พระสมเด็จด้านหลังพระสิวลี หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ปี2515 พิมพ์คะแนนเก่าเก็บ สวยเดิมๆพร้อมบัตรดีดีพระครับ
เหรียญสวยมากๆครับ ผิวเดิมๆ มาพร้อมบัตร เหรียญประสบการณ์ครับ ประกันแท้ ราคาวัดใจ
........พระกริ่งพระพุทธทักษิณมิ่งมงคลหรือหลวงพ่อเขากง ปีพ.ศ.2511 ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่หลายครั้ง โดยครั้งสำคัญๆที่มีการบันทึกไว้นั้นว่ากันว่า มีเกจิคณาจารย์มาร่วมปลุกเสกหมู่แบบยิ่งใหญ่มากที่สุดครั้งหนึ่งในแดนใต้ ด้วยเพราะทางราชการต้องการให้พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล วัดเขากง จ.นราธิวาส พระพุทธรูปใหญ่บนยอดเนินเขาสูงสุดในบริเวณเขากงเป็นพระพุทธรูปประจำภาคใต้และให้เป็นมิ่งขวัญเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธแดนใต้้รวม ๑๔ จังหวัด วัตถุมงคลรุ่นแรกนั้นได้ผ่านการปลุกเสกหมู่ โดยเกจิคณาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นโดยเฉพาะในภาคใต้อันได้แก่ 1.พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี, 2.อาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี, 3.หลวงพ่อดำ วัดตุยง จ.ปัตตานี, 4.พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง, 5.พ่อท่านเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช, 6.หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน จ.ลำปาง, 7.หลวงปู่นาค วัดระฆัง กรุงเทพฯ, 8.พ่อท่านแสง วัดคลองน้ำเจ็ด จ.ตรัง, 9.พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย จ.สงขลา, 10.หลวงพ่อดี วัดตันหยงมัส จ.นราธิวาส, 11.หลวงพ่อแดง วัดเชิงเขา จ.นราธิวาส, 12.อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน จ.พัทลุงฯลฯ .......ในพิธีเททอง ขณะกำลังหลอมโลหะวัตถุดิบ ว่ากันว่าแผ่นยันต์ของพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้, พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย และของอาจารย์นำ วัดดอนศาลา หลอมไม่ละลาย ทำให้ต้องตักแผ่นขึ้นมาใหม่ทำพิธีอีกจึงหลอมได้สำเร็จ หลวงพ่อพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล หรือ หลวงพ่อเขากง รุ่นแรกปี2511 มีประสบการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายต่อหลายครั้ง ดีพร้อมทั้งนอกและใน ได้แก่ ชนวนมวลสาร เกจิที่ปลุกเสก พิธีการปลุกเสกหมู่ยิ่งใหญ่สุดในแดนใต้คร้ังหนึ่ง
เหรียญนี้ในหนังสือพระเก่าๆ เค้าเรียกว่า "เหรียญมหามงคลรูปเหมือนท่านธมฺมวิตกฺโกภิกขุ" เป็นเหรียญที่ระลึกอนุสรณ์ครบรอบ๓ปีที่ท่านเจ้าคุณนรฯมรณภาพลง จะสังเกตได้จากด้านหน้ามีการระบุวันที่แจกไว้ชัดเจน ๘ มกราคม ๒๕๑๗ จัดสร้างโดยท่านเจ้าคุณอุดมฯเพื่อหาทุนทรัพย์ในการดำเนินการก่อสร้างอาคาร เรียนของโรงเรียนนวมราชานุสรณ์ให้เสร็จสมบูรณ์ เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นด้วยความประณีตงดงามด้วยฝีมือของ อาจารย์ลักษณ์ ตาณพันธ์ นักสร้างเหรียญสมัครเล่น ทั้งยังบรรจุผงเจิมในงานพุทธาภิเษกทุกครั้งของวัดเทพฯที่ผ่านการอธิษฐานจิต จากท่านเจ้าคุณนรฯไว้ด้วย มีการนิมนต์พระเกจิอาจารย์ที่เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนในขณะนั้นมา ร่วมปรกปลุกเสกมากมายอาทิเช่น หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อฑูรย์ หลวงพ่อมิ่ง หลวงพ่อเทียม หลวงพ่อบุญมี ฯลฯ เมื่อเสร็จพิธีผู้คนได้แห่แหนกันเข้ามาทำบุญบูชาอย่างล้นหลามเพราะคนนครนายกทั้งจังหวัดเขาศรัทธาในท่านเจ้าคุณนรฯนั่นเอง ปล. ข้อมูลยังมีต่อครับสำหรับเหรียญรุ่นนี้ คือเรื่องมันมีอยู่ว่าในวันงาน เจ้าภาพก็ถึงกับงงๆอลเวงอยู่เหมือนกันในท่ามกลางผู้คนที่มาร่วมงานกันอย่าง มากมาย เมื่อมีพระภิกษุชราท่านหนึ่งมาร่วมพิธีปลุกเสก โดยไม่ได้รับนิมนต์จากท่านเจ้าคุณอุดม พอเสร็จพิธีท่านเจ้าคุณอุดมจึงเข้าไปสอบถามความเป็นมา ท่านบอกว่าท่านมาจาก จ. เพชรบูรณ์ ที่มาเพราะมีภิกษุชรารูปหนึ่งไปนิมนต์ให้มาช่วยปลุกเสก พอท่านบอกรูปพรรณสันฐาน ทุกคนก็รู้ว่าเป็นท่านเจ้าคุณนรเองที่ไปนิมนต์ แล้วจึงได้สอบถามชื่อท่าน ภิกษุชราท่านนั้น ท่านบอกว่าท่านชื่อ "ทบ" ไม่ต้องคิดครับว่าทบใหน ก็หลวงพ่อทบ วัดพระพุทธบาทชนแดนนั่นแหละครับ ที่ชาว จ. เพชรบูรณ์ ยกให้ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งเมืองมะขามหวาน
เหรียญพระพุทธสิหิงค์ หลังลายเซ็นต์จอมพล ป.พิบูลสงคราม เนื้อทองแดง ปี2495 วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ ประวัติ เนื่องจากกบฏแมนฮัตตันเป็นชื่อเรียกเหตุการณ์การกบฏในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2494 เมื่อทหารเรือกลุ่มหนึ่ง นำโดย น.ต.มนัส จารุภา รน. ทำการกบฏจี้ตัวจอมพล ป. พิบูลสงคราม ระหว่างเป็นประธานในพิธีรับมอบเรือขุดสันดอนสัญชาติอเมริกัน ชื่อ แมนฮัตตัน ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยนำไปกักขังไว้ในเรือหลวงชื่อ "ศรีอยุธยา" ที่จอดรออยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา หัวหน้าคณะก่อการ คือ น.อ. อานน บุญฑริกธาดา รน. สั่งการให้ทหารเรือกลุ่มที่สนับสนุนการก่อการมุ่งหน้าและตรึงกำลังไว้ที่พระ นคร และประกาศตั้ง พระยาสารสาสน์ประพันธ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ทางฝ่ายรัฐบาลไม่ยอม และตั้งกองบัญชาการขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล (ในขณะนั้นคือ พระที่นั่งอนันตสมาคม) จึงเกิดการต่อสู้ยิงกันอย่างหนักระหว่างทหารฝ่ายรัฐบาลและทหารฝ่ายก่อการ มีการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินใส่เรือหลวงศรีอยุธยาที่อยู่กลางแม่น้ำเจ้า พระยา จนกระทั่งเวลาประมาณบ่าย 3 ของวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2494 เรือก็จม จอมพล ป. พิบูลสงคราม ถูกทหารเรือที่อยู่บนเรือนำว่ายน้ำหลบหนีออกมาได้ เรื่องจบลงที่แกนนำฝ่ายก่อการได้ลี้ภัยไปต่างประเทศ และมีผู้ต้องหาถูกจองจำในเวลาต่อมาหลายคน โดยการกบฏครั้งนี้นับว่าเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เพราะสถานที่ต่าง ๆ เสียหาย และมีผู้บาดเจ็บล้มตายนับร้อย เหรียญพระ พุทธสิหิงค์ รุ่นนี้ สร้างโดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เพื่อเป็นการบูชาและรำลึกถึงพระกฤตยาภินิหารของพระเชียงแสนสิงห์หนึ่งที่ ประดิษฐานอยู่บนเรือหลวง"ศรีอยุธยา" ที่ได้ช่วยคุ้มครองท่านจอมพล ป.ที่ถูกควบคุมตัว จากฝ่ายกบฏแมนฮัตตัน ที่โจมตีด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด และอาวุธต่างๆ ให้แคล้วคลาดปลอดภัยและได้ชัยชนะในที่สุด เหรียญรุ่น นี้สร้างในปี๒๔๙๕ ได้รับการปลุกเสกโดยท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศน์ ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์ของสมเด็จสังฆราชแพผู้สร้างตำนานพระกริ่งที่มีชื่อ เสียง
พระสมเด็จสายรุ้ง หลังยันต์นูน วัดศีลขันธาราม จังหวัดอ่างทอง เนื้อผงพุทธคุณ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2513 โดยท่านเจ้าคุณสนิท(สนิท ทองสีนวล) เป็นถึงพระราชาคณะ อดีตเจ้าอาวาสวัดขณะนั้น ท่านนับถือกันกับท่านเจ้าคุณนร วัดเทพศิรินทร์ฯ กทม. จึงนำพระเครื่องทั้งหมดหลายพิมพ์ รวมทั้งมวลสารที่เหลือจากการกดพิมพ์พระเข้าพิธีอธิษฐานจิตครั้งสุดท้าย ครั้งใหญ่ที่สุดของท่านเจ้าคุณนรฯ ณ อุโบสถวัดเทพศิรินทร์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2513 ถือว่าเป็นหนึ่งในพระสายท่านเจ้าคุณนรฯอีกรุ่นด้วย พระสมเด็จรุ่นนี้จะเป็นพระผงน้ำมัน มีหลากหลายสี สมเด็จสายรุ้งจะมีสามขนาดที่รู้มา คือ พิมพ์เล็ก ด้านหลังจะเป็นยันต์พร้อมฉายาท่านเจ้าคุณนรฯ พิมพ์ใหญ่ ด้านหลังจะเป็นยันน้ำเต้า และเขียนว่า เย็น อยู่เย็น เป็นสุข และพิมพ์พระประธาน สร้างน้อยมาก ขนาดใหญ่ประมาณพระบูชา อนึ่งท่านเจ้าคุณสนิทเป็นศิษย์รุ่นน้องของท่านเจ้านรฯ โดยมีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ)เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชและศึกษาอยู่ที่วัดเทพศิรินทร์มาตลอดจนไปประจำอยู่ที่วัดศีลขันธ์ อ่างทอง จึงไม่แปลกที่ท่านจะสนิทสนมและรู้จักท่านเจ้านรฯและทางสายวัดเทพศิรินทร์ ตัวหลวงพ่อท่านเจ้าคุณสนิทเองในสมัยโน้นได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกพระอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นเรื่องพุทธาคมของท่านคงไม่ธรรมดาแน่ อีกเรื่องที่ได้ยินมาจากหลายๆท่านที่ไปวัดศีลขันธ์ในสมัยโน้น(หลังปี2513) ไปขอพระสมเด็จสายรุ้ง แต่ท่านเจ้าคุณบอกว่าพระหมดนานแล้วเหลือแต่พระบูชาในกุฏิท่าน ท่านให้เดินเข้าไปหยิบเอาเอง ท่านแสดงออกถึงความเมตตาอย่างสูง และไม่ถือยศ ศักดิ์อันใด ท่านให้มาฟรีโดยไม่เรียกร้องอะไร เป็นพระสมเด็จสายรุ้งขนาดบูชา
พระเปิมเป็นพระเนื้อดินที่สร้างมาในยุคสมัยเดียวกับพระรอด พระคง พระบาง พระเลี่ยง ฯลฯ ครับ มูลเหตุการสร้างก็ต้องเล่าเรื่องเมืองหริภุญชัย และพระนางจามเทวีแบบคร่าวๆ ครับ คืออย่างนี้ครับ จากพงศาวดารโยนก จามเทวีวงศ์ ชินกาลมลินี และตำนานมูลศาสนา พอจะสรุปได้ดังนี้ว่า มีพระฤๅษี 5 ตน คือพระสุเทวฤๅษี พระสุกกทันตฤๅษี พระ สุพรหมฤๅษี พระนารทะฤๅษี ซึ่งเป็นคณาจารย์ของหริภุญชัย และเป็นผู้สร้างพระศักรพุทธปฏิมาสกุลลำพูน นอกจากนี้ ยังมีพระ อนุสิษฏฤๅษี ซึ่งพำนักอยู่ ณ เขาลตางค์ (เขาหลวงเมืองสวรรคโลก) พระฤๅษีตนนี้ไม่ได้มีส่วนในการสร้างพระศักรพุทธปฏิมาสกุลลำพูน แต่ได้มอบกาบ ฝาหอยมาเป็นผังในการสร้างเมืองหริภุญชัย ได้ปรึกษากันในการสร้างเมืองหริภุญชัย เมื่อสร้างเมืองหริภุญชัยเสร็จแล้ว จึงให้นายควิยะบุรุษ ไปเป็นทูตทูลขอพระนาง จามเทวีพระราชธิดาพระเจ้ากรุงละวะปุระ (ลพบุรี) อันเป็นกุลสตรีที่ประเสริฐ เจริญด้วยศีลและปรีชาฉลาดมาเป็นกษัตริย์ครองเมืองหริภุญชัย โดยพระนางจามเทวีได้ทูล ขอ พระราชทานพระไตรปิฎก สมณะ ชีพราหมณา จารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ โหราจารย์ แพทย์ สถาปัตยกร วิศวกร นักประติมากรรม และเศรษฐวาณิช อย่างละ 500 พร้อมด้วยเครื่องราชูปโภค บริวาร หมู่โยธาพลากร พร้อมด้วยพาหนะครบถ้วนเดินทางมายังเมืองหริภุญชัย เมื่อพระนางทรงมาถึงเมืองหริภุญชัย พระฤๅษีทั้ง 4 ตนก็ได้ป่าวร้องให้ชาวเมืองออกมารับเสด็จพระนางเข้าเมือง และพอถึง ปี พ.ศ.1223 พระนางจามเวทีจึงทรงให้สร้างจตุรพุทธปราการขึ้นเป็นพระอารามสำคัญทั้ง 4 ประจำจตุรทิศแห่งพระนคร เพื่อปกป้องคุ้มครองพระนครให้พัฒนาสถาพร ปราศจากภัยพิบัติ ดังนี้ อาพัทธาราม (วัดพระคง) เป็นพุทธปราการประจำฝ่ายทิศเหนือ พระกรุสำคัญที่พบคือ พระคงและพระบาง อรัญญิกรัมมการาม (วัดดอนแก้ว) เป็นพุทธปราการปกป้องฝ่ายทิศตะวันออก พบ พระกรุที่สำคัญคือพระเปิมและพระบาง ฯลฯ มหาสัตตาราม (วัดประตูลี้) เป็นพุทธปราการคุ้มครองด้านทิศใต้ พบกรุที่สำคัญคือพระเลี่ยง ฯลฯ มหาวนาราม (วัดมหาวัน) เป็นพุทธปราการอารักขาทางฝ่ายทิศตะวันตก พบ พระกรุที่สำคัญคือพระรอด พระอารามทั้งสี่นี้ชาวบ้านเรียกกันว่า "วัดสี่มุมเมือง" พระเปิมเป็นพระที่ขุดพบที่วัดดอนแก้ว วัดนี้ตั้งอยู่ในตำบลเวียงยอง นอกกำแพงเมืองไปทางทิศตะวันออกของแม่น้ำกวง ต้องข้ามลำน้ำที่สะพานท่าสีห์พิทักษ์ ที่ตั้งของพระอารามนี้อยู่ห่างจากประตูเมืองด้านตะวันออก (ประตูท่าขุนนาง) ประมาณ 600 เมตร ปัจจุบันเป็นวัดร้าง และเป็นที่ตั้งของร.ร. เทศบาลบ้านเวียงยอง มีซากวัตถุโบราณปรากฏอยู่ เช่น พระพุทธรูปหินทราย ปางสมาธิขัดเพชร ซึ่งชำรุดหักพังอยู่ อีกทั้งที่วัดแห่งนี้ยังพบศิลาจารึกภาษามอญอีก 2 หลัก การขุดหาพระเครื่องวัดดอนแก้วนี้มีการขุดค้นกันมานานแล้ว ในครั้งแรกๆ ไม่อาจสืบหาหลักฐานได้ ต่อมาในปี พ.ศ.2484-85 ซึ่งเป็นเวลาที่บ้านเมืองอยู่ในระหว่างสงครามอินโดจีน ประชาชนกำลังตื่นตัวขุดหาพระเครื่องกันทั่วทุกแห่งหน ก็ได้มีการขุดหาพระที่วัดดอนแก้วด้วย การขุดครั้งนี้ได้กระทำตรงบริเวณซากพระเจดีย์เก่า ได้พระเป็นจำนวนมาก เช่น พระเปิม พระบาง พระฤๅ พระเลี่ยง พระสาม พระสิบสอง พระสิบแปด และพระกล้วย ตลอดจนพระแผงต่างๆ หลายพันองค์ ถึงกับต้องใช้ตะกร้าหาบ การขุดดำเนินติดต่อกันไปหลายเดือน ต่อมาคณะกรรมการจังหวัดต้องประกาศห้ามจึงได้เลิกขุดกันไป ในสมัยนั้นการพบพระเปิม ซึ่งชาวบ้านได้ขุดพบ ก็ได้ตั้งชื่อเรียกเอาตามลักษณะที่พบคือคำว่า "เปิม" เป็นคำเมืองเดิม มีความหมายว่าแป้น ป้าน หรืออวบใหญ่ การตั้งชื่อสมัยนั้นชาวบ้านจะเรียกตามลักษณะที่พบ เช่น พระรอดหมายถึง เล็ก พระเลี่ยง ก็คือเลี่ยม หมายถึงแหลม ต่อมาจึงเพี้ยนเป็นเลี่ยง พระคง หมายถึงหนามั่นคงแข็งแรง พระบาง มีลักษณะคล้ายพระคง แต่องค์พระบอบบางกว่า จึงเรียกว่าพระบาง เป็นต้น พระเปิมเป็นพระกรุเก่าแก่ มีพุทธคุณดีครบทุกด้านครับ เด่นทางคงกระพันชาตรีและแคล้วคลาดครับ ในสังคมวงการพระเครื่องนั้นนิยมพระเปิมเช่นกัน และปัจจุบันเป็นพระที่หาพระแท้ๆ ยากพอสมควรครับ องค์นี้สภาพน่ารักครับ องค์พระล่ำสัน ใบโพธิ์ยังมีให้เห็นหลายใบครับผม พระกรุเก่าตัวจริง พระแท้ดูง่ายๆเลย ชั่วโมงนี้พระกรุสกุลลำพูนราคาวิ่งดีมากนะครับ ยิ่งองค์ไหนสวยๆ ราคาวิ่งไปหลายๆหมื่นทีเดียวครับผม ผมออกบัตร DD ให้แล้วนะครับ รับประกันพระแท้ตามกฎ ขอบคุณครับ
หลวงพ่อโสธร เหรียญอาร์ม รุ่นสร้างโรงเรียน หลัง ภปร. บล๊อคนิยมตัว"พ" ปี 2509
พระ สมเด็จวัดระฆังฯ ปี 2533 รุ่นอนุสรณ์ 118 ปี สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์การมรณภาพของ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ครบ 118 ปี โดยมีพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2533 วัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้ไปใช้ในการซ่อมแซมศาลาการเปรียญของวัดระฆังฯ ซึ่งเป็นโบราณสถานของชาติแห่งหนึ่ง ให้คงสภาพดังเดิมไว้ **** รายละเอียดในการจัดสร้างนั้น มีวัตถุประสงค์ใกล้เคียงกับครั้งที่สร้าง รุ่น 100 ปี และรุ่น 108 ปีหลายอย่าง โดยประกอบพิธีพุทธาภิเษกทั้งพิธีสงฆ์ และพิธีพราหมณ์อย่างยิ่งใหญ่และเข้มขลัง โดยมี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย มีพระเกจิอาจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกถึง 89 รูปที่โดดเด่น คือ พระภาวนาโกศลเถระ (วีระ) วัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม., พระญาณโพธิ (เข็ม) วัดสุทัศน์ฯ กทม., พระปลัดธรรมจริยวัฒน์ (วิเชียร) วัดดวงแข กทม.,พระครูจันทคุณาภรณ์ (จำปา) วัดอินทราวาส กทม., พระครูวิบูลยศีลวัตร (ช้วน) วัดหนัง กทม., พระครูวิมลธรรมธาดา (ถวิล) วัดลาดบัวขาว กทม., พระครูสุทธิธรรมาจารย์ (คอน) วัดชัยพฤกษ์มาลา กทม., พระครูอุดมโชติวัฒน์ (อรรถ) วัดองครักษ์ สุพรรณฯ, พระครูสุนทรสุวรรณกิจ (ดี) วัดพระรูป สุพรรณฯ, พระครูศรีฉฬังคสังวร (เริ่ม) วัดจุกกระเฌอ ชลบุรี, พระครูสารทรพัฒนกิจ (ละมูล) วัดเสด็จ ปทุมฯ, พระครูเกษมธรรมนันท์ (แช่ม) วัดดอนยายหอม นครปฐม, พระครูฐาปนกิจสุนทร (เปิ่น) วัดบางพระ นครปฐม, พระครูเกษมนวกิจ (เต้า) วัดเกาะวังไทร นครปฐม, พระพิพัฒน์วิริยาภรณ์ (ผูก) วัดพระปฐมเจดียฺ นครปฐม, พระครูวิชัยประสิทธิคุณ (เชิญ) วัดโคกทอง อยุธยา, พระครูพุทธสิริวัฒน์ (เมี้ยน) วัดโพธิ์กบเจา อยุธยา, พระครูสังวรสมณกิจ (ทิม) วัดพระขาว อยุธยา, พระครูเกษมคณาบาล (มี) วัดมารวิชัย อยุธยา, พระครูวิบูลรัตนากร (วงศ์) วัดสามกอ อยุธยา, พระครูสุนทรยติกิจ (เอียด) วัดไผ่ล้อม อยุธยา, พระครูโอภาสธรรมวัตร (ล้วน) วัดพิกุลโสภณ อยุธยา, พระครูสุวัฒนาภรณ์ (บี้) วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี, พระครูอุทัยธรรมธารี (เส็ง) วัดป่ามะไฟ ปราจีนฯ, พระครูใบฎีกาคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน ชุมพร, พระครูสมุทรพัฒนโสภณ (ทองหล่อ) วัดคันลัด สมุทรปราการ, พระครูการาม (พลับ) วัดชายคลอง พัทลุง, พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา พัทลุง, พระครูกาเดิม (เพิ่ม) วัดเขียนแก้ว พัทลุง, พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา พัทลุง, หลวงพ่อฤทธิ์ วัดบ้านสวน พัทลุง, พระอาจารย์แก้ว วัดโคกโดน พัทลุง, พระอาจารย์ปลอด วัดหัวป่า พัทลุง, พระราชสิงหคณาจารย์ (แพ) วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี, พระครูจิตตานุรักษ์ (จวน) วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี, พระครูเมตตานุศาสน์ (บุญช่วย) วัดกุฎีทอง สิงห์บุรี, พระครูอินทคณานุสิกขน์ (เจ๊ก) วัดระนาม สิงห์บุรี, พระครูพิบูลธรรมเวท (เปรื่อง) วัดหิรัญญาราม พิจิตร ฯลฯ
องค์สวยๆ พุทธคุณดี พิมพ์สวยนิยมครับ