ประวัติ Feedback
อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคอีสาน/5892320
ล็อกเก็ตกรอบกระจก หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต จ.ขอบแก่นครับ หลังยันต์ครับ สวย เดิม เปิดเบาๆ ครับผม
เขียนโดย :cartoon99999 เจ้าของรายการ – November 09, 2015 12:02:25
อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระบูชา-รูปถ่าย/5829124
วัดใจ1500 ใหญมหึมาหลวงพ่อโสธรถาน13นิ้ว เนื้อกระเบื้อหลังคาหินอ่อน ใหญมหึมา แบ่งปัน รายละเอียด วัดใจ1500 ใหญมหึมาหลวงพ่อโสธรถาน13นิ้ว เนื้อกระเบื้อหลังคาหินอ่อน ใหญมหึมาองที 19ทีอืนหลายพัน แบ่งปัน รายละเอียด วัดใจ1500 ใหญมหึมาหลวงพ่อโสธรถาน13นิ้ว เนื้อกระเบื้อหลังคาหินอ่อน ใหญมหึมาองที15ทีอืนหลายพัน ขอคนทีพร้อมนะคับจะได้ไมเสียเวลาเพราะใหญๆๆๆวัดใจ1500 ใหญมหึมาหลวงพ่อโสธรถาน13นิ้ว เนื้อกระเบื้อหลังคาหินอ่อนผสมเริสิกา ใหญมหึมา วัดใหลายพันจ พระหลวงพ่อโสธรถาน13นิ้ว เนื้อกระเบื้อหลังคาหินอ่อน ใหญมหึมาพระหลวงพ่อโสธรถาน13นิ้ว เนื้อกระเบื้อหลังคาหินออ่น เรสิก่าใหญมหึมา องจิงใหญมากเหมาะเป็นพระพระประธานสูง16นิ้ว วัดใจกันศักสิดขอเป็นได้องจิงสวยใหญทีอืนหลายพัน ใครอยูกรุงเทพนัดรับได้คับ สวนต่างจัหวัดต้องปรับเพราะค่ารถตู้ค่ารถอืนขึ้นวัดใจไปองใหญๆองที 15ไมพร้อม ผ่านเลยคับเพราะองใหญมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เขียนโดย :มงคลรัชดา เจ้าของรายการ – October 22, 2015 12:56:52
อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระบูชา-รูปถ่าย/5832817
วัดใจ1500 ใหญมหึมาหลวงพ่อโสธรถาน13นิ้ว เนื้อกระเบื้อหลังคาหินอ่อน ใหญมหึมา แบ่งปัน รายละเอียด วัดใจ1500 ใหญมหึมาหลวงพ่อโสธรถาน13นิ้ว เนื้อกระเบื้อหลังคาหินอ่อน ใหญมหึมาองที 19ทีอืนหลายพัน แบ่งปัน รายละเอียด วัดใจ1500 ใหญมหึมาหลวงพ่อโสธรถาน13นิ้ว เนื้อกระเบื้อหลังคาหินอ่อน ใหญมหึมาองที15ทีอืนหลายพัน ขอคนทีพร้อมนะคับจะได้ไมเสียเวลาเพราะใหญๆๆๆวัดใจ1500 ใหญมหึมาหลวงพ่อโสธรถาน13นิ้ว เนื้อกระเบื้อหลังคาหินอ่อนผสมเริสิกา ใหญมหึมา วัดใหลายพันจ พระหลวงพ่อโสธรถาน13นิ้ว เนื้อกระเบื้อหลังคาหินอ่อน ใหญมหึมาพระหลวงพ่อโสธรถาน13นิ้ว เนื้อกระเบื้อหลังคาหินออ่น เรสิก่าใหญมหึมา องจิงใหญมากเหมาะเป็นพระพระประธานสูง16นิ้ว วัดใจกันศักสิดขอเป็นได้องจิงสวยใหญทีอืนหลายพัน ใครอยูกรุงเทพนัดรับได้คับ สวนต่างจัหวัดต้องปรับเพราะค่ารถตู้ค่ารถอืนขึ้นวัดใจไปองใหญๆองที 15ไมพร้อม ผ่านเลยคับเพราะองใหญมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เขียนโดย :มงคลรัชดา เจ้าของรายการ – October 21, 2015 17:04:57
อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคอีสาน/5524188
วัดใจ 10บาท!! เหรียญเจริญพรบน หลวงปู่จื่อ วัดเขาตาเงาะอุดมพร พิมพ์สองหน้าหายากมาก สวยมากๆ คัด สวยๆ กล่องเดิมๆ อย่าลืมดูรายการอื่นๆนะครับ ^_^ กดที่ จ้า
เขียนโดย :ekincheng เจ้าของรายการ – August 14, 2015 18:55:05
อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคอีสาน/5473639
ปรกมหามงคลหลังยันต์บารมี๓๐ทัศ(รุ่น๑.) เนื้อทองฝาบาตร. "ลป.จาม มหาปุญโญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม จ.มุกดาหาร" ที่ระลึกอายุครบ ๙๕ ปี พ.ศ.๒๕๔๗ ขนาดกระทัดรัด(ความสูงประมาณ ๑.๖ ซม.)ออกแบบสวยงาม สภาพฟอร์มสวย เก็บเก่าเดิมๆ... <<< หมายเหตุ : มีวัตถุมงคลเพียงจำนวนน้อยรุ่นมาก ที่ "หลวงปู่จาม." ท่านได้เมตตาอธิฐานจิตให้... >>> ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เขียนโดย :toy2k เจ้าของรายการ – July 16, 2015 07:41:41
อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคอีสาน/5507746
เขียนโดย :moofine เจ้าของรายการ – July 15, 2015 11:08:41
อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคอีสาน/5458843
ยังมีเคาะเดียวอีกหลายรายการครับ
เขียนโดย :chunharit เจ้าของรายการ – July 15, 2015 05:15:53
อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคอีสาน/5458035
พระสวยตามภาพ และรับประกันตามกฏ ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะชมครับ
เขียนโดย :jaroensuk เจ้าของรายการ – July 08, 2015 04:13:34
อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคอีสาน/5425938
KKR ชื่อนี้รับประกันความแท้ ยันลูกบวชชชช เเต่ประมูลไม่ถึง 1500 กรุณาออกบัตรเองนะครับ รายการประมูล เกิน 500 บาท จัดส่ง ems ให้ครับ รายการประมูลไม่ถึง 500 บาท จัดส่งแบบลงทะเบียนให้ครับ หลังจากผู้ที่ชนะประมูลโอนเงินเรียบร้อยแล้วกรุณาแจ้งที่ กล่องข้อวามได้เลยนะครับเพราะบางครั้งผมไม่สามารถรับโทรศัพท์ ได้ จะสะดวกรับช่วงเลิกงาน หรือช่วงเที่ยงครับ ประวัติพระครูวรพรตวิธานโดยย่อ หลวงปู่พระครูวรพรตวิธาน หลวงปู่วรพรตวิธาน “ หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง “ นามเดิมท่านชื่อ “ พันธ์ ทับงาม” เกิดวันพุธที่ ๑ ธันวาคม ๒๔๔๔ ที่บ้านน้ำอ้อม อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ( ที่จริงแล้วท่านเกิดในปีพ.ศ. ๒๔๓๗ แต่แจ้งเกิดช้ากว่ากำหนดโดยวันเดือนไม่ทราบแน่ชัด ) บิดาชื่อ พ่อศิลา มารดาชื่อ แม่ทอง ทับงาม ชีวิตเยาว์วัยท่านเป็นคนเรียนหนังสือเก่งมาก จนขุนเกษตรวิสัยเจ้าเมืองร้อยเอ็ดเอารับราชการเป็นเสมียนประจำตัวท่าน รับราชการจนอายุได้ ๑๖ ปี จึงลาบวช เป็นสามเณร ณ วัดบ้านน้ำอ้อม จนอายุได้ ๒๑ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระต่อโดยมี พระครูธรรมสังฆบาล เป็นพระอุปัชฌายมีฉายาว่า “ ติสโส “ ท่านเป็นพระหนุ่มที่เรียนหนังสือเก่งมาก ท่องปาฏิโมกข์ได้ตั้งแต่พรรษาแรก และปีพ.ศ. ๒๔๗๒ หลวงปู่ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้ ในปีนั้นหลวงปู่สอบนักธรรมเอกได้เพียงรูปเดียวเท่านั้นทั่วมณฑลร้อยเอ็ด( รวมกาฬสินธุ์และมหาสารคามด้วย ) จนได้รับรูปท่านเจ้าคุณพระโพธิวาศจารย์แม่กองธรรมอุบลเป็นรางวัล หลวงปู่ได้มาเรียนเทศนากับท่านเจ้าคุณกัณหาเจ้าคณะ ณ.วัดหนองทุ่ม อ.พล จ.ขอนแก่น ( เจ้าคุณกัณหาเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ในสมัยนั้น พ.ศ. ๒๔๗๓ ) ปีพ.ศ. ๒๔๗๕ บ้านเมืองได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เจ้าคุณกัณหาจึงได้ส่งหลวงปู่วรพรตไปเป็นเจ้าอาวาสวัดจุมพล บ้านก้านเหลือง ต.ก้านเหลือง อ.พล(ในสมัยนั้น) จ.ขอนแก่น อายุการสร้างวัดจุมพลประมาณ ๑๕๐ ปี ในสมัยรัชกาลที่ ๕ พ.ศ. ๒๔๘๐ หลวงปู่ได้สร้าง อุโบสถขึ้นมาใหม่ เสร็จเอาปี พ.ศ. ๒๔๘๓ ค่าก่อสร้างเป็นเงิน ๒,๕๐๐ บาท ปูนซีเมนต์สมัยนั้นถุงละ ๑.๕๐ บาท ปีพ.ศ. ๒๔๘๒ หลวงปู่ได้ขอพระราชทาน พระปรมาภิไธย์ย่อของรัชกาลที่ ๘ แต่พระองค์ท่านได้พระราชทานเหรียญพระฉายาลักษณ์ของท่านให้หลวงปู่วรพรต หลวงปู่ท่านเอาเหรียญนั้นติดไว้หน้าพระอุโบสถ ต่อจากนั้นมาหลวงปู่ก็ได้พัฒนาวัดจุมพลมาเรื่อย ๆ รวมถึงวัดต่างๆ ในอำเภอแวงน้อย และอำเภอพล (แต่ก่อนอำเภอแวงน้อยเป็นตำบลขึ้นอยู่กับอำเภอพล) ในการสร้างพระอุโบสถ กุฏิและศาลาการเปรียญ รวมทั้งสิ้นประมาณ ๓๐ หลัง ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้มีการขยายการปกครองออกไปอีกทางการจึงตั้งตำบลแวงน้อยขึ้นเป็นอำเภอแวงน้อย หลวงปู่วรพรตวิธานจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอแวงน้อยรูปแรก หลวงปู่ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมขลังมาก ได้เรียนวิชาอาคมมาจาก ๕ อาจารย์ด้วยกัน เช่น หลวงศรีธรรมศาสตร์ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม หลวงปู่ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ จากอาจารย์ศรีธรรมศาสตร์ จนเรียนจบเรียบร้อยแล้วก็ได้เดินทางไปศึกษาวิชาอาคมจาก พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบง ต.มะบ้า อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบงนี้ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมรูปหนึ่งในภาคอีสานในสมัยนั้นไม่ว่าจะเป็นวิชาอาคมทางด้านเมตตามหานิยม, คงกระพันชาตรี, แคล้วคลาด, มหาอุตฯ ป้องกันขับไล่ คุณไสย์ คุณผี คุณคน หลวงปู่วรพรต ท่านก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากพระอาจารย์ขันจนหมดสิ้น แล้วหลวงปู่ก็ได้ไปศึกษากับอาจารย์บ้านฟ้าเหลี่ยม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด เกจิอาจารย์ดังองค์หนึ่งในสมัยนั้น ขนาดท่านปัสสาวะรดต้นไม้ เอาปืนยิงต้นไม้ยังยิงไม่ออก หลังจากนั้นท่านก็ได้มุ่งหน้าไปศึกษากับ หลวงปู่ชม ฐานธัมโม แห่งวัดกู่ พระโกนา อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่าน หลวงปู่ชมรูปนี้ท่านมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถมาก มีอิทธิปาฏิหาริย์นานัปการท่านสามารถล่องหนหายตัวได้ หลวงปู่ชมท่านได้สร้างวัดขึ้นบริเวณใกล้กับกู่โกนาอยู่ทางจะไป อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะมุ้งไปเขมรต่ำ ( ประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน ) หลวงปู่ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมและวิปัสนากัมมัฏฐาน อยู่ ๒ ปี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๙ ท่านได้กราบลาหลวงปู่ชม ออกมุ่งหน้ามายัง จ.ขอนแก่น เพื่อกลับวัดจุมพลของท่าน หลังจากที่ ท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมจากพระอาจารย์ต่างๆเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อผาง จิตตคุตโต และได้แยกทางกันที่ อ.มัญจาคีรี จากนั้นหลวงปู่วรพตท่านก็ได้เดินผ่านดงพญาเย็น – พญาไฟ ผ่านไปประเทศลาว พม่า เขมร เรื่องราวตอนที่ท่านเดินธุดงค์ ไปนั้นมีมากมาย ผจญทั้งสัตว์ร้ายและภูตผีปีศาจแต่ท่านก็ผ่านอุปสรรคนั้นมาได้ หลวงปู่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ในสมัยรัชกาลที่ ๘ มีพระราชทินนามว่า “ พระครูวรพรตวิธาน “ เราจึงเรียกติดปากว่า “หลวงปู่วรพรต “ ตั้งแต่นั้นมา หลวงปู่ฯ ได้แสดงปาฎิหาริย์ให้ปรากฏแก่สายตาของผู้คนเป็นครั้งแรกก็คือ เรื่องหลวงปู่เหยียบรถกระดก ( ลอยขึ้น ) เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ หลวงปู่จะออกเดินทางจาก อ.พล จ.ขอนแก่น ด้วยรถโดยสารเพื่อจะไป จ.ร้อยเอ็ด รถคันที่หลวงปู่จะขึ้นเป็นรถสองแถวขนาดใหญ่ ตามธรรมดาโดยทั่วไปแล้วพระเณรจะต้องนั่งด้านหน้าติดกับคนขับ เพื่อจะได้ไม่ปะปนกับผู้โดยสารคนอื่น แต่รถคันนี้มีผู้หญิงนั่งเต็มอยู่ด้านหน้าแล้ว ด้านหลังรถยังพอมีที่นั่งได้ คนขับรถจึงบอกให้หลวงปู่ขึ้นทางท้ายรถ หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตามโดยดี แต่ก่อนจะขึ้นรถหลวงปู่ได้พูดกับคนขับรถว่า “ รถจะบ่เดี่ยงติ “ (เดี่ยงเป็นภาษาไทยอีสานแปลว่า ”กระดก”) คนขับก็บอกว่า “ บ่เดี่ยงแน่เพราะรถรับน้ำหนักได้หลายตัน “ พอคนขับพูดจบหลวงปู่ท่านก็ก้าวขึ้นรถ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นทันทีด้านหน้ารถลอยขึ้น เหมือนมีมือยักษ์มาจับยกขึ้น คนขับเห็นเช่นนั้นถึงกับตกตะลืงจึงกราบนิมนต์ หลวงปู่มานั่งด้านหน้า โดยให้พวกผู้หญิงไปนั่งด้านหลัง ตั้งแต่นั้นมาสมญานาม “ หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง “ จึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในเขตขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ต่างก็รู้เรื่องกันดี ปัจจุบัน หลวงปู่วรพรตฯ ก็ยังเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนชาวบ้านตำบลก้านเหลืองสืบเนื่องตลอดมา ที่มา : ประวัติเทศบาลตำบลก้านเหลือง
เขียนโดย :KKR เจ้าของรายการ – July 04, 2015 04:42:01
อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุดภาคอีสาน/5425941
หลวงปู่คำคะนิงพบหลวงปู่ปาน หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ย้อนหลังไปสัก ๒๐ ปีที่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี พระหลวงปู่รูปหนึ่งเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านนามว่า คำคะนิง จุลมณี แห่งวัดถ้ำคูหาสวรรค์ ภิกษุรูปนี้ได้ยึด "ญายปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ” หลวงปู่คำคะนิงนั้น ท่านเป็นภิกษุที่ไม่เหมือนใคร ผ่านการเป็นฤๅษีชีไพรมาก่อน ๑๕ ปี จึงค่อยบวชเป็นพระ เมื่อบวชเป็นพระแล้วก็มักแสวงหาธรรมอันแปลก ด้วยการธุดงค์ไปที่ต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็อยู่ตามป่าเขา อย่างครั้งหนึ่ง...ที่เมืองเชียงตุง หลวงพ่อปานแห่งวัดบางนมโค จังหวัดอยุธยา ได้พาคณะศิษย์ท่องธุดงค์ในเขตป่าของเมืองนี้ ได้ปะหน้ากับชีปะขาวคำคะนิง หลวงพ่อปานเห็นสารรูปคนผู้นี้ถึงกับตะลึง เพราะตอนนั้นคำคะนิงมีผมยาวถึงเอว หนวดเครารกรุงรัง ห่มผ้าขาดวิ่นมองไม่ออกว่าเป็นสีอะไรจึงกล่าวขึ้นลอย ๆ ว่า “นี่พระหรือคนนี่” ชีปะขาวคำคะนิงได้ยินเกิดอยากลองภูมิกับพระรูปนี้ ถามออกไปว่า “ไอ้พระนั้นมันอยู่ที่ไหน” หลวงพ่อปานโต้กลับ “ก็เห็นผมยาวเสื้อผ้าขาดปุปะมองไม่ออกว่าสีเป็นอะไร แล้วใครจะรู้ว่าพระหรือคน” คำคะนิงตั้งคำถามใหม่ “พระมันอยู่ที่ผมหรือ” หลวงพ่อปาน “ไม่ใช่” คำคะนิง “พระมันอยู่ที่ผ้านุ่งหรือเปล่า” หลวงพ่อปาน “ไม่ใช่” ชีปะขาวคำคะนิงใช้คำถามจี้ “อ้าว..แล้วพระมันอยู่ที่ไหนกันเล่า” หลวงพ่อปานตอบฉับพลันทันที “พระอยู่ที่ใจสะอาด” คำคะนิงยิ้มก่อนบอกออกไป “แล้วมาถามทำไมว่าพระหรือคน” หลวงพ่อปานยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “เห็นผมเผ้ารุงรังใครจะไปรู้พระหรือคนกันแน่” ชีปะขาวคำคะนิง “พระบ้านพระเมือง พระกินข้าวชาวบ้านแบบนี้อวดดี เห็นทีต้องเห็นดีกัน” ชี ปะขาวคำคะนิงกล่าวเสร็จก็คว้าหวายยาวร่วมวา ขว้างไปเบื้องหน้าหลวงพ่อปาน จากหวายก็กลายเป็นงูใหญ่ท่าทางดุร้ายเตรียมฉกกัด หลวงพ่อปานท่านทำจิตเป็นสมาธิ เอาใบไม้ขว้างขึ้นสู่อากาศกลายเป็นนกขนาดใหญ่ โฉบเฉี่ยวเอางูขึ้นไปสะบัดฟัดเหวี่ยงบนอากาศอยู่พักใหญ่ งูพลัดตกลงสู่ดินกลายเป็นช้างตัวใหญ่มหึมากำลังตกมัน ส่วนนกถลาลงสู่พื้นกลายเป็นเสือโคร่งใหญ่มีความดุร้ายไม่แพ้กัน สัตว์ทั้ง ๒ ชนิดเข้าโรมรันพันตูกันฝุ่นคลุ้งไปหมด แต่จู่ ๆ สัตว์ทั้ง ๒ กลับสลายหายไป ฝ่ายหนึ่งกลายเป็นลูกไฟเข้าเผาผลาญ อีกฝ่ายกลายเป็นพายุฝนเข้าแก้ทางกัน ทั้งพระและชีปะขาวต่าง หัวเราะด้วยความชอบใจในอิทธิฤทธิ์อภิญญาของกันละกัน ต่างฝ่ายต่างชมกันและกันและถ่อมตนใส่กัน แต่ศิษย์ของหลวงพ่อปานที่ร่วมธุดงค์มาด้วยรู้ดีว่า ท่านทั้ง ๒ ต่างมีอภิญญาด้วยกันทั้งคู่ (ข้อมูลจากเวปวัดท่าขนุน ขอขอบคุณครับ) วัตถุมงคลของหลวงปู่พอจะแบ่งออกได้เป็น3ช่วงที่ทันหลวงปู่ปลุกสก มีดังนี้คือ ชุดออกปี2524 โดยหลวงพ่อโชติ วัดภูเขาแก้ว อุบล จัดสร้างขึ้นเพื่อฉลองพระอุโบสถ โดยเหรียญที่จัดสร้างเป็นรูปไข่เล็ก ด้านหน้ารูปหลวงปู่ครึ่งองค์ ล้อมรอบด้วยจุดไข่ปลา ด้านหลังเป็นยันต์ เท่าที่พบเจอมีเนื้อทองแดง ทองแดงรมดำ จำนวนไมม่ทราบชัดเจน ชุดรุ่นแรก ออกปี2527 โดยดำริของหลวงปู่ให้ศิษย์ 2 รูปที่ใกล้ชิด คือ พระอาจารย์ทองสา คำแฝง และพระสุธี ธาตุเหล็ก ให้ดำเนินจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นในต้นปี พ.ศ. 2527 โดยบอกเป็นนัยว่า “จะได้มีอนุสติเพื่อระลึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ในยามจากไป” ลูกศิษย์เอกทั้ง 2 จึงได้จัดสร้างขึ้น มีรายการดังนี้ 2.1พระสมเด็จฐาน๙ชั้น รุ่นแรก ของหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี สร้างเมื่อหลวงปู่อายุ 90 ปี วันที่ 16 มีนาคม 2527 จำนวน 5,000 องค์ สมัยนั้นทำบุญองค์ละ 100 บาท หลวงปู่ได้กำชับเป็นพิเศษในการจัดสร้างคือ หลวงปู่ได้สั่งให้สร้างเป็นพิมพ์ สมเด็จหลวงปู่ภู แต่กำหนดให้เป็นพิมพ์ 9 ชั้น องค์พระสมเด็จปางสมาธิ มือประสานทรงดอกบัวตูมห้าแฉก แขนหักศอกโค้ง มียันต์ อุณาโลม ทั้งสองข้างสวยงาม ด้านหลังเป็นยันต์ " นะโม พุทธายะ" และจารึกไว้ว่า " ๒๕๒๘ "(แต่จริงๆสร้างปี27 ทันลป.แน่นอน)ที่ฐานเขียนว่า "คำคนิง จุลมณี" มวลสารที่บรรจุลงไปในองค์พระสมเด็จ หลวงปู่ได้มอบของดีประจำตัวประกอบด้วยเหล็กไหล มวลสารพิเศษจากวัดเนรมิตรเมืองบาดาล หินพญานาค สีผึ้งเสก เส้นเกศา มีทั้งสีดำ และสีขาว เส้นเล็กมาก แต่ใส่ไม่ทุกองค์ และผงพุทธคุณต่างๆ ที่รวบรวมมากว่า 46 ปี โดยหล่อเลี้ยงไว้ด้วยน้ำผึ้งหลวง รวมทั้งผงธูปที่หลวงปู่ใช้บูชาพระของหลวงปู่เอง อีกทั้งดินมวลสารที่สร้างพระพิมพ์ต่างๆ ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ว่าน 108 ที่หลวงปู่สะสมไว้ ตั้งแต่เป็นฤาษี พระเครื่องของหลวงปู่ดีทุกพิมพ์เพราะ ได้ทำการปลุกเสกเดี่ยว อย่างเต็มที่ พุทธคุณด้านมหาลาภเป็นอันดับหนึ่ง 2.2พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก ปี2527 พิมพ์สะดุ้งกลับสี่หลี่ยม หลังยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ได้จัดสร้างในวาระเดียวกันกับพระสมด็จ๙ชั้น เนื้อผงพุทธคุณ หลวงปู่เขียนและลบผงเอง ด้านหน้าเป็นองค์หลวงปู่นั่งขัดสมาธิ ปางสะดุ้งกลับ บนอาสณะของหลวงปู่ที่ใช้ประจำ ส่วนด้านเป็นหลังยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ จำนวนการสร้างไม่ชัดเจน แต่ได้ทำลายบล็อคแล้วที่วัด 2.3พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก พิมพ์กลีบบัว หลังฤาษีนารอด ได้จัดสร้างในวาระที่หลวงปู่คำคะนิงเริ่มอาพาธ โดยหลวงปู่ดำริรีบเร่งให้หลวงพ่อทองสาดำเนินการ จัดสร้างขึ้นที่วัด เนื้อหามวลสารเป็น ผงพุทธคุณ หลวงปู่เขียนและลบผงเอง ด้านหน้าเป็นองค์หลวงปู่นั่งขัดสมาธิ ห่มจีวรเฉียง ห้อยสร้อยประคำ1เส้น หลังลายใบโพธ์ ด้านหลังประทับรูปฤาษีนารอดล้อมรอบด้วยยันต์ นะโมพุทธายะ เหนือบนสุด อักษร รุ่น๑ ล่างสุดเขียนว่าฤาษีนารอด และหลวงปู่คำคะนิง จำนวนการ3000 องค์ พระชุดนี้หลวงปู่กดพิมพ์เองด้วย และได้ทำลายบล็อคแล้วที่วัด ประสบการณ์แคล้วคลาดสูง บางองค์จะมีน้ำมนต์สีคล้ายน้ำหมาก(ลป.ไม่ฉันหมาก) ประพรมลงบนองค์พระมากบ้างน้อยบ้าง พระรุ่นนี้ประสบการณ์แคล้วคลาดสูง สมดังชื่อฤาษีนารอดจริงๆๆครับ 2.4 เหรียญรุ่นแรก ปี2527 ที่ระลึกครบรอบ ๙๐ ปี ได้จัดสร้างในวาระเดียวกันกับพระสมด็จ๙ชั้น และผงรูปเหมือน โดยดำริของหลวงปู่เองข้อมูลจากการจัดสร้าง มีด้วยกัน2พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่รูปไข่ ครึ่งองค์ และพิมพ์เล็กนั่งเต็มองค์จำนวนการจัดสร้างรวมกันราว50,000เหรียญ มีเพียงเนื้อทองแดงเนื้อเดียว แต่จะมีการนำไปรมดำ และรมมัน เหรียญรุ่นนี้ผู้ที่ศรัทธาในองค์หลวงปู่เช่าหาควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากแต่เดิมที่ผู้จัดสร้างได้สั่งโรงงานผลิตเหรียญให้แล้ว และไม่ได้เอาบล็อคคืน พอพระหลวงปู่เริ่มมีการเสาะแสวงหาจากพื้นที่มากขึ้น เนื่องด้วยประสบการณ์ต่างๆนานา ปากต่อปาก จึงมีเหรียญเสริมออกมา คือพูดง่ายๆ ใช้บล็อคหน้าหลังปั๊มออกมาเรื่อยๆ จนทำให้เหรียญรุ่นนี้ค่อนข้างต้องระมัดระวังแต่ผมได้จัดทำตำหนิรายละเอียดไว้ให้ศึกษาแล้วครับ เหรียญรุ่นนี้หลวงปู่ปลุกเสกเดี่ยว 3วัน จนเสร็จพิธีหลวงปู่ได้กล่าวไว้ว่าเหรียญแดงเหลือเกิน....ส่วนตัวคิดว่าหลวงปู่คงปลุกเสกให้เต็มที่ 2.5 หล่อรุ่นแรก มี๒ พิมพ์ ฐานกลม และฐานเหลี่ยม ไม่ทราบจำนวนการจัดสร้าง 2.6 เหรียญหล่อฉีดครึ่งองค์ ไม่ทราบจำนวนการสร้าง 2.7 ชุดประคำรุ่นแรก (ประคำดีควาย) ๒๐๐เส้น และอีก๒๑๖เม็ดแกะออกให้ทำบุญตอนงานบรรจุสรีระหลวงปู่ ราวปี๓ 3 เหรียญเต็มองค์หลังพญานาค ฉลองอายุครบ ๙๑ปี ๒๕๒๘ ไม่ทราบจำนวนชัดเจน หลังจากนั้นจะไม่ทันหลวงปู่แต่ก็สร้างจากศิษย์หลวงปู่คือหลวงพ่อทองสา เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันวัตถุมงคลบางรุ่นก็น่าก็บสะสมเพราะมีเส้นกสา กับจีวรก็มี หลวงปู่ได้สิ้นใจละสังขาร เวลา ๑๑.๑๓ น. ของวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๒๘ สิริอายุได้ ๙๑ ปีเศษ ๔๖ พรรษา