พระขุนไกร ประภามณฑล กรุอยุธยา
สร้อยนาคเก่า 45% ขนาดยาว20นิ้ว(2เส้นต่อห่วง) น้ำหนัก 10.60 กรัม (เกือบสามสลึง)
สมเด็จหลวงปู่นาคพิมพ์เทวดาปี2495
รับประกันพระแท้ตามกฎ
สมเด็จพระศาสดา กาญจนาภิเษก หลังสัญลักษณ๋ในหลวงครองราชย์ครบ 50 ปี สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรฯ ปี 39(หมุดทองคำ)
พระมงคลมหาลาภ วัดสารนาถธรรมาราม ปี 2499 พิมพ์พระประจำวัน ( วันจันทร์ ) หลังยันต์นะล้อม เป็นพระ สมเด็จแบบสมเด็จพระพุฒาจารย์ พระแบบสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ พระพุทโธเล็ก พระวัดตะไกร และพระแบบวัดนางพระยา ฯลฯ พระเครื่องเหล่านี้สร้างเป็นที่ระลึกในงานสมโภชพระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี ซึ่งสร้างที่ วัดสัมพันธวงศ์ พระนคร แล้วเชิญไปประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ วัดสารนาถธรรมราม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง พร้อมด้วยพระอัครสาวกซ้ายขวา เมื่อวันที่ ๕ - ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ นั้น บางท่านยังไปทราบประวัติที่ควรทราบ ซึ่งเป็นเหตุจะให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา เพื่อได้เคารพบูชาให้แน่บแน่น สมกับเป็นปูชนียวัตถุที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นมงคลเหตุเครื่องเจริญอายุ วรรณะ สุขะ พละ แลลาภยศ สรรเสริญ สมบัติเกียรติศักดิ์ แลคุณธรรม คือเป็นสือสำคัญที่จะให้ใจเข้าถึงอิฐผลนั้น ๆ อันนับว่าเป็นกำลังอันยิ่งใหญ่สำหรับชีวิต สามารถให้ถึงภาวะอันเป็นอิสระเต็มที่ มีความเกษมนิรันดร เมื่อสร้างแจ้งให้ทราบแต่การประกอบพิธีบันจุพุทธมนต์เป็นพิเศษที่ยิ่งใหญ่ โดยสังเขป ซึ่งยังไม่เคยเห็นทำที่ไหน คือจัดที่บูชาพร้อมเครื่องสังเวยต่างๆ มีเทียนธูป ข้าวตอก ดอกไม้ ๗ สี แลอาหารผลไม้ถึงอย่างละ ๓๗๕ ที่มีเบญจา มีเศวตฉัตร ๙ ชั้น สูง ๖ ศอก ๘ ต้น บายศรีเงิน บายศรีทอง ๙ ชั้น สูง ๖ ศอก อย่างละ ๘ ต้น บันจุพระพุทธมนต์ลงไปในน้ำ และผงที่จะสร้างพระนั้น โดยนิมนต์อาจารย์ผู้มีชื่อเสียงหลายวัดทำพิธีประจุมนต์ เข้าพิธีปลุกเศกมี - พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) วัดบวรนิเวศวิหาร - พระวรเวทย์คุณาจารย์ (เมี้ยน ปภสสโร) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม - พระมหารัชชมังคลาจารย์ - หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ - พระครูวินัยธรเฟื่อง (ญาณปปทีโป) - หลวงพ่อลี วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ (ช่วยทำพิธีและประสานงานด้วย) - พระสอาด อภิวฒฒโน วัดสัมพันธวงศ์ - พระครูนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา - พระอาจารย์บุ่ง วัดใหม่ทองเสน - พระชอบ สัมมาจารี วัดอาวุธวิกสิตาราม ธนบุรี เป็นต้น พร้อมด้วยบันจุ เทพมนตพรหมมนต์ โดยเชิญเทพแลพรหมผู้มีชื่อเสียงเก่าๆ มาเข้าทรงประกอบพิธีอธิษฐานบันจุมนต์ลงด้วย และบันจุมนต์โยคีโดยโยคีฮาเร็บ (อาจารย์ชื่น จันทรเพ็ชร) ผู้มีชื่อเสียงและ พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์ ผู้เป็นศิษย์เป็นผู้ทำพิธีบรรจุ เสร็จพิธีแล้ว จึงได้ใช้ผงประสมทำเป็นองค์พระได้มงคลฤกษ์ จึงได้ทำพิธีปลุกเศกพระเครื่องนั้นอีกครั้งหนึ่ง พระเครื่องที่จะทำพิธีปลุกเศกนั้น ห่อด้วยผ้าขาว ๗ ชั้น ผ้าเขียว ๗ ชั้น พิธีนอกนั้นเหมือนเมื่อบันจุมนต์ลงในผงแลน้ำที่จะสร้างพระ ตั้งน้ำมนต์สำหรับแจกผู้ต้องการซึ่งมาร่วมพิธี ๔๐ ตุ่ม แต่ไม่ได้กล่าวถึงผงที่นำมาประสมสร้างพระนั้นว่ามีอะไรบ้าง มีผู้สนใจต้องการทราบอยู่เป็นจำนวนมา จึงสมควรเขียนประวัติ เนื่องด้วยผงที่นำมาประสมสร้างพระเครื่องนั้น ให้ท่านทราบไว้ด้วย ดังต่อไปนี้ ๑. ผงขอจากพระอาจารย์ต่าง ๆ ที่ท่านทำและรวบรวมไว้หลายวัด เช่น วัดพระเชตุพน วัดตรีทศเทพ และวัดสัมพันธวงศ์ ฯลฯ ผงแป้งที่ทำแลผงจากพระของเก่าบ้าง ๒. ผงพระที่ทำด้วยว่านต่างๆ ที่นิยมว่าเป็นมงคลศักดิ์สิทธิ์ ๑๐๘ อย่าง ทำจากดอกไม้บูชาพระต่างๆ ๑๐๘ อย่าง ๓. ผงที่ทำด้วยดินจากท่าน้ำ ๗ ท่า และจากสระน้ำ ๗ สระ ๔. ผงที่ทำด้วยเอาคัมภีร์เก่าๆ ทั้งใบลานแลสมุดข่อยมาเผาบด ตั้งแต่หมายเลข ๑ ถึง ๕ นี้ประสมสร้างพระผงรุ่นก่อน แล้วเอาบดผสมเข้ากัน กับผงใหม่ที่นำมาเข้าพิธีนี้ด้วย ๕. ผงที่ได้จากดินที่สังเวชนียสถาน ๔ แห่งในอินเดีย คือ ๑ ดินที่ลุมพินีระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์และเทวทหะ ซึ่งเป็นที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ๒ ดินที่มหาโพธิพุทธคยาที่ตรัสรู้ ๓ ดินทีสารนาถ มฤคทายวัน เมื่องพาราณสี ซึ่งเป็นที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมจักร ๔ ดินที่กุสินาราซึ่งเป็นที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ๖. ดินจากสถานที่สำคัญอีก ๙ แห่ง คือดินจากสถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จเสวยวิมุติสุข ๗ แห่ง บริเวณพุทธคยา มีที่รัตนะจงกลม แลที่สระมุจลิน เป็นต้น แลดินที่พระคันธกุฏีที่ประทับของพระพุทธเจ้าบนเขาคิชกูฏ (เมืองราชคฤห์) ๑ ดินที่พระคันธกุฏีที่ประทับในเมืองสาวัตถี ๓ ซึ่งพระครูสุภารพินิจ (โทน สุขพโล) วัดสัมพันธวงศ์ ได้ไปนมัสการปูชนียสถานนั้นๆ และได้นำมาเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๗ ผู้ที่มีพระเครื่องแบบพุทธมงคลมหาลาภ พระแบบสมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นต้นไว้บูชา เป็นอันได้ระลึกถึงแลบูชา สังเวชนียสถานด้วย ๗. ผงปูนขาวหินราชบุรี ๘. ผงปูนซิเมนต์ขาว และนอกจากนี้ ก็ยังมีดินเหนียวอย่างดี สีเหลือง แลน้ำอ้อย เป็นต้น องค์นี้พระสภาพน่ารักครับ เดิมๆ แท้ดูง่าย หายากด้วยครับ พระที่ได้นำไปร่วมพิธีจะมีของวัดสารนาถ(วัดที่ทำพิธี) วัดสัมพันธวงศ์ (พิมพ์สมเด็จนาคปรกหลังยันต์เฑาะว์ พิมพ์หลังเรียบ และพระพุทโธน้อยหลังยันต์เฑาะว์ดอกบัว หลังเฑาะว์และหลังเรียบ ส่วนของวัดอาวุธจะเป็นพิมพ์พระประจำวัน หลังยันต์นะล้อม และพิมพ์สมเด็จหลังเรียบพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็กจะเป็นของวัดสาร นาถ ซึ่งจะมีพิมพ์พระสมาธิคะแนนและพุทธกวักอีกด้วย โดยที่หลังจากทำพิธีก็จะแบ่งบรรจุกรุไว้ที่วัดสารนาถ และนำกลับมาบรรจุกรุไว้ที่วัดอาวุธในส่วนของวัดสัมพัธวงศ์ก็ได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่วัดโดยเก็บใส่ลังไม้อย่างดีไม่ได้นำบรรจุกรุ จึงทำให้พบเห็นพิมพ์สมเด็จหลังเรียบทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก ได้ทั้งที่วัดสารนาถและวัดอาวุธเพราะเป็นพระชุดเดียวกันและได้นำมาแบ่งบรรจุกรุไว้ทั้งสองที่ วัดอาวุธได้เปิดกรุประมาณปี2553 พบพิมพ์พระพุทโธปี2494 พิมพ์หลวงปู่ทวด พิมพ์พระประจำวันต่างๆ พิมพ์สมเด็จมงคลมหาลาภ หลังเรียบทั้งใหญ่และเล็ก' ผมรับประกันแท้ตามกฎครับ ขอบคุณครับ
พระชุดวัดประสาทบุญญาวาส สามเสน กรุงเทพฯ ปี ๒๕๐๖ มวลสารผสมผงวัดระฆัง และสมเด็จบางขุนพรหม จัดสร้างโดย "พระสมุห์อำพล" อดีตเจ้าอาวาสวัดประสาทฯ ในช่วงปี ๒๕๐๕ - ๒๕๐๙ มวลสารผสมผงวัดระฆังฯ โดยท่านพยายามเสาะหาผงวิเศษจากหลายๆพระอาจารย์รวมทั้งชิ้นส่วนพระเครื่องแตก หักเก่าๆทั้งพระกรุและพระเกจิอาจารย์นับไม่ถ้วน โดยเฉพาะชิ้นส่วนแตกหักของ "สมเด็จบางขุนพรหมกรุใหม่" ที่ทางวัดเปิดกรุ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ มีจำนวนหลายลังทีเดียว ว่ากันว่า พระผงวัดประสาทฯ มีชิ้นส่วนแตกหักของพระสมเด็จบางขุนพรหมมีผสมอยู่มากกว่าสมเด็จบางขุนพรหม ๐๙ เสียอีก พระเกจิที่มาร่วมพิธีวัดประสาทฯ นั้นก็มีมากถึง ๒๐๐ กว่ารูป จนนั่งภายในพระอุโบสถไม่หมด ต้องให้นั่งข้างนอกพระอุโบสถแล้วโยงสายสิญจน์ออกมา พิธีในครั้งนั้นจัดว่าเป็นพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลที่ยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ ที่สุดนับแต่พิธีปลุกเสกพระเครื่องฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ เป็นต้นมา *** มวลสาระสำคัญที่ได้รับมอเพื่อการจัดสร้างพระมีดังนี้ *** 1.มวลสารในการจัดสร้างสุดยอด มีส่วนผสม - ผงสมเด็จบางขุนพรหม พระครูบริหารคณาวัตร รองเจ้าอาวาสมอบให้ - ผงพระหักสมเด็จพระพุฒาจารย์โต - ผงพระหักสมเด็จปิลันท์ ซึ่งพบในเจดีย์วัดเทพากร - ผงพระเครื่องของขวัญวัดปากน้ำ ลพ.สดมอบให้วัดประสาทเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๗ - ผงพระหักกรุลำพูน - ผงพระกรุวัดพลับ - ผงหลวงพ่อโอภาสี เป็นต้น เกจิที่ร่วมพิธีปลุกเสก อาทิ เช่น อาจารย์ทิม วัดช้างไห้ ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ลพ.น้อย วัดธรรมศาลา ลพ.เงิน วัดดอนยายหอม ลพ.พรหม วัดช่องแค ลป.ทิม วัดละหารไร่ ลพ.กวย วัดโฆสิตาราม ลพ.คล้าย วัดสวนขัน ลป.เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ลป.เฮี้ยง วัดป่าฯ ลพ.แดง วัดเขาบันไดอิฐ ลพ.มุ่ย วัดดอนไร่ ลพ.ทบ วัดชนแดน ลป.เขียว วัดหรงมล ลพ.จง วัดหน้าต่างนอก ลพ.เต๋ วัดสามง่าม ลป.สี วัดสะแก ลป.เทียน วัดโบสถ์ ลป.นาค วัดระฆังฯ ลพ.เนื่อง วัดจุฬามณี ลพ.โบ๊ย วัดมะนาว ฯลฯ
พระสมเด็จหูบายศรี เนื้อผงพุทธคุณ ปี 2496 ท่านเจ้าคุณศรี (ประหยัด) วัดสุทัศน์ฯ มีส่วนผสมของผงพระสมเด็จจากวัดระฆัง, ผงเก่าที่คณาจารย์ปลุกเสกไว้ที่วัดสุทัศน์ และตะไบชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์รุ่นเก่า พระเณรช่วยกัน โดยนำผงเก่า ๆ พระชำรุดมาจัดสร้าง เมื่อเสร็จก็ทำพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 30 มกราคม ถึง 5 กุมภาพันธ์ 2496 และประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกวันเสาร์ ๕ เดือน ๕ และ ๕ ค่ำ ตรงกับวันที่ 3-7 เมษายน 2496 รวม 5 วัน และยังมีพิธีมหาพุทธาภิเษกวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ 2497 อีก 2 คืน รายนามพระเกจิอาจารย์ในสมัยนั้นมีจำนวน 96 รูป ในปี 2496 กล่าวกันว่าพิธีนี้เป็นสุดยอดในยุคนั้น มวลสารหลักผสมของผงพระสมเด็จจากวัดระฆังและวัดบางขุนพรหม ผงพระกรุวัดสามปลื้ม ผงสมเด็จปิลันธ ผงพระกรุวัดเงิน , ผงเก่าที่คณาจารย์ต่างๆที่มาเข้าพิธี ผงยอดพระไตรปิฎก หลวงพ่อรุ่งวัดท่ากระบือ ผงตรีนิสิงเห ของหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ผงมหาราชใหญ่ ผงอิทธิเจ ผงพุทธคุณ ผงนะโมพุทธายะ ผงปัถมังกลืนไกรลาส ผงปัถมังโลกีย์ ผงนะต่างๆ ผงธรรมจักร์ ดินสอของสมเด็จพระสังฆราชแพ ผงตะไบชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์รุ่นเก่าที่สมเด็จพระสังฆราช(แพ) ทรงสร้างไว้ น้ำมันงาดิบเสก น้ำมนต์พุทธาิภิเศก พิธีใหญ่ปลุกเสกหมู่ 4 วัน 3 คืน ตั้งแต่ 30 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ 2496 เกจิฯรวม 96 รูป อาทิเช่น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ อยู่ วัดสระเกศ, สมเด็จพระพุฒาจารย์ นวม วัดอนงคาราม, พระญาณโพธิ วัดสุทัศน์, หลวงพ่อสิงห์คำ วัดเชียงราย, หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ, หลวงปู่เหรียญ วัดเทวะสังฆาราม กาญจนบุรี, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย สระบุรี, หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ อยุธยา, หลวงพ่อช่วง วัดบางแพรกใต้ นนทบุรี, หลวงพ่อผล วัดหนัง, หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ สมุทรสาคร, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณฯ, หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่า ชลบุรี, หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว สมุทรปราการ, หลวงพ่อพักตร์ วัดบึงทองหลาง, หลวงพ่อกึ๋น วัดดอน ยานนาวา, หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิตร, หลวงพ่อนอ วัดกลาง อยุธยา, หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค อยุธยา, หลวงพ่อฮะ วัดดอนไก่ดี สมุทรสาคร, หลวงพ่อเล็ก วัดท่าลาด ฉะเชิงเทรา, หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา ปราจีนบุรี, หลวงพ่อห้อง วัดช่องลม ราชบุรี, หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค อยุธยา, หลวงพ่อแฉ่ง วัดคงคาราม เพชรบุรี, หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี, พระอาจารย์สา วัดราชนัดดา, หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ชลบุรี, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา, หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ, หลวงพ่อสุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี, หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย สุพรรณบุรี, หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ฯลฯ ในระหว่างพิธีพุทธาภิเษกนั้นเอง พระเกจิฯทั้งหลายก็ได้เห็นนิมิตแสงสีต่างๆอันเป็นมงคลซึ่งรวมไปถึงเห็น สมเด็จพระสังฆราช(แพ) มาร่วมในพิธีด้วย
พระสมเด็จองค์ปฐม รุ่น๓ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อุทัยธานี(ก้นตัน) สมเด็จ องค์ปฐม รุ่น 3 สร้างจากเนื้อทองเหลืองชุบทอง จำนวนการสร้างประมาณ 30,000องค์เศษ ขนาดขององค์พระ ขนาดฐานกว้าง 1.65ซม. ขนาดความสูง 3.1ซม. ลักษณะของฝาปิดกริ่ง ฝาปิดกริ่งจะทำมาจากทองแดงมีอยู่ด้วยกันหลายแบบเท่าที่ทราบจะสามารถแบ่งได้ ดังนี้.... 1. แบบตัวยันต์ นะ ตัวใหญ่ 2. แบบตัวยันต์ นะ ตัวเล็ก 3. แบบตัวยันต์ มะอะอุ 4. แบบตัวยันต์ อุ ตัวเดียว ยังมีใต้ฐานแบบไม่อุดกริ่ง และเป็นแบบฐานตันไม่ได้เจาะด้วย พุทธาภิเษกครั้งแรกที่ตึกรับแขก เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2535 เวลาประมาณ 23.00 น. แต่ไม่ได้จัดพิธีอย่างเป็นทางการ และหลวงพ่อได้ปรารภถึงสมเด็จองค์ปฐมรุ่น 3 ไว้เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2535 ดังนี้ "เมื่อคืนปลุกเสกพระ หมาไม่หอน งวดนี้ไม่ให้หมาเห็นเพราะ 2งวดก่อนมาให้หมาเห็น เห่ากันเจี๊ยวจ๊าว รุ่นนี้แอบไม่ให้หมาเห็น เมื่อคืนปลุกรุ่นยันกลับ (ใครทำไม่ดียันกลับหมด)" และเข้าพิธีพุทธาภิเษกอย่างเป็นทางการอีกครั้งตามคำสั่งของหลวงพ่อ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2536