เหรียญหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ที่ระลึกงานผูกพัทธสีมา ฝังลูกนิมิต วัดเทพประสาท อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ปี พ.ศ. 2512 เนื้อทองแดง เหรียญเก่า ปีลึก เป็นวัตถุมงคลยุคแรกที่เริ่มหายากแล้ว สภาพสวยมาก หายากมาก รุ่นนี้ หลวงพ่อแพ ท่านเมตตา ปลุกเสกให้กับทางวัดเทพประสาท อย่างเต็มกำลัง พระราชสิงหคณาจารย์ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงรูปหนึ่งของภาคกลางท่านมีปฏิปทาและจริยาวัตร ที่น่าเลื่อมใส และเปี่ยมไปด้วยความเมตตา วัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้นมีหลายรุ่นด้วยกันแต่ละรุ่นล้วนแล้วแต่สร้าง ประสบการณ์ให้กับผู้ใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด โชคลาภ เมตตามหานิยม วัตถุมงคลของท่านเป็นที่เสาะแสวงหาของคนไทยและชาวต่างประเทศเพราะใช้บูชา แล้วเห็นผล หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ " พระราชสิงหคณาจารย์ " หรือที่รู้จักกันดีในนาม หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง พระเครื่องของท่านทุกรุ่น ทุกพิมพ์ทรงล้วนมีพุทธคุณสูงเยี่ยมในทุกๆด้าน ผู้ประสบปาฏิหาริย์แห่งความเข้มขลังเป็นที่เลื่องชื่อลือชาอย่างกว้างขวางทั้งชาวไทย ชาวจีน ตลอดจนชาวต่างประเทศ เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย ต่างรู้จักกิตติคุณของหลวงพ่อแพเป็นอย่างดี หลวงพ่อแพ เขมังกโร วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี หลวงพ่อแพ เขมังกโร เป็นชาวจังหวัดสิงห์บุรี ท่านมีนามเดิมว่า "แพ ใจมั่นคง" เกิดเมื่อวันจันทร์ ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๘ เมื่ออายุได้ ๑๑ ปี บิดามารดาบุญธรรม ได้นำเด็กชายแพไปฝากอยู่วัด กับสำนักอาจารย์ป้อม เพื่อที่จะศึกษาเล่าเรียนตามแบบโบราณนิยม คือ การเรียนภาษาไทยภาษาขอม นอกจากนั้น ยังได้เรียนหนังสือ มูลบทบรรพกิจ ทางธรรมก็มีพระมาลัยสูตร และยังได้หัดอ่านพระธรรมเจ็ดคัมภีร์ เมื่ออายุได้ ๑๔ ปี บิดามารดาบุญธรรมได้ส่งไปศึกษาต่อที่สำนักวัดอาจารย์ อาจารย์ สม ภิกษุชาวเขมร วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ การศึกษาในกรุงเทพฯขั้นแรกได้เริ่มเรียนหนังสือโบราณท่องสนธิ เรียนมูลกัจจายนสูตร เป็นเวลา ๑ ปี ต่อมา ก็ไปเป็นนักเรียนบาลีไวยากรณ์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ เมื่อศึกษาหาความรู้จนอายุได้ ๑๖ ปี ก็กลับบ้านเกิด เพื่อบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๓ ณ วัดพิกุลทอง ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีพระอธิการพันจันทสโร เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ครั้นเมื่อบวชเป็นสามเณรแล้วก็ได้เดินทางกลับไปอยู่วัดชนะสงครามตามเดิม และได้ศึกษาบาลีไวยากรณ์ต่อไปอีก จนสอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร ในปีพ.ศ.๒๔๖๘ นายเทียน ใจมั่นคง บิดาผู้บังเกิดเกล้าก็ได้ถึงแก่กรรม โดยความมุมานะพยายาม โดยอาศัยแสงสว่างจากเทียนไขหรือตะเกียง โดยส่วนมากเพราะสาเหตุนี้ นัยน์ตา อันเป็นส่วนสำคัญของสังขาร ก็เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง ทุกครั้งที่ตรากตรำอ่านหนังสือมากเกินไปในที่สุด นายแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ ได้แนะนำ ไม่ให้อ่านหนังสืออีกต่อไป มิฉะนั้น นัยน์ตาอาจพิการได้ ดังนั้นภายหลังจากสอบได้เปรียญธรรม ๔ ประโยคแล้ว การศึกษาด้านพระปริยัติธรรมก็ต้องยุติลง แต่ด้วยความที่เป็นผู้มีใจใฝ่การศึกษา พระภิกษุแพ เขมังกะโร จึงได้ศึกษา และปฏิบัติสมถกัมมัฎฐาน วิปัสสนากัมมัฎฐานในสำนักของพระครูภาวนา วัดเชตุพน จนชำนาญ และดำเนินการสั่งสอนให้แก่ประชาชนทั่วไป สามเณรเปรียญแพ ขำวิบูลย์ได้ทำการอุปสมบทเมื่ออายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ในวันขึ้น ๖ ค่ำ ปีขาล ตรงกับวันพุธที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๙ ณ พระอุโบสถวัดพิกุลทอง โดยมีพระมงคลทิพย์มุนี เจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิ์ราชาวาส กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูสิทธิเดช วัดชนะสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านเจ้าอธิการอ่อน วัดจำปาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "เขมังกะโร" (แปลว่า ผู้ทำความเกษม) ภายหลังจากอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์แพ เขมังกะโร หรือมหาแพ ก็ได้เดินทางกลับสู่วัดชนะสงคราม เพื่อตั้งใจศึกษาทางด้านพระปริยัติธรรม ให้ได้ในระดับสูงที่สุด เพื่อที่จะได้นำความรู้ ความสามารถที่ได้ฝักใฝ่ศึกษาเล่าเรียนนั้น นำไปสร้างสรรค์ให้เกิดคุณค่า และประโยชน์ต่อชุมชนและพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ พระภิกษุแพ เขมังกะโร พยายามที่จะศึกษาเล่าเรียนหาความรู้ อ่านหนังสือตำราเรียนอยู่เสมอ ในปี พ.ศ.๒๔๗๔ อาจารย์หยด พวงมสิต เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง ได้ลาสิกขาบท ทำให้ตำแหน่งว่างลง ชาวบ้านพิกุลทอง และชาวบ้านจำปาทอง จึงนิมนต์ให้พระภิกษุแพมารับเป็นเจ้าอาวาสในเดือน เมษายน พ.ศ.๒๔๗๔ ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุเพียง ๒๖ ปี ต่อมาก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงค์ตำแหน่ง ตามหน้าที่การงานต่างๆ ดังนี้ พ.ศ. ๒๔๘๒ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลถอนสมอ พ.ศ. ๒๔๘๓ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็น พระอุปัชฌายะ พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอท่าช้าง พ.ศ. ๒๔๘๕ เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ทำกิจปริยัติธรรมวินัยที่พระคณุศรีพรหมโสภิต พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระสุนทรธรรมภาณี พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดสมณศักดิ์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระสิงหคณาจารย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนชั้นสมณศักดิ์ เป็นกรณีพิเศษ วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๕ ในวาระครบ ๖๐ พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นพระราชาคณะ ชั้นเทพที่พระเทพสิงหบุราจารย์ พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นกรณีพิเศษ วันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๙ ใน วโรกาสเสด็จครองราชย์ครบ ๕๐ ปี เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมมุนี หลวงพ่อแพ ละสังขาร เมื่อ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2542 รวม อายุได้ 94 ปี (รับประกันแท้ ยินดีคืนเงินเต็มภายใน 10 วัน) รับประกันความแท้ รับประกันตามกฎระเบียบครับ...... รับประกันความพอใจครับ ถ้าพระมีปัญหายินดีคืนเงินเต็มครับ โดยไม่ถามเหตุผลให้รำคาญใจ
เหรียญแตงโม หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง รุ่น 49-36 ตอกโค้ต เนื้อนวะโลหะ สภาพสวยมาก หายากมาก ประวัติหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง พระมงคลศิลาจารย์ หรือหลวงปู่คร่ำ ยโสธโร ซึ่งชาววังหว้าและหมู่บ้านใกล้เคียงเรียกนามท่านว่า ท่านพ่อคร่ำ ท่าน มีอายุ ๑๐๐ ปีบริบูรณ์ เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๐ พรรษา ๘๐ นับเป็นพระเถระที่มีพรรษาสูงสุดของเมืองไทยรูปหนึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ ได้รับความนิยมและเป็นที่ศรัทธาของประชาชนทั่วประเทศ หลวงปู่คร่ำเป็นพระภิกษุที่มีบุญญาบารมีเป็นที่ปรากฏแก่ประชาชนมาเป็นเวลา นานแล้ว ท่านมีคุณูปการแก่สังคมหลายวงการอย่างกว้างขวาง ทั้งฝ่ายจักร และอาณาจักรทั้งในจังหวัดระยองและจังหวัดอื่นๆ และเป็นปูชนียบุคคลที่ได้รับ การคารวะศรัทธาเป็นอย่างสูงจากชาวพุทธทั่วประเทศ เห็นได้จากงานพุทธาภิเษกที่สำคัญที่จัดในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมือง หลวงปู่จะได้รับนิมนต์ไปร่วมพิธีเกือบทุกครั้ง เนื่องจากมีผู้ให้ ความเคารพศรัทธาหลวงปู่คร่ำจำนวนมากต่างพากันยึดหลวงปู่เป็นสรณะในยามที่ ต้องเผชิญกับภาวะคับขัน ทั้งยังขอพรบารมีจากท่านช่วยบันดาลใช้ประสบโชคลาภ ประสบความสำเร็จสมปรารถนามีความสุขสมหวังในชีวิตจึงมีผู้ให้สมญานามท่านว่า เทพเจ้าของชาวระยองบ้าง ท่านพ่อแห่งฝั่งทะเลตะวันออกบ้าง เทพเจ้าแห่งภาคตะวันออก ฯลฯ รวมความว่าหลวงปู่คร่ำเป็นพระที่อยู่ในใจของทุกคน ของดีหลวงปู่ วัตถุมงคล เครื่องรางของขลังของหลวงปู่คร่ำ มีมากมายหลายอย่าง ทั้งตะกรุดโทนสีผึ้งเมตรตา ผ้ายันต์ น้ำมันงา และเหรียญแบบต่างๆ สิ่งที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของหลวงปู่คร่ำ คือผ้ายันต์พัดโบก ชื่อเต็มว่า ผ้ายันต์พัดโบกมหาลาภหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง แบ่งเป็นสองท่อน ท่อนบนสีแดงท่อนล่างสีขาวประกอบด้วยรูปหลวงปู่และยันต์หลายชนิดผ้ายันต์ พัดโบกนี้หลวงปู่ทำขึ้นเพื่อป้องกันวาตภัย ทั้งลมและฝนในยามที่มรสุมรุนแรงจะพัดทำความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือนผ้า ยันต์พัดโบกจะโบกให้ลมเปลี่ยนทิศทาง รวมทั้งโบกเอาความชั่วร้ายอื่นๆมิให้กล้ำกรายมาถึงบ้านเรือนของผู้ที่ครอบครองผ้ายันต์นี้ได้ ผ้ายันต์พัดโบก เป็นยันต์พัดโบกให้ร้านค้าต่างๆ โบกนำลาภผลเข้าสู่อาคารร้านค้าอีกด้วยบรรดา บ้านเรือนแถบชายฝั่งทะเลตะวันออกเกือบทุกบ้านจะมีผ้ายันต์พัดโบกหลวงปู่คร่ำ ไว้คุ้มภัยและเป็นมงคลแก่บ้านเรือนรวมไปถึงกรุงเทพฯและจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทยก็ปรากฏยันต์พัดโบกของหลวงปู่คร่ำอยู่ทั่วไปแม้แต่ในประเทศลาว ผ้ายันต์พัดโบกหลวงปู่คร่ำยังโบกสะบัดไปถึงเวียงจันทน์ในประเทศเขมร ซึ่งเป็นดินแดนแห่งไสยศาสตร์ ผ้ายันต์พัดโบกของหลวงปู่ก็โบกไปทั่วจากคนไทยที่ไปทำมา ค้าขายที่นั่นเมตตาธรรมค้ำจุนโลก เนื่องจาก หลวงปู่อายุมาก แต่หลวงปู่ยังปฏิบัติกิจนิมนต์ต่างๆตลอดมาต้อนรับสาธุชนจากสารทิศทุกวัน แม้บางวันจะเหน็ดเหนื่อยจนลุกแทบไม่ได้ แต่เมื่อมีผู้คนมาคอยพบมากมายหลวงปู่จะพยายามลุกขึ้นลำให้ศิษย์ประคองออกมา ประพรมน้ำมนต์แก่ผู้มากราบไหว้บูชาจนร่างกายเสื่อมโทรมแพทย์ประจำตัวต้องคอย ปรนนิบัติอย่างใกล้ชิด ในที่สุดกรรมการวัดและศิษย์ผู้ใกล้ชิดมีความเห็นร่วมกันว่าควรให้พักผ่อนให้ มาก จึงได้นำไปบำบัดโรคพยาธิในโรงพยาบาล ในที่สุดแพทย์จากดโรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชาตรวจพบว่าหลวงปู่มีเนื้อร้ายที่ ลำคอจึงได้นิมนต์ให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา ตลอดระยะเวลาหลายเดือนมรณภาพในที่สุดแห่งชีวิตที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ หลวงปู่ได้ละสังขารถึงแก่มรณภาพ ในวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๐ เวลาประมาณ ๑๔ นาฬิกา ด้วยอาการสงบ ณ. โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา ท่ามกลางความเศร้าโศกอาลัยของสานุศิษย์และสาธุชนทั่วประเทศนับล้านคนที่ได้ ทราบข่าวต่างหลั่งไหลมากราบไหว้ เคารพศพที่วัดวังหว้าตลอดเวลา ๑๕ วัน ที่บำเพ็ญกุศลนับเป็นบุญญาบารมีของหลวงปู่โดยแท้ (รับประกันแท้ ยินดีคืนเงินเต็มภายใน 10 วัน) รับประกันความแท้ รับประกันตามกฎระเบียบครับ...... รับประกันความพอใจครับ ถ้าพระมีปัญหายินดีคืนเงินเต็มครับ โดยไม่ถามเหตุผลให้รำคาญใจ
เหรียญเสมา หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ รุ่นพิทักษ์ภูธร ปี 2523 เนื้อทองแดงรมดำ สภาพสวยมาก หายากมาก จัดสร้างโดยกรมตำรวจ หลวงปู่แหวน ท่านได้อธิษฐานจิตวัตถุมงคลต่างๆ มากมายหลายรุ่น ล้วนมีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย เมตตามหานิยม และหนึ่งในนั้นที่ยังอยู่ในความนิยมของวงการ เหรียญนี้สภาพสวยมาก ผิวเดิมๆ ห่วงเดิมยังอยู่ ไม่ผ่านการใช้ เก็บรักษาดีมาก แท้ ทันยุค หายาก หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ พระคุณเจ้า หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอริยสงฆ์ที่เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงยิ่ง จากพุทธศาสนิกชนทุกเทศทุกวัย ทั้งในและต่างประเทศ แม้หลวงปู่จะได้ลาขันธ์ไป ตั้งแต่คืนวันที่ 2 กรกฎาคม 2528 แต่ความทรงจำในกระแส เมตตา ปฎิปทาสัมมาปฎิบัติ จริยาวัตรที่งดงาม พร้อมกับธัมโมวาทอันล้ำค่าของหลวงปู่ ก็ยังส่องสว่างอยู่กลางใจของพวกเราชาวพุทธทุกผู้ทุกนาม หลวงปู่แหวน จำพรรษา วัดป่าบ้านปง อ.แม่แตง และ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ สมัยที่ท่านพำนักที่วัดดอยแม่ปั๋ง มีสาธุชน ไปนมัสการท่านมากมายมหาศาล เป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสอย่างสูง มรณะภาพ วันที่ 2 ก.ค. 2528 ณ โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดเชียงใหม่ สิริรวมอายุ 98 ปี ประวัติ หลวงปู่ แหวน สุจิณฺโณ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เดิมชื่อ ญาณ หรือ ยาน รามศิริ เกิดวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2430 จังหวัดเลย เมื่อหลวงปู่อายุประมาณ 5 ขวบ พอจำความได้บ้างว่า ก่อนที่มารดาจะเสียชีวิต ได้เรียกไปสั่งเสียว่า "ลูกเอ๋ย แม่ยินดีต่อลูก สมบัติใด ๆ ในโลกนี้ จะเป็นกี่ล้านกี่โกฏก็ตาม แม่ก็ไม่ยินดี และแม่จะยินดีมาก ถ้าลูกจะบวชให้แม่จนตายในผ้าเหลือง ไม่ต้องสึกออกมามีเมียนะลูกนะ" อนึ่ง ยายของหลวงปู่ได้ฝันว่า เห็นหลานชายไปนั่งไปนอนอยู่ในดงขมิ้นจนเนื้อตัวเหลืองอร่ามน่าชม จึงได้มาร้องขอให้บวชเช่นเดียวกัน ด้วยคำพูดของแม่ในครั้งนั้น เป็นเหมือนพรสวรรค์คอยเตือนสติอยู่ตลอดเวลา มันเป็นคำสั่งที่ก้องอยู่ในความทรงจำมิรู้เลือน จนในที่สุดท่านก็ได้บวชตามความประสงค์ของมารดาและใช้ชีวิตอยู่ในผ้าเหลืองจน ตลอดอายุขัย ท่านเคยอยู่บนดอยสูงกับชาวเขาเกือบทุกเผ่า อยู่ในป่าเขาภาคเหนือตอนบน เช่น เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ส่วนภาคเหนือตอนล่าง เช่น แพร่ น่าน ตาก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ท่านเคยจาริกไปครั้งคราว จึงนับได้ว่า วัดดอยแม่ปั๋ง เป็นสถานที่ซึ่ง หลวงปู่อยู่จำพรรษามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 จวบจนมรณภาพ หลวงปู่แหวน มีโรคประจำตัวคือ เป็นแผลเรื้อรังที่ก้นกบยาวประมาณ 1 ซม. มีอาการคัน ถ้าอักเสบก็จะเจ็บปวดมาก และอีกโรคหนึ่งคือ เป็นต้อกระจกนัยน์ตาด้านซ้าย เป็นต้อหินนัยน์ตาด้านขวา หมอได้เข้าไปรักษาเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2518 ซึ่งรักษาแล้วสุขภาพก็ยังแข็งแรงตามวัย แต่ต่อมาปี 2519 ร่างกายเริ่มซูบผอม อ่อนเพลีย ฉันอาหารได้น้อย ขาทั้ง 2 เป็นตะคริวบ่อย ต่อมา 2520 สุขภาพทรุด ค่อนข้างซูบเหนื่อยอ่อน เวียนศีรษะถึงกับเซล้มลง และประสบอุบัติเหตุขณะครองผ้าจีวรในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2522 ซึ่งเป็นวันที่ทางวัดจัดงานผูกพัทธสีมา ส่งผลให้เจ็บบั้นเอวและกระดูดสันหลัง ลุกไม่ได้ ต้องนอนอยู่กับที่ รักษาอยู่เดือนหนึ่ง ก็หายเป็นปกติ แต่เนื่องจากหลวงปู่อายุมากแล้ว จึงมีอาการอาพาธมาโดยตลอด คณะแพทย์ก็คอยให้การรักษาด้วยดีเช่นกัน จนกระทั่งใน วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 เวลา 21.53 น. การหายใจครั้งสุดท้ายก็มาถึง หลวงปู่ท่านได้ละร่างอันเป็นขันธวิบากไปด้วยอาการสงบ สิริรวมอายุได้ 98 ปี (รับประกันแท้ ยินดีคืนเงินเต็มภายใน 10 วัน) รับประกันความแท้ รับประกันตามกฎระเบียบครับ...... รับประกันความพอใจครับ ถ้าพระมีปัญหายินดีคืนเงินเต็มครับ โดยไม่ถามเหตุผลให้รำคาญใจ
สวยๆนวลๆแบบนี้หายากครับ
สวยๆเดิมพร้อมกล่อง
@@@ พระนางพญา พิมพ์อกนูนเล็ก วัดนางพญา เนื้อจัดสวยมากครับ @@@ สมเด็จฯ บาง นางหนาฯ ท่านว่าไว้ พระรอดนุ่มนึกในคล้ายสีผึ้ง ผงสุพรรณดินกรองต้องตาตรึง ซุ้มกอซึ้งแร่มะขามงามจับใจ ได้มาหลายปีแล้วครับ พิจารณาให้ชอบก่อนเคาะ (ชอบ เข้าตา มีมุม) เชิญครับ
@@@ พระนางพญา พิมพ์อกนูนใหญ่ วัดนางพญา สวยเกินห้ามใจครับ @@@ สมเด็จบาง นางหนาท่านว่าไว้ พระรอดนุ่มนึกในคล้ายสีผึ้ง ผงสุพรรณดินกรองต้องตาตรึง ซุ้มกอซึ้งแร่มะขามงามจับใจ "ช้าหมด อดนะจ๊ะ สวยงดงามอย่างนี้" ได้มาหลายปีแล้วครับ พิจารณาให้ชอบก่อนเคาะ เพราะอาจจะแดงโดยที่ท่านยังไม่ทันตั้งตัว (ชอบ เข้าตา มีมุม) เชิญครับ ไม่แพงครับ ไม่แพง
@@@ พระนางพญา พิมพ์เข่าตรง วัดนางพญา สวยครับ แท้ @@@ สมเด็จบาง นางหนาท่านว่าไว้ พระรอดนุ่มนึกในคล้ายสีผึ้ง ผงสุพรรณดินกรองต้องตาตรึง ซุ้มกอซึ้งแร่มะขามงามจับใจ ได้มาหลายปีแล้วครับ พิจารณาให้ชอบก่อนเคาะ เพราะอาจจะแดงโดยที่ท่านยังไม่ทันตั้งตัว (ชอบ เข้าตา มีมุม) เชิญครับ
@@@ พระนางพญา พิมพ์เข่าตรง วัดนางพญา สวยครับ แท้ @@@ สมเด็จบาง นางหนาท่านว่าไว้ พระรอดนุ่มนึกในคล้ายสีผึ้ง ผงสุพรรณดินกรองต้องตาตรึง ซุ้มกอซึ้งแร่มะขามงามจับใจ ได้มาหลายปีแล้วครับ พิจารณาให้ชอบก่อนเคาะ เพราะอาจจะแดงโดยที่ท่านยังไม่ทันตั้งตัว (ชอบ เข้าตา มีมุม) เชิญครับ