที่ครูบาศรีวิชัย ใช้สวดภาวนาเรียก เทวดาและผู้คนมาช่วยกันสร้างทางฝ่าภูเขาขึ้นสู่ดอยสุเทพสำเร็จ ด้วยความมหัศจรรย์ นอกจะเป็นมนต์ค่ายกลปิดบังกะท่อมด้วยแล้วยังเป็นมนต์วิเศษที่สุด พระขุนแผนพรายกุมาร นะอกแตกและม้าศรีหมอกฟ้าฝ่า จึงเป็นสุดยอดขุนแผน ที่หลวงปู่ทิม สั่งให้สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นวัตถุกายสิทธิโดยท่านจะลงมาประสิทธิให้ ให้สมกับที่คณะศิษย์จะสร้างรูปเหมือนที่ใหญ่ที่สุดให้ท่าน จึงจะให้วัตถุมงคลชุด ๙ ฤกษ์ ๒๐๐ ปี เป็นวัตถุพุทธะกายสิทธิ เหนือกว่ากายสิทธิใด ไว้เป็นสมบัติโลก คุ้มครองได้ทุกทิศทุกทางของเพียงอย่างเดียวอย่าไปละเมิดของรักของเขา ส่วนยันต์ม้าเสพนางนั้น เป็นปรัชญาแห่งความรักของสัตว์โลกไม่เว้นแม่แต่มนุษย์และสัตว์เป็นปริศนาที่ ปรามาจารย์ที่คนโบราณแฝงคติไว้ เพื่อให้มนุษย์มีสติได้คิด แต่ถึงกระนั้นก็ยังนำอักขระเลขยันต์ที่เป็นสุดยอดของเมตตามหานิยมมาแฝงไว้ เพื่อเป็นการชักจูงให้ผู้คนหันเข้ามาทางนี้ หากมีสติได้คิดก็จะได้หันมาเข้าสู่หลักปรัชญาแห่งชิวิต จนมุ่งหน้าเข้าหาความหลุดพ้นในที่สุด น้ำมันเพศิยาสาวสามร้อยผัว สร้างขึ้นตามศาสตร์พระคัมภีร์พระเวทปัญจมบรรพซึ่งเป็นตำราคัมภีร์พระเวท สายกรุงศรีอยุธยา สืบทอดต่อกันมาจากพระครูเกษมชัยคุณ (หลวงปู่ฉาบ เขมจิตโต) วัดคลองจันทร์ จ .ชัยนาท ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน โดยเอาน้ำมันมะพร้าว ๑ น้ำมันงา ๑ น้ำมันหอม มาประกอบกันถึง ๙ ชนิด และหัวว่านไม้มงคลต่างๆ อาทิ ว่านอุดมโชค ว่านอุดมทรัพย์ ว่านจูงนาง ว่านห้าร้อยนาง ว่านสาวหลง ว่านดอกทองตัวผู้ตัวเมีย ผงไม้สากกะเบือแม่หม้ายลูกโทน ผงไม้กาหลง น้ำมันสาลิกาหลงรัง ทั้งยังได้นำว่านสาวสามร้อยผัว จากเทือกเขาบรรทัด โดยพิธีเบิกว่านจากเทพารักษ์ เจ้าป่าเจ้าเขาก่อน จึงจะนำมาแช่รวมกับกระทงดอกไม้ ๕ กระทง พอเจอแดดสายหงายแก่ขึ้นมาไม่เกินเที่ยง ทำศาลขึ้นเพียงตา กระทงข้าวตอกดอกไม้มาวางไว้บนศาลเทารักษ์แล้วให้จัดแจงเอาเครื่อง เอาน้ำมันที่เราจะกระทำการเอามาวางตั้งไว้ให้พร้อม แล้วประจุด้วยอาคมทางมหาเมตตา ถ้าเห็นแดดฟ้ากล้า ให้ภาวนาไปพรางกวนไปพราง ก่อนน้ำมันจะเสร็จนั้น จึงเอาเกสรสารภี ๑ พิกุล ๑ บุนนาค ๑ เกสรกาหลง ๑บัวหลวง ๑ บัวเผื่อน เกสรมะลิซ้อน ๑ มะลิลา ๑ มะลิวัลล์ ๑ เกสรรักซ้อน ๑ ยอดสวาท ๑ ดอกหนาด ๑ ดอกพุด ๑ ดอกมะกรูด ๑ ดอกส้มป่อย ๑ ดอกจำปา ๑ ดอกกุหลาบ ๑ ดอกอังกาบ ๑ ดอกคันทรง ๑ ยา ๑๒ สิ่งนี้เอามาเสมอภาคกันหุงขึ้นจนเป็นน้ำมัน จากนั้นนำแผ่นฤกษ์ ยันต์บริวาร ๑๒ พระยันต์ พร้อมแผ่นยันต์ผูกจิตลงพระนามของ นางตัณหา นางราคะ นางอรดี เชื่อกันว่าหากผู้ใดที่ยังอยู่ในวัฎสงสาร ก็ไม่สามารถ หลีกพ้นอำนาจของพระนางได้เมื่อทำการแช่แผ่นยันต์ หัวว่าน และไม้มงคลต่างๆแล้ว อ .ชินพร และฤๅษีเพชรดำได้ร่วมกันทำการปลุกเสกหนุนธาตุให้มงคลวัตถุต่างๆ รับผลจากลังไสยเวทเกิดเป็นมหาเสน่ห์อย่างรุนแรง โดยปลุกเสกทามกลางเงาดำของจันทร์ เดือนมืดเพื่อเพิ่มความเมตตาเพิ่มให้เป็นทวีคูณ เพราะความดำนับได้ว่า น้ำมันหม้ายเพศยาสาวสามร้อยผัว สร้างขึ้นตามศาสตร์โบราณอย่างแท้จริง และปลุกเสกด้วยพระเวทมหาเมตตาใหญ่ ให้ครบศาสตร์ถูกสูตรตามโบราณจารย์ เพื่อยังผลให้ผู้นำไปใช้ สำเร็จกิจได้ทั้งชายหญิง เข้าที่ไหนได้ทุกแห่ง ประจักษ์แจ้งทุกตำบล ด้วยคุณมนต์ยาทั้งหลายได้โดยง่ายด้วยเทวาประสิทธิ์ เกิดอิทธิคุณรุนแรงอย่างแท้จริงทุกประการ " ผ้ายันต์ม้าเสพนางผัวตายคาอก ผ้ายันต์ม้าเสพนาง ผูกพระเวทย์อักขระเลขยันต์ต่าง ๆ โดย อ.ชินพร ได้นำมารจนาผูกมนต์ต่าง ๆ ขึ้นเป็ฯอักขระขอมไทยลงด้วยมนต์ผูกจิตหัวใจมนุษย์ชายหญิงและมนต์เทพรัญจวน ให้เกิดอิทธิคุณทางด้านมหาเสน่ห์ ซึ่ง อ.ชินพร นำน้ำมันพรายอาถรรพ์ทางด้านมหาเสน่ห์ซับผ้ายันต์ม้าเสพนางทุกผืนจากนั้น อ.ชินพร ประจุอาคมด้วยมนต์ปฐมกำเนิดเรียกรูปนามหัวใจมนุษย์ทั้งชายหญิง และเรียกมนต์ นะอกแตกลงไปยังผ้าทุกผืน จึงเป็นเลิศในทางศาสตร์กามสูตรอย่างแท้จริง โดยผ้าที่ได้มามีไม่มากจึงจัดสร้างได้จำนวนจำกัด ตอกเลขลำดับไว้ทุกผืน

เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ – January 21, 2016 11:50:04

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/กระดานวัดดวง/6116939

เขียนโดย :atts29 เจ้าของรายการ – January 18, 2016 12:04:49

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/กระดานวัดดวง/6117047

เขียนโดย :atts29 เจ้าของรายการ – January 18, 2016 12:04:38

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/กระดานวัดดวง/6104764

เขียนโดย :atts29 เจ้าของรายการ – January 18, 2016 12:04:30

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/เหรียญพระพุทธ-คณาจารย์-ก่อนปี-2520/6102036

เขียนโดย :atts29 เจ้าของรายการ – January 18, 2016 12:04:23

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระสมเด็จทั่วไป/6024075

หลวงปู่ปั้น สุปันโน ที่เข้าใจกันแต่เดิมว่า ท่านอยู่วัดสะพานสูง บางซื่อ นั้น ที่จริงแล้วท่านไม่เคยอยู่วัดสะพานสูงเลย ท่านเป็นเจ้าอาวาสที่สองของวัดใหม่ทองเสน เกียกกาย กทม. เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๐ จนถึง พ.ศ.๒๔๗๒ เดิมวัดใหม่ทองเสนแยกเป็นสองวัด คือวัดใหญ่ทองเสนและวัดป่าเลไลย์ ภายหลังหลวงปู่ปั้นได้บูรณะและรวมเป็นวัดเดียวกัน แล้วมีชื่อใหม่ว่า วัดใหม่ทองเสน ภายในวัดมีวิหารหลวงพ่อโตปางป่าเลไลย์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่มากสร้างในสมัยพระธรรมอุดม(ถึก) เจ้าอาวาสองค์แรก พระธรรมอุดมองค์นี้เป็นพระคู่เทศน์กับสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) และสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)ก็ได้มาร่วมสร้างวัดและพระหลวงพ่อโตปางป่าเลไล ย์นี้ด้วย หลวงปู่ปั้นท่านยังได้ไปช่วยสร้างพระอุโบสถหลังเก่าของวัดห้วยขวาง (วัดกุนนทีรุทธาราม) ด้วย ต่อมาภายหลังท่านได้ไปอยู่ที่วัดบางกระบือ (วัดประชากระบือธรรม) จวบจนมรณภาพ ณ ที่วัดบางกระบือนี้ ท่านเป็นศิษย์เอกองค์หนึ่งของท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต การที่เข้าใจกันว่าท่านอยู่วัดสะพานสูงนั้นอาจจะว่าเนื่องจากอาจารย์เจ๊ก ซึ่งเป็นภิกษุที่อยู่วัดสะพานสูงนั้นท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่ปั้นอีกทอด หนึ่ง อาจารย์เจ๊กองค์นี้เป็นที่ทราบกันดีว่าวิชาอาคมเก่งกาจองค์หนึ่งและคงได้นำ เอาพระเครื่องของหลวงปู่ปั้น มาแจกที่วัดสะพานสูง ด้วยนั่นเองคือสาเหตุแห่งการเข้าใจกันผิด หลวงปู่ปั้น ท่านได้สร้างพระเนื้อผง ตามแบบอย่างของท่านสมเด็จโต ไว้หลายพิมพ์ เป็นพระแบบสมเด็จสี่เหลี่ยมและพระปิดตา ข้างเป็นรอยตัด และหลังเรียบ แต่พระบางองค์ของท่านด้านหลังประทับตราพัดยศลึกลงไปในเนื้อพระก็มี ส่วนเนื้อหาพระหลวงปู่ปั้น เป็นพระผสมด้วย ผงวิเศษ มวลสารและปูนเปลือกหอยพระของท่าน ส่วนใหญ่จะมีเนื้อหยาบแก่มวลสารนับว่าคล้ายพระสมเด็จวัดระฆังฯ มากที่สุดถึงกับพระพิมพ์ ทรงกรวยของท่านยังเคยเข้าใจกันว่าเป็นพระสมเด็จวัดระฆังฯ ท่านนับว่าเป็นศิษย์ของสมเด็จโตที่ได้สร้างพระเครื่องไว้น้อยพิมพ์ที่สุด พระของท่านสร้างเมื่อตอนที่ท่านอยู่ที่วัดใหม่ทองเสน และท่านยังได้สร้างพระพิมพ์นาคปรกไปบรรจุที่วัดพระแก้ว เนื่องในโอกาสฉลองกรุงรัตนโกสินทร์มีอายุครบ ๑๐๐ ปี ด้วย พระสมเด็จนาคปรก หลวงปูปั้นและหลวงปู่ภู ที่ได้นำมาบรรจุกรุวัดพระแก้วถูกค้นพบคราวบูรณะวัดเมื่อคราวเฉลิมฉลองกรุง รัตนโกสินทร์ครบ 150 ปี พ.ศ.2475พระเครื่องของหลวงปู่ปั้นส่วนใหญ่ในปัจจุบันยังมีค่านิยมเริ่มมี ราคาขยับสูงขึ้น นับว่ายังเป็นโอกาสที่จะได้สะสมพระผงเนื้อสมเด็จที่มีมวลสารของสมเด็จวัด ระฆังฯครับ ปัจจุบันเริ่มหายากมาก โดยเฉพาะของแท้ๆ หลวงปู่ปั้นท่านเป็นพระยุคเดียวกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ และตามประวัติ ท่านได้รับการแต่งตั้ง จากท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ให้ปกครองดูแลวัดเขตย่านเกียกกาย บางซื่อ เรื่องมวลสาร ผงพุทธคุณ หายห่วง

เขียนโดย :เกื้อหนุน เจ้าของรายการ – January 16, 2016 12:40:04

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อผง-เนื้อว่าน/6067271

วัดใจแดงแรกเคาะ... สภาพสวยมาก พระพักต์ติดเต็มคมชัด  รับประกันพระแท้ตามกฎ

เขียนโดย :แดงบุปผา เจ้าของรายการ – January 14, 2016 12:05:09

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/ธนบัตร-เหรียญกษาปณ์-เหรียญที่ระลึก/6096393

          ล็อกเกตทรงผนวช พิมพ์รูปไข่ สร้างพร้อมเหรียญทรงผนวช วัดบวรนิเวศวิหาร พ.ศ.2508 หลังอุดเทียนชัย+เเผ่นเงิน ตอกโค๊ด+จีวร+ปิดทอง   ด้านหลังเดิมๆ สภาพเก่าแห้ง  พระปลุกเสกพิธีใหญ่ นับเป็นวัตถุมงคล ที่ทรง คุณค่า หายาก และน่าบูชามาก         @@@ มีลงอยู่ในหนังสือ มงคลแผ่นดิน รวมวัตถุมงคลยอดนิยมของพ่อหลวง @@@                             +++ รับประกันตามกฎครับ +++

เขียนโดย :atts29 เจ้าของรายการ – January 13, 2016 23:48:42

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/กระดานวัดดวง/6051902

เขียนโดย :atts29 เจ้าของรายการ – January 11, 2016 23:35:33

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุด-จ.สมุทรปราการ-สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม/6071356

พระสวยครับ รับประกันตามกฎ

เขียนโดย :atts29 เจ้าของรายการ – January 11, 2016 23:35:28